ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

วัดพระธาตุหริภุญไชย วรมหาวิหาร จ.ลำพูน







วัดพระธาตุหริภุญไชยวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูน ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 150 เมตร มีถนนล้อมรอบสี่ด้าน คือ
ถนนอัฏฐารสทางทิศเหนือ ถนนชัยมงคลทางทิศใต้ ถนนรอบเมืองทาง ทิศตะวันออก
และถนนอินทยงยศทางทิศตะวันตก สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1651
ในรัชสมัยพระเจ้าอาทิตยราช ต่อมาได้รับการบูรณะต่อเติมมาเป็นลำดับ
ภายในบริเวณวัดพระธาตุหริภุญไชย ยังมีสิ่งที่น่าสนใจ คือ

   ซุ้มประตู
ก่อนที่จะเข้าไปในบริเวณวัด
ต้องผ่านซุ้มประตูก่ออิฐถือปูนประดับลวดลายวิจิตรพิสดาร
เป็นฝีมือโบราณสมัยศรีวิชัย ประกอบด้วยซุ้มยอดเป็นชั้น ๆ
เบื้องหน้าซุ้มประตูมีสิงห์ใหญ่คู่หนึ่งยืนเป็นสง่า บนแท่น สูงประมาณ 1
เมตร สิงห์คู่นี้ปั้นขึ้นใน สมัยพระเจ้าอาทิตยราช
เมื่อทรงถวายวังให้เป็นสังฆาราม


   วิหารหลวง
เมื่อผ่านซุ้มประตูเข้าไปแล้วจะเห็นวิหารหลังใหญ่เรียกว่า "วิหารหลวง"
เป็นวิหารหลัง ใหญ่มีพระระเบียงรอบด้าน และมีมุขออกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
เป็นวิหารที่สร้างขึ้นใหม่แทนวิหารหลังเก่า ซึ่งถูกพายุพัดพังทลายไปเมื่อ
พ.ศ. 2466 วิหารหลวงใช้เป็นที่บำเพ็ญกุศล และประกอบศาสนากิจทุกวันพระ
ภายในวิหารประดิษฐานพระปฏิมาใหญ่ ก่ออิฐถือปูน ลงรักปิดทอง บนแท่นแก้วรวม 3
องค์ และพระพุทธ ปฏิมาหล่อโลหะขนาดกลางสมัยเชียงแสนชั้นต้น
และชั้นกลางอีกหลายองค์


   พระบรมธาตุหริภุญไชย
เป็นพระเกศบรมธาตุบรรจุในโกศทองคำ ประดิษฐานในพระเจดีย์ (ตั้งอยู่
หลังวิหารหลวง) เป็นเจดีย์แบบล้านนาไทยแท้ๆ ที่ลงตัวสวยงาม
ประกอบด้วยฐานปัทม์ แบบฐานบัวลูกแก้ว ย่อเก็จ
ต่อจากฐานบัวลูกแก้วเป็นฐานเขียงกลมสามชั้น ตั้งรับองค์ระฆังกลม
บัลลังก์ย่อเหลี่ยม เจดีย์มีลักษณะ
ใกล้เคียงกับพระธาตุดอยสุเทพที่จังหวัดเชียงใหม่ สูง 25 วา 2 ศอก ฐานกว้าง
12 วา 2 ศอก 1 คืบ มีสัตติ- บัญชร (รั้วเหล็กและทองเหลือง) 2 ชั้น
สำเภาทองประดิษฐานอยู่ประจำรั้วชั้นนอกทั้งทิศเหนือ และทิศใต้
มีซุ้มกุมภัณฑ์ และฉัตรประจำสี่มุม และหอคอยประจำทุกด้านรวม 4 หอ
บรรจุพระพุทธรูปนั่งทุกหอ นอกจากนี้ยังมีโคมประทีป
และแท่นบูชาก่อประจำไว้เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป

   พระ
บรมธาตุนี้นับเป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งในล้านนาไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ
ในวันเพ็ญ เดือน 6 จะมีงานนมัสการ และสรงน้ำพระธาตุทุกปี
ตามประวัติกล่าวเมื่อ พ. ศ. 1440
พระเจ้าอาทิตยราชกษัตริย์วงศ์รามัญผู้ครองนคร
ลำพูนได้สร้างมณฑปครอบโกศทองคำบรรจุพระบรมธาตุไว้ภายในและมีการสร้างเสริม
กันต่อมาอีกหลาย


    สมัยต่อมาในปี
พ.ศ. 1986 พระเจ้าติโลกราช
กษัตริย์ครองนครเชียงใหม่ได้ทรงกระทำการปฏิสังขรณ์บูรณะ
เสริมองค์พระเจดีย์ขึ้นใหม่
การสร้างคราวนี้ได้สร้างโครงขึ้นใหม่เป็นรูปแบบลังกา
ซึ่งปรากฏอยู่ในปัจจุบันนี้
ทั้งนี้เพราะในสมัยพระเจ้าติโลกราชได้มีความสัมพันธ์กับลังกาอยู่มาก


   พระ
สุวรรณเจดีย์ สร้างขึ้นในสมัยพุทธศตวรรษที่ 17 ตั้งอยู่ทางขวาของพระบรมธาตุ
สร้างขึ้น โดยพระนางปทุมวดี อัครมเหสีของพระเจ้าอาทิตยราช
ภายหลังเมื่อสร้างพระธาตุฯ เสร็จแล้วได้ 4 ปี พระ
สุวรรณเจดีย์องค์นี้เป็นรูปแบบพระปรางค์ 4 เหลี่ยม
ฝีมือช่างละโว้มีพระพุทธรูปประจำซุ้ม
ฝีมือและแบบขอมหลงเหลือให้เห็นอยู่บ้าง ยอดพระเจดีย์มีทองเหลืองหุ้มอยู่
ภายใต้ฐานชั้นล่างเป็นกรุบรรจุพระเปิม ซึ่งเป็นพระเครื่องชนิดหนึ่ง



Create Date : 06 มกราคม 2555
Last Update : 6 มกราคม 2555 19:57:42 น. 0 comments
Counter : 1176 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ข่าวดี
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add ข่าวดี's blog to your web]