ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

Dacia Lodgy อเนกประสงค์ต้นทุนต่ำจากพันธมิตร Renault

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คำว่า
"รถต้นทุนต่ำ"
ดูจะฟังหนาหูมายิ่งขึ้นสำหรับรถยนต์ยุคใหม่ที่มีการแบ่งแยกเกณฑ์และแกรดคน
ใช้รถอย่างชัดเจน ในขณะที่บ้านเราก้มีกระแสที่รถประเถภทนี้จะเข้ามาในอนาคต
แต่ ดูเหมือนค่ายรถยนต์ที่เดินหน้ารุกหนักในตลาดยานยนต์ในกลุ่มนี้จะเป็น
Renault



เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Bajaj Auto ได้มีการแนะนำ Baja RE60
ที่นี่คือค่ายรถยนต์พันธมิตรในตลาดอินเดีย แต่ครั้งนี้
แม้จะยังอีกไกลกว่าเราจะได้เห็นรถยนต์คันจริง แต่ค่ายรถยนต์โรมาเนีย Dacia
ก็เข็นรถอเนกประสงคืออกมาให้เราได้ชมกัน



Dacia Lodgy


Dacia Lodgy

ชื่อ Dacia อาจจะไม่คุ้นหูคนไทยมากนัก แต่ Dacia
เป้นหนึ่งในหลายๆค่ายพันธมิตรของ Renault ที่ล่าสุดเข็น Dacia Lodgy
รถอเนกประสงค์ต้นทุนต่ำ มาเตรียมเปิดตัวอย่างเป้นทางการในงาน Geneva auto
show 2012 ในช่วงเดือนมีนาคมนี้


Dacia Lodgy เป็นรถอเนกประสงค์ขนาด 5 ที่นั่ง
และสามารถขยายให้นั่งได้สูงสุด 7 ที่นั่ง
มาพร้อมเรือนนร่างในแบบรถอเนกประสงค์ขนาดย่อมเยาว์ไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไป
กำลังพอดี
สำหรับครอบครัวยุคใหม่ที่ตลาดกลุ่มนี้กำลังขยายตัวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ



Dacia Lodgy

เรินร่างที่ได้รับการเปิดเผยเบื้องต้นจากค่าย Dacia ว่ามันจะยาวเพียง
4500 ม.ม. นั้น ถือเป็นโจทย์ที่ทำให้มันน่าสนใจ
ที่ค่ายรถยนต์เจ้านี้ยังสัญญาว่ามันจะมีพื้นที่กว้างขวางมากพอ
แม้แต่ที่นั่งในแถวที่ 3 ของตัวรถ ก็ยังสามารถวางใจได้ในความสะดวกสบาย
ในขณะที่เรื่องขุมพลังนั้นยังไม่มีการเปิดเผยแต่มีความเชื่อว่า Dacia Lodgy
นั้นจะมาพร้อมเครื่องยนต์ของ Renault
ที่อาจจะมีให้เลือกทั้งขุมพลังเบนซินและดีเซล


Dacia Lodgy อาจจะไม่ได้เข้ามาจำหน่ายในไทย เนื่องจากรถคันนี้เน้นในการทำตลาดยุโรปที่คู่แข่งสำคัญเป็น Ford C-Max ที่
วางจำหน่ายในยุโรป
แต่อย่างน้อยเราก็เฝ้ารอติดตามความงามของอเนกประสงค์ต้นทุนต่ำคันนี้ว่ามัน
มีอะไรน่าสนใจ และท้ายที่สุดราคาที่แบกะดินจะสักเท่าไรกันเชียว




 

Create Date : 06 มกราคม 2555   
Last Update : 6 มกราคม 2555 20:02:26 น.   
Counter : 1378 Pageviews.  

เทรนด์ใหม่ ชุดเดรสเกาหลีออกงาน





























































































 

Create Date : 06 มกราคม 2555   
Last Update : 6 มกราคม 2555 20:00:15 น.   
Counter : 1099 Pageviews.  

10 ประตูยอดเยี่ยม แห่งปี 2011 ของ FIFA




 

Create Date : 06 มกราคม 2555   
Last Update : 6 มกราคม 2555 19:59:25 น.   
Counter : 816 Pageviews.  

ตดอัดตู้โทรศัพท์




 

Create Date : 06 มกราคม 2555   
Last Update : 6 มกราคม 2555 19:58:41 น.   
Counter : 909 Pageviews.  

วัดพระธาตุหริภุญไชย วรมหาวิหาร จ.ลำพูน







วัดพระธาตุหริภุญไชยวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูน ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 150 เมตร มีถนนล้อมรอบสี่ด้าน คือ
ถนนอัฏฐารสทางทิศเหนือ ถนนชัยมงคลทางทิศใต้ ถนนรอบเมืองทาง ทิศตะวันออก
และถนนอินทยงยศทางทิศตะวันตก สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1651
ในรัชสมัยพระเจ้าอาทิตยราช ต่อมาได้รับการบูรณะต่อเติมมาเป็นลำดับ
ภายในบริเวณวัดพระธาตุหริภุญไชย ยังมีสิ่งที่น่าสนใจ คือ

   ซุ้มประตู
ก่อนที่จะเข้าไปในบริเวณวัด
ต้องผ่านซุ้มประตูก่ออิฐถือปูนประดับลวดลายวิจิตรพิสดาร
เป็นฝีมือโบราณสมัยศรีวิชัย ประกอบด้วยซุ้มยอดเป็นชั้น ๆ
เบื้องหน้าซุ้มประตูมีสิงห์ใหญ่คู่หนึ่งยืนเป็นสง่า บนแท่น สูงประมาณ 1
เมตร สิงห์คู่นี้ปั้นขึ้นใน สมัยพระเจ้าอาทิตยราช
เมื่อทรงถวายวังให้เป็นสังฆาราม


   วิหารหลวง
เมื่อผ่านซุ้มประตูเข้าไปแล้วจะเห็นวิหารหลังใหญ่เรียกว่า "วิหารหลวง"
เป็นวิหารหลัง ใหญ่มีพระระเบียงรอบด้าน และมีมุขออกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
เป็นวิหารที่สร้างขึ้นใหม่แทนวิหารหลังเก่า ซึ่งถูกพายุพัดพังทลายไปเมื่อ
พ.ศ. 2466 วิหารหลวงใช้เป็นที่บำเพ็ญกุศล และประกอบศาสนากิจทุกวันพระ
ภายในวิหารประดิษฐานพระปฏิมาใหญ่ ก่ออิฐถือปูน ลงรักปิดทอง บนแท่นแก้วรวม 3
องค์ และพระพุทธ ปฏิมาหล่อโลหะขนาดกลางสมัยเชียงแสนชั้นต้น
และชั้นกลางอีกหลายองค์


   พระบรมธาตุหริภุญไชย
เป็นพระเกศบรมธาตุบรรจุในโกศทองคำ ประดิษฐานในพระเจดีย์ (ตั้งอยู่
หลังวิหารหลวง) เป็นเจดีย์แบบล้านนาไทยแท้ๆ ที่ลงตัวสวยงาม
ประกอบด้วยฐานปัทม์ แบบฐานบัวลูกแก้ว ย่อเก็จ
ต่อจากฐานบัวลูกแก้วเป็นฐานเขียงกลมสามชั้น ตั้งรับองค์ระฆังกลม
บัลลังก์ย่อเหลี่ยม เจดีย์มีลักษณะ
ใกล้เคียงกับพระธาตุดอยสุเทพที่จังหวัดเชียงใหม่ สูง 25 วา 2 ศอก ฐานกว้าง
12 วา 2 ศอก 1 คืบ มีสัตติ- บัญชร (รั้วเหล็กและทองเหลือง) 2 ชั้น
สำเภาทองประดิษฐานอยู่ประจำรั้วชั้นนอกทั้งทิศเหนือ และทิศใต้
มีซุ้มกุมภัณฑ์ และฉัตรประจำสี่มุม และหอคอยประจำทุกด้านรวม 4 หอ
บรรจุพระพุทธรูปนั่งทุกหอ นอกจากนี้ยังมีโคมประทีป
และแท่นบูชาก่อประจำไว้เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป

   พระ
บรมธาตุนี้นับเป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งในล้านนาไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ
ในวันเพ็ญ เดือน 6 จะมีงานนมัสการ และสรงน้ำพระธาตุทุกปี
ตามประวัติกล่าวเมื่อ พ. ศ. 1440
พระเจ้าอาทิตยราชกษัตริย์วงศ์รามัญผู้ครองนคร
ลำพูนได้สร้างมณฑปครอบโกศทองคำบรรจุพระบรมธาตุไว้ภายในและมีการสร้างเสริม
กันต่อมาอีกหลาย


    สมัยต่อมาในปี
พ.ศ. 1986 พระเจ้าติโลกราช
กษัตริย์ครองนครเชียงใหม่ได้ทรงกระทำการปฏิสังขรณ์บูรณะ
เสริมองค์พระเจดีย์ขึ้นใหม่
การสร้างคราวนี้ได้สร้างโครงขึ้นใหม่เป็นรูปแบบลังกา
ซึ่งปรากฏอยู่ในปัจจุบันนี้
ทั้งนี้เพราะในสมัยพระเจ้าติโลกราชได้มีความสัมพันธ์กับลังกาอยู่มาก


   พระ
สุวรรณเจดีย์ สร้างขึ้นในสมัยพุทธศตวรรษที่ 17 ตั้งอยู่ทางขวาของพระบรมธาตุ
สร้างขึ้น โดยพระนางปทุมวดี อัครมเหสีของพระเจ้าอาทิตยราช
ภายหลังเมื่อสร้างพระธาตุฯ เสร็จแล้วได้ 4 ปี พระ
สุวรรณเจดีย์องค์นี้เป็นรูปแบบพระปรางค์ 4 เหลี่ยม
ฝีมือช่างละโว้มีพระพุทธรูปประจำซุ้ม
ฝีมือและแบบขอมหลงเหลือให้เห็นอยู่บ้าง ยอดพระเจดีย์มีทองเหลืองหุ้มอยู่
ภายใต้ฐานชั้นล่างเป็นกรุบรรจุพระเปิม ซึ่งเป็นพระเครื่องชนิดหนึ่ง




 

Create Date : 06 มกราคม 2555   
Last Update : 6 มกราคม 2555 19:57:42 น.   
Counter : 1175 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  

ข่าวดี
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add ข่าวดี's blog to your web]