คำโปรย แนะนำตัวละคร อาเซอร์บัส Acerbus
 

เมืองไมธีร่าตกอยู่ภายใต้คำสาปของจอมขมังเวทผู้ชั่วร้าย ทางแก้ก็คือ นำผลึกวิญญาณมังกรมาต่อต้าน แต่การจะนำมันมาใช้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะผลึกวิเศษถูกฝังอยู่ในหุบเขาสีน้ำเงิน ดินแดนอันตรายแม้แต่เหล่าจอมเวทยังไม่กล้าแผ้วพาน 

 

เจ้าหญิงแสนสวยสุดแบ๊วจึงอาสาไปนำมันมา โดยมีผู้ช่วยเป็นสุดยอดจอมเวทมหาซึนกับลูกชายโหราจารย์จอมป่วน และหัวหน้าองรักษ์ที่ทำอะไรก็ดูเป็นจริงเป็นจังไปเสียหมด พร้อมด้วยจอมเวทอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งมีทั้งความเก่ง เจ้าเล่ห์ และเห็นแก่ตัว

 

การเดินทางอันแสนอันตรายจึงเริ่มต้นขึ้น

 

 

 

 

-อาเซอร์บัส จอมเวทที่ถูกส่งมาอารักขาเจ้าหญิงแห่งนครไมธีร่า ชอบทำตัวเป็นบุคคลลึกลับ พูดน้อยแต่กวนประสาท ไม่สุงสิงกับใคร แม้จะมีอายุเพียง 22 ปีแต่เขากลับมีความชำนาญในการใช้เวทมนต์ได้อย่างเหลือเชื่อ เนื่องจากเป็นสายเลือดโดยตรงของอดีตราชันย์เวทผู้เกรียงไกร แต่กลับไม่เป็นที่ยอมรับเท่าใดนักเนื่องจากเป็นเวทมนต์ด้านมืด เขาจึงไม่ได้รับตำแหน่งใด

 

เป็นจอมเวทที่มีใบหน้าหล่อเหลาชนิดสาวมองจนเหลียวหลัง ผมสีดำสนิทยาวประบ่า ดวงตาสีน้ำตาลเข้ม คางกลมมน จมูกโด่งรับกับริมฝีปากหยักได้รูป ผิวกายขาวซีด เครื่องแต่งกายเป็นสีดำทั้งชุด สวมเสื้อคลุมและดึงฮู้ตมาปิดใบหน้าเสมอ อาวุธประจำตัวเป็นไม้เท้าทำมาจากกระดูกกริฟฟินสีดำ ตรงปลายยอดประดับด้วยคริสตัลสีนิล เนบิวล่าสโตน  มีอำนาจมหาศาลโดยเฉพาะเวทสายมืด ใช้ได้ทั้งทางสร้างสรรค์และทำลาย หลงรักเบอร์ทิน่าแต่ไม่แสดงอะไรออกมา

 

พลังเวท

 

พลังของจอมเวทแบ่งออกเป็น แสงสว่างกับความมืด ส่วนใหญ่แล้วเวทที่ใช้ทั่วไปจะอยู่ในกลุ่มแสงสว่าง เพราะเป็นที่ยอมรับ มีการเรียนกันอย่างกว้างขวาง พลังที่ใช้ ให้ผลตั้งแต่เบาบางไปจนถึงหนักหน่วง แล้วแต่อำนาจและความเข้มแข็งของจิตของผู้ใช้ เวทบางสายคนทั่วไปก็สามารถเรียนได้ อย่างเช่นพวกวิชาพยากรณ์ 

 

ส่วนเวทในกลุ่มด้านมืดจะถูกกำหนดอยู่จำเพาะคนบางกลุ่มเท่านั้น เพราะมีขั้นตอนการฝึกที่ยากและต้องคนมีพลังในด้านนี้เท่านั้น จึงจะฝึกได้สำเร็จ ด้วยกรรมวิธีการฝึกที่ดูลึกลับและการสำแดงอำนาจอย่างรุนแรง ทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจผู้ใช้เวทด้านมืดเป็นคนชั่วร้าย จึงมักถูกกีดกันออกจากสังคม

 

อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้คนหวาดกลัวเวทสายมืดก็คือ หากผู้ใช้มีจิตใจที่ไม่มั่นคง จะถูกเงาของอีกด้านลากเข้าไปจ่อมจมอยู่ในเปลือกตมแห่งความมืด กลายเป็นคนชั่วร้ายในที่สุด

 

 

ในอดีต เอ็มโบลเด็น ราชันย์แห่งนักเวททั้งปวงเป็นจอมเวทสายมืด แม้ดำรงตำแหน่งสูงสุดก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับ และถึงเขาจะโค่นล้มมังกรดำจอมชั่วร้ายนามดรากูลลงไปได้ คนทั่วไปก็ยังคงหวาดกลัวและพาลคิดไปว่า เขาอาจเป็นจอมมารคนต่อไป จึงถูกพวกจอมเวทด้วยกันรุมสังหาร ซึ่งพอกำจัดเอ็มโบลเด็นลงได้ ทุกคนต่างกลัวคำสาปจึงไม่มีใครกล้านั่งบัลลังก์ ตำแหน่งราชันย์เวทจึงจบสิ้นลงนับแต่นั้นเป็นต้นมา

 

แม้เอ็มโบลเด็นจะมีทายาทสืบทอดสายเลือด แต่ไม่มีใครเป็นจอมเวทเลยสักคน อย่างหนึ่งก็คือการต้องอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆ อีกอย่างพอรู้ว่าพวกเขาเป็นใครก็ไม่มีผู้ใดกล้าสอนหรือคบหาสมาคมด้วย ทุกคนจึงดำรงอยู่อย่างคนธรรมดามาจนถึงรุ่นของอาเซอร์บัส แรกเกิด บนท้องฟ้าเหนือหลังคาบ้านปรากฏหมอกดวงดาวสีดำกลุ่มใหญ่ที่แม้จะเป็นยามราตรีก็เห็นได้ชัด นักพยากรณ์ประจำหมู่บ้านจึงทำนายว่าเขาจะนำความพินาศมาสู่ ในวัยเด็กอาเซอร์บัสมักจะถูกผู้อื่นเหยียดหยามกลั่นแกล้งอยู่เสมอ แต่เขาก็พยายามอดทน โดยตั้งใจไว้ว่าเมื่อโตพอ ก็จะออกจากหมู่บ้าน เพื่อหาหนทางของตัวเอง

 

ชีวิตของอาเซอร์บัสพลิกผันเมื่อวันหนึ่งเขาเกิดพลั้งมือทำร้ายเพื่อนบ้าน ด้วยการสะกดเขาให้หยุดนิ่งอยู่กับที่ ตอนนั้นเองที่เด็กน้อยรู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนธรรมดา และเริ่มศึกษาวิธีใช้เวทมนต์นับแต่นั้น

 

สิ่งที่ทำให้อาเซอร์บัสหนีออกจากหมู่บ้านก็คือ ความมาดร้ายของเพื่อนบ้านที่เคยถูกเขาสะกด วันหนึ่งขณะที่แอบฝึกการใช้เวทอยู่คนเดียวในป่า ชายคนนั้นก็ยองเข้ามาตีหัวและโยนเขาทิ้งลำธาร ร่างไร้สติของเขาลอยตามกระแสน้ำไปเรื่อยๆและคงตายถ้าจอมเวทผู้หนึ่งไม่ช่วยเอาไว้ เพียงแวบแรกที่เห็น จอมเวทผู้นั้นก็รู้ว่าอาเซอร์บัสเป็นใคร แต่ความเมตตาทำให้เขาเลี้ยงดูและให้การศึกษาจนโต จากนั้นก็ส่งเข้าไปร่วมเรียนเวทกับเด็กรุ่นเดียวกัน ความเก่งกาจและวิธีใช้พลังที่ผิดแผกไปจากคนอื่นทำให้เขาโดนกีดกันและถูกตั้งข้อรังเกียจ บางคนตราหน้าอาเซอร์บัสว่าเป็นลูกปิศาจ เลยถูกเขาใช้พลังหักกระดูกจนแหลกไปทั้งตัว

 

ความผิดในครั้งนั้นทำให้อาเซอร์บัสถูกไล่ออกจากโรงเรียน จอมเวทชราจึงลงมือสอนด้วยตัวเอง ด้วยวิธีการของพวกสายมืด การฝึกที่แสนทารุณและหนักหน่วงทำให้อาเซอร์บัสแกร่งกล้าขึ้น จนมีฝีมือเหนือกว่าเด็กหนุ่มในวัยเดียวกัน กระทั่งวันหนึ่งจอมเวทชราได้มอบไม้เท้าสีดำสนิทให้กับเขา พร้อมกับบอกว่ามันเป็นไม้เท้าของราชันย์เวทผู้ยิ่งใหญ่ ทำจากกระดูกกริฟฟินสีดำมีเนบิวล่าสโตนประดับบนยอด แต่กลับไม่สอนวิธีใช้ใดให้นอกจากเพียงว่า ให้เรียนรู้ด้วยตัวเอง

 

อยู่มาวันหนึ่งจอมเวทชราได้ล้มป่วยลง อาเซอร์บัสพยายามใช้เวทช่วยรักษาแต่อาการของท่านก็หนักจนเกินเยียวยา ก่อนลมหายใจจะจบสิ้น จอมเวทชราได้กล่าวกับอาเซอร์บัสว่า

 

 แม้จะเป็นจอมเวทด้านมืด แต่หัวใจของอาเซอร์บัสต้องเจิดจรัสด้วยแสงแห่งความดี 

 

หลังจากฝังร่างของจอมเวทชราแล้ว อาเซอร์บัสก็ออกเดินทางท่องเที่ยวไปยังดินแดนต่างๆ เพื่อฝึกฝนพลังของตัวเอง และค้นหาเป้าหมายของชีวิต โดยมีความหวังว่าวันหนึ่ง คงได้เจอ ระหว่างการเดินทางนั่นเอง เขาต้องเผชิญทั้งหัวใจอันดีงามและความเลวร้ายของมนุษย์ หลายครั้งที่อาเซอร์บัสถูกจอมเวทด้วยกันลอบทำร้ายเจียนตาย แต่ด้วยอำนาจการเยียวยาที่มีมาแต่กำเนิด ช่วยให้เขารอดชีวิตและมีอำนาจแข็งแกร่งขึ้น ผ่านไปนานวันเขาจึงกลายเป็นคนเฉยชา ไม่สนใจผู้ใดอีกต่อไป

 

พลังของอาเซอร์บัส

 

เนื่องจากเป็นเวทสายมืด จึงมีพลังต่างๆแฝงเร้นมากมาย พลังที่อาเซอร์บัสใช้เป็นประจำก็คือ ไฟสีดำ ที่เป็นทั้งภาพมายาและพลังทำลาย ถ้าไม่อยากฆ่าหรือต้องการข่มขู่ อีกฝ่ายจะทุกข์ทรมานดิ้นทุรนทุรายด้วยความร้อนเหมือนถูกไฟเผา แต่ไม่มีรอยไหม้เกรียมหรือแผลพุพอง แต่ถ้าเขาใส่จิตสังหารลงไป ไฟนั้นก็จะเผาอีกฝ่ายให้มอดไหม้เป็นเถ้าธุลีในพริบตา

 

นอกจากนี้อาเซอร์บัสยังมีพลังในการสร้างภาพลวงตาหรือส่งคนเข้าไปในโลกมายาที่เขาสร้างขึ้นมาได้ เป็นเวทที่ต้องใช้พลังจิตเข้มแข็งพอดู และเหมาะสำหรับการทรมาน ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่ค่อยชอบใช้เท่าใดนัก เนื่องจากมันเหมือนกับวิธีของคนขลาด เว้นเสียแต่คนผู้นั้นจะมีนิสัยน่าชิงชังจนสุดทน นอกจากนี้อาเซอร์บัสยังอ่านความคิดของผู้อื่นได้ ด้วยการทะลวงเข้าไปในสมองโดยตรงและดึงความคิด ความรู้สึกต่างๆออกมา แน่นอนว่าเป็นวิธีที่เหี้ยมโหดเพราะทำให้อีกฝ่ายถึงตาย เขาจึงมักใช้วิธีสะกดจิตมากกว่า แต่บางทีก็ไม่ได้ผล ถ้าอีกฝ่ายเป็นจอมเวทจิตแข็งหรือมีฝีมือ

 

สิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของจอมเวทสายมืด คือพลังการรักษาตัวเอง เมื่อได้รับบาดเจ็บ ร่างกายของอาเซอร์บัสสามารถรักษาตัวเองได้ เขาจึงหายเร็วกว่าปรกติ และนี่เป็นอีกผลหนึ่งที่ทำให้จอมเวทด้วยกันหวาดกลัว

 

เวทอีกอย่างของอาเซอร์บัสคือ สายฟ้าดำ พลังการทำลายไม่ใช่แค่จุดแรกที่ส่งลงไปเท่านั้นแต่จะกระจายไปโดยรอบสร้างความพินาศอย่างมหาศาลต่อศัตรู อำนาจของมันไม่เพียงแค่ระเบิดสิ่งต่างๆให้แหลกเป็นชิ้นเท่านั้น ยังร้อนจัดราวกับแสงของดวงอาทิตย์ เผาทุกอย่างที่สัมผัสจนไหม้เกรียม

 

ม่านพลัง เป็นวิชาพื้นฐานของเหล่าจอมเวท แต่ม่านพลังที่อาเซอร์บัสสร้างขึ้นมีความพิเศษกว่าคนอื่นเพราะสามารถกำหนดประเภทผู้ที่เขาต้องการกักขัง หรือคนที่สามารถผ่านเข้าออกได้ ด้วยการใช้จารึกอักขระในอากาศหรือพื้นที่กำหนดพร้อมกับการร่ายมนต์

 

เวทอาวุธ ปรกติจะเป็นเวทจำเพาะกลุ่ม คือจอมเวทที่มีพลังหรือฝึกมาทางด้านนี้เท่านั้น ที่สร้างอาวุธด้วยเวทมนต์ขึ้นมาได้ แต่อาเซอร์บัสเป็นข้อยกเว้น ความเกลียดชังและความรุนแรงในจิตใจที่ถูกฝังรากลึกจากการถูกลอบสังหารและโดนทำร้าย ผลักดันอำนาจส่วนหนึ่งให้ก่อตัวเป็นรูปร่างขึ้น จนกลายเป็นอาวุธได้เช่นเดียวกัน แต่ส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นลิ่มสีดำ

 

นอกจากพลังเวทแล้วอาเซอร์บัสยังสามารถดึงพลังจากเนบิวล่าสโตนมาใช้ได้อีกด้วย โดยไม่ต้องอาศัยการร่ายมนต์หรือลงอักขระอาคมใด

 

 เนบิวล่าสโตน เป็นผลึกคริสตัลสีดำสนิท ประดับอยู่บนยอดไม้เท้า เป็นพลังแห่งเนบิวล่ามืด (Dark nebulae) ซึ่งจะดูดซับแสงทุกอย่างเข้ามาไว้ในตัวและเปล่งพลังทำลายสะท้อนกลับออกไป นอกจากนี้ยังสามารถสร้างฝุ่นสีดำในอาณาเขตที่เขากำหนดขึ้นมาได้ด้วย เพื่อเปลี่ยนมิติ มักใช้ร่วมกับเวทลวงตา นอกจากนี้อาเซอร์บัสยังสามารถดูดพลังเวทแห่งแสงสว่างจากคนอื่นเข้าไปไว้ในเนบิวล่าสโตนได้อีกด้วย แต่หากไม่จำเป็นจริงๆแล้ว เขาก็ไม่ทำ

 

พลังของเนบิวล่าสโตนกับพลังของอาเซอร์บัสเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ยิ่งมีแสงสว่างมากเท่าใด อำนาจของเขาก็จะเพิ่มความแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น และหากอยู่ท่ามกลางความมืด พลังของเขาก็จะคงที่และซึมซับแทรกไปในทุกอณูอากาศได้อย่างง่ายดาย

 

หากเกิดเหตุการณ์คับขัน เนบิวล่าสโตนสามารถเปล่งแสงสีต่างๆออกมาลวงตาหรือสังหารศัตรูได้ มักใช้ตอนที่เขาอ่อนแอหรือต้องการหลบหนี พลังเหล่านี้อิงจากเนบิวล่าสะท้อนแสง (Reflective nebulae)

 

แสงสีฟ้า มีพลังตรึงร่างกายของศัตรู แต่ใช้ได้แค่ชั่วประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น

 

แสงสีแดง เป็นแสงที่มีอำนาจรุนแรง ใช้เพื่อฆ่าอย่างเดียวเท่านั้น แต่การใช้แสงนี้ต้องดึงพลังงานจำนวนมหาศาลออกมาใช้ ทำให้อ่อนแอและใช้เวลานานในการฟื้นตัว

 

แสงสีเขียว เป็นพลังเยียวยา ใช้รักษาอาการบาดเจ็บ แต่อาเซอร์บัสมักใช้พลังนี้ในระดับหนึ่งเท่านั้น ที่เหลือปล่อยให้ร่างกายรักษาตัวเอง

 

ไม้เท้า ทำมาจากกระดูกสัตว์โบราณที่เรียกว่า กริฟฟิน มีลักษณะพิเศษกว่าไม้เท้าอื่นคือมีสีดำเพราะทำมาจากกระดูกของกริฟฟินดำ (Black Griffin) เป็นสัตว์หายาก มีขน เนื้อ อวัยวะภายในตลอดไปจนถึงกระดูกเป็นสีดำสนิท เมื่อนำมาทำเป็นไม้เท้าแล้วจะให้คุณสมบัติเพิ่มความแรงในการโจมตี และสร้างม่านป้องกันที่แข็งแกร่งกว่าผู้ใด

 

ที่สำคัญคือ กริฟฟินดำ สามารถสังหารมังกรได้   

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 




Create Date : 15 ธันวาคม 2556
Last Update : 16 ธันวาคม 2556 16:44:07 น.
Counter : 730 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กิสึเนะ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



moony ค่ะ เป็นคนชอบสร้างจินตนาการมาตั้งแต่เด็ก เคยวาดการ์ตูนไว้เป็นเล่ม แต่เก็บไว้อ่านเอง นิยายเรื่องแรกที่เขียนเป็นแนวจีนกำลังภายใน ตอนหลังรู้จักเน็ตจึงเริ่มสร้างสรรเรื่องอื่นบ้างแต่ส่วนใหญ่เป็นแนวแฟนตาซี