Group Blog
ไฟรัก...บท 2/2


คืนวันอาทิตย์ เวลา ๒๒.๓๐ น. ณ จุดนัดพบ ก่อนออกเดินทางไปยังภูกระดึง

สารวัตรตุลา หรือ พ.ต.ท.ตุลา เป็นตัวตั้งตัวตีในการจัดทริปภูกระดึงและเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการเช่ารถตู้ หลังจากเขาบอกให้ทุกคนแนะนำตัวเองให้สมาชิกแต่ละคนได้รู้จักแล้ว แพรไหมก็เข้าไปทักทายกับเพื่อนๆ ของตุลา รวมถึงพริ้มเพรา ศุภภัคร ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นน้องของญาติตุลาที่เพิ่งเดินทางมาถึงและเกือบจะเป็นคนสุดท้าย พริ้มเพราเป็นเด็กสาวหน้าตาน่ารักและอายุน้อยที่สุดในทริป เนื่องจากเพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยหมาดๆ ฉะนั้นจึงค่อนข้างเป็นจุดสนใจของหนุ่มๆ พอสมควร ทว่าแพรไหมไม่ค่อยมีโอกาสได้พูดคุยกับเด็กสาวมากนัก ด้วยพลันที่ม่านแก้วสมาชิกคนสุดท้ายมาถึง ตุลาก็บอกให้เหล่าคณะขึ้นรถและทริปภูกระดึงก็เริ่มออกเดินทางทันที

ตุลาจับจองที่นั่งติดกับแพรไหมซึ่งอยู่ตอนหน้า และผูกขาดบทสนทนากับเธอตลอดการเดินทาง กระทั่งเพื่อนๆ ในคณะที่สนิทกับคนทั้งคู่หน่อยออกปากแซวกึ่งกระเซ้าว่าเขาแจกขนมจีบตั้งแต่ยังไม่เริ่มออกเดินทาง แพรไหมวางหน้าไม่ติด ขณะที่ตุลาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้และยังคงดูแลเอาใจใส่หญิงสาวราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“แอร์หนาวไปไหม ปรับลดหน่อยดีไหมครับ” สารวัตรตุลาถามเชิงแนะ ก่อนจะยืดตัวไปปรับทิศทางแอร์ไม่ให้โดนหญิงสาวตรงๆ

แพรไหมพึมพำขอบคุณแล้วเอ่ยซักถามถึงข่าวที่กำลังขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ

“สารวัตรตุลคะ การประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)ในวันพุธหน้า นายกรัฐมนตรีจะเคาะเรื่องโผตำรวจหรือเปล่าคะ” แพรไหมถามตรงๆ เธอหมายถึงการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับรองผู้บัญชาการ(รองผบช.) จนถึงระดับผู้บังคับการ(ผบก.)ทั่วประเทศ ที่ขณะนี้มีปัญหาความขัดแย้งระหว่างนายกรัฐมนตรีกับรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เนื่องจากมีความเห็นไม่ลงรอยกันในเรื่องการจัดคนลงตำแหน่ง จนต้องเลื่อนการประชุมออกไปหลายครั้ง

ตุลาหัวเราะ พลางกระเซ้าว่า “เคยมีสักครั้งไหมครับที่เราจะพูดคุยกันโดยที่ไม่มีเรื่องงานเข้ามาเกี่ยวข้อง พี่เคยอดคิดเล่นๆ ไม่ได้ว่า ที่น้องแพรคบหาพี่ก็เพราะต้องการสืบหาข่าวลับๆ”

แพรไหมชะงัก พลันหน้าแดงก่ำจดลำคอ นึกดีใจที่แสงสว่างตามข้างทางที่รถวิ่งผ่านไม่มากพอจะทำให้เขาเห็นสีหน้าเธอ หญิงสาวข่มความอายพลางแย้งเสียงอ่อนกลับไปว่า “ก็ตอนนี้เรื่องโผตำรวจฮอตที่สุดนี่คะ เจอหน้าตำรวจ ไม่ให้ถามเรื่องนี้ แล้วจะให้ถามเรื่องอะไรละคะ”

วูบหนึ่งที่แพรไหมรู้สึกผิด เพราะเธอเป็นอย่างที่สารวัตรตุลาว่าจริงๆ... เธอยอมไปไหนมาไหนกับเขา ก็เพราะต้องการสืบหาข่าวเชิงลึกจริงๆ หลายครั้งที่เธอได้ ‘ฮินต์’<1> หรือไม่ก็ข่าวซีฟ<2>จากการพูดคุยกับเขา...

“ก็คุยเรื่องดินฟ้าอากาศทั่วไป อย่าง...ถามว่าช่วงนี้งานพี่หนักไหม ทานข้าวหรือยัง... จิปาถะที่จะหยิบยกขึ้นมาพูดคุยกับพี่” ตุลาทอดเสียงอ่อน

แพรไหมหน้าร้อนวาบกับคำติงระคนหยอดคำหวานนั่น เธอข่มความละอาย ก่อนจะถามต่อด้วยสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ออกไปว่า “เรื่องพวกนั้นเห็นอยู่แล้ว ไม่ต้องถามหรอกค่ะ ว่าแต่จะไม่บอกจริงๆ หรือคะ...ว่านายกรัฐมนตรีจะเคาะโผตำรวจพุธหน้าหรือเปล่า”

ตุลาหัวเราะกับการไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ของหญิงที่ตัวเองพึงใจ เขาเย้าว่า “สรุปว่าจะเอาคำตอบให้ได้ว่างั้นเถอะ”

แพรไหมหัวเราะแผ่วเบา รู้สึกผ่อนคลายกับเสียงหัวเราะของเขาจนต้องหัวเราะตาม

“ถ้าแพรตอบว่าใช่ละคะ”

“งั้นคำตอบก็ต้องบอกว่า...ข่าวแว่วว่าจะเลื่อนอีกรอบครับ”

แพรไหมขยับตัวมองเขาตรงๆ อย่างสนใจ เธอจ้องหน้าตุลาผ่านแสงสลัว พลางถามว่า “เพราะอะไรคะ โผถึงยังไม่ลงตัว”

“ก็อย่างที่นักข่าวรู้นั่นแหละครับ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ยังทำบัญชีไม่เสร็จ ก็เลยขอนายกรัฐมนตรีเลื่อนการประชุมก.ตร.ออกไปก่อน เพราะตำแหน่งว่างแค่ ๖๐ ตำแหน่งก็จริงอยู่ แต่ต้องโยกย้ายสับเปลี่ยนเป็นร้อยตำแหน่ง เมื่อบัญชีของนายกรัฐมนตรี กับบัญชีของรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงไม่ตรงกัน ท่านผบ.ตร. ก็เลยต้องขอขยายเวลาออกไปอีกหน่อยในการจัดคนลงตำแหน่ง”

“โผนายพลไม่ลงตัวอย่างนี้ โผนายพันก็ต้องเลื่อนออกไปเหมือนกันสิคะ”

“ครับ ต้องเลื่อนตามกันออกไป”

“ติดขัดตรงไหนคะ ทำไมบัญชีของนายกรัฐมนตรีกับบัญชีของรองนายกรัฐมนตรีถึงไม่ตรงกัน”

“อันนี้พี่ไม่รู้จริงๆ ครับ ลึกกว่านี้พี่ตอบไม่ได้จริงๆ และพูดกันตามจริง สิ่งที่พี่รู้ น้องแพรก็รู้อยู่แล้ว”

“เห็นแว่วว่าเพราะการแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดของกระทรวงมหาดไทยคราวก่อน พรรค...” แพรไหมเอ่ยชื่อพรรคหนึ่งที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ก่อนกล่าวต่อว่า “ได้ส่งคนของตัวเองลงไปในพื้นที่เพื่อรองรับการเลือกตั้ง ในขณะที่พรรคของตัวเองกลับได้สัดส่วนน้อย ทั้งที่เป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายกรัฐมนตรีจึงกลัวว่าหากปล่อยให้รองนายกรัฐมนตรีจัดโผโยกย้ายตำรวจอีก ก็จะไปตามใจพรรคร่วมรัฐบาลมากเกินไป นายกรัฐมนตรีจึงต้องการแก้เกมเพื่อวางตำรวจลงในพื้นที่เพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้งมากที่สุด”

“น้องแพรวิเคราะห์ได้ลึกดี และพี่ว่าน้องแพรรู้อะไรลึกๆ มากกว่าพี่อีกนะครับ เห็นทีเรื่องลึกๆ นี่ต้องถามนักข่าวจริงๆ”

“ประชดหรือชมคะ” แพรไหมนิ่วหน้า

“ชมสิครับ โอ๊ย...หาความกันจริงๆ” ตุลาทำเสียงโอดโอยยังกับถูกมดกัด ก่อนหัวเราะตบท้าย

แพรไหมยังคงนิ่วหน้า แต่ไม่ทันได้แย้งกลับ เสียงของคนทางด้านหลังแหย่ขึ้นก่อนว่า

“เฮ้...คู่ข้างหน้าน่ะแรงดีไม่มีตกจริงๆ ขนาดจะเที่ยงคืนอยู่แล้ว ยังคุยกะหนุงกะหนิงจีบกันอยู่ได้ ไม่ง่วงกันบ้างหรือไง” ม่านแก้วเพื่อนนักข่าวของแพรไหมกระเซ้าขึ้น เธอถือว่าตัวเองสนิทกับคนทั้งคู่มากที่สุดจึงกล้าเอ่ยปากแซว

“น้อยๆ หน่อยเจ้าม่าน ใครจีบกันยะ เห็นอยู่ฉันกำลังทำงาน” แพรไหมหันไปตวัดตาค้อน

ขณะที่ตุลาหัวเราะ เขาละสายตากลับมาเย้าคนข้างกาย “เห็นไหมน้องแพร...น้องแพรยอมรับแล้วจริงๆ ว่ากำลังทำงานอยู่ เชื่อเขาเลย ทำงานตลอด ๒๔ ชั่วโมง ไม่เหนื่อยบ้างหรือไงนะ”

“โอเค...งั้นพักก็พัก ราตรีสวัสดิ์นะคะท่านสารวัตร เจอกันพรุ่งนี้เช้าค่ะ” แพรไหมพูดจบ ก็รั้งชายผ้าแพรขึ้นมาห่มถึงซอกคอ ก่อนจะผินหน้าเข้าหาหน้าต่างรถ เป็นสัญญาณว่าตัดบทสนทนาแค่นั้น

ตุลามองภาพนั้นแล้วส่ายหน้ายิ้มๆ อย่างเอ็นดู เขาเจอกับแพรไหมเมื่อ ๔ ปีก่อนตอนที่เธอยังเป็นแค่นักข่าวชุดเฉพาะกิจ ซึ่งเพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ๆ และต้องตระเวนไปตามสน.ต่างๆ แล้วแต่ว่าท้องที่ใดจะเกิดเหตุอาชญากรรม พลันที่เห็นแพรไหมครั้งแรก เขาก็นึกชอบทันที จะเรียกว่าตกหลุมรักเด็กสาวที่อายุอ่อนกว่า ‘รอบกว่าๆ’ ก็คงไม่ผิดนัก ด้วยตอนนั้นเธออายุแค่ ๒๒ ปี ขณะที่เขาอายุ ๓๖ ปี เธอสวยคมเฉี่ยว และมีบุคลิกที่โดดเด่น แพรไหมมีอะไรบางอย่างที่ดึงดูดความสนใจจากเพศตรงข้าม เขาตอบไม่ได้ว่าคืออะไร อาจด้วยบุคลิกที่เข้มแข็ง ไม่เกรงกลัวใคร กล้าซักกล้าถาม ทั้งที่ตอนนั้นเธอเป็นนักข่าวใหม่ที่ยังอยู่ในช่วงทดลองงานด้วยซ้ำ

เสียงพูดคุยเบาๆ ในรถก่อนหน้านี้ที่มีประปราย พลันเงียบกริบลงเมื่อสิ้นเสียงพูดคุยของตุลาและแพรไหม ทุกคนพร้อมใจกันข่มตาหลับตามคนทั้งคู่ จวบจนไปถึงตีนเขาภูกระดึงในช่วงเช้าของวันถัดมา เสียงพูดคุยราวกับนกกระจอกแตกรังก็ดังขึ้นอีกครั้ง

ระหว่างรอศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ที่อยู่ภายในที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูกระดึง เปิดให้บริการ ทุกคนก็ทยอยไปล้างหน้าแปรงฟัน จากนั้นก็รอคิวเพื่อจัดข้าวของตลอดจนคัดแยกสัมภาระที่ต้องจ้างลูกหาบให้ขนขึ้นไปบนยอด ซึ่งต้องมีการชั่งน้ำหนักและติดป้าย

จังหวะที่กำลังรอขึ้นภูกระดึงนั่นเอง แพรไหมก็ได้รับโทรศัพท์จากเมธี

“แพรพูดค่ะ” แพรไหมกดรับสายและทักทายออกไป กังวานเสียงเรียบๆ

“แพร...เกิดเรื่องใหญ่แล้ว น้องหายตัวไป”

“อะไรนะคะ หายไปได้ยังไง” แพรไหมตวัดถามเสียงสูง พลอยทำให้ตุลาและคนอื่นๆ มองตามอย่างตกใจพอกัน

เมธีทวนประโยคซ้ำ ก่อนเล่าสืบไปว่า “เมื่อวานไหมบอกพ่อว่าจะไปงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อน พ่อคิดว่าคงกลับดึกเพราะยังไงงานเลี้ยงก็ต้องเลิกดึกอยู่แล้ว พ่อก็เลยไม่ได้อยู่รอ แต่มาเอะใจก็ตอนที่ไหมไม่ได้ลงมากินข้าวเช้า คือปกติ ไหมจะไม่กลับดึก แต่ถ้าวันไหนมีเหตุให้ต้องกลับดึก เช้าต้องมารายงานตัวกับพ่อว่ากลับมาแล้ว แต่เช้านี้น้องเงียบไป พ่อก็เลยขึ้นไปตาม ถึงได้รู้ว่าไหมยังไม่กลับมา”

“เดี๋ยวนะคะ...พ่อมั่นใจได้ยังไงว่าน้องหายไป ไหมอาจจะไปค้างบ้านเพื่อนก็ได้”

“ไหมไม่เคยไปค้างบ้านเพื่อนนอกจากบ้านแม่ แต่พ่อโทร.ถามเพื่อนสนิทของไหมแล้ว ทุกคนตอบตรงกันว่าไหมไม่ได้ไปค้างด้วย แถมเพื่อนในกลุ่มยังยืนยันตรงกันด้วยว่าไม่มีใครจัดงานวันเกิดเมื่อคืน”

“คุณพระ...” แพรไหมอุทาน หน้าซีดเผือด

“พ่อน่าจะอยู่รอเมื่อคืน เพราะไม่ใช่วิสัยของไหมเลยที่จะกลับบ้านดึก”

อีกฝ่ายยังคงพิรี้พิไรกลับมาทางโทรศัพท์ แพรไหมยกมือคลึงขมับอย่างพยายามเรียกสติกลับคืนมา เธอถามกลับไปว่า “พ่อแจ้งความหรือยังคะ”

“ตำรวจไม่รับแจ้งความ เขาบอกว่าไหมอาจจะไปค้างบ้านเพื่อนก็ได้ เพราะฉะนั้นให้รอให้ครบ ๒๔ ชั่วโมงก่อนแล้วค่อยไปแจ้งความ”

“ค่ะ เป็นไปได้ไหมว่าไหมอาจจะไปงานเลี้ยงวันเกิดของเพื่อนที่ไม่สนิท เพื่อนในก๊วนถึงได้ไม่มีใครรู้เลยว่าไหมไปไหน หรือไปงานวันเกิดใคร”

“ก็อาจเป็นไปได้ แต่ตอนนี้พ่อมืดแปดด้านไปหมดแล้วแพร พ่อจะทำยังไงดี”

“ตั้งสติดีๆ นะคะพ่อ แล้วทำตามที่แพรบอก โทร.ไปเช็กกับโรงพยาบาลทุกแห่งว่ามีที่ไหนรับน้องเป็นคนไข้บ้าง ส่วนแพรจะโทร.เช็กกับสน.แล้วจะโทร.ถามเพื่อนนักข่าวด้วยว่ามีใครรับแจ้งเบาะแสเรื่องอุบัติเหตุบ้าง เพื่อนนักข่าวสายตระเวนอาจจะรู้เบาะแสอะไรบ้างเพราะต้องฟัง ว. ตลอดเวลา แต่เดี๋ยวนะคะ...ขอแพรถามรายละเอียดเพิ่มเติมอีกหน่อย เมื่อวานตอนที่น้องมาขอพ่อไปงานเลี้ยงวันเกิด น้องออกจากบ้านไปตอนกี่โมงคะ”

“๖ โมงเย็นลูก”

“มีใครมารับคะ หรือน้องออกไปคนเดียว”

“น้องออกไปคนเดียวลูก พ่อไม่เห็นใครมารับ”

แพรไหมล้วงหยิบสมุดจดข่าวจากกระเป๋าเป้ออกมาจดรายละเอียดอย่างรวดเร็ว ก่อนถามต่อว่า “พ่อลองโทร.เข้ามือถือน้องหรือยังคะ”

“โทร.แล้วลูก แต่ไม่มีสัญญาณเลย”

“พ่อโทร.บอกเรื่องนี้กับแม่หรือยังคะ”

“ยังลูก พ่อโทร.หาลูกก่อนเป็นคนแรก”

“ดีแล้วค่ะ อย่าเพิ่งบอกแม่เลย มันอาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ได้ แค่นี้ก่อนนะคะแพรขอโทร.หาเพื่อนนักข่าวสายตระเวนก่อน” แล้วแพรไหมก็ตัดสายแค่นั้น

ทุกคนซึ่งกำลังจ้องมาที่เธอเป็นตาเดียวกันอย่างใจจดจ่อ ต่างเอ่ยปากถามขึ้นพร้อมกันว่าเกิดอะไรขึ้นในทันทีที่เธอตัดสายโทรศัพท์ เธอเก็บสมุดจดข่าวใส่เป้ไปพลางขณะเล่าย่อๆ ให้ทุกคนฟัง แล้วจึงตบท้ายว่าเธอคงต้องขอตัวกลับก่อน

“งั้นเราก็ยกเลิกทริปนี้แล้วกัน เพราะถึงไปต่อก็คงไม่สนุก” ม่านแก้วพูดขึ้น

“อย่าเลยม่าน ฉันคงไม่สบายใจถ้าต้องเป็นต้นเหตุให้ต้องยกเลิกทริปนี้ ทั้งที่เราเตรียมตัวมาทั้งอาทิตย์และกำลังจะเดินขึ้นภูอยู่รอมร่อแล้ว ทุกคนไปต่อเถอะนะคะ อย่าห่วงฉันเลย” ประโยคท้ายแพรไหมส่งสายตาวิงวอนให้แก่ทุกคนที่อยู่รอบวงอย่างขอโทษอยู่ในทีที่ทำให้เสียบรรยากาศ

“งั้นเอาอย่างนี้ ทุกคนไปต่อ ส่วนพี่จะกลับกรุงเทพฯ เป็นเพื่อนน้องแพรเอง” ตุลาสรุป

“ม่านจะกลับเป็นเพื่อนแพรด้วยอีกคนค่ะ” ม่านแก้วเสนอตัวอีกคน

“งั้นสารวัตรตุลเอารถตู้กลับดีไหมคะ ส่วนพวกเราขากลับจะกลับรถบัสหรือไม่ก็รถไฟเอง” พริ้มเพราเสนอแนะขึ้น

“ดี...ตุลเอารถตู้กลับไปเถอะ” หลายเสียงสนับสนุนขึ้นพร้อมกัน

“อย่าดีกว่าค่ะ...อย่าทำให้คนส่วนใหญ่ต้องมาลำบากเพราะคนคนเดียวเลยค่ะ เดี๋ยวฉันหาทางกลับเองดีกว่าค่ะ” แพรไหมค้านเสียงอ่อนๆ พลางสบตาสมาชิกรอบวง

“อย่าพูดอย่างนั้นเลยค่ะ คุณแพรต้องรีบกลับกรุงเทพฯ เพื่อไปตามหาน้องสาวไม่ใช่เหรอคะ เพราะฉะนั้นถ้าไปถึงกรุงเทพฯ ได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น” พริ้มเพราให้เหตุผล กังวานเสียงอ่อนๆ

แพรไหมอึ้งด้วยจนด้วยเหตุผล เธอขอบคุณพริ้มเพราและทุกคน แล้วจึงขอตัวไปแยกสัมภาระเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ ทุกคนอวยพรให้ตามหาใยไหมเจอไวๆ จากนั้นต่างแยกย้ายไปทำภารกิจของตัวเอง

********

<1>ฮินต์ : hint

<2>ข่าวซีฟ ย่อมาจากข่าวเอ็กซ์คลูซีฟ (exclusive news) เป็นข่าวที่หนังสือพิมพ์ฉบับใดฉบับหนึ่งได้มาเพียงฉบับเดียว มักเรียกว่าข่าวเดี่ยว ส่วนใหญ่เป็นข่าวสืบสวนสอบสวนที่ต้องเจาะลึก





Create Date : 13 ตุลาคม 2553
Last Update : 14 ตุลาคม 2553 18:11:38 น.
Counter : 663 Pageviews.

10 comments
  
สวัสดีค่ะคุณอุ๋ย...
จุดเริ่มต้นของเรื่องยุ่ง...
รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะคุณอุ๋ย
โดย: เอิงเอย IP: 68.224.193.220 วันที่: 14 ตุลาคม 2553 เวลา:8:00:47 น.
  
เรื่องวุ่นๆ กำลังจะตามมาแล้ว

เรื่องนี้มีสารวัตรตุลา เรื่องรหัสทรชนมีสารวัตรสิงหา จะรอลุ้นเรื่องต่อไปค่ะ เชื่อว่าต้องมีสารวัตรเดือนอื่นแน่ๆ เลยค่ะ อิอิ
โดย: pantan IP: 58.9.16.204 วันที่: 14 ตุลาคม 2553 เวลา:10:00:16 น.
  
คุณเอิงเอย : สวัสดีค่ะคุณเอิงเอย ใช่ค่ะ...จุดเริ่มต้นจริงๆ ^^ ขอบคุณมากๆๆค่ะ คุณเอิงเอยก็รักษาสุขภาพเช่นกันนะคะ ^^

คุณเอ๋ : ฮ่าๆ โดนคุณเอ๋แซวจนได้ ตอนตั้งชื่อคิดเหมือนกันค่ะ ว่าใช้ชื่อเดือนอีกแล้วฮ่าๆๆๆ
โดย: คณิตยา วันที่: 14 ตุลาคม 2553 เวลา:21:21:20 น.
  
สายไปแล้วดอกไม้ที่งดงามของครอบครัวถูกทำลายเพราะคนใจหยาบไปซะแล้ว
โดย: mimny วันที่: 14 ตุลาคม 2553 เวลา:23:06:52 น.
  
คืนนี้เดินทางไปเที่ยวค่ะคุณอุ๋ย เดี๋ยวกลับมาสัปดาห์หน้าจะมาอ่านรวดเดียวเลย
โดย: หนูเก๋ วันที่: 15 ตุลาคม 2553 เวลา:14:27:00 น.
  
น้องมิ้ว ไม่เจอคำผิดใช่ก่า ดีใจจังเลย ^^

คุณเก๋ คุณเก๋ไปเที่ยวที่ไหนคะ ยังไม่บอกเลย ^^
โดย: คณิตยา วันที่: 16 ตุลาคม 2553 เวลา:13:29:52 น.
  
ไม่เจอค่ะพี่อุ๋ย
โดย: mimny วันที่: 16 ตุลาคม 2553 เวลา:16:05:06 น.
  
โพสต์แล้วต้องรื้อใหม่น่ะค่ะน้องมิ้วเลยต้องรีบดึงกลับก่อน เพราะเป็นการรื้อเรื่องปมเลย แหะๆๆ แต่ตอนนี้โพสต์ล่ะค่ะ
โดย: คณิตยา วันที่: 16 ตุลาคม 2553 เวลา:20:36:35 น.
  
น้องไหมแย่แล้ว
โดย: จิรารัตน์ IP: 182.52.119.10 วันที่: 11 ธันวาคม 2553 เวลา:21:22:23 น.
  
plot เรื่องอย่างกะชีวิตจริงเลย มีโผตำรวจไม่ลงตัวด้วย
โดย: c IP: 58.137.140.114 วันที่: 13 ธันวาคม 2553 เวลา:10:16:36 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คณิตยา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]









รู้จักคณิตยา/คีตฌาณ์

ก้าวสู่โลกแห่งการขีดเขียนในปี 2549 มีผลงานเป็นรูปเล่มกับสนพ.ในเครือสถาพรบุ๊คส์ทั้งหมด 11 เล่ม ไล่ตั้งแต่ รหัสทรชน ทางสายหมอก กุหลาบในเปลวไฟ ฝากรัก...ผ่านซีบ็อกซ์ อริ...ที่รัก บอดี้การ์ด รักเพียงฝัน ตามรักข้ามเวลา ไฟรัก บันทึกแห่งรัก(the Book of Love) มิราเบลล์...ตราบคีตาบรรเลง เป็น 1 ในนิยายชุดแด่เธอที่รัก สาปรัก และใต้ปีกรัก

รหัสทรชน เป็นละครทางช่อง 3 เมื่อปี 2554 แสดงโดย เคน และชมพู่ สร้างโดยค่ายยูม่า และ ไฟรัก ได้รับการซื้อลิขสิทธิ์ไปแปลเป็นภาษาเวียดนาม วางแผงเดือนสิงหาคม 2556



พูดคุย ทักทาย แลกเปลี่ยนความเห็น และติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง fb โดยกดไลค์เป็นแฟนเพจได้ทาง https://www.facebook.com/keetacha?ref=hl ขอบคุณค่ะ

---------------


ตอนนี้อุ๋ยทยอยนำนิยายที่หมดลิขสิทธิ์กับพิมพ์คำไปวางจำหน่ายในรูปแบบ E-book บนเว็บ ebooks และเว็บ Mebmarket ค่ะ

ใต้ปีกรัก...ราคาอีบุ๊ก 179 บาท

บันทึกแห่งรัก...ราคาอีบุ๊ก 255 บาท จากราคาปก 310

ไฟรัก...ราคาอีบุ๊ก 279 บาท จากราคาปก 350 บาท

กุหลาบในเปลวไฟ...ราคาอีบุ๊ก 230 บาท



รหัสทรชน ราคาอีบุ๊ก 200 บาท จากราคา 300 บาท 673 หน้า





ทางสายหมอก ราคาอีบุ๊ก 265 บาท จากราคา 280 บาท 690 หน้า



ฝากรัก...ผ่านซีบ็อกซ์ ราคาอีบุ๊ก 125 บาท จากราคา 180 บาท 360 หน้า



รวมเรื่องสั้น...ฉบับวัยหวาน ราคาอีบุ๊ก 45 บาท จากปก 55 บาท



อริ...ที่รัก ราคาอีุบุ๊ก 195 จากปก 240 บาท



หวานใจ...บอดีการ์ด...ราคาอีบุ๊ก 145 บาท จากปก 180 บาท



รักเพียงฝัน...ราคาอีบุ๊ก 225 จากปก 250 บาท



ตามรักข้ามเวลา...ราคาอีบุ๊ก 240 จากปก 270 บาท





















New Comments