Group Blog
ไฟรัก...บท 8/2



แยกจากศิลาและหวานใจแล้ว แพรไหมก็รีบต่อสายถึงสารวัตรตุลาโดยพลัน เธอขับรถมุ่งสู่เส้นทางที่จะไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะที่ปากยังคงเล่าเรื่องราวที่คนขับรถแท็กซี่เข้าพบทนายความของภาติยะ ก่อนจะตบท้ายว่า

“แค่วันเดียวนะคะสารวัตร เป็นไปได้ยังไงที่ทนายความจะได้ตัวคนขับรถแท็กซี่มาแล้ว มันต้องเป็นการจัดฉากหรือไม่ก็เป็นพยานบุคคลจัดตั้งแน่นอน ถึงคุณศิลาจะบอกว่ามีความเป็นไปได้ เพราะข่าวแพร่ทางทีวีมาสองวันเต็มๆ นับถึงเที่ยงวันนี้ แต่ทำไมคนขับรถแท็กซี่ถึงเพิ่งมารายงานตัวเอาตอนนี้ ทั้งที่ข่าวนายภาติยะตกเป็นผู้ต้องสงสัย เป็นข่าวดังครึกโครมมาเกือบสองสัปดาห์แล้ว สารวัตรไม่สงสัยบ้างหรือคะ” แพรไหมใส่เป็นชุด

“เขาบอกว่าเขารับงานของบริษัททัวร์ ขับรถพากลุ่มสัมมนาไปลาวมา เพิ่งจะกลับมาถึงเมืองไทยก็วันนี้ ถึงเพิ่งจะทราบข่าว”

“ตกลงเป็นคนขับรถแท็กซี่หรือคนขับรถทัวร์กันแน่คะ”

“เขาเป็นพนักงานขับรถทัวร์ แต่เวลาว่างเช่ารถแท็กซี่ขับเป็นงานอดิเรก”

“สารวัตรรู้ได้ไงคะ”

“พี่อยู่ศาลอาญาตอนนี้ ทนายความของคุณภาติยะโทร.ตามพี่”

แพรไหมอ้าปากค้าง เสี้ยววินาทีต่อมาเธอก็ถามต่อว่า “แล้วสารวัตรคิดว่าไงคะ”

“พี่กำลังฟังคุณภาติยะพูดคุยกับคนขับรถแท็กซี่อยู่ นี่พี่เลี่ยงมาคุยโทรศัพท์ข้างนอก เบื้องต้นคนขับรถแท็กซี่ให้การว่า สิ่งที่คุณภาติยะให้ปากคำ เป็นจริงตามนั้น เขาอยู่รอคุณภาติยะนั่งดื่มในผับจนผับปิด จึงขับรถพาเขากลับกรุงเทพฯ”

“ถ้าอย่างนั้นแพรจะลองขับไปที่ผับในนครปฐมที่ภาติยะอ้าง ดูว่าบาร์เทนเดอร์ที่นั่นจะว่าอย่างไรบ้าง”

“ดีครับ แต่รอไปพร้อมพี่ดีไหม พี่กำลังรอผลตรวจเลือดอยู่ ถ้าดีเอ็นเอตรงกับพยานหลักฐานของคนร้ายที่พี่มีอยู่ พี่ก็ต้องการพยานบุคคลเพิ่มเติมเพื่อมัดเขาเข้าคุก แต่ถ้าผลดีเอ็นเอไม่ตรง พี่ก็คงไม่ต้องไปสอบปากคำบริกรในผับ เย็นนี้น่าจะได้ผลตรวจมาแล้ว”

“แพรใจร้อน ขอไปดูลาดเลาที่ผับก่อนนะคะ”

“ได้ครับ ถ้ายังไงก็ขับรถระวังนะครับ มีผลคืบหน้าอะไรโทร.แจ้งพี่ด้วย ส่วนผลตรวจดีเอ็นเอ ถ้ากองพิสูจน์หลักฐานรายงานพี่มาอย่างไร พี่จะรีบโทร.บอกน้องแพรทันที”

“ได้ค่ะ ขอบคุณมากค่ะสารวัตร”

“ยินดีครับ”

แพรไหมวางสายจากสารวัตรตุลาแล้ว เธอก็โทร.ไปลางานครึ่งวันกับโรงพิมพ์โดยให้เหตุผลไปตรงๆ ว่าอยากไปพูดคุยกับบริกรของผับ

“ไม่ต้องลางานหรอก เพราะถือว่าคุณปฏิบัติงานในหน้าที่ แต่ยังไงไปถึงที่นั่นแล้ว รายงานข่าวความคืบหน้าของคดีกลับมาด้วย อ้อ... เบื้องต้นส่งข่าวที่คนขับรถแท็กซี่โผล่มาแสดงตัวก่อนได้ไหม ผมจะได้ยิงเอสเอ็มเอสก่อน”

“ได้ค่ะ แต่แพรต้องขอแวะจอดรถข้างทางก่อน ตอนนี้แพรกำลังขับรถ อ้อ...สารวัตรตุลาบอกว่าเย็นนี้น่าจะได้ผลตรวจดีเอ็นเอจากกองพิสูจน์หลักฐานนะคะ”

“อ้าว...แล้วอย่างนี้ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใครจะดู”

“แพรฝากเพื่อนไว้แล้วค่ะ เธอจะช่วยส่งข่าวให้”

“ไม่เป็นไร คุณไปทำทางนั้นให้สบายใจเถอะ เดี๋ยวผมจะโยกชุดเฉพาะกิจ<1>ไปทำที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแทน อ้อ... ผมลืมบอกคุณ เมื่อเช้ามีคนโทร.เข้าโรงพิมพ์ อ้างว่าเป็นเพื่อนสนิทของท่านผู้หญิงนงคราญ แต่ไม่ยอมเปิดเผยตัวว่าชื่ออะไร เธอบอกว่าท่านผู้หญิงกำลังให้ทนายความร่างสำนวนฟ้องโรงพิมพ์อยู่”

ความหมายอีกนัยหนึ่งคือฟ้องผู้ที่เขียนข่าวด้วย จากเดิมที่ฟ้องแค่โรงพิมพ์ กฎหมายในปัจจุบันได้ขยายผลไปถึงคนเขียนข่าวด้วย เพื่อเป็นการพิทักษ์ปกป้องผู้เสียหายเพิ่มขึ้น

แพรไหมพูดว่า “แพรขอโทษค่ะที่เป็นต้นเหตุให้โรงพิมพ์ถูกฟ้อง ความจริงท่านผู้หญิงนงคราญโทร.มาขู่หลายรอบแล้ว คราวนี้ท่านคงทำจริง”

“ไม่เป็นไรหรอกแพร ทำข่าวสืบสวนสอบสวนมันก็เสี่ยงให้ถูกฟ้องกันทั้งนั้นแหละ อีกอย่างเราไม่ได้กลั่นแกล้งใคร แต่ ว่ากันไปตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริง แล้วที่สำคัญ...นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณต้องเดินขึ้นศาลสักหน่อย อย่ามาทำเสียงเศร้าไปหน่อยเลย”

นักข่าวสาวหัวเราะเมื่อรู้ว่าผู้เป็นหัวหน้าพยายามเย้าให้เธอกลับมาร่าเริง “แพรแค่เสียใจที่ทำให้เงินโรงพิมพ์ต้องไปจมกับคดีพวกนี้”

ทุกครั้งที่ถูกฟ้อง โรงพิมพ์ต้องวางหลักทรัพย์ค้ำประกันเป็นเงินจำนวนมาก ทำให้โรงพิมพ์ไม่อาจนำเงินก้อนนั้นไปทำอะไรได้จนกว่าคดีจะสิ้นสุดลง ซึ่งแต่ละคดีจะใช้ระยะเวลานานหลายปี

“เอาน่า...ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ผมต้องวางหูแล้วล่ะมีสายเข้า ถ้ามีอะไรด่วน รีบโทร.รายงานผมทันที”

อีกฝ่ายกำชับก่อนวางโทรศัพท์ แพรไหมตัดสายตาม ก่อนจะวางบลูทูธแล้วแวะจอดรถข้างทางเพื่อพิมพ์ข่าวสั้นส่งโรงพิมพ์



แม้จะทำใจไว้แล้ว แต่เมื่อมาเจอคำยืนยันของบาร์เทนเนอร์จริงๆ แพรไหมก็อึ้งไปนาน เธอต้องทำใจอยู่หลายวินาทีถึงจะฟังต่อไปได้...

การพูดคุยกับบาร์เทนเดอร์กะเดียวกับที่ภาติยะมานั่งดื่ม แพรไหมต้องใช้เวลาอยู่นานหลายชั่วโมงกว่าจะตามตัวเขาเจอ เนื่องจากตอนที่มาถึง ผับยังไม่เปิด มีเพียงพนักงานรักษาความปลอดภัยที่เฝ้าอยู่หน้าร้าน เธอต้องพูดคุยซักถามอยู่นานกว่าที่เขาจะยอมบอกที่อยู่ของบาร์เทนเดอร์รายนั้น

“เขามานั่งดื่มที่ผับตอนหัวค่ำ แล้วก็นั่งดื่มเรื่อยไปจนผับปิด ผมจำได้แม่นยำเพราะเขาหล่อเหลาสะดุดตาและให้ทิปผมหนักมาก”

บาร์เทนเดอร์ตอบหลังจากที่เธอถามคำถามว่าภาติยะมานั่งดื่มที่ผับจริงหรือไม่ พร้อมทั้งบอกรูปพรรณสัณฐานของเขา ทั้งที่ไม่จำเป็นสักนิดเพราะแค่เอ่ยชื่อภาติยะ หนุ่มบาร์เทนเดอร์ก็จำได้แม่นยำและพูดต่อได้เป็นฉากๆ เนื่องจากข่าวคราวของผู้กำกับหนุ่มดังเกรียวกราว

“เขาพูดคุยซักถามอะไรกับคุณบ้างมั้ย”

“ไม่เลยครับ เขาแค่นั่งดื่มอย่างเดียว แต่ระหว่างนั้นผมจำได้ว่าเขามีสายเข้า มีการพูดคุยอะไรบางอย่างที่เกี่ยวกับศาลที่อเมริกา แต่ผมได้ยินไม่ถนัดนัก เพราะแม้เขานั่งอยู่ตรงหน้าผมก็จริง แต่ในผับเสียงดังมาก”

แพรไหมพยักหน้ารับรู้ หมดข้อสงสัยกับคำให้การของภาติยะอีกต่อไป เพราะคำพูดของบาร์เทนเดอร์ช่วยยืนยันและสนับสนุนคำให้การของภาติยะให้มีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น

เขานั่งดื่มที่ผับในวันและเวลาที่เกิดเหตุฆาตกรรมของใยไหมจริงๆ... ภาติยะไม่ได้โกหก

แพรไหมยกมือลูบหน้าเมื่อเริ่มมีลางสังหรณ์บอกเธอว่ามีอะไรบางอย่างผิดพลาดเกิดขึ้น...ฆาตกรตัวจริงกำลังลอยนวลอยู่ข้างนอก

“คุณแพรไหมจะถามอะไรอีกไหมครับ”

“ไม่มีแล้วค่ะ” แพรไหมกดปิดเครื่องบันทึกเสียง จากนั้นจดชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ของบาร์เทนเดอร์คนที่กำลังให้สัมภาษณ์เธอ แล้วจึงกล่าวคำขอบคุณและลาจากมา

แพรไหมก้าวขึ้นนั่งบนรถได้ ก็คลึงขมับอย่างหนักหน่วง สมองนึกทบทวนเหตุการณ์กลับไปกลับมาว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้นที่ตรงไหน ในเมื่อพยานหลักฐานพุ่งไปที่ภาติยะทุกอย่าง แล้วพลันเธอก็ได้คำตอบว่ามีใครบางคนเกลียดภาติยะมาก กระทั่งตั้งใจสวมรอยเป็นเขาก่อการฆาตกรรมเพื่อป้ายความผิดให้แก่เขา

นักข่าวสาวรู้สึกหนาวยะเยือกแทนผู้กำกับหนุ่ม...

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น แพรไหมกดรับพลางกรอกเสียงแผ่วเบา น้ำเสียงของเธอยามนั้นอ่อนระโหยยิ่งนัก “แพรพูดค่ะ”

“น้องแพร...ทำไมเสียงเนือยๆ อย่างนั้นล่ะครับ” สารวัตรตุลาถามกลับมา

แพรไหมเสยผมทั้งที่ไม่มีผมเส้นใดหล่นปรกหน้า ท่าทีเธอใจลอยเมื่อตอบว่า “มีบางอย่างผิดพลาดเกิดขึ้นค่ะ แพรกำลังนึกปะติดปะต่อเรื่องราวอยู่ จากคำให้สัมภาษณ์ของบาร์เทนเดอร์ เขายืนยันว่าภาติยะมานั่งดื่มเหล้าในคืนเกิดเหตุจริงๆ แพรกำลังสงสัยว่ามีใครบางคนจงใจสวมรอยเป็นเขา ก่อเหตุฆาตกรรมครั้งนี้เพื่อป้ายความผิดให้แก่เขา แพรหมายความว่าเรากำลังสงสัยผู้ต้องหาผิดตัวกันอยู่หรือเปล่า ฆาตกรตัวจริงอาจจะกำลังลอยนวลอยู่ข้างนอกก็ได้”

“พี่จะโทร.มาบอกน้องแพรเรื่องนี้พอดี ผลการตรวจดีเอ็นเอของกองพิสูจน์หลักฐานออกมาแล้ว พบว่าไม่ตรงกับดีเอ็นเอของคนร้ายที่เป็นหลักฐานที่ตำรวจมีอยู่ รองนายกฯ อดุลจึงสั่งให้พี่ร่วมกับกองพิสูจน์หลักฐานแถลงข่าวเรื่องนี้โดยด่วนที่สุด ตอนนี้พี่ได้ทำสำนวนถึงอัยการเพื่อสั่งไม่ให้ฟ้องเรียบร้อยแล้ว ฉะนั้นจะเปิดแถลงข่าวด่วนในอีก ๓๐นาทีข้างหน้านี้และจะถ่ายทอดสดการแถลงข่าวผ่านทางสถานีโทรทัศน์ด้วย” สารวัตรตุลาระบุช่องสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ซึ่งเป็นของกองทัพบก

“เสียดายจังที่แพรไปร่วมงานแถลงข่าวด้วยไม่ได้ เพราะยังอยู่ที่จังหวัดนครปฐม ว่าแต่การแถลงข่าวครั้งนี้ ถึงกับต้องถ่ายทอดสดกันเลยทีเดียวหรือคะ”

“ท่านรองนายกฯ อดุล หวั่นว่าการออกหมายจับผู้ต้องหาผิดตัวครั้งนี้ จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของตำรวจไทย เพราะผู้ต้องหาเป็นถึงผู้กำกับหนังของอเมริกาซึ่งเป็นคนดังระดับโลกที่สื่อทั่วโลกกำลังเกาะติดข่าวนี้และจับตามองมาด้วยความสนใจ ท่านอดุลหวั่นว่าจะส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาลุกลามบานปลาย จนทำลายความน่าเชื่อถือของตำรวจไทยในสายตาของนักท่องเที่ยวทั่วโลก จึงอยากให้พวกพี่รีบออกข่าวเพื่อแก้ข่าวโดยเร็ว อีกอย่างคุณภาติยะ เป็นผู้กำกับหนังฮอลลีวูดที่มีเชื้อชาติไทยด้วย ท่านจึงอยากแก้ภาพลักษณ์ของคนไทยในสายตาชาวโลก”

รองนายกฯ อดุลที่สารวัตรตุลา พูดถึง คือนายอดุล อุทัยรัตน์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

“รองนายกฯ กลัวเกินไปหรือเปล่าคะ ทุกอย่างเราทำไปตามกระบวนการและขั้นตอน ถ้าไม่ทำอย่างนั้นสิ เขาจะมีโอกาสมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองไหม ทำไมไม่คิดในแง่นี้”

“ท่านอดุล อยากให้ตรวจสอบให้มั่นใจ ก่อนจะออกหมายจับคนดังระดับนี้น่ะ”

“ถ้าเพียงเพราะเหตุผลว่าเขาเป็นคนดังระดับโลก เป็นเหตุให้ต้องเลือกปฏิบัติแตกต่างไปจากมาตรฐานทั่วไปล่ะก็ แพรก็อยากค้าน แพรว่าไม่แฟร์อย่างยิ่งที่จะเลือกปฏิบัติให้แตกต่างไปจากประชาชนคนไทยทั่วไป อย่าลืมว่าตอนเกิดเหตุใหม่ๆ หลักฐานทุกอย่างพุ่งไปที่เขา แถมเขายังเดินทางออกนอกประเทศหลังเกิดเหตุฆาตกรรมในทันทีด้วย ฉะนั้นตำรวจต้องรีบออกหมายจับเพื่อให้เขาเดินทางกลับมาพิสูจน์ความจริงก็ถูกต้องแล้ว ถ้าไม่ทำอย่างนั้นสิ...ไม่กลายเป็นว่าตำรวจละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้คนร้ายหลบหนีออกนอกประเทศโดยไม่ทำอะไรเหรอ ทั้งที่ตอนนั้นหลักฐานผูกมัดตัวเขาแน่นหนาขนาดนั้น แล้วถ้าการณ์กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นคนร้ายตัวจริงล่ะ ไม่กลายเป็นว่าตำรวจมีส่วนร่วมให้เขาหลบหนีคดีได้สำเร็จเหรอ แพรคนหนึ่งล่ะไม่ยอมแน่นอน ในฐานะญาติผู้ตาย แพรฟ้องสารวัตรในฐานะที่ละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่จริงๆ เพราะถือว่ามีหลักฐานทุกอย่างในมือแล้ว แต่ไม่ทำอะไรเลย ฉะนั้นทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการนะคะ ถ้ายังจะมาอ้างว่าทำลายภาพลักษณ์และชื่อเสียงของประเทศ แพรเขียนบทความด่าจริงๆ ด้วย ถึงจะเป็นพ่อของพี่หวาน พ่อก็พ่อเถอะ”

อดุล อุทัยรัตน์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นบิดาของหวานใจ การเขียนบทความวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของคนระดับรองนายกรัฐมนตรี แพรไหมทำมานักต่อนักแล้ว เธอเขียนคอลัมน์ตักเตือนระคนตำหนินักการเมืองทุกคนไม่เว้นแม้แต่ระดับนายกรัฐมนตรี ถ้าเห็นว่าการกระทำนั้นไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ผิดกฎหมาย หรือทุจริตคอรัปชัน

“น้องแพรพูดอย่างนั้นก็ถูก แต่นั่นเป็นผู้บังคับบัญชาพี่นะ แถมเป็นถึงระดับรองนายกรัฐมนตรีด้วย ฉะนั้นพี่คงแย้งท่านด้วยเหตุผลของน้องแพรไม่ได้หรอก ขืนทำ...เป็นได้ถูกย้ายฟ้าผ่าแน่ เพราะฉะนั้นคงทำได้อย่างเดียว คือปฏิบัติตามคำสั่งโดยไม่หือไม่อือ” สารวัตรตุลาเย้ากลับมาพลางหัวเราะตบท้ายอย่างไม่จริงจังนัก ก่อนจะพูดต่อว่า “พี่คงต้องวางสายแล้วน้องแพร ต้องเตรียมเอกสารแถลงข่าว”

“ได้ค่ะ อ้อ...สารวัตรคะแล้วเรื่องผลสอบปากคำของคนขับรถแท็กซี่เป็นไงบ้างคะ แพรขอสัมภาษณ์นะคะ ไม่ใช่คุยนอกรอบ”

“ได้ครับ...เบื้องต้นไม่น่าจะใช่การจัดฉากหรือพยานบุคคลจัดตั้ง พี่ยังไม่พบพิรุธของเขา ตรงกันข้ามเขาให้ปากคำตรงกับของคุณภาติยะ พี่คงตอบได้สั้นๆ แค่นี้ก่อน รายละเอียดคงต้องรอฟังการแถลงข่าว”

“ได้ค่ะ แพรจะรอฟังข่าวทางนี้นะคะ” อีกฝ่ายวางหูไปแล้ว แพรไหมจึงวางตาม เธอไม่รู้สึกประหลาดใจนักเพราะบาร์เทนเดอร์ก็ยืนยันคำให้การของภาติยะไปแล้ว ฉะนั้นถ้าจะเพิ่มน้ำหนักพยานบุคคลจากคนขับรถแท็กซี่อีกปาก ก็ดูจะไม่น่าประหลาดใจนัก

แพรไหมเปิดโทรทัศน์ในรถเพื่อรอฟังการแถลงข่าว แล้วจึงละกลับมาเปิดเน็ตบุ๊กและลงมือพิมพ์ข่าวอย่างรวดเร็ว เธอส่งข่าวสั้นเพื่อให้โรงพิมพ์ยิงข่าวเอสเอ็มเอสก่อน

ตำรวจร่วมกับกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมแถลงข่าวด่วนในอีก ๓๐ นาทีถึงผลตรวจสอบดีเอ็นเอของนายภาติยะ วรากรณ์ ผู้กำกับหนังฮอลลีวูด และผู้ต้องหาในคดีฆ่าข่มขืน ไม่ตรงกับพยานหลักฐานของคนร้าย พร้อมถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ช่อง...

คลิกส่งข่าวเข้าโรงพิมพ์ผ่านอินเทอร์เน็ตมือถือแล้ว เธอจึงต่อสายถึงโรงพิมพ์ แจ้งเรื่องส่งข่าวรวมถึงเรื่องตำรวจจะแถลงข่าวด่วนผลตรวจสอบดีเอ็นเอในอีก ๓๐ นาทีแล้วเธอก็บอกต่อว่า

“อย่าลืมบอก...” แพรไหมเอ่ยชื่อนักข่าวประจำสายศาล “ไปที่ศาลอาญาเพื่อสัมภาษณ์ภาติยะนะคะ เข้าใจว่าเขาคงยินดีให้สัมภาษณ์ทันทีที่รู้ผลการแถลงข่าว ส่วนรายละเอียดข่าวทางนี้ ทั้งในส่วนของบทสัมภาษณ์บาร์เทนเดอร์ รายงานข่าวคนขับรถแท็กซี่เข้ามอบตัวกับทางตำรวจ และเรื่องฟ้องร้อง เดี๋ยวแพรจะพิมพ์ส่งไปให้ค่ะ”

“ขอด่วนนะแพร เพราะข่าวนี้เป็นข่าวไม้หนึ่งพรุ่งนี้”

“ได้ค่ะ”

แพรไหมวางสายจากหัวหน้าโต๊ะข่าวอาชญากรรมแล้ว จึงต่อสายถึงท่านผู้หญิงนงคราญเพื่อตรวจสอบกระแสข่าวการฟ้องร้อง อีกฝ่ายยืนยันและด่าเปิงกลับมาแล้ว เธอจึงละกลับมาพิมพ์รายละเอียดของข่าวซึ่งมีทั้งบทสัมภาษณ์ของสารวัตรตุลา บาร์เทนเดอร์ ท่านผู้หญิงนงคราญ แล้วจึงใส่รายงานข่าวเรื่องคนขับรถแท็กซี่เข้าพบทนายความของภาติยะ เธอใส่เบื้องหลังเบื้องลึกที่รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง สั่งให้แถลงข่าวด่วนและถ่ายทอดสดด้วย โดยอ้างถึงภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือของวงการตำรวจไทยในสายตาของชาวโลก จากนั้นก็คลิกข่าวส่งเข้าโรงพิมพ์ พร้อมทั้งกระจายข่าวให้เพื่อนๆ ในแวดวงสายอาชญากรรมด้วย แล้วจึงละกลับมาเอนหลังพิงเบาะรถ เพื่อรอฟังการถ่ายทอดสดการแถลงข่าวอย่างใจจดใจจ่อ


*************


<1>โรงพิมพ์บางแห่งเรียกนักข่าวชุดเฉพาะกิจว่า จเร








Create Date : 07 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2553 22:00:06 น.
Counter : 808 Pageviews.

7 comments
  
รบกวนจับไก่ด้วยค่ะ เข้าใจว่าน่าจะปล่อยจากเล้ามาเยอะ เพราะยังไม่ได้อ่านทวนเลยค่ะ
โดย: คณิตยา วันที่: 7 พฤศจิกายน 2553 เวลา:8:39:59 น.
  
มาช่วยจับไก่ค่ะ
"ส่วย"ผลตรวจดีเอ็นเอ...แก้เป็น "ส่วน"
"ไม่"ผมเส้นใดหล่นปรกหน้า....น่าจะเป็น "ไม่มี"
"แล้วถ้า"การณ์"กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นคนร้ายตัวจริง....น่าจะเป็น"เหตุการณ์"
"
"แพร์" จะรอฟังทางนี้...แก้เป็น"แพร"

หนูแพรดูใจเย็นมากๆ เลยค่ะ ทั้งๆ ที่โยนระเบิดใส่แพทเอาไว้ซะเยอะขนาดนั้น แต่คงเป็นเพราะโดนฟ้องมาเยอะแล้วก็เป็นได้

อยากรู้เป็นที่สุดเลยค่ะ ว่าแพทจะจัดการยังไงกับหนูแพรบ้างค่ะ
โดย: pantan IP: 58.11.1.189 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2553 เวลา:20:22:56 น.
  
อยากรู้ว่าพี่แพทออกมาแล้วจะพูดอะไรเป็นประโยคแรก เรื่องฟ้องร้องนี่โอกาสแพ้ชนะไม่สำคัญสำหรับพี่แพทหรอกมั้งคะพี่อุ๋ยเพียงแต่เพื่อเรียกคืนศักดิ์ศรีของตังเองกลับคืนกลับมาสำหรับนักข่าวที่เขียนข่าวโดยใช้ความอคติเขียนข่าวพิพากษาคนอื่นไปแล้วว่าทำผิดเป็นคนร้าย ถึงจะบอกว่าเป็นการทำหน้าที่แต่ศาลยังไม่ตัดสินความผิดไม่ควรเขียนข่าวชี้นำว่าเป็นฆาตกร

-คอร์รัปชั่น===>คอรัปชัน

-รายงานข่าวคนขับรถแท็กซี่เข้ามอบตัวกับทางตำรวจ===>คนขับรถแท็กซี่ไม่ใช่ผู้ร้ายผู้ต้องหาเป็นพยานไม่น่าเป็นการเข้ามอบตัวน่าจะเป็นการให้ปากคำมากกว่า
โดย: mimny วันที่: 7 พฤศจิกายน 2553 เวลา:21:46:54 น.
  
ขอบคุณค่า เดี๋ยวพี่มาตอบเมนท์นะคะ ขอเร่งปั่นตอน 9 ก่อนค่า คาดว่าจะโพสต์ได้คืนนี้ค่า
โดย: คณิตยา วันที่: 7 พฤศจิกายน 2553 เวลา:22:11:51 น.
  
คุณเอ๋ : ฮ่า เย็นนอกแต่ร้อนในก็ได้น้าคุณเอ๋ ^_^ เดี๋ยวตอนต่อไป จะมีคำตอบสำหรับคำถามคุณเอ๋แล้วค่ะ ขอบคุณที่ช่วยจับไก่ค่ะ ปล่อยไก่เยอะมากๆๆ ฮ่าๆๆ

น้องมิ้ว : โห น้องมิ้ว...เข้าข้างพี่แพท หรือน้องมิ้วเกลียดนักข่าวเป็นทุนเดิมป่าวคะ อ่านแล้วสะดุ้งแทนเพื่อนร่วมวิชาชีพจริงๆ ยังไงก็เว้นพี่ไว้คนน้า... พี่ก็จัดการให้พี่แพทปรึกษากับทนายความอยู่แหละค่ะ ก็อย่างว่าตอนนี้ถือไพ่เหนือกว่า ก็ต้องเล่นเอาเถิดเอาล่อกะนางเอกเต็มที่เน้อ...ขอบคุณสำหรับบรูฟจ้า แก้แล้วจ้า
โดย: คณิตยา วันที่: 8 พฤศจิกายน 2553 เวลา:8:14:28 น.
  
จะสงสารน้องแพรดีไหมนะ พี่แพทจะกลับจากห้องกงแล้ว หรือจะอิจฉาดี
โดย: nethchat IP: 110.49.205.214 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2553 เวลา:12:11:32 น.
  
อ่านแล้วเดายากว่าใครเป็นคนร้าย เพราะมีคนไม่ชอบแพทเยอะ และความน่าจะเป็นคนร้ายก็มีมากกว่าสองคนอีกต่างหาก
โดย: จิรารัตน์ IP: 125.27.191.142 วันที่: 12 ธันวาคม 2553 เวลา:14:07:15 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คณิตยา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]









รู้จักคณิตยา/คีตฌาณ์

ก้าวสู่โลกแห่งการขีดเขียนในปี 2549 มีผลงานเป็นรูปเล่มกับสนพ.ในเครือสถาพรบุ๊คส์ทั้งหมด 11 เล่ม ไล่ตั้งแต่ รหัสทรชน ทางสายหมอก กุหลาบในเปลวไฟ ฝากรัก...ผ่านซีบ็อกซ์ อริ...ที่รัก บอดี้การ์ด รักเพียงฝัน ตามรักข้ามเวลา ไฟรัก บันทึกแห่งรัก(the Book of Love) มิราเบลล์...ตราบคีตาบรรเลง เป็น 1 ในนิยายชุดแด่เธอที่รัก สาปรัก และใต้ปีกรัก

รหัสทรชน เป็นละครทางช่อง 3 เมื่อปี 2554 แสดงโดย เคน และชมพู่ สร้างโดยค่ายยูม่า และ ไฟรัก ได้รับการซื้อลิขสิทธิ์ไปแปลเป็นภาษาเวียดนาม วางแผงเดือนสิงหาคม 2556



พูดคุย ทักทาย แลกเปลี่ยนความเห็น และติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง fb โดยกดไลค์เป็นแฟนเพจได้ทาง https://www.facebook.com/keetacha?ref=hl ขอบคุณค่ะ

---------------


ตอนนี้อุ๋ยทยอยนำนิยายที่หมดลิขสิทธิ์กับพิมพ์คำไปวางจำหน่ายในรูปแบบ E-book บนเว็บ ebooks และเว็บ Mebmarket ค่ะ

ใต้ปีกรัก...ราคาอีบุ๊ก 179 บาท

บันทึกแห่งรัก...ราคาอีบุ๊ก 255 บาท จากราคาปก 310

ไฟรัก...ราคาอีบุ๊ก 279 บาท จากราคาปก 350 บาท

กุหลาบในเปลวไฟ...ราคาอีบุ๊ก 230 บาท



รหัสทรชน ราคาอีบุ๊ก 200 บาท จากราคา 300 บาท 673 หน้า





ทางสายหมอก ราคาอีบุ๊ก 265 บาท จากราคา 280 บาท 690 หน้า



ฝากรัก...ผ่านซีบ็อกซ์ ราคาอีบุ๊ก 125 บาท จากราคา 180 บาท 360 หน้า



รวมเรื่องสั้น...ฉบับวัยหวาน ราคาอีบุ๊ก 45 บาท จากปก 55 บาท



อริ...ที่รัก ราคาอีุบุ๊ก 195 จากปก 240 บาท



หวานใจ...บอดีการ์ด...ราคาอีบุ๊ก 145 บาท จากปก 180 บาท



รักเพียงฝัน...ราคาอีบุ๊ก 225 จากปก 250 บาท



ตามรักข้ามเวลา...ราคาอีบุ๊ก 240 จากปก 270 บาท





















New Comments