Group Blog
ไฟรัก...บท 5/2


ท่านผู้หญิงนงคราญหน้าถอดสีในทันทีที่ดูข่าวภาคค่ำจบลง มือสั่นเทาขณะเอื้อมไปกดสวิตช์ที่อยู่ใต้โต๊ะ เพื่อเรียกหาคนรับใช้คู่ใจ

“ท่านผู้หญิงเรียกอัมพรหรือคะ” แม่บ้านรีบเดินเข้ามายอบตัวโดยพลัน

“ต่อสายนายแพทให้ฉันที แต่ก่อนที่จะโทร.หามัน โทร.เข้าทุกโรงพิมพ์ ไล่เรียงกันไปทีละแห่งให้ฉันก่อน”

อัมพรทำหน้าประหลาดใจ แต่วิสัยที่ถูกสอนให้รับคำสั่งโดยปราศจากคำถาม เจ้าตัวจึงปฏิบัติตามเงียบๆ แม่บ้านโทร.หาโรงพิมพ์หัวสีชื่อดังที่สุดก่อน ก่อนจะยื่นกระบอกโทรศัพท์ให้ท่านผู้หญิงนงคราญ

สถานีโทรทัศน์ช่องดังออกข่าวภาคค่ำว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงข่าวความคืบหน้าคดีฆ่าข่มขืนนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดัง ซึ่งเป็นน้องสาวของนักข่าวหนังสือพิมพ์หัวสีฉบับหนึ่ง โดยได้เบาะแสผู้ต้องสงสัยจากแชตไดอะล็อกระหว่างเหยื่อกับฆาตกร และเทปจากกล้องวงจรปิดที่แม้เห็นหน้าฆาตกรไม่ชัดเพราะกล้องจับมุมสูงและคนร้ายอำพรางด้วยแว่นตาดำ กระนั้นก็ดูออกว่ารูปร่างใกล้เคียงกับภาติยะ

ผู้ประกาศข่าวในสถานีโทรทัศน์ ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงประวัติของภาติยะ ว่าเป็นผู้กำกับหนังฮอลลีวูดและดาราพอร์นสตาร์ชื่อดังของอเมริกา จากนั้นขยายความว่าเขาเป็นหลานชายคนโตของท่านผู้หญิงนงคราญ พร้อมด้วยประวัติตั้งแต่ต้นตระกูลวรากรณ์ โดยระหว่างที่ผู้ประกาศข่าวให้ข้อมูลเพิ่มเติมนั้น มีรูปถ่ายของภาติยะและท่านผู้หญิงนงคราญโชว์หราบนหน้าจอโทรทัศน์ตลอดเวลา

ด้วยเหตุนี้ท่านผู้หญิงนงคราญจึงโกรธจัด เพราะภาติยะกลับมาเมืองไทยไม่ถึงอาทิตย์ ก็ก่อเรื่องให้ตระกูลวรากรณ์ฉาวโฉ่อีกครา ทั้งที่คดีเก่าซึ่งเป็นคดีพรากผู้เยาว์เด็กหญิงวัย ๑๔ ยังคาราคาซังอยู่ ท่านผู้หญิงนงคราญหวั่นว่าจะสร้างความอื้อฉาวให้แก่ตระกูลเพิ่มขึ้นถ้าปรากฏเป็นข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ในวันพรุ่งนี้ ฉะนั้นจึงสั่งให้คนรับใช้ไล่โทร.หาทุกโรงพิมพ์เพื่อหวังล็อบบี้ให้ปิดข่าว

“ฉัน...ท่านผู้หญิงนงคราญ วรากรณ์” พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ อย่างคนถือตัว ก่อนกล่าวสืบไปว่า “ช่วยงดเล่นข่าวภาติยะ ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมนักศึกษามหาวิทยาลัยได้มั้ย”

ท่านผู้หญิงนงคราญแนะนำตัวเองแล้วบอกถึงความต้องการตรงๆ หลังจากพนักงานโรงพิมพ์รับโทรศัพท์และมีการโอนไปให้หัวหน้าโต๊ะข่าวหน้าหนึ่งแล้ว

“สวัสดีครับท่านผู้หญิง ต้องขอโทษมากๆ เราคงดึงข่าวออกไม่ทันเพราะยิงเพลทไปแล้ว ไว้พรุ่งนี้ถ้าท่านผู้หญิงต้องการจะแก้ข่าวอย่างไร ทางผมก็ยินดีครับ”

อีกครึ่งชั่วโมงถัดมาท่านผู้หญิงนงคราญก็ได้คำตอบจากโรงพิมพ์ที่เหลืออีก ๖ แห่งที่ไม่แตกต่างกัน นั่นคือดึงข่าวออกไม่ทัน เพราะยิงเพลทไปแล้ว ท่านผู้หญิงนงคราญเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรงขณะวางกระบอกโทรศัพท์บนแป้น ไม่ทันปริปากบ่น จังหวะนั้นลูกชายลูกสาว ลูกเขยลูกสะใภ้พร้อมด้วยบรรดาหลานสาวหลานชายก็เดินพาเหรดกันเข้ามาในห้อง ไม่ต่างจากวันรวมญาติอีกครา

“แม่เห็นข่าวโทรทัศน์ภาคค่ำหรือยังคะ ทุกช่องออกข่าวเหมือนกันหมดว่าภาติยะ ตกเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่าข่มขืนนักศึกษา ตำรวจออกหมายจับแล้ว” ภราดาถามขึ้นทันทีที่เห็นหน้าท่านผู้หญิงนงคราญ ทุกคนทรุดนั่งบนเก้าอี้คนละตัวพลางพูดคุยถึงข่าวเมื่อช่วงหัวค่ำ

“แม่เห็นแล้ว กำลังจะให้อัมพรต่อสายถึงมัน ให้บินกลับมาเมืองไทยด่วนนี่แหละ”

“โทร.ไปปิดข่าวหนังสือพิมพ์ก่อนไม่ดีกว่าหรือคะ อย่างน้อยจะได้ไม่ทำให้ตระกูลวรากรณ์บอบช้ำไปมากกว่าที่เป็นอยู่ ขืนทุกฉบับลงข่าวหน้าหนึ่งพร้อมกันวันพรุ่งนี้ รับรองดูไม่จืดแน่” พิยะดาลูกสาวคนสุดท้องแนะขึ้นเสียงอ่อนๆ

“แม่โทร.ไปแล้ว แต่โรงพิมพ์บอกว่ายิงเพลทไปแล้ว ดึงกลับมาไม่ทัน”

ทุกคนถอนหายใจเฮือกด้วยความหนักใจ แล้วต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่านึกไม่ถึงว่าภาติยะ จะทำเรื่องชั่วร้ายขนาดนี้ได้ ขณะที่บางคนแสดงความเห็นว่าเป็นไปได้ เพราะขนาดพรากผู้เยาว์เด็กหญิงวัย ๑๔ ก็ทำมาแล้ว

“หยุด! หยุด!” ท่านผู้หญิงนงคราญยกมือห้าม ก่อนที่ทุกอย่างจะบานปลายไปมากกว่าที่เป็นอยู่ “ถึงบ่นอะไรตอนนี้ก็ไม่ทำให้อะไรดีขึ้น เงียบเถอะ ฉันจะโทร.หามัน”

วงสนทนาเลยพากันเงียบกริบและคอยฟังบทสนทนาระหว่างท่านผู้หญิงนงคราญและภาติยะเงียบๆ



แม้ตลอดครึ่งเช้าของวันนี้ ภาติยะจะว่าง เพราะกว่าจะถึงเวลานัดกับทนายความเดวิด คุก ก็ช่วงบ่าย กระนั้นด้วยความที่เคยชินกับการออกกำลังกายทุกเช้า ผู้กำกับหนุ่มจึงตื่นตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่และไปออกกำลังกายที่โรงยิม ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวัน พลันที่เสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ดังขึ้น เขาก็เหลือบมองนาฬิกาข้อมือ เพราะในลอสแอนเจลิส ยังเช้าอยู่มาก ด้วยว่าเป็นเวลาสำหรับการพักผ่อน

ภาติยะวางดัมเบลล์ ก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือ เมื่อเห็นว่าปลายสายเป็นหมายเลขโทรศัพท์จากบ้านวรากรณ์ เขาจึงกดรับและกล่าวทักทาย

“ภาติยะพูดครับ”

“แพท...บินกลับเมืองไทยเดี๋ยวนี้ ที่นี่เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”

ภาติยะขมวดคิ้ว มือหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กเหนือตะขอมาซับเหงื่อไปพลาง “เรื่องอะไรล่ะครับ ใครจะเป็นจะตายเหรอ”

“ไม่ใช่ใคร แต่จะเป็นแกนั่นแหละแพท ถ้าแกยังไม่กลับมาภายในวันสองวันนี้ หมายจับจะไปถึงประตูบ้านแกแน่”

“ท่านย่าพูดถึงเรื่องอะไรล่ะครับ” ภาติยะถามเสียงอ่อนๆ พลางเดินไปหยิบขวดน้ำในตู้เย็น มาเปิดฝา กระดกดื่ม

“เรื่องอะไรน่ะเหรอ กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง ยังจะมาถาม แกไปทำเรื่องเลวระยำตำบอนไว้ที่ไหนบ้างล่ะนอกจากเรื่องข่มขืนแม่นักแสดงฮอลลีวูดรุ่นเยาว์นั่น”

“ผมไม่มีเวลามาเล่นตอบคำถาม ๑๐๘ คำถามของท่านย่าหรอกนะครับ ถ้ารู้อะไรก็บอกมาเถอะ แล้วเคสเด็กนั่น ผมก็บอกแล้วว่าผมถูกปรักปรำ” ภาติยะแย้งอย่างไม่อนาทรนัก

“เคสนักแสดงเด็กอาจถูกปรักปรำหรืออะไรก็แล้วแต่ตามที่แกว่า แล้วเคสนักศึกษาน้องสาวนักข่าวหนังสือพิมพ์...” ท่านผู้หญิงนงคราญเอ่ยชื่อหนังสือพิมพ์หัวสีชื่อดังฉบับหนึ่ง ก่อนพูดต่อว่า “แกไปฆ่าข่มขืนเขาจริงใช่ไหมล่ะ”

“อะไรนะครับ!” ภาติยะตวัดถามเสียงสูง

“แกเข้าไปในเว็บไซต์หนังสือพิมพ์...ออนไลน์เลย” ท่านผู้หญิงนงคราญเอ่ยชื่อเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ออนไลน์ที่มีชื่อเสียงเว็บไซต์หนึ่ง ก่อนกล่าวสืบไปว่า “เข้าไปเช็กข่าวตัวเองเลย ที่นั่นมีคลิปแถลงข่าวของสารวัตรตุลา เจ้าของคดีด้วย อ้อ... จะทำอะไรก็รีบตัดสินใจเร็วๆ นะนายแพท เพราะฉันขอบอกเอาบุญเลยว่าแกเจอตอเข้าให้แล้ว เพราะยายเด็กนักศึกษาที่แกไปฆ่าข่มขืน เขาเป็นน้องสาวของนักข่าวหนังสือพิมพ์... เพราะฉะนั้นเตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้ดีเถอะ แกถูกแฉเละแน่ภาติยะ ไส้กี่ขดต่อกี่ขดก็คงถูกสาวออกมางานนี้ เผลอๆ จะซวยมาถึงตระกูลวรากรณ์ด้วย ไม่ใช่เผลอสิ...ตอนนี้ฉันก็ซวย พลอยติดร่างแหไปกับแกแล้ว เพราะชื่อฉัน รูปฉันโชว์หราทางทีวีทุกช่องออกอย่างนั้น”

ภาติยะหัวเราะในลำคอ “ผมจะช่วยอะไรได้ล่ะครับในเมื่อตระกูลวรากรณ์ยิ่งใหญ่ปานนั้น ย่อมเป็นอาหารจานโอชะของบรรดานักข่าวเป็นธรรมดา แค่นี้นะครับท่านย่า ผมกำลังออกกำลังกายอยู่”

ผู้กำกับหนุ่มไม่รู้เลยว่าปลายสายคอแข็งทันควันที่ได้ยินคำตอบไม่แยแสนั้น ท่านผู้หญิงนงคราญตอบว่า “แกนี่ไม่รู้สึกรู้สากับอะไรบ้างหรือไงนะภาติยะ เรื่องคอขาดบาดตายจ่อคอหอยแกอยู่อย่างนี้ ยังจะมีใจออกกำลังกายอีก”

“ครับ สบายมาก” ภาติยะตอบเอื่อยๆ อย่างยียวนเป็นอย่างมาก

“แล้วตกลงแกจะมาเมืองไทยหรือเปล่าภาติยะ หรือจะรอให้หมายจับไปจ่อหน้าบ้านแกก่อน”

“เรื่องนั้นผมยังไม่ได้ตัดสินใจ เอาไว้ผมตัดสินใจแล้ว ท่านย่าก็คงรู้เอง ราตรีสวัสดิ์นะครับ”

ภาติยะตัดสายทิ้ง สีหน้าที่รื่นเริงอย่างคนกวนอารมณ์เมื่อครู่ แปรเปลี่ยนมาเป็นแข็งกระด้างและเย็นชาราวกับคนละคนโดยพลัน เขาเดินตรงไปยังลิฟต์เพื่อลงไปที่ห้องทำงาน ก่อนจะเปิดคอมพิวเตอร์และคลิกเว็บไซต์ที่ท่านผู้หญิงนงคราญบอก จากนั้นก็กวาดสายตาหาข่าวอาชญากรรมอย่างรวดเร็ว

อึ้ง... ภาติยะบอกตัวเองได้คำเดียวในทันทีที่อ่านรายละเอียดข่าวชิ้นนั้นจบลง ด้วยแชตไดอะล็อกตลอดจนภาพจากกล้องวงจรปิดที่ตำรวจนำมาเป็นหลักฐานประกอบการแถลงข่าว เขาก็พลันนึกรู้ได้ว่ามีการวางแผนปรักปรำเขาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน มีการปลอมหลักฐานบัตรประชาชนตลอดจนปลอมลายเซ็นของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย และที่แย่ยิ่งกว่านั้นหนังสือพิมพ์ออนไลน์ของไทยขุดคุ้ยประวัติของเขาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมา...ภาษาไทยเรียกว่า แฉ ใช่ไหม ภาติยะถามตัวเอง เพราะในเว็บไซต์บอกละเอียดหมดว่าเขาแสดงหนังพอร์นเรื่องอะไรบ้างและกำลังมีข่าวถูกฟ้องร้องในคดีพรากผู้เยาว์เด็กวัย ๑๔

ภาติยะกดอินเทอร์คอมบอกฌองว่า “จองตั๋วกลับเมืองไทยเที่ยวบินที่เร็วที่สุดเท่าที่จะหาได้ให้ผมด้วย ไม่สิ...โทร.หาเดวิด ก่อน” ภาติยะหมายถึงทนายความที่เขาว่าจ้างทำคดีพรากผู้เยาว์เด็ก ๑๔ เขากล่าวต่อว่า “ติดต่อเขาได้แล้ว บอกว่าผมให้บินไปเมืองไทยพร้อมกับผม แต่ถ้าเดวิด ไม่ว่าง ก็จองที่เดียวให้ผมกลับไปก่อน แล้วค่อยหาตั๋วให้เดวิดบินตามไปทีหลังโดยเร็วที่สุด แต่ถ้าเขาว่าง ก็จองไฟล์ทเร็วที่สุดสำหรับเราสองคน”

“ถ้าเดวิดถามเหตุผลที่ต้องบินไปเมืองไทยพร้อมคุณแพทล่ะครับ”

“ไม่ต้องห่วง ผมจะโทร.ไปบอกเขาเอง”

ภาติยะวางมือจากอินเทอร์คอมแล้วจึงละสายตากลับมาค้นหาข่าวย้อนหลังอ่านจากในเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ออนไลน์เว็บนั้น ข่าวระบุวันเวลาที่เด็กสาวเสียชีวิตซึ่งเป็นช่วงก่อนเขาเดินทางกลับมาอเมริกาแค่ ๒ วัน เขาค้นประวัติของผู้ตายจากกูเกิล หากทว่าไม่พบข้อมูลใดๆ... ก็อย่างว่าในข่าวไม่ระบุชื่อและนามสกุลของผู้ตาย ข่าวระบุแต่ชื่อของผู้เป็นพี่สาว แพรไหม อัครเทวา ซึ่งเป็นนักข่าวของหนังสือพิมพ์หัวสีฉบับดัง ภาติยะคลิกหาประวัติของแพรไหม โดยเร็ว และพลันที่เขาอ่านประวัติพร้อมรูปถ่ายของอีกฝ่ายอย่างละเอียดเท่าที่กูเกิลจะช่วยได้ สีหน้าของภาติยะก็เปลี่ยนไป ทว่าแววตาที่จ้องมองไฟล์รูปภาพที่ปรากฏบนอินเทอร์เน็ตกลับหวามไหวเต้นระริก

แล้วสิ่งที่ภาติยะทำเป็นลำดับถัดมาคือค้นหาหมายเลขโทรศัพท์สน.ที่สารวัตรตุลา ประจำอยู่ จากนั้นก็ต่อสายถึงสน. แนะนำตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับสายแล้วขอหมายเลขโทรศัพท์ของสารวัตรตุลา ก่อนจะโทร.ไปหาโดยไม่สนใจว่าเวลานั้นเป็นกี่โมงกี่ยามของเมืองไทย เขาบอกอีกฝ่ายว่าจะไปสู้คดี ฉะนั้นไม่ต้องทำเรื่องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนให้ยุ่งยากเสียเวลา ฝ่ายนั้นพูดคุยซักถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เขาปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลทางโทรศัพท์ บอกว่าจะให้ปากคำต่อเมื่อมีทนายความของเขาอยู่ด้วย สารวัตรตุลาขอหมายเลขโทรศัพท์พร้อมทั้งที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ทั้งในเมืองไทยและในอเมริกาแล้วจึงยอมวางสาย

ภาติยะค้นหาบริษัทนักสืบทางกูเกิล เลือกบริษัทหนึ่งที่มีประวัติการก่อตั้งมายาวนานและมีผลงานระดับแนวหน้า เมื่อได้หมายเลขโทรศัพท์มาแล้วก็กดโทร.หาทันที โชคดีที่บริษัทปลายทางยังมีพนักงานรับสายทั้งที่เป็นเวลากว่า ๒ ทุ่ม เขาติดต่อว่าจ้างให้บริษัทสืบหาประวัติของแพรไหม อัครเทวาและผู้เป็นน้องสาวที่เสียชีวิตจากคดีฆ่าข่มขืน โดยยอมจ่ายด้วยเงินค่าจ้างที่สูงลิ่วกว่าอัตราปกติถึง ๑๐ เท่า แต่มีข้อแลกเปลี่ยนว่าประวัติพร้อมรูปถ่ายของสองสาวชนิดที่เรียกว่าละเอียดยิบ จะต้องมาอยู่ในมือเขาในทันทีที่เดินทางถึงเมืองไทยซึ่งเขาจะโทร.ไปแจ้งถึงรายละเอียดการเดินทางอีกครั้ง









Create Date : 24 ตุลาคม 2553
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2553 7:17:35 น.
Counter : 904 Pageviews.

13 comments
  
ดูเหมือนแพทจะสนใจปิ๊งๆ หนูแพรไหม อยู่ไม่ใช่น้อยเลยค่ะ อยากให้ 2 คนนี้ได้เจอกันเร็วๆ จังเลยค่ะ
วันนี้ไปงานหนังสือมาพบกับฝูงชนมหาศาลเลยค่ะ เจอเรื่องฝากรักฯ ขายอยู่ในร้านใดร้านหนึ่งในโซน C ด้วยค่ะ แต่จำชื่อร้านนั้นไม่ได้แล้ว แหะๆ
อยากให้บูทสถาพรลดราคาหนังสือเท่ากับร้านในโซน C จังเลยค่ะ
โดย: pantan IP: 61.90.119.101 วันที่: 24 ตุลาคม 2553 เวลา:23:32:23 น.
  
ตอนหน้าพระ-นางได้เจอกันแล้วค่ะ ^^ โซนซี ลดเท่าไหร่คะคุณเอ๋

ป.ล.ทราบเปล่าคะ บริษัทนักสืบฯ ที่ภาติยะเลือกเป็นบริษัทไหน เป็นบริษัทของพี่ศิลาค่ะ เรื่องนี้เดี๋ยวจะได้เจอกับพี่ศิลาและหนูหวานใจค่ะ (ถ้าบทพาไป และช่วงท้ายๆ ของเรื่อง อาจจะได้เจอกับพี่เควินและหนูอลิสา ตอนขึ้นรับรางวัลออสการ์ค่า กะจะให้เป็นนิยายยำใหญ่แห่งปี ที่เป็นที่รวมตัวของพระ-นางของนิยายทุกเรื่อง เท่าที่เนื้อหาจะพาไปพบได้ ^^)
โดย: คณิตยา วันที่: 25 ตุลาคม 2553 เวลา:3:38:42 น.
  
ร้านหนังสือในโซน C ให้ส่วนลดค่อนข้างเยอะค่ะ ถ้าเป็นนิยายของสถาพรจะลด 20% ค่ะ แต่ที่บูทจะลด 15% เอ๋เลยหลบไปซื้อที่โซน C แทนค่ะ หุหุ
คุณอุ๋ยโปรยมาแบบนี้แล้วอยากอ่านต่อตอนต่อไปเลยค่ะ อยากรู้ว่าจะมีมาร่วมแจมกี่คู่ค่ะ
โดย: pantan IP: 58.9.21.67 วันที่: 25 ตุลาคม 2553 เวลา:13:20:57 น.
  
ดีค่ะพี่อุ๋ยอยากเจอพี่ศิลากับหนูหวานพี่เควินกับหนูอลิส สงสัยอีกแล้วพี่อุ๋ยบอกว่าคนร้ายปลอมบัตรประชาชนพระเอกรูปบัตรที่ปลอมนี่เป็นรูปพระเอกหรือคนร้ายคะ พนักงานของโรงแรมจะจำหน้าได้มั้ยเนี่ยพระเอกหน้าตาหล่อมากก็น่าจะรู้สึกสะดุดตาจำได้บ้างนะว่าเคยมาพักที่ฦโรงแรมหรือเปล่า ถ้าแพทบอกว่าไม่เคยพักที่โรงแรมที่เกิดเหตุแต่พักอีกโรงแรมหนึ่งจะเป็นอีกทางที่เป็นข้อมูลให้ทางตำรวจบ้างหรือเปล่าคะ คนร้ายตัวจริงนี่นอกจากคดีฆ่าคนตายแล้วต้องโดนคดีปลอมแปลงเอกสารอีกนะเนี่ย

ยิงเพลทคืออะไรคะ

-สวิชต์===>สวิตช์

-หลายชายคนโต===>หลานชายคนโต

-ล็อบบี้===>ล็อบบี
โดย: mimny วันที่: 25 ตุลาคม 2553 เวลา:13:30:27 น.
  
สงสารภาติยะจังเลยค่ะ...งานเข้าตลอด...หวังว่าถ้าเจอกับแพรไหมแล้ว...คงไม่เขม่นกันเกินครึ่งเรื่องนะคะ...(แวะมารายงานตัวค่ะ...ช่วงนี้งานยุ่งไม่ค่อยได้เข้ามาคุยกับคุณอุ๋ย...แต่ยังส่งกำลังใจให้ทุกวันเหมือนเดิมค่ะ)
โดย: ลิลิน IP: 125.24.192.208 วันที่: 25 ตุลาคม 2553 เวลา:13:43:38 น.
  
ว้าว จะมีพี่ศิลากับหนูหวานด้วย

พี่แพทงานเข้าตั้งแต่ต้นเรื่องเลย

รีบมาอัพไวๆ นะคะคุณอุ๋ย อยากรู้ตอนต่อไปจะแย่แล้ว
โดย: taekoksaram IP: 58.137.30.201 วันที่: 25 ตุลาคม 2553 เวลา:16:11:23 น.
  
เรื่องเริ่มเข้มข้นแล้ว พระเอกกับนางเอกจะเจอกันแล้ว แล้วก็ดีจังเลยที่จะได้เจอพี่ศิลาและหนูหวานใจ / พี่เควินและนู๋อลิสา อีกครั้ง...

รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะน้องอุ๋ย
โดย: เอิงเอย IP: 68.224.193.220 วันที่: 25 ตุลาคม 2553 เวลา:19:23:46 น.
  
คุณเอ๋ ว้าว ทำไมโซนซีลดเยอะขนาดนั้นคะ แล้วมีครบทุกสนพ.ที่ลดอยู่ในโซนซีป่าวคะ เดี๋ยววันสุดท้ายอุ๋ยไปเดินดูบ้างดีกว่า

ป.ล.ใจอุ๋ยอยากจะดึงพี่เอียน พี่ภูผา พี่สิงหา พี่อัสมาร์ พี่ธันวา พี่เควิน พี่ศิลา จากทุกเรื่องมาแจมเรือ่งนี้ แต่ไม่รู้ว่ามันจะเละเทะไปป่าวฮ่าๆ เท่าที่ดูๆเบื้องต้น เนื้อหาน่าจะไปแตะที่พี่ศิลา และพี่เควินชัวร์ล่ะ เพราะพี่ศิลา จะเป็นบริษัทนักสืบและบอดีการ์ดที่พี่แพทว่าจ้างให้มาติดตามตัวและสืบหาคนร้ายด้วย นอกเหนือจากสืบหาประวัตินางเอก ส่วนพี่เควิน จะเป็นนักแสดงฮอลลีวูดที่พี่แพท ทาบทามมาแสดงในเรื่องที่พี่แพทเป็นผู้กำกับและโปรดิวเซอร์อยู่ค่า ซึ่งจะเป็นอีกเรื่องที่ได้รับรางวัลออสการ์ นอกเหนือจากเรื่องแรกที่พี่แพทได้ แต่พิธีหลักที่เชิญรางวัลคือพี่เควิน ^^

น้องมิ้ว : รับรองได้เจอพี่ศิลา กับพี่เควินชัวร์แน่ค่ะ แต่หนูหวานใจ และหนูอลิสา อาจจะแตะๆในรูปของความนึกถึงของอดีตพระเอกศิลาและพี่เควินค่า //รูปในบัตรประชาชนที่ปลอมเป็นรูปของพระเอกค่า //ฟร้อนต์รร.จำไม่ได้ค่ะเพราะวันที่คนรายเข้าเช็กอิน เป็นวันที่ทัวร์สองบริษัทลงชนกัน เขาก็เลยไม่ได้มาจำว่าใครเป็นใคร แต่อย่างที่ฟร้อนต์ให้ปากคำสารวัตรไปว่าเท่าที่ดูเบื้องต้นไม่พบอะไรผิดปกติน่าสงสัย แต่จะให้มาถามหน้าตาคนร้าย เขาบอกว่าจำไม่ได้เพราะวันนั้นทัวร์ลงพร้อมกันสองบริษัท เขาเลยไม่ได้มาจำว่าใครเป็นใครค่ะ// การที่แพทจะบอกว่าเช็กอินที่รร.หนึ่ง ไม่สำคัญเท่ากับพยานบุคคลที่จะมาช่วยยืนยันที่อยู่ของพระเอกว่าวันและเวลาที่ใยไหมตาย พระเอกทำอะไรอยู่ที่ไหน ถ้าอยู่อีกรร.และมีพยานบุคคลยืนยันที่อยู่ได้ ก็โอเคค่ะ คำพูดมีนน. แต่บังเอิญว่าช่วงเวลานั้นแพทไม่ได้อยู่ในรร.ค่ะ ส่วนว่าอยู่ที่ไหนและมีพยานบุคคลมาช่วยยืนยันหรือไม่ ต้องรออ่านจ้า//ช่ายค่า คนร้ายโดนคดีปลอมแปลงเอกสารด้วยค่ะ //ส่วนยิงเพลท... เป็นขั้นตอนที่ใส่เพลทเข้าเครือ่งพิมพ์เพื่อให้พิมพ์ออกมาเป็นหนังสือพิมพ์ค่ะ ส่วนเพลทคืออะไร เพลทเปรียบเหมือนพิมพ์เขียวของหนังสือพิมพ์ค่ะ ปกติเราจัดหน้าในคอมพ์แมคอินทอช แล้วยิงเพลทเพื่อเข้าสู่กระบวนการตีพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือพิมพ์ ซึ่งเพลทแต่ละแผ่นจะมีขนาดเท่าหนังสือพิมพ์จริงๆ ก่อนยิงเพลท ต้องมั่นใจว่าถูกต้อง เพราะถ้ายิงเพลทออกมาแล้ว จะไม่สามารถแก้ไขอะไรบนเพลทได้อีกแล้ว ต้องทิ้งลูกเดียว ซึ่งเพลทแต่ละแผ่นจะแพงมากค่ะ ฉะนั้นหนังสือพิมพ์จะเลือกที่จะดูให้ถูกต้อง ก่อนที่จะยิงเพลท ถ้ายิงแล้วแปลว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ แล้วค่ะ ถ้าเปลี่ยน หมายถึงทิ้งเพลทนั้นไป ซึ่งไม่มีสนพ.ไหนยอมลงทุนทำอย่างนั้นค่ะ ยกเว้น แหะๆ...ข่าวคอขาดบาดตายมากๆๆ ที่ได้ไม่คุ้มเสีย ก็จะยอมทิ้งเพลทค่า

คุณลิลิน : ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจค่ะ ไม่อยากบอกเลยว่าสีสันของเรือ่งนี้ก็อยู่ที่เขม่นกันระหว่างพระ-นางนี่แหละค่ะ โดยเฉพาะพระเอกที่พยายามเอาชนะใจนางเอกผู้ที่อืม... พระเอกเป็นที่รวมทุกอย่างที่นางเอกเกลียดมาอยู่ในตัวพระเอก เลยเป้นอะไรที่เอาชนะใจยากอยู่สักหน่อยแล้วสไตลืพระเอก ก็ไม่ใช่คนที่แสดงออกอย่างที่ใจคิด แต่มักแสดงออกตรงกันข้ามกับใจคิด เลยเป็นอะไรที่ปะทะกันดุเดือดตลอด(หวังว่าจะเขียนให้ได้ตามที่ตัวเองต้องการแหะๆ)

คุณ taekoksaram : คุณ taekokฯ ก็คิดถึงพี่ศิลาเหมือนอุ๋ยใช่ไหมคะ เพราะงั้นจัดให้เลยค่ะ ตอนหน้าเดี๋ยวจะได้เจอพี่ศิลาแน่ๆ ^^

พี่เอิงเอย : ขอบคุณพี่เอิงมากๆๆ ค่ะ อุ๋ยแอบหยอดคำถามตามเมนท์เก่าๆ ของพี่เอิงด้วยค่ะ รบกวนตอบด้วยนะคะ
โดย: คณิตยา วันที่: 25 ตุลาคม 2553 เวลา:19:53:03 น.
  
ป.ล.น้องมิ้วคะ พี่ว่าคำว่า ล็อบบี้ ที่แปลว่าวิ่งเต้นให้เห็นพ้องด้วย ถ้าสะกดเป็นล็อบบี เวลาอ่านจะไปนึกถึงห้องโถงในโรงแรมป่าวคะ
โดย: คณิตยา IP: 183.89.143.108 วันที่: 25 ตุลาคม 2553 เวลา:21:56:26 น.
  
คำว่าล็อบบีมิ้วจำมาจากเว็บของคุณดวงตะวันค่ะตอนนั้นมีกระทู้เล่นเกมให้ทายว่าคำไหนเขียนผิดคำไหนเขียนถูก คำว่าล็อบบีทุกคนทายผิดหมดเพราะเข้าใจว่าเขียนว่าล็อบบี้กันทุกคนแต่คุณดวงตะวันบอกว่าที่ถูกต้องจริงๆต้องเขียนว่าล็อบบี คำว่ากางเกงสแลกส์ก็จำมาจากเว็บนี้เหมือนกันค่ะแล้วพี่อุ๋ยก็เขียนว่าเขียนได้ทั้งสองแบบคือสแลกส์ , สแล็กส์
โดย: mimny IP: 223.205.161.217 วันที่: 25 ตุลาคม 2553 เวลา:22:20:56 น.
  
อืมมมม พี่น่ะชินว่าล็อบบีในโรงแรม ให้เขียนว่าล็อบบี แต่ถ้าเป็นคำกริยา ที่แปลว่าวิ่งเต้นให้เห็นพ้องด้วย ถ้าล้อบบี พี่กลัวมันจะแยกความหมายกันไม่ออก หรือต้องโทรหาราชบัณฑิตอีกครั้งแล้ว

ป.ล.แต่เรื่องการทับศัพท์ บางครั้งเป็นสไตล์ของแต่ละสนพ.ค่ะน้องมิ้ว บางแห่งไม่ได้ยึดตามหลักราชบัณฑิตก็มี ชัดเจนเลยคือคำว่า ยีนส์ ราชัณฑิตบอกว่าถ้าเป็นผ้า ก็ผ้ายีน แต่ถ้าเป็นกางเกง ต้องเป็นกางเกงยีนส์ (เพราะสองขา)แต่พี่ก้ไม่เห็นสนพ.ไหนจะยึดตามราชบัณฑิตเลย เห็นเขียนว่ากางเกงยีนตลอด เพราะงั้นพี่ว่าเรือ่งทับศัพทืเป็นสไตล์ของแต่ละสนพ.จริงๆค่ะ
โดย: คณิตยา วันที่: 25 ตุลาคม 2553 เวลา:22:27:10 น.
  
อีกคำหนึ่งที่นึกออกคือบอดี้การ์ด คำนี้ชัดเจนอีกคำ ราชบัณฑิตบอกว่าที่ถูกต้องเขียนว่า บอดีการ์ด แต่ทุกสนพ.ไม่ว่าหนังสือหรือหนังสือพิมพ์ใช้เหมือนกันหมดว่า "บอดี้การ์ด" ถามว่าผิดไหม พี่ก็คิดว่ามันเป็นเรื่องของสไตล์/รสนิยม/หลักที่แต่ละแห่งยึดที่อาจจะมีเหตุผลที่ทำให้ไม่เหมือนกันซะมากกว่า ซึ่งการที่ที่หนึ่งใช้ไม่เหมือนกับอีกที่หนึ่ง ถามว่าผิดไหม มันก็ไม่ได้หมายความว่าผิด เพราะเป็นเรื่องของรสนิยม/สไตล์ของแต่ละแห่งที่อาจจะมีเหตุผลความจำเป็นที่ยึดไม่เหมือนกันค่ะ

ส่วนคำว่าสแลกส์ กับสแล็กส์ จำได้ว่าตอนที่โทร.ถามราชบัณฑิต ราชบัณฑิตตอบว่าตามหลักการถอดทับคือ สแลกส์ แต่อนุโลมให้เป็นสแล็กส์ได้ กรณีที่อ่านแล้วจะไปคิดถึงคำว่า "แลก" ที่คำไทยจะมีความหมายอีกอย่าง ฉะนั้นเพื่อให้เสียงสั้นลงจะได้ไม่เหมือนกับคำว่าแลก ก็เลยอนุโลมให้ใช้ สแล็กส์ นี่คือเหตุผลของราชบัณฑิตค่า ส่วนว่าสนพ.ไหนจะยึดใช้คำไหน ก็อย่างที่บอกมันแล้วแต่หลักคิดของแต่ละแห่งค่ะ
โดย: คณิตยา วันที่: 26 ตุลาคม 2553 เวลา:8:29:26 น.
  
ภาติยะเป็นคนรอบคอบมากกกกกกกก จนน่ากลัวเลยเชียว
โดย: จิรารัตน์ IP: 125.27.232.230 วันที่: 11 ธันวาคม 2553 เวลา:23:18:51 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คณิตยา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]









รู้จักคณิตยา/คีตฌาณ์

ก้าวสู่โลกแห่งการขีดเขียนในปี 2549 มีผลงานเป็นรูปเล่มกับสนพ.ในเครือสถาพรบุ๊คส์ทั้งหมด 11 เล่ม ไล่ตั้งแต่ รหัสทรชน ทางสายหมอก กุหลาบในเปลวไฟ ฝากรัก...ผ่านซีบ็อกซ์ อริ...ที่รัก บอดี้การ์ด รักเพียงฝัน ตามรักข้ามเวลา ไฟรัก บันทึกแห่งรัก(the Book of Love) มิราเบลล์...ตราบคีตาบรรเลง เป็น 1 ในนิยายชุดแด่เธอที่รัก สาปรัก และใต้ปีกรัก

รหัสทรชน เป็นละครทางช่อง 3 เมื่อปี 2554 แสดงโดย เคน และชมพู่ สร้างโดยค่ายยูม่า และ ไฟรัก ได้รับการซื้อลิขสิทธิ์ไปแปลเป็นภาษาเวียดนาม วางแผงเดือนสิงหาคม 2556



พูดคุย ทักทาย แลกเปลี่ยนความเห็น และติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง fb โดยกดไลค์เป็นแฟนเพจได้ทาง https://www.facebook.com/keetacha?ref=hl ขอบคุณค่ะ

---------------


ตอนนี้อุ๋ยทยอยนำนิยายที่หมดลิขสิทธิ์กับพิมพ์คำไปวางจำหน่ายในรูปแบบ E-book บนเว็บ ebooks และเว็บ Mebmarket ค่ะ

ใต้ปีกรัก...ราคาอีบุ๊ก 179 บาท

บันทึกแห่งรัก...ราคาอีบุ๊ก 255 บาท จากราคาปก 310

ไฟรัก...ราคาอีบุ๊ก 279 บาท จากราคาปก 350 บาท

กุหลาบในเปลวไฟ...ราคาอีบุ๊ก 230 บาท



รหัสทรชน ราคาอีบุ๊ก 200 บาท จากราคา 300 บาท 673 หน้า





ทางสายหมอก ราคาอีบุ๊ก 265 บาท จากราคา 280 บาท 690 หน้า



ฝากรัก...ผ่านซีบ็อกซ์ ราคาอีบุ๊ก 125 บาท จากราคา 180 บาท 360 หน้า



รวมเรื่องสั้น...ฉบับวัยหวาน ราคาอีบุ๊ก 45 บาท จากปก 55 บาท



อริ...ที่รัก ราคาอีุบุ๊ก 195 จากปก 240 บาท



หวานใจ...บอดีการ์ด...ราคาอีบุ๊ก 145 บาท จากปก 180 บาท



รักเพียงฝัน...ราคาอีบุ๊ก 225 จากปก 250 บาท



ตามรักข้ามเวลา...ราคาอีบุ๊ก 240 จากปก 270 บาท





















New Comments