• ข่าวเด่นประเด็นดังทั่วไทย
• ข่าวเด่นประเด็นดังทั่วไทย 2
• ข่าวเด่นประเด็นดังต่างประเทศ
• เรื่องจริง,อุทาหรณ์
• ข่าวกีฬาทั่วไป
• ข่าวอาเซนอล
• ข่าวบาซ่า
• ข่าวบันเทิง,ดารา,นักร้อง,คนดัง,ละคร
• ข่าวดารา,บันเทิง,นักร้อง,คนดัง,ละคร 2
• ข่าวดารา,บันเทิง,คนดัง,นักร้อง,ละคร 3
• ข่าวสารภาพยนตร์
• ดูดวง,ทำนาย,แบบทดสอบ
• ข่าวสารท่องเที่ยวทั่วไทย
• ข่าวสาร,แนะนำที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
• ความรู้ทั่วไป,ความรู้รอบตัว
• ข่าวสารครอบครัว,ความรัก,เพื่อน
• ข่าวสารสุขภาพ
• ข่าวสารแฟชั่น,ความงาม
• สัตว์ทั่วไป,สัตว์เลี้ยงสุนัข,แมว
• สูตรอาหาร,ขนม
• แนะนำร้านอาหาร
• เรื่องแปลก,ลึกลับ,ผี
• เรื่องตลก,ขำขัน
• ข่าวสารแนะนำเกม
• ต้นไม้,ดอกไม้
• ข่าวสารยานยนต์
• ข่าวสารดำเนินกิจการงาน,อาชีพ
• ข่าวสารเทคโนโลยี,คอมพิวเตอร์,อินเตอร์เน็ต,อุปกรณ์สื่อสารทั่วไป
• ศาสนา,ธรรมะ,คติ,ปรัชญาสอนใจ
• กิจกรรม,ศูนย์รวมเรื่องต่างๆที่ ช่วยเหลือสังคม
• บล็อกส่วนตัวจ้า

14 สุดยอดการทำลายสถิติ (ที่ไม่น่าจดจำ) ของ เดวิด มอยส์ ข่าวฟุตบอล ในฤดูกาลนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถสร้างประวัติศาสตร์ และทำสถิติอันน่าเหลือเชื่อได้อย่างมากมายภายใต้ยุคการนำทีมของ "เดอะ โชเซน วัน" เดวิด มอยส์ กุนซือผู้ถูกเลือก ทว่าสถิติเหล่านั้นมันเป็นเรื่องที่ไม่น่าจดจำอย่างแรงของเหล่า เร้ด อาร์มี่ ทั่วโลก ภาพ AFP เดวิด มอยส์ เข้ามารับงานใหญ่ในการคุมทัพ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อจาก กุนซื้อชั้นบรมครูอย่าง เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ซึ่งผู้ที่เลือก เดวิด มอยส์ เข้ามาคุมทีมนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนคือตัวของ "เฟอร์กี้" เอง และมาถึงตอนนี้ ท่านเซอร์ คงอยากจะนั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปแล้วเลือกคนอื่นมาแทนที่ กุนซือหน้าอีที เป็นแน่แท้ แน่นอนว่าเกมเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา เหล่าสาวก เร้ด อาร์มี่ ทั่วโลกคงจะยิ่งอยากให้ "เดอะ โชเซน วัน" หล่นจากเก้าอี้กุนซือใหญ่มากขึ้นทุกทีเมื่อพาทีมบุกออกไปพ่ายแพ้ต่อ เอฟเวอร์ตัน แบบหมดรูป 0-2  สถิติมากมายที่ เดวิด มอยส์ ได้รังสรรค์ขึ้นมาในฤดูกาลแรกกับการคุมทัพ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีดังนี้ 1. แมนฯ ยูไนเต็ด จะจบการแข่งขันในฤดูกาลนี้ด้วยคะแนนที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เปลี่ยนจาก ดิวิชั่น1 มาเป็น พรีเมียร์ลีก 2. แมนฯ ยูไนเต็ด จะไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1995 3. ผลงานในบ้านของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้ ถือว่าย่ำแย่ที่สุดในรอบทศวรรษ 4. แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ 3 เกมรวดเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2001 5. ตกรอบการแข่งขัน เอฟเอ คัพ เพียงแค่รอบที่ 3 ซึ่งเหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นกับ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เพียงหนเดียวเท่านั้น 6. แพ้ สวอนซี ซิตี้ ในบ้านของตัวเองเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร 7. แพ้ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ในบ้านของตัวเองเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1972 8. แพ้ เวสต์บรอมฯ ในบ้านของตัวเองเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1978 9. แพ้ให้กับ สโต๊ค ซิตี้ ในลีกเป็นหนแรกนับตั้งแต่ปี 1984 10. โดนคู่แข่งยิงประตูตั้งแต่นาทีแรกในการแข่งขันพรีเมียร์ลีกเป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ จากการทำประตูของ เอดิน เชโก้ 11. แพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทั้งเหย้า - เยือน เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก 12. แพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล, เอฟเวอร์ตัน และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทั้งเหย้า - เยือน เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก 13. แพ้ให้กับ เอฟเวอร์ตัน ทั้งเกมเหย้า และเยือน เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ฤดูกาล 1969-70 14. เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ ลิเวอร์พูล กับ เอฟเวอร์ตัน สามารถจบการแข่งขันในฤดูกาลเดียวกัน โดยมีอันดับเหนือกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด  ขอบคุณข้อมูลจาก โกล ดอท คอม //football.kapook.com/news_inside.php?id=19393&key=news   Create Date : 21 เมษายน 2557     Last Update : 21 เมษายน 2557 17:41:41 น. Counter : 939 Pageviews.   0 comment Share Tweet

มูรินโญ่ ซัด ผู้ตัดสิน ไมค์ ดีน ทำ เชลซี แพ้ ซันเดอร์แลนด์ ข่าวฟุตบอล กุนซือ เชลซี จวกยับผู้ตัดสินคือคนทำให้ เชลซี เจอวิบากเวรในการสู้เพื่อแชมป์ พรีเมียร์ลีก ทั้ง ไมค์ ดีน ในเกมนี้ จนถึงโจทก์เก่าอย่าง ไมค์ ไรลี่ย์ ภาพ AFP โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีม เชลซี โจมตีการทำหน้าที่ผู้ตัดสิน ไมค์ ดีน ตามคาด ว่าทำหน้าที่ได้ย่ำแย่จนเป็นเหตุให้ "สิงโตน้ำเงินคราม" พ่ายพลิกล็อกต่อทีมบ๊วย ซันเดอร์แลนด์ คาบ้าน 1-2 ในเกม พรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา การแพ้นัดนี้ทำให้ มูรินโญ่ เสียสถิตินำ เชลซี ไม่แพ้เกมลีกในบ้านตัวเองมาตลอด 77 เกมนับตั้งแต่ปี 2005 และที่สำคัญยังถือเป็นการพลาดท่าครั้งใหญ่การลุ้นแย่งแชมป์กับ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วย มูรินโญ่ ซึ่งไม่ได้มาให้สัมภาษณ์ในนัดแถลงข่าว 3 รอบก่อนหน้านี้ กล่าวว่า "ผมจะพูดแค่ 4 เรื่อง และผมขอโทษด้วยเพราะถ้าคุณถามผมมากกว่านั้น ผมจะพูดซ้ำเรื่องเดิม  "หนึ่ง..ผมขอยินดีกับลูกทีมของผมเพราะพวกเขาได้รับในสิ่งที่พวกเขาได้ทำและไม่ได้ทำ" "สอง..ยินดีกับ ซันเดอร์แลนด์ เพราะพวกเขาเป็นฝ่ายชนะ" "สาม..ผมขอแสดงความยินดีกับ ไมค์ ดีน เพราะเขาทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมสุดๆ และยินดีกับ ไมค์ ไรลี่ย์ ด้วย สำหรับสิ่งที่เขาได้ทำมาตลอดฤดูกาลซึ่งมันยอดเยี่ยมจนทำให้การชิงแชมป์เป็นแบบนี้" "และผมขอแสดงความยินดีกับพวกเขาทุกคน และผมไม่มีอะไรจะพูดมากกว่านี้"  สถานการณ์ในตอนนี้ทำให้ เชลซี คงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องบุกไปชนะที่ แอนฟิลด์ ให้ได้เท่านั้น ในการเล่นกับ ลิเวอร์พูล เกมต่อไป วันอาทิตย์หน้า //football.kapook.com/news_inside.php?id=19388&key=news   Create Date : 20 เมษายน 2557     Last Update : 20 เมษายน 2557 18:44:30 น. Counter : 868 Pageviews.   0 comment Share Tweet

ร็อดเจอร์ส เตือนแข้ง ลิเวอร์พูล เจอทีมหนีตกชั้นยิ่งอันตราย ข่าวฟุตบอล กุนซือ "หงส์แดง" เตือนลูกทีมก่อนเจอ นอริช วันอาทิตย์นี้ การเล่นกับทีมดิ้นรนหนีตกชั้น บางทีอาจจะยิ่งเป็นงานหนักกว่าที่คิด ภาพ twitter.com/LFC เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เตือนลูกทีม ลิเวอร์พูล ว่าห้ามประมาทในการลงสนามช่วงท้ายฤดูกาลที่เหลือ เพราะขณะที่ "หงส์แดง" เดินหน้าล่าแชมป์ คู่แข่งที่อยู่ในโซนตกชั้นก็ต้องดิ้นรนสู้ตายเพื่ออยู่รอดให้ได้เช่นกัน ลิเวอร์พูล เหลือโปรแกรมเล่นอีก 4 นัด และนอกจากเกมสำคัญที่จะเล่นกับ เชลซี แล้ว ในวันอาทิตย์นี้ก็จะต้องเล่นกับ นอริช ซิตี้ ทีมอันดับ 17 ซึ่งกำลังต้องการคะแนนเพื่อหนีการตกชั้นเช่นกัน ซึ่ง ร็อดเจอร์ส มองว่าจะประมาทไม่ได้เป็นอันขาดเพราะตัวอย่างก็เพิ่งมีให้เห็นสดๆ ร้อนๆ ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็เพิ่งจะทำได้แค่ไล่ตีเสมอทีมบ๊วยอย่าง ซันเดอร์แลนด์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ร็อดเจอร์ส กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน ว่า "พวกเขากำลังสู้เพื่อการอยู่รอด สู้เพื่อรอด หลายทีมชอบคิดว่าเวลาลงเล่นกับทีมท้ายตารางมันจะเป็นงานง่าย แต่ความจริงแล้วมันยิ่งยากกว่าซะอีก แน่นอนเลย เรามีโอกาสที่จะพลาดได้ง่ายๆ ในการเจอกับ นอริช, คริสตัล พาเลซ แล้วก็กับ นิวคาสเซิ่ล ด้วย มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดได้ทั่วไป" กุนซือ "หงส์แดง" ยังเผยข่าวดีสำหรับเหล่า "เดอะ ค็อป" เกี่ยวกับอาการบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าของ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ว่าไม่ได้หนักหนาอย่างที่คาด และไม่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีลุ้นหายทันลงเล่นกัน นอริช ซะทีเดียว "มันไม่ได้รุนแรงมากนัก และไม่ทำให้เขาต้องพักนานเกินไปด้วย แต่สำหรับสุดสัปดาห์นี้มันอาจจะยังไม่แน่ แต่ดูเขาหายเร็วมาก เราก็จะรอดูอาการของเขาอีกที เขาอาจจะหายทันลงเล่นเกมนี้เลยก็ได้" ร็อดเจอร์ส กล่าว //football.kapook.com/news_inside.php?id=19385&key=news   Create Date : 19 เมษายน 2557     Last Update : 19 เมษายน 2557 19:36:40 น. Counter : 819 Pageviews.   0 comment Share Tweet

เปเยกรินี่ ยอมรับ แมนฯ ซิตี้ ยังเมาหมัดหลังแพ้ ลิเวอร์พูล ข่าวฟุตบอล กุนซือ "เรือใบสีฟ้า" ยอมรับว่าการแพ้ ลิเวอร์พูล ส่งผลอย่างมากต่อสภาพจิตใจของลูกทีม แต่ย้ำ จนกว่าจะจบ ซีซั่น อะไรก็เกิดขึ้นได้ ภาพ AFP มานูเอล เปเยกรินี่ ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสียศูนย์มาจากเกมพ่าย ลิเวอร์พูล ส่งผลให้ได้แค่ไล่ตามตีเสมอทีมบ๊วยอย่าง ซันเดอร์แลนด์ 2-2 ในเกม พรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันพุธที่ 16 เมษายน ที่ผ่านมา แมนฯ ซิตี้ ทำท่าว่าจะฮึดไม่ขึ้นซะแล้ว หลังจากได้แค่คะแนนเดียวในเกมนี้ และทำให้ตามหลังจ่าฝูง ลิเวอร์พูล ถึง 6 คะแนน ในขณะที่แข่งน้อยกว่าอยู่แค่นัดเดียว ซึ่งกุนซือชาวชิลียอมรับว่า "เรายังสลัดเกมแพ้ ลิเวอร์พูล ออกจากในหัวไม่ได้ และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ทีมเล่นไม่ดีเลยในเกมนี้" "ผมแน่ใจว่าหลังจากผ่านไปแค่ 3 วัน มันยากมากที่ลูกทีมของผมจะลืมเกมกับ ลิเวอร์พูล ได้ เราควรจะต้องเล่นกันให้จริงจังมุ่งมั่นมากกว่านี้ แต่ด้วยสภาพจิตใจแล้วมันคงทำให้เราไม่สามารถทำแบบนั้นได้ ผมคิดว่าลูกทีมคงอ่อนล้าในแง่ของสภาพจิตใจมากกว่าสภาพร่างกาย ในแง่ของสภาพจิตใจแล้วเกมนี้มันกลายเป็นงานยากหลังจากการเล่นกับ ลิเวอร์พูล" "เรายังเหลือเกมอีก 5 นัดและเราต้องเอาชนะทุกนัดให้ได้แล้วค่อยมาดูกันว่าจบฤดูกาลแล้วทีมไหนจะได้คะแนนมากกว่ากัน บางทีตอนนี้ ลิเวอร์พูล กับ เชลซี อาจจะมีโอกาสมากกว่าทีมเรา เพราะเราอยู่ที่ 3 แต่เราจะสู้ต่อไปจนถึงนัดสุดท้าย" เปเยกรินี่ ยังย้ำว่าในเมื่อการแข่งขันยังไม่จบอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นโดยระบุว่า "งานของผมก็คือ คุยกับ ลูกทีมและพยายามเอาชนะให้ได้ใน 5 นัดสุดท้าย และเมื่อจบฤดูกาลแล้วเราถึงจะเห็นว่าทีมไหนมีคะแนนมากที่สุด จำได้หรือเปล่าว่า 2 ปีก่อน ทีมนี้เคยตามหลังถึง 6 คะแนน และสุดท้ายก็คว้าแชมป์มาครองได้ ฉะนั้นแม้มันจะยากแต่นี่ยังไม่ได้เกมสุดท้ายของเรา"  //football.kapook.com/news_inside.php?id=19379&key=news   Create Date : 17 เมษายน 2557     Last Update : 17 เมษายน 2557 19:06:30 น. Counter : 826 Pageviews.   0 comment Share Tweet

สื่อคาด แมนฯ ยูไนเต็ด คว้า เจอร์เก้น คล็อปป์ คุมทีมแทน เดวิด มอยส์ ข่าวฟุตบอล รายงานระบุฝ่ายบริหาร แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เชื่อใจ เดวิด มอยส์ ให้คุมงบซื้อนักเตะ 200 ล้านปอนด์ หวั่นล้มเหลวอีก เตรียมดึง เจอร์เก้น คล็อปป์ มาแทน ภาพ AFP "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมเดินหน้าคว้า เจอร์เก้น คล็อปป์ ยอดเทรนเนอร์ดาวรุ่งของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาทำหน้าที่คุมทีมแทน เดวิด มอยส์ หลังจบฤดูกาลนี้ ตามรายงานจาก "เดลี่มิร์เรอร์" สื่อดังเมืองผู้ดีเมื่อวันอังคารที่ 14 เมษายน ที่ผ่านมา รายงานข่าวระบุว่า ฝ่ายบริหารของ แมนฯ ยูไนเต็ด เตรียมจะอนุมัติเงินถึง 200 ล้านปอนด์ในการยกเครื่องทีมช่วงปิดฤูดูกาลนี้ และมีความคิดว่า มอยส์ อาจจะไม่ใช่คนที่เหมาะสมที่จะอยู่คุมทีมต่อไปเมื่อดูจากผลงานในฤดูกาลที่ผ่านมา  ก่อนหน้านี้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวหลุดออกมาว่า หลุยส์ ฟาน กาล เทรนเนอร์จอมเฮี้ยบชาวฮอลแลนด์ได้นัดพบกับตัวแทนของแมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งนั่นยิ่งย้ำความเป็นไปได้ว่า มอยส์ อาจจะได้อยู่คุมทีมแค่ฤดูกาลเดียว ทว่า หากมี คล็อปป์ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกเชื่อว่า "ปิศาจแดง" น่าจะสนใจกุนซือของ "เสือเหลือง" มากกว่า สำหรับ คล็อปป์ ซึ่งมีผลงานยอดเยี่ยมในการนำ ดอร์ทมุนด์ คว้าแชมป์ บุนเดสลีกา เมื่อปี 2012 และเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปีที่แล้ว ยังได้รับความสนใจจากทาง บาร์เซโลน่า อยู่ด้วย โดย บาร์ซ่า อาจจะดึงตัวไปคุมทีมแทน เคราร์โด้ มาร์ติโน่ ในฤดูกาลหน้า เทรนเนอร์ไฟแรงของ "เสือเหลือง" ถือเป็นนักปั้นมือทองอีกคนหนึ่ง โดยที่ผ่านมาสามารถสร้างนักเตะโนเนมกลายเป็นดาวดังระดับยุโรปได้มากมายไม่ว่าจะเป็น โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, มัตส์ ฮัมเมิ่ลส์, ลูคัสซ์ ปิสเช็ค และ อิลคาย กุนโดกัน //football.kapook.com/news_inside.php?id=19373&key=news   Create Date : 15 เมษายน 2557     Last Update : 15 เมษายน 2557 18:23:51 น. Counter : 787 Pageviews.   0 comment Share Tweet