Group Blog
 
All blogs
 
รวมทีมดังที่ไม่ได้ไป ฟุตบอลโลก


ข่าวฟุตบอล บันทึกเรื่องราวยอดทีมที่รวมเหล่าดาวดัง คับคั่งไปด้วยนักเตะซุปตาร์ แต่สุดท้ายกลับไร้วาสนา ไม่ได้ไปโชว์ฝีเท้าใน ฟุตบอลโลก

 หลังจากฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก เปิดฉากโม่แข้งกันมานับเวลากว่า 2 ปี ในที่สุดเรากำลังจะได้เห็นรายชื่อสุดยอดทีมที่เป็นตัวแทนจาก 32 ชาติ ที่จะผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของ เวิลด์ คัพ ครั้งที่ 20 โดยขณะนี้เหลือเพียง 16 ทีมที่จะลงเตะนัดสุดท้ายเพื่อชิงโควต้าซึ่งเหลืออีกเพียง 8 ที่นั่งเท่านั้น

นับถึงตอนนี้ (19 พฤศจิกายน) มีทีมที่จองตั๋วได้ไปโชว์ฝีแข้งในศึก เวิลด์ คัพ 2014 แน่ๆ แล้ว 24 ทีม คงเหลือเกมเพลย์ออฟ ซึ่งบางคู่อย่างการเจอกันระหว่าง อุรุกวัย ทีมอันดับ 5 จากโซนอเมริกาใต้ ที่พบกับ จอร์แดน ทีมอันดับ 5 จากเอเชีย ดูเหมือนจะไม่ต้องลุ้นกันแล้ว เพราะเกมแรกทีม "จอมโหด" บุกมาถล่มได้ก่อนถึง 5-0 เช่นเดียวกับ คู่ระหว่าง เม็กซิโก กับ นิวซีแลนด์ ขุนพล "จังโก้" ก็ตุนสกอร์ไว้ก่อนถึง 5-1

ไฮไลต์ของเกมเพลย์ออฟนัดสุดท้ายช่วงกลางสัปดาห์ จึงมาอยู่ที่โซนยุโรป ซึ่งทุกคนกำลังรอดูว่าระหว่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช สุดยอดดาวเตะแห่งยุครายใดที่จะอดไปโชว์ฝีเท้าในรอบสุดท้าย

นอกจากนี้ ยังต้องจับตาสถานการณ์ของ "ตราไก่" ฝรั่งเศส ที่เกมแรกบุกไปพ่าย ยูเครน 0-2 เรียกว่าโอกาสตอนนี้ 50-50 ทีเดียวที่ทีมของ ดิดิเยร์ เดส์ช็องป์ส อาจจะได้ไปพักผ่อนกันในหน้าร้อนปีหน้า

ฝรั่งเศสถือได้ว่ามีดาวเตะชั้นนำของโลกอยู่มากมาย หลายรายเล่นให้สโมสรระดับท็อปทั้งใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ ลา ลีกา สเปน แต่ตามประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา การมีดาวดังอยู่ล้นหลามมิได้การันตีว่าทีมชาติจะได้ผ่านเข้าสู้รอบสุดท้ายฟุตบอลโลก และนี่คือ10 ทีมดังที่เคยพลาดท่าจอดแค่รอบคัดเลือกของศึก เวิลด์ คัพ มาแล้ว


รวม 10 ทีมยักษ์ใหญ่ที่อดไปฟุตบอลโลก

อันดับ 10 อังกฤษ - เวิลด์ คัพ 1974

ทศวรรษที่ 70 ถือเป็นยุคมืดของทีมชาติอังกฤษ เพราะเป็นช่วงเวลากว่า 10 ปี ตั้งแต่ 1970 ถึง 1980 ที่ทีมไม่สามารถเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายของรายการใหญ่ได้เลย แต่หนที่พลาดอย่างไม่น่าเชื่อคือ ฟุตบอลโลก 1974 ที่เยอรมันตะวันตก

ในเกมรอบคัดเลือกนัดสุดท้าย อังกฤษ ต้องการชัยชนะสำหรับการเล่นกับโปแลนด์ที่กรุงลอนดอน ทว่าสุดท้ายเกมจบลงด้วยผลเสมอ 1-1 และทุกคนลงความเห็นว่าเป็นเพราะฟอร์มอันเหนียวหนึบของ ยาน โทมัสซิวกี้ นายทวารของทีมโปล ที่หยุดความฝันลูกทีมของ เซอร์ อัลฟ์ แรมซี่ย์ ได้


อันดับ 9 ฮอลแลนด์ - เวิลด์ คัพ 1986

หลังจากสิ้นสุดยุคยิ่งใหญ่ของ โยฮัน ครัฟฟ์ ด้วยความผิดหวังโดยได้แค่รองแชมป์โลกในปี 1978 ทีมชาติฮอลแลนด์ก้าวสู่ยุคใหม่ในทศวรรษที่ 80 ด้วยเหล่าดาวรุ่งพรสวรรค์ที่นำโดย มาร์โก แวน บาสเท่น, แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด, รุด กุลลิท และ ร็อบ เดอ วิต แต่ตั๋วไป เวิลด์ คัพ ก็มาหลุดจากมือของพลพรรค "ฟลายอิ้งดัตช์แมน" ไปในการเล่น เพลย์ออฟ กับทีมบ้านใกล้เรือนเคียงอย่างเบลเยียม ด้วยประตู อเวย์ โกล์ ของ จอร์จส์ กรุน กองหลังของทีม "ปิศาจแดงแห่งยุโรป" ทั้งที่เกมเหลืออีกแค่ 5 นาทีเท่านั้น



อันดับ 8 สหภาพโซเวียต - เวิลด์ คัพ 1978

ทั้งที่มีผู้เล่นชั้นดีจากสโมสร ดินาโม เคียฟ ชุดที่เพิ่งคว้าแชมป์ คัพ วินเนอร์ส คัพ ในปี 1975 รวมถึงดาราระดับตำนานอย่าง โอเล็ก บล็อคกื้น แต่ทีม "หมีขาว" สหภาพโซเวียต ก็จบรอบคัดเลือกเพียงแค่ตำแหน่งรองแชมป์กลุ่ม 9 ต่อจากฮังการี หนึ่งในความผิดพลาดก็คือการแพ้พลิกล็อกต่อ กรีซ 0-1 ที่ตัดสินชะตาของทีม่


อันดับ 7 อิตาลี - เวิลด์ คัพ 1958

แม้จะมีดาวเตะระดับตำนานอย่าง จามปิเอโร่ โบนิแปร์ติ แจ้งเกิดขึ้นมา แต่ทศวรรษที่ 50 คือช่วงเวลาแห่งความเศร้าสลดของฟุตบอลอิตาลี อันเนื่องมาจากเหตุการโศกนาฏกรรมอุบัติเหตุเครื่องบินตกในปี 1949 ที่ส่งผลให้นักเตะและเจ้าหน้าที่ของสโมสร โตริโน่ ซึ่งเป็นเบอร์ 1 ของแดนมะกะโรนีในยุคนั้นและเป็นกำลังหลักของทีมชาติ เสียชีวิตลงทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม อิตาลีน่าจะยังมีศักยภาพพอที่จะคว้าตั๋วไปเล่นรอบสุดท้ายที่สวีเดนได้ ทว่ากลับพ่ายพลิกล็อกในการบุกไปเยือนไอร์แลนด์เหนือในนัดสุดท้าย และนั่นอาจถือได้ว่าเป็นความหายนะที่สุดในประวัติศาสตร์ทีมชาติอิตาลี เพราะจากนั้นทีมหาชัยชนะไม่เจออีกเลยเป็นเวลากว่า 2 ปีครึ่ง


อันดับ 6 โปรตุเกส - เวิลด์ คัพ 1998

ในยุคโกลเด้นเจเนอเรชั่น ที่ทีมมีสุดยอดผู้เล่นทั้ง หลุยส์ ฟิโก้, รุย คอสต้า และ เจา ปินโต นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดของโปรตุเกสที่จะสร้างผลงานฝากไว้ในเกมระดับฟุตบอลโลก นับตั้งแต่ยุคของ ยูเซบิโอ ทว่าทีม "ฝอยทอง" กลับล้มเหลวไม่เป็นท่าอีก จบรอบคัดเลือก ทำได้แค่อันดับ 3 ของกลุ่มรองจาก เยอรมนี และ ยูเครนเท่านั้น



อันดับ 5 อังกฤษ - เวิลด์ คัพ 1994

แกรม เทย์เลอร์ กุนซือทีมชาติอังกฤษ อุตส่าห์รักษาเก้าอี้ของตัวเองไว้ได้ ทั้งที่ทำทีมล้มเหลวใน ยูโร 92 แต่นี่ก็เป็นบทพิสูจน์อีกครั้งว่า "กุนซือหัวผักกาด" เอาดีกับทีมชาติไม่ได้จริงๆ "สิงโตคำราม" อังกฤษ ตกรอบคัดเลือก อดไปเล่นที่สหรัฐฯ หลังจากแพ้ในการออกไปเยือน นอร์เวย์ และ ฮอลแลนด์ แถมทีมยังสร้างสถิติน่าอับอายไว้อีกด้วยการถูกสมันน้อยอย่าง ซานมาริโน ยิงประตูในวินาทีที่ 7 


อันดับ 4 ยูโกสลาเวีย - เวิลด์ คัพ 1994

ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับวงการลูกหนัง ที่ ยูโกสลาเวียไม่ได้มีส่วนร่วมกับฟุตบอลโลกหนนี้ เนื่องจากทีมโดนแบนไม่ได้เล่นในรอบคัดเลือกภายหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต 

นั่นทำให้เราพลาดการชมทีมที่เต็มไปด้วยสตาร์ระดับโลกทั้ง ดราแกน สตอยจ์โกวิช, ซโวนิเบีย โบบัน, เดยัน ซาวิเซวิช, ดาวอร์ ซูเกอร์, ดาร์โก้ ปานเชฟ, ซินิซ่า มิไฮจ์โลวิช และ โรเบิร์ต โปรซิเนชกี้ ลงเล่นร่วมกันในทีมชาติเป็นครั้งสุดท้าย เพราะหลังจากนั้น แต่ละคนก็ได้แยกย้ายกันไปเล่นให้ทีมซึ่งแยกตัวมาคือ บอสเนียและเฮอร์เซโกวินา, โครเอเชีย, สโลวีเนีย, มาซิโดเนีย จนถึง เซอร์เบีย กับ มอนเตเนโกร ในเวลาต่อมา



อันดับ 3 สกอตแลนด์ - เวิลด์ คัพ 1970

ปลายทศวรรษที่ 60 ถึงต้น 70 ฟุตบอลสกอตแลนด์กลายเป็นที่ครั่นคร้ามไปทั่วยุโรป ด้วยผลงานการก้าวไปคว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ ของ กลาสโกว์ เซลติก ในปี 1967 และ แชมป์ คัพ วินเนอร์ส คัพ ของ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส ในปี 1972 

ขุนพลวิสกี้ มียอดนักเตะอย่าง จิมมี่ จอห์นสโตน กับ จอนห์ เกร็ก รวมถึงสองดาวดังที่เล่นอยู่ในอังกฤษอย่าง เดนิส ลอว์ กับ บิลลี่ บรีมเมอร์ เป็นแกนนำ แต่ก็ไม่สามารถต้านทานพลพรรค "อินทรีเหล็ก" เยอรมันตะวันตก ชุดยิ่งใหญ่ได้ ทำให้จบแค่อันดับ 2 ในรอบคัดเลือกหลังจากเกมที่บุกไปพ่ายที่ ฮัมบูร์ก 2-3


อันดับ 2 ฮอลแลนด์ - เวิลด์ คัพ 2002

ทั้งที่ทีมมีแต่ดาวเตะระดับโลกไม่ว่าจะเป็น เอ็ดการ์ ดาวิดส์, คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ, รุด ฟาน นิสเตลรอย, มาร์ค โอเวอร์มาร์ส กระทั่ง ยาป สตัม แต่ทีมของ หลุยส์ ฟาล กัล กลับล้มเหลวอย่างไม่น่าเชื่อ จบรอบคัดเลือกแค่อันดับ 3 รองจาก โปรตุเกส และสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ขนาดมีโอกาสสุดท้ายในการบุกไปเยือนทีม "ยักษ์เขียว" ขุนพลดัตช์ซึ่งเป็นต่อบานเบอะยังกล้าบุกไปแพ้ 0-1 ตกรอบสนิท


อันดับ 1 ฝรั่งเศส - เวิลด์ คัพ 1994

ก่อนจะสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์โลกบนแผ่นดินตัวเอง 4 ปีก่อนหน้าทีมชาติฝรั่งเศสเพิ่งได้ลิ้มรสความรู้สึกขมขื่นสุดๆ ด้วยการตกรอบคัดเลือก ทั้งๆ ที่มีผู้เล่นระดับท็อปทั้งทีม นำโดย ฌอง-ปิแอร์ ปาแป็ง, ดิดิเยร์ เดสช็องป์ส, มาร์กแซล เดอ ไซญี่, เอริค คันโตน่า, ดาวิด ชิโนล่า 

ยิ่งไปกว่านั้น ทัพ "ตราไก่" ยังทำผลงานร้อนแรง ชนะ 6 และเสมอ 1 จาก 8 นัดแรก ทว่าไม่รู้เกิดอะไรขึ้นใน 2 เกมหลัง ทีมของเทรนเนอร์ เชราร์ด อุลลิเยร์ ดันพ่ายคาบ้านใน 2 นัดสุดท้ายให้ทีมบ๊วยของกลุ่มอย่าง อิสราเอล และ บัลแกเรีย โดยทั้งสองเกมโดนยิงในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเหมือนกันด้วย





Create Date : 19 พฤศจิกายน 2556
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2556 20:12:21 น. 0 comments
Counter : 1247 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jureeporn
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




src='http://roomsite.freeserverhost.com/blogproject/toolbar.js'>
FC Barcelona


Google
จำนวนผู้ชมบล็อกทั้งหมด คน




















[Add jureeporn's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.