MY LIFE AS JEDIYUTH
 
Freddy vs. Jason : ผีสองตัวอยู่บนจอเดียวกันไม่ได้

เมื่อพูดถึงผีร้ายบนจอภาพยนตร์ สิ่งที่คนดูนึกถึงในอันดับต้น ๆ ผมเชื่อว่าคงมีทั้ง เฟรดดี้ จากหนังชุด นิ้วเขมือบ หรือ Nightmare on Elm Street และ เจสัน ผีนักฆ่าจากหนังชุด ศุกร์ 13 คืนสยอง หรือ Friday the 13th เพราะทั้งคู่จัดว่าเป็นผีร้ายที่โด่งดังที่สุดในโลกภาพยนตร์เลยก็ว่าได้ พวกมันมีประวัติยาวนานตั้งแต่ช่วงยุค 80 เป็นผีที่มีลักษณะเฉพาะของตัวเอง โดดเด่นไปกันคนละแบบ ผ่านช่วงที่รุ่งและร่วงมาด้วยกันทั้งคู่ และฮอลลีวูดก็มีแนวคิดจะให้พวกมันมาพบกันกว่าสิบปีแล้ว ตั้งแต่ภาคสุดท้ายของศุกร์ 13 (ที่ไม่ใช่ Jason X) ที่ตอนจบของหนังให้มีรูปมือมีดโกนของเฟรดดี้มาหยิบหน้ากากฮ็อคกี้ของเจสันไป และตอนนี้พวกมันก็ได้มาพบกันและฟัดกันให้เราดูกันเสียที

แม้ไม่ได้ติดตามหนังศุกร์ 13 และนิ้วเขมือบมาทุกภาค แต่ก็คิดว่าจะพอแยกแยะลักษณะของหนังทั้งสองเรื่องนี้ได้เป็นสองแบบ แบบแรกคือแบบที่เน้นความสยองผสมความเขย่าขวัญหรือความหลอน กับแบบที่เน้นการฆ่าแบบโหดผสมความฮา ใส่มุขตลกไปกับฉากการฆ่าให้ดูเป็นตลกร้าย ตัวอย่างของแบบแรกเห็นได้ชัดจากภาคแรกดั้งเดิมของหนังทั้งสองชุด ผมจำได้ว่าฉากการฆ่าในห้องน้ำและฉากตอนฆาตกรไล่ตามนางเอกท้ายเรื่องในศุกร์ 13 ภาคแรก เป็นฉากที่ทำออกมาได้เขย่าขวัญมาก ๆ ส่วนหนังนิ้วเขมือบภาคแรกนั้น ฉากที่นางเอกฝันเห็นร่างของเพื่อนผู้หญิงที่ตายตอนต้นเรื่องถูกพันห่อไว้ และเรียกให้ตามไปก็เป็นฉากที่ทำได้น่ากลัว หรือฉากที่กลุ่มเด็กผู้หญิงโดดเชือกก็มีบรรยากาศหลอน ๆ เหมือนอยู่ในแดนพิศวง ฉากที่จอห์นนี่ เดปป์ ถูกฆ่าก็โหดสยอง ความสยองขวัญเหล่านี้เป็นเสน่ห์ให้คนดูอยากดูอีก และสร้างกันต่อมาอีกหลายภาค เพียงแต่ในภาคหลัง ๆ เมื่อไม่อาจสร้างความสยองขวัญให้ดูเขย่าขวัญหรือหลอนได้เท่าต้นฉบับ เพราะคนดูสามารถจับจังหวะของเรื่องราวได้ถูก จึงพอเดาออกว่าใครกำลังจะถูกฆ่า ใครจะอยู่ ใครจะตาย หนังจึงขาดความสดใหม่ และหันไปเน้นไปที่การฆ่าแบบโหดผสมความตลกร้ายเพื่อให้คนดูได้ขำแทน

เมื่อจะนำเฟรดดี้กับเจสันมาพบกัน สตูดิโอต้องการให้หนังออกมาเป็นแบบไหน คุณอาจเดาได้จากการเลือกรอนนี่ หยู มาเป็นผู้กำกับ ผู้ที่เคยทำหนังจีนกำลังภายในอย่าง เดชนางพญาผมขาว ฉบับที่หลินชิงเสียนำแสดง และเป็นผู้ที่เปลี่ยนหนังผีสยองขวัญน่ากลัว ๆ แบบ Child's Play ให้เป็นหนังผีผสมตลกร้าย ดังนั้นใครที่จะไปดูหนังเรื่องนี้เอาความเขย่าขวัญ น่ากลัว คุณอาจผิดหวัง แต่ถ้าจะเอาความมัน ผสมความโหดและความฮาล่ะก็ คุณน่าจะสมหวัง โดยเฉพาะฉากที่เจสันกับเฟรดดี้ฟัดกันครึ่งหลังของเรื่อง น่าจะถูกเลือกเป็นหนึ่งในฉากต่อสู้สุดยอดของปีในการประกาศรางวัล MTV Movie Awards เพราะคุณได้เห็นเฟรดดี้ผู้ที่อยู่มุมน้ำเงิน มีท่ามาก กรีดกรายแบบ Goldust และความกระล่อนยียวนแบบ Eddie Guerrero แถมมีลีลาศอกเข่าประมาณว่ามีคุณพันนา ฤทธิไกร เป็นครูฝึกให้ (โรเบิร์ต อิงก์แลนด์ยังคงสร้างเสน่ห์แบบร้าย ๆ ให้เฟรดดี้ได้เหมือนเดิม) ส่วนมุมแดงนั้น เจสัน (รับบทโดยเคน เคอร์ซิงเกอร์) มีความโหด ดุดัน แบบ Big Show ผสมกับ Kane แต่ทนทายาดแบบ The Hulk ทั้งสองฝ่ายสู้กันแบบไม่ยั้งมือ ไม่มีใครยอมใคร งัดทุกกระบวนท่ามาฟาดฟัน แบบที่ต้องให้ตายกันไปข้าง และนี่คือความมันของหนังเรื่องนี้ ผมชอบฉากต่อสู้ในเรื่องนี้มากกว่าดูสามนางฟ้าสู้กับเดมี่ มัวร์ หรือ คนเหล็กสู้กันใน T3 เสียอีก

แต่ใช่ว่า Freddy vs. Jason จะมีความมันให้ดูตลอดเรื่อง ผมพบว่าครึ่งแรกของหนังออกจะจืดไปหน่อย หนังเปิดเรื่องด้วยการให้เฟรดดี้ออกมาอารัมภบทถึงที่มาที่ไปของตัวมัน และการคิดนำเอาเจสันมาทำให้มันกลับมาเป็นที่จดจำอีกครั้ง ผมเข้าใจว่าคนทำหนังต้องการปูพื้นให้คนที่ไม่เคยดูมาก่อน แต่เป็นการปูเรื่องที่เยิ่นเย้อไปนิดสำหรับคนที่รู้ที่มาที่ไปของผีสองตัวนี้ดีอยู่แล้ว และไม่มีชั้นเชิงในการเล่าเอาเลย แม้ว่าแนวคิดจะดีมากในการหาเหตุผลให้ผีสองตัวนี้มาพบกัน แต่การให้เฟรดดี้ออกมาเล่าให้คนดูฟัง ออกจะง่ายไปและใช้เวลานานไปหน่อย

พอหลังจากเจสันถูกเฟรดดี้หลอกให้มายัง Elm Street และเริ่มฆ่าคนแล้ว เรื่องราวเริ่มเล่าผ่านกลุ่มวัยรุ่นที่พากันสืบหาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ในช่วงนี้ก็มีไม่กี่ฉากเองที่สนุกหรือที่ผมชอบ เนื้อเรื่องส่วนใหญ่เดาง่ายและบรรดาวัยรุ่นก็ดูจะรู้กันเร็วไปนิดว่าเกิดอะไรขึ้น บางตอนก็โพล่งออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยอย่างเช่นตอนที่ปลัดหนุ่มมาบอกว่า ?เหมือนคดีลอกสูตรฆ่าที่คริสตัล เลค เลย? ผมนึกอยู่ในใจ ?เอายังงี้เลยเหรอ พี่?

นอกจากนี้แล้ว เราก็ไม่ได้เห็นฉากฆ่าที่น่ากลัวเท่าต้นฉบับเลย นอกจากจับสูตรการฆ่าของเฟรดดี้กับเจสันมาผสมกัน แบบที่ให้เรารู้ว่าตรงนี้คือวิธีฆ่าเฟรดดี้ ตรงนี้คือวิธีฆ่าของเจสัน หรือตรงนี้คือส่วนที่เนื้อเรื่องของเจสันต้องมี ตรงนี้คือส่วนที่เนื้อเรื่องของเฟรดดี้ต้องมี อาจเป็นไปได้ว่าคนทำหนังต้องการเพียงให้เราดูคั่นเวลาและหาเหตุให้ผีสองตัวนี้ต้องมาฟาดฟันกันในที่สุดตอนครึ่งหลัง คล้าย ๆ กับจะบอกว่าที่จริงแล้ว สิ่งที่จะให้เราดูจริง ๆ อยู่ครึ่งหลังของเรื่อง แต่ก่อนที่เราจะได้ดูก็ต้องปูพื้นหน่อยเพื่อให้ฉากสู้กันท้ายเรื่องดูน่าเชื่อ

Sean Cunningham ผู้อำนวยการสร้างหนังเรื่องนี้เคยบอกว่า ต้องการทำหนังเรื่องนี้ให้คนสามกลุ่มดู กลุ่มแรกคือพวกที่เติบโตมากับหนังทั้งสองเรื่องนี้ กลุ่มที่สองคือพวกที่มาดูหนังทั้งสองเรื่องและชอบมันในภายหลัง และกลุ่มที่สามคือพวกที่เพิ่งมารู้จักพวกมันจากหนังเรื่องนี้ เมื่อมองอย่างเป็นกลางแล้ว ผมคิดว่าคนสองกลุ่มแรกเท่านั้นที่จะสนุกกับหนังเรื่องนี้ เพราะพวกเขาเป็นแฟนตัวยงและหลงเสน่ห์ผีทั้งสองตัว ได้ดูพวกมันมาสู้กันแบบมัน ๆ ให้ดู ก็เหมือนดูนักมวยสองคนที่เราชอบฝีไม้ลายมือมานาน หรือทีมฟุตบอลสองทีมที่เราหลงรักในลีลาการเล่น แต่ไม่เคยมีโอกาสแข่งกันให้เราดูเลย เมื่อโอกาสมาถึง ทั้งคู่นำไม้เด็ดที่มีอยู่ทั้งหมดมาอัดใส่กัน ในขณะที่ส่วนที่เข้ามาเสริมฉากฟัดกัน เป็นส่วนที่ไม่ดีนัก ก็คงมีแต่แฟนตัวจริงเท่านั้นที่สนุก คนที่ไม่ใช่แฟน ผมไม่แน่ใจนักว่าเขาจะสนใจดูพวกมันฟัดกันแค่ไหน



Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2552 10:29:23 น. 0 comments
Counter : 3477 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

JEDIYUTH
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




เป็นนักทำซับไตเติ้ลครับ แปลซับหนังครั้งแรกในปี 2538 ครับ ตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ เริ่มจากแปลหนังขาวดำให้แก่ช่อง TNT ก่อน หลังจากนั้นก็มีโอกาสได้ทำให้ HBO และ Cinemax Asia จนถึงวันนี้ก็เลย 10 ปีแล้ว ต่อมาก็เริ่มมีโอกาสได้ทำซับไตเติ้ลให้ช่องอื่นบ้างรวมถึงหนังในโรงภาพยนตร์บ้างในระยะหลังนี้

ผลงานซับไตเติ้ล
เคเบิ้ลทีวี: ในหลายๆ ตอนของ Sex and the City และ Six Feet Under, Battlestar Galactica, The Smith, The Company, Heroes ซีซั่น 1, Dune, Star Trek: The Motion Pictures, Star Trek II: Wroth of Khan, Star Trek: The Final Frontier, Star Trek: Generation, Star Trek: First Contact, Star Trek: Insurrection, Star Trek: Nemesis, Apollo 13, Red Planet, Grease, Rent, Forrest Gump, Twister, Men in Black, Nightmare Before Christmas, Prince of Egypt, Jurassic Park, The Lost World, Back to the Future III, The Matrix, The Postman, Godfather Part II etc.

ผลงานซับไตเติ้ลในโรงภาพยนตร์: The Chorus, Swiming Pool, The Company, A Home at the End of World, Step Up 2

งานไม่ประจำ: ขีดๆ เขียนๆ ตามหนังสือที่รับเชิญไป

งานอดิเรก: ทำเว็บไซต์ข่าวสารภาพยนตร์ซึ่งเน้นของฮอลลีวู้ดเป็นหลัก ชื่อ JEDIYUTH.Com
[Add JEDIYUTH's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com