daclub :: The Club

มาลาเค (นิยายไทย)

มาลาเค
โรสลาเรน
เคยตีพิมพ์ในขวัญเรือน ปี ๒๕๔๑ - ๒๕๔๓
รวมเล่มครั้งแรก ปี ๒๕๔๓ โดยสำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม

นางเอกเป็นเจ้าหญิงแห่งเปอร์ซี หรือมาลาเคแห่งเปอร์ซี ชื่อเมจกา หนีภัยการเมือง การก่อกบฏในบ้านเมืองตัวเอง พร้อมกับพระมารดาและพระอนุชาเมนาท มาที่เมืองเมดิเนีย ใช้ชีวิตอย่างสามัญชน สุดท้ายด้วยความช่วยเหลือของพระเอก อัมราน กัสตี เปอร์ซีมีประชาธิปไตยอีกครั้งและเมนาทได้เป็นพระราชาธิบดี

ไม่น่าเชื่อว่าโรสลาเรนจะแต่งเรื่องได้ตลกและน่ารักขนาดนี้ นามปากกาโรสลาเรนแต่งเรื่องเศร้าเคล้าน้ำตาอย่างสิ้นสวาทก็ทำให้เรางี้ร้องไห้ขี้มูกโป่งตอน ๒-๓ แผ่นสุดท้ายที่นางเอกเขียนจดหมายถึงพระเอกก่อนตาย…หรืออย่างรอยอินทร์ก็เศร้า

เรื่องนี้ไม่เศร้าค่ะ ใครที่ชอบแฮปปี้เอ็นดิ้งรับรองไม่ผิดหวัง
ตัวละครที่ทำให้ขำได้ตลอดมีอยู่สองคนคือ คุณลุงที่รัก ‘อูนิส’ ผู้มีโรคริดสีดวงเป็นโรคประจำตัว กับนายการิม เบซี ผู้มีกรรมได้เป็น’พระสหาย’ ของมาลาเค

อูนิสเป็นคนสนิทของพ่อพระเอก พอพ่อแม่พระเอกตาย อูนิสก็เลยทำหน้าที่เป็นทั้งญาติผู้ใหญ่ เป็นทั้งลูกน้องของพระเอก เวลาปรึกษาหารือกับพระเอกนี่จะขำมาก พระเอกก็กวน…ประสาท ชอบเรียกอูนิสลับหลังว่า ตาเฒ่าเจ้าแห่งริดสีดวง

การิม เบซีเป็นพนักงานธนาคารธรรมด๊า ธรรมดานี่แหละ แต่เพราะวันนั้น… ต่อมาก็รับหน้าที่เป็นองครักษ์นางเอกด้วย มุกตลกที่ใส่ในตัวการิม คือตลกแบบซื่อๆ ส่วนใหญ่ไม่ได้ออกมาเป็นคำพูดแต่เป็นความคิด การิมไม่รู้หรอกว่านางเอกเป็นเจ้าหญิง เข้าใจว่าเป็นผู้หญิงของนายใหญ่(พระเอก)
วันนั้นนางเอกมาหาการิมที่อพาร์ทเม้นท์ (รังหมาของการิม)

“แล้วจะมาใหม่”
ที่การิม ’ตอบในใจ’ คือ “จ้างก็ไม่พบ!”
พรุ่งนี้จะหาอพาร์ทเม้นท์ใหม่ ย้ายหนีทั้งการขึ้นค่าเช่าและ ‘แขก’ ที่ไม่เคยเชิญ
โธ่เอ๋ย…กรรมเวรแท้ๆ แค่เห็นผู้หญิงสวยๆยืนเคว้งคว้างแล้วแถเข้าไปทัก ใครจะนึกว่าจะนำความยุ่งยากมาให้ขนาดนี้
จดจำใส่ขมองให้ดี
ผู้หญิงสวยๆไม่มีวันยืนคนเดียว
ถ้า…ไม่มีเรื่อง!
พอ ‘แขก’ ลับเข้าลิฟต์ การิม เบซีก็ปราดไปมองทางหน้าต่าง เหมือนที่คิดเล้ย…ขบวนรถจอดชิดริมทางเท้า คนเดินถนนและคนโผล่หน้าต่างมองกันสลอน พรุ่งนี้เหอะ…คนคิดในแง่ดีจะถามไถ่
“รัฐมนตรีมาหาคุณเหรอ”
ส่วนพวกคิดในแง่ร้ายก็จะถามว่า
“ตำรวจมาตามจับอะไรน่ะ”
หน้า ๔๑๐–๔๑๑

ส่วนพระเอก---เวลาพูดราชาศัพท์ก็พูดผิดพูดถูก ‘พระทัยใจแข็ง’ เราว่าเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์ที่ซู้ด จะทำตัวดูดี แต่งสูทก็เท่ห์ แต่ปกติแล้วชอบแต่งเซอๆ ไม่ได้ตั้งใจหรอก แต่ไม่ใส่ใจที่จะแต่งตัวมากกว่า ใส่กางเกงยีนส์เก่าๆ เสื้อยืดยัดชายเสื้อเข้าในกางเกงข้างนึง ปล่อยชายข้างนึง หัวยุ่งเหมือนไม่เคยเจอหวี ถ้าใส่เสื้อแขนยาวก็ไม่เคยพับแขนเท่ากัน นางเอกค่อนขอดอยู่ในใจบ่อยๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะทำธุรกิจร่ำรวยได้ขนาดนี้ ตอนแรกที่มาบริหารงานใครๆก็ทำนายว่า เหลวเป๋ว เพราะภาพลักษณ์เธอที่ผ่านมาคือหนุ่มเจ้าสำราญเหยาะแหยะ แต่หารู้ไม่ว่าอัมรานของเราเป็นจิ้งจอกทะเลทราย คมในฝัก ฉลาดเป็นกรด กล้าหาญชาญชัย บ้าบิ่น ขี้เล่น รักใครรักจริง เวลาพูดหวานกะนางเอกก็น่ารัก ไม่ได้หวานจนเลี่ยนเหมือนนายชัดเจนแห่งบางรักซอยเก้า

“ผู้หญิงของคุณที่แต่งชุดราตรี เคยหกล้มไหม?”
“ผมยังไม่เคยมี….ผู้หญิงของผม… มีแต่ผู้หญิงที่คบกับผม…”
…………
”คุณว่ามันสูงซักเท่าไหร่?” คำถามหอบ
“ผมลงไปเอาตลับวัดก่อนนะ คุณนั่งคอยที่นี่ พรุ่งนี้ผมคงขึ้นมาได้”
คราวนี้แม้แต่มาลาเคก็ลืมคำว่า ‘เจ้าหญิง พระพี่นางแห่งพระราชาธิบดี’ ต้องไว้ยศอย่างไร เสียงหัวเราะจึงกังวานใส
“ฉันไม่อยากนั่งคอยแห้งตายอยู่บนนี้หรอก”
“ทำไมคิดว่าผมจะปล่อยให้คอยนานขนาดนั้น”
………….
แม้ดวงหน้าจะเฝื่อน ทว่ารีบตอบละล่ำละลัก
“ไม่เป็นไร ถ้าคิดว่าวิ่งขึ้นวิ่งลงไหว จะนั่งคอย”
“ต่อนี้ไป ผมจะไม่ทิ้งให้คุณนั่งคอยหรอก จะลากไปด้วยทุกที่”

กลายเป็นจีบกันซะงั้น เพิ่งจะมาจีบกันก็บทที่ ๕๓ ใกล้จบแล้ว อ่านแล้วต้องยิ้ม นางเอกจะบ่นๆว่าไม่เหมือนหนังสือ พระเอกพูดไม่เหมือนหนังสือ พระเอกบอกว่า “คุณไม่เหมือนผู้หญิงในหนังสือพวกนั้น คุณ…เหนือคำบรรยาย” แหมผู้หญิงเราทุกคนนะแหละ อยากได้ยินคำว่ารัก แต่ไม่ยักกะบอกแฮะ วัยรุ่นเซ็ง! มาลาเคก็เซ็ง!

นิยายของคุณวิมล ศิริไพบูลย์ต้องมีบทกวีบรรยายความสวยของนางเอก เรื่องนี้บรรยายไว้ว่า

งามพักตร์แง่เดือนจรัสฉาย
พริ้มพราย ขนง เนตร เกศ แก้ม
พิศุทธิ์ดุจมณฑาทิพย์จากเมืองแมน
ทั้งแว่นแคว้นอย่าหามาเทียมทัน


นางเอก มาลาเคของเรามีความสง่างามอย่างหญิงสูงศักดิ์ มีความอดทน ฉลาด แต่บางทีก็ ‘โก๊ะ’ อย่างไม่ตั้งใจเพราะไม่เคยรู้ไม่เคยเห็น สิ่งธรรมดาสามัญที่ชาวบ้านเขารู้ ตอนที่การิมสั่งโค้ก เธอก็ ‘ด้วย!‘ แต่พอกินเข้าไปก็สำลักใหญ่ บางทีก็น่าสงสารจะกระดิกตัวทำอะไรใครๆก็รู้ไปหมด ต้องมีร.ป.ภ. มีองครักษ์คอยตาม มีกล้องโทรทัศน์วงจรปิดจับจ้อง เวลาเธอหนีคนพวกนั้นได้ จะรู้สึกสนุกเหมือนเป็นเด็กๆ (คนที่ซวยก็การิมล่ะค่ะ) เฮ้อ…ใครว่าเป็นมาลาเคแล้วสบายน้อ
นิยายของคุณวิมลอ่าน ‘ยาก’ ไม่ใช่เพราะใช้คำยากหรือเนื้อหาหนัก แต่มัน ‘ลึก’ ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่ามีเครื่องหมาย ‘___ ’ เยอะมาก บางทีก็พูดกันสั้นๆ คนอ่านก็ต้องตามให้ดีว่าเขาหมายถึงอะไรกันนั่น เราว่ามันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของนักเขียนท่านนี้




 

Create Date : 24 กรกฎาคม 2548   
Last Update : 11 พฤษภาคม 2550 13:16:01 น.   
Counter : 3902 Pageviews.  

Platform "Thai Sex" "Despair" "Club Bed" (นิยายภาษาอังกฤษ)

วันเสาร์ค้าบบบ ดีใจชะมัดจะได้พักผ่อน เห็นรูปชาวพันธุ์ทิพย์ไปกินอาหารญี่ปุ่น โอ้ย...อิจฉาอิจฉา *เราก็นักกินอาหารญี่ปุ่นเหมือนกันนะ โดนเฉพาะปลาดิบ กินได้คุ้มกะตังค์ เพื่อนกินได้แต่ข้าวปั้น ยัดเข้าไป ๕ อันก็อิ่ม เสียด้ายเสียดายที่นี่เข้าไปกินยาก ในเมืองก็มีร้านอาหารญี่ปุ่นอ่ะนะ แต่อยู่ไกลจากเคหสถานของข้าพเจ้ามาก กว่าจะไปถึงก็เป็นลมแดดหายหิวกันแล้ว มีอยู่ร้านนึงชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่นแปลว่าเงิน รายการอาหารและรูปคล้ายของร้านฟูจิมาก แต่ราคาแพงกว่าเมนูละสิบยี่สิบบาท ถ้าได้เข้ากรุงเทพเมื่อไหร่จะกินปลาดิบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ให้สะใจ ว่าแล้วก็---เย็นนี้กินส้มตำแซบๆแก้ขัดไปก่อนดีกว่า



Platform เป็นหนังสือที่ได้มาจากเพื่อนคาเธ่ย์ หลายปีมาแล้ว ได้ยินข่าวมาว่าเรื่องนี้ดูถูกผู้หญิงไทย แต่อ่านไปอ่านมาไม่มีตรงไหนที่ดูถูก ออกจะเป็นแนวชมซะด้วย แต่หลายคนคงไม่ชอบให้เมืองไทยเราถูกชมแบบนี้
Michel Houellebecq เขียนเป็นภาษาฝรั่งเศสตีพิมพ์ปี ๒๐๐๑ ฉบับภาษาอังกฤษตีพิมพ์ปี ๒๐๐๒ เอามาให้ดูว่าสื่อเขาวิจารณ์ว่าไงมั่ง

French Ennui, Thai Sex and Three-Way
Michel Houellebecq’s Platform
by Geoff Dyer (LA weekly)


Despair, hope, sex and exploitation share 'Platform'
Reviewed by Max Winter
Sunday, July 20, 2003 (San Francisco Chronicle)

นี่เป็นหนังสือพิมพ์ที่สมาชิกหนึ่งใน The Women's Murder Club ทำงานอยู่:-D

Club Bed
By JENNY TURNER (The New York Times)
Published: July 20, 2003, Sunday
MICHEL HOUELLEBECQ is an ugly writer, vulgar, often silly, sex-obsessed.

เราชอบการวิจารณ์ของJennyนะ ครบทุกมุม ทั้งดีและไม่ดี คนอ่านจะได้ข้อมูลเพียงพอว่าสมควรซื้อมาอ่านไหม จะได้ไม่มานั่งเสียดายตังค์ทีหลัง

คุณจะได้เรียนรู้คำศัพท์ด้านการท่องเที่ยวและเพศสัมพันธ์ เยอะ---เพราะอีตานี่ Tourist เต็มที่ท่องไปร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำทั้งคิวบา คาริบเบียน ไทย และการมีเพศสัมพันธ์เป็นความสุขชั้นเลิศ เนื้อเรื่องกว่า ๔๐% เกิดขึ้นที่เมืองไทยเริ่มต้นตั้งแต่เครื่องลงที่ดอนเมืองและต้องเจอกับอากาศร้อนรถติด วิธีการเขียนก็เหมือนการเล่าเรื่องโดยใช้ I หรือ Michelนี่แหละ เป็นคนเล่า มาเที่ยวกับทัวร์ เจอแฟน (Valarie) ในทัวร์นี่แหละ แฟนทำงานอยู่บริษัททัวร์ที่ใหญ่มากในฝรั่งเศส ทั้งคู่ชอบเมืองไทยมาก ฉากสุดท้ายคือกลับมาเมืองไทยอีกและตกลงที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่นี่ แต่ Valarie โดนระเบิดผู้ก่อการร้ายทางใต้ตาย
Michel กลายเป็นฝรั่งที่เช่าห้องพักเดือนละ ๓๐๐๐ อยู่นาเกลือพัทยา

จบเศร้า---

Michel เกลียดมุสลิมมากตั้งแต่แฟนตาย

เรื่องนี้มีอะไรขำๆในการทัวร์เมืองไทยของเขาเยอะ เราจะได้รู้ว่าเขาคิดยังไงกับบ้านเมืองของเรา คิดยังไงกับการทำทัวร์ของเรา
เช่น

...For about 400 baht, those who wished could have dinner and the show of traditional Thai dance; those interested were to assemble at 8 p.m....I had already had a vague experience of traditional Thai dance: 'Classic Thailand" from the "Rose of the North" to the "City of Angel" Not bad, really, but a bit expensive and terrifyingly cultural; everyone involved had at least a masters deegree.

ไกด์คนไทยที่นำเที่ยวพูดถึงชาวอาข่าว่า useless และอะไรที่ไม่ดีอีกหลายอย่าง หวังว่านักท่องเที่ยวคงไม่คิดหรอกนะว่าคนไทยคิดอย่างนี้ทั้งหมด

คณะทัวร์ไปเที่ยวรีสอร์ตในป่า ทั้งๆที่จริงๆแล้วมีไฟฟ้าใช้ แต่ไม่ติดไฟซักดวงให้ในห้อง เพื่อจะได้ดูเหมือนอยู่ป่า Michel ก็เกิดความคิดขึ้นมาว่า ถ้าแน่จริงเอาเสือมาเดินเพ่นพ่านซักตัวสองตัวสิ

ส่วนเรื่องผู้หญิงไทย ผู้ชายในกลุ่มทัวร์นี้ก็เอามาคุยกันว่าผู้หญิง (ขายบริการ) ประเทศนู่นประเทศนี้เป็นไงบ้าง ปรากฏว่าผู้หญิงไทยนี่แหละ the best lover in the world ตัวไมเคิลก็ซื้อบริการผู้หญิงไทยสองสามคน และก็เป็นแนวเดียวกันคือเธอต้องทำงานเลี้ยงครอบครัว สามีไม่เอาไหน กินเหล้าเมายา

Valarie ก็เคยถาม Michel เหมือนกันว่าทำไมชายยุโรปถึงชอบผู้หญิงเอเชียกันนัก คำตอบก็คือในขณะที่หญิงตะวันตกเอาแต่เรียกร้องสิทธิสตรี เท่าเทียมชาย ทำอะไรได้ร้อยแปด แต่ขาดความอ่อนโยน ความเอาใจใส่ผู้ชายของตัวเอง หญิงเอเชียยังมีคุณสมบัตินั้นอยู่

ชาวเยอรมันคนนึงเป็นนักแปลหนังสือแต่งงานกับคนไทยที่เจอในอาบอบนวด ตอนนี้มีลูกสองคนแล้ว บอกว่าเด็กไทยใจเย็นและเคารพผู้ใหญ่โดยธรรมชาติ โดยการหล่อหลอมทางวัฒนธรรม ต่างกับเด็กยุโรป ซึ่งทุกครั้งที่กลับไปเยอรมันจะรู้สึกตกใจกับพฤติกรรมของหลานๆมาก

สรุปเรื่องนี้เขาก็ชมเมืองไทยอ่ะนะ ไม่งั้นคงไม่ตัดสินใจตั้งรกรากอยู่ที่นี่กันหรอก






 

Create Date : 16 กรกฎาคม 2548   
Last Update : 11 พฤษภาคม 2550 13:28:19 น.   
Counter : 1640 Pageviews.  

นางบาป(นิยายไทย)

อยากเอาเรื่องนี้ขึ้น blog หลายวันแล้ว แต่ติดที่ว่าพี่ที่ทำงานยืมไปอ่าน เลยไม่มีหนังสือมาอ้างอิงคำพูดตัวละคร คำบรรยายของผู้แต่ง (กิ่งฉัตร)
แต่มีคนพูดถึงเรื่องนี้กันมากทั้งในพันธุ์ทิพย์และช่องสาม ก็เลยต้องเกริ่นไว้ตอนนี้นิดๆหน่อยๆ รับรองว่าจะไม่เล่าเรื่องย่อให้เสียอรรถรสในการชมละคร เอาไว้ละครจบจะมาแจกแจงโดยละเอียดอีกรอบว่าหนังสือกับละครมันต่างกันยังไง

เหตุที่ได้เรื่องนี้มา เพราะชาวพันธุ์ทิพย์ (อีกแล้วครับท่าน) บอกว่าสนุกมากกกกก อีกอย่างวันนั้นเรื่องดาวหลงฟ้าหมดเลยได้ซื้อเรื่องนางบาปแทน

อ่านฆ่าเวลาบนรถไฟจากสุรินทร์มาอุบล ขำสุดๆ แต่ไม่กล้าก๊ากมากเกรงใจคนนั่งใกล้ ไอ่คนที่ทำให้ขำก็ 'ไอ้บอล' ลูกน้องนางเอก ซึ่งมันก็เป็นบอลน่าเตะ กลิ้งไปได้เรื่อยสมชื่อ เราว่าตัวละครตัวนี้แหละเป็นตัวสีสันเลย ใครจะได้เป็น บอล ในละครน้อ? ไม้จากดาวหลงฟ้าก็ได้ หรือกอล์ฟ เบญจพลก็ดี

ส่วนเรืองริน สาวมาดเท่ ตากล้องประจำกองถ่ายละครบางบาป ตอนแรกวางตัวเชอรี่ไว้ เชอรี่คงไม่มีคิวให้ เปลี่ยนเป็นเข็ม รุจิรา ซึ่งก็ไม่ผิดจากบทประพันธุ์เท่าไหร่มั้ง เป็นผู้หญิงที่ยายนางเอกในละครบางบาปแอบเรียกว่า 'ยายปั้นจั่นยักษ์'

ใครเป็นคนร้ายตัวจริงในละครบางบาปนี่ เดาได้ตั้งแต่บทนำของคนแต่งแล้วล่ะ

เรื่องนี้มีครบรส ทั้งกุ๊กกิ๊ก ลึกลับ สยอง ตลก แต่บู๊ไม่ค่อยมี
เข้ายุค เข้าสมัย เหมือนจะเสียดสีสังคมนิดๆ แม้!! ให้มันได้หยั่งงี้เซ่ ยังติดใจไอ่คนที่เป็นผู้ร้ายตัวจริงในละครนางบาป ไม่เคยคิดเลยนะเนี่ยว่าจะเป็นคนนี้ เรารึก็อ่านเรื่องสืบสวนสอบสวนมาก็เยอะ คิดอยู่แล้วว่าต้องเป็นคนที่เรานึกไม่ถึง แต่ก็ไม่น่าจะเป็นคนนี้ง่ะ แงแงแง ตอนเฉลยออกมาเนี่ยต้องร้องอ้าว เป็นคนนี้เองเหรอ เอ่อ โปรดอย่าสับสนนะคะ คือมันมีละครบางบาปซ้อนอยู่ในเรื่องนางบาปน่ะฮ่ะ

เดี๋ยวมาเล่าต่อ หลังละครจบ

ละครจบไปแล้วเมื่อคืน (อังคารที่ ๑๔ ก.พ. ๔๙)
ยอมรับว่ากระแสนางบาปแรงมากไม่ว่าจะในพับทิป ในห้องเรียน วงการเกย์ แม้กระทั่งวงการกฏหมาย

ขออนุญาตคุณเจ้าของข้อความนะคะ
สืบเนื่องจากการที่นางหยาดต้องถูกแขวนคอ เพราะไปวางยาพิษคุณกำไล



เมื่อวานก็มีการถามกรณีนี้กับอาจารย์ในชั่วโมงบรรยาย สรุปสั้นๆคือนางหยดผิดม.289(4) ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ส่วนนางหยาดผิดม.290 ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ไม่ใช่ผิดบทเดียวกับนางหยด เพราะนางหยาดมีเจตนาเพียงทำร้าย มิใช่เจตนาฆ่าผู้อื่น

จากคุณ : KikLaruku - [ 15 ก.พ. 49 22:23:44 ]







 

Create Date : 09 กรกฎาคม 2548   
Last Update : 11 พฤษภาคม 2550 13:31:04 น.   
Counter : 1870 Pageviews.  

Mates, Dates, and Sequin Smiles (วรรณกรรมเยาวชน: ภาษาอังกฤษ)



Mates, Dates, and Sequin Smiles
โดย Cathy Hopkins


“Bridget Jones as a teen” – Teen People

Mates, Dates series ตอนนี้ออกถึงเล่ม ๘ แล้ว เราติดใจเรื่องนี้จากเล่มแรก Mates, Dates and Inflatable Bras ที่พี่บ๊อบเอามาให้เด็กเรียนเป็นหนังสืออ่านนอกเวลา เป็นเรื่องที่น่ารักมาก ตลก ให้ข้อคิด แคธี่คนแต่งนี่เขามีวิธีสอนเด็กวัยรุ่นได้แยบยลดี เด็กไทยเราอ่านก็จะได้เรียนรู้ชีวิตวัยรุ่นฝรั่ง (อังกฤษ) ที่ไม่ไร้สาระ คุณผู้หญิงสาวน้อย สาวมาก ไม่ควรพลาด เพราะจะมีเกร็ดเล็ก เกร็ดน้อยเรื่องวิธีดูแลความงาม เคล็ดลับการจูบ บริหารสุขภาพจิตที่น่ารักๆมาให้ขำ หรือจะลองเอาไปใช้ก็ดี

Mates, Dates series
• Mates, Dates and Inflatable Bras
• Mates, Dates and Cosmic Kisses
• Mates, Dates and Designer Divas
• Mates, Dates and Sleepover Secrets
• Mates, Dates and Sole Survivors
• Mates, Dates and Mad Mistakes
• Mates, Dates and Sequin Smiles
• Mates, Dates and Tempting Trouble

Mates, Dates นี่เป็นเรื่องของเด็กวัยรุ่นอังกฤษ ราวๆมอต้น ตัวละครเด่นในเล่มแรกมีอยู่ ๓ คนเป็นเพื่อนรักกัน คือ ลูซี่ อิซซี่และเนสต้า แต่ละคนก็จะเป็นคนเล่าเรื่องของตัวเองในแต่ละเล่ม โดยใช้สรรพนาม I เล่มแรกเป็นเรื่องของลูซี่ที่กำลังสับสนไม่รู้ว่า ตัวเองต้องการจะเป็นอะไร จะทำอะไร จะเลือกเรียนอะไรดี แล้วก็ยังกังวลกับการมีเนสต้าเข้ามาแทรกกลางระหว่างตัวเองกับเพื่อนรักคืออิซซี่ ตอนจบของเล่มนี้ลูซี่ค้นพบว่าตัวเองมีพรสวรรค์ในการออกแบบเสื้อผ้า ตั้งใจจะเป็นดีไซน์เนอร์ ส่วนอิซซี่ฝันจะเป็นนักแต่งเพลง ยามว่างชอบตรวจดวงชะตาให้เพื่อน เนสต้าคนสวยอยากเป็นดาราเป็นนางแบบ ถ้าตามซีรี่นี้ไปเรื่อยๆจะเห็นว่าเด็กพวกนี้เขาไม่ใช่แค่ฝันแต่เขาใฝ่หาความรู้ คว้าโอกาส หรือลองทำนู่นทำนี่เพื่อที่เขาจะได้ประสบความสำเร็จอย่างที่ฝัน อายุแค่เนี้ย! เป็นบ้านเราก็คงยังไม่เป็นเรื่องเป็นราวอะไร อาจจะเป็นเพราะผู้ใหญ่ไม่ให้โอกาสด้วย คอยแต่จะคิดว่าเขาเป็นเด็กอยู่ตลอดเวลา

ในเล่ม ๗ Mates, Dates and Sequin Smiles นี้ เนสต้าเป็นตัวดำเนินเรื่อง และมีตัวละครเพิ่มมาคือ T.J. น่าจะเพิ่มมาตั้งแต่เล่มก่อนหน้านี้แล้ว แต่เรายังไม่ได้อ่าน ที่ได้เล่ม ๗ นี้มา มันมีเหตุ หลังจากอ่านเล่มแรกแล้ว ติดใจอยากอ่านเล่มอื่นต่อ ไปB2S อุบลนี่แหละ เจอในชั้นหนังสือลดราคา Mates, Dates and Sequin Smiles ลดเหลือ ๑๙๕ ก็หยิบเลย ดีใจมาก ต่างจังหวัดไม่มีหนังสือต่างประเทศให้เลือกนักหรอก ปกติก็ซื้อออนไลน์กับ Asia Books แต่ระบบมันยังไงไม่รู้ ไม่สะดวกเหมือน tohome กับ thainetbook สองร้านหลังนี่ก็ไม่มีหนังสือต่างประเทศให้เลือกด้วย ปรากฏว่าตอนไปจ่ายตัง พนักงานบอกว่า ๒๕๐ ค่ะ เราก็บอกว่าป้ายติดราคาไว้ ๑๙๕ นะ เขาก็ยืนยันว่า ๒๕๐ “ป้ายผิดค่ะ ๒๕๐จะเอาไหมคะ?” อารมณ์เราก็ปรี๊ดสิ รู้สึกเหมือนถูกหลอก “ไม่เอาค่ะ ติดป้ายผิดเป็นความผิดพลาดของคุณเอง” แล้วเราก็ยืนรอจะเอาหนังสือตรงหน้าเคาน์เตอร์นั่นแหละ ลองไม่ให้ในราคาป้ายสิ จะประกาศให้ลูกค้าคนอื่นได้รู้กันทั่วเลย ไม่ไหวนะหยั่งเงี้ย พี่ที่ทำงานก็โดนป้ายหลอกเหมือนกัน ทางร้านบอกว่าตัวเลขมันเลือนค่ะ ห้วย! ห่วย!

เล่าเรื่อง Mates, Dates and Sequin Smiles ต่อ เนสต้าท่าทางเหมือนไม่ค่อยใส่ใจกับอะไรนัก นอกจากความสวยงาม แฟชั่น บันเทิง จะเดทกับใครคนนั้นก็ต้องหล่อ จนโดนเพื่อนๆค่อนขอดว่า เป็นคน Shallow คือมองคนอื่น มองความเป็นไปรอบตัวแบบผิวเผิน แต่เพื่อนๆโดยเฉพาะอิซซี่ที่เป็นคนประเภทลึกซึ้งถึงจิตวิญญาณนี่ จะพยามยามพูดให้เนสต้ามองคนให้ลึกกว่าเดิม

“So what if he’s cute, “ asked Izzie, “if he’s boring to be with? Just good looks don’t count for much after a few dates. You always judge by externals.”
“Do not”
“Do”
“Not”
Page 1


พอเพื่อนทักอย่างนั้นเนสต้าก็เอาไปคิดนะ แล้วก็—ตลกมากเลย เพื่อนๆไม่ได้ใช้คำว่า shallow ตรงๆ หรอก แต่ใช้คำว่า pragmatic พอกลับบ้านเธอก็รีบไปเปิดพจนานุกรมคำว่า pragmatic ทันที แล้วก็พยายามทำตัวให้ deep จากที่เคยอ่านแต่นิตยสารประเภท Just 17 และ Bliss ก็หันมาอ่านหนังสืออย่างอื่น เนสต้ามีพี่ชายต่างแม่หนึ่งคนชื่อโทนี่หล่อมาก กำลังจีบลูซี่สาวเรียบร้อยอยู่ โทนี่หน้าตาหล่อแบบยุโรปเพราะมีเลือดผสมสเปน อิตาลี่ แต่เนสต้าผิวเป็นสีกาแฟเพราะแม่เป็นชาวจาไมก้าผิวดำ ครอบครัวนี้จะเปิดอกพูดคุยกับลูกทั้งเรื่องเพศ เรื่องการเงินในครอบครัว ทีนี้มาดูสิว่าลูกอย่างเนสต้าคิดยังไง

‘It’s funny—I quite like the fact that Mom treats Tony and me like adults and keeps us informed as to what’s going on, as I know some people’s parents don’t. It makes me feel accepted as a grown-up. On the other hand, I don’t want to know, because I reckon all that stuff is their job, being parents, paying the bills, and all that, and I want to just be a teenager and not think about any of it. Mum says she tells us about the finances so that we don’t think that “Money grows on trees.”
Page 27


อืม…เด็กบางคนไม่รู้หรอกว่ากว่าพ่อแม่จะหาเงินมาได้แต่ละบาท นี่มันเหนื่อยแค่ไหน เพราะพ่อแม่ไม่เคยบอกให้เขารู้ ขอเมื่อไหร่ก็ได้ อยากได้อะไรก็ให้ อย่างนี้เขาเรียกว่าพ่อแม่รังแกฉัน

จุดที่ทำให้เนสต้ามองอะไรลึกซึ้งขึ้นเกิดจากอะไร? เนสต้าต้องใส่เหล็กดัดฟัน หลังจากนั้นก็ไม่กล้ายิ้ม เพราะกลัวไม่สวย แล้วเหมือนพระเจ้ากลั่นแกล้ง เธอไปปิ๊งหนุ่มหล่อที่มาเรียนการแสดงด้วยกัน มีวันนึงเต้นรำอีท่าไหนไม่รู้ เหล็กดัดฟันดั๊นไปเกี่ยวเสื้อของหนุ่มคนนั้น ต้องมาแกะ มาแงะ แสนจะอับอายขายหน้า แล้วเนสต้ายังพยายามจะเปลี่ยนตัวเอง ทำอะไรหลายๆอย่างที่ไม่ได้ชอบ เพื่อให้หนุ่ม Luke คนนั้นสนใจ สุดท้าย Luke นี่แหละที่เรียกความมั่นใจของเธอคืนมาได้ และเขาชอบที่ความเป็นตัวเธอจริงๆ ไม่ใช่สิ่งที่เธอพยายามหลอกใครๆว่าเธอเป็น (ก็เธออยากเป็นพวก deep จนเครียด)

Chapter 3 นี่ตลกมักมัก เนสต้าไปทำฟัน วิธีหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดคือต้องคิดเรื่องที่ทำให้ตัวเองมีความสุข อิซแนะนำว่าให้คิดถึงน้ำตก ดอกไม้ ปลาโลมา แต่เนสต้าคิดถึงแต่การจูบแบรด พิท น้ำหอม ชุดชั้นใน พอเธอนึกขึ้นได้ว่ากำลัง being shallow อยู่ก็รีบเปลี่ยนไปคิดเรื่องการเข้าร่วมขบวนประท้วงให้รักษาสิ่งแวดล้อม เอ…แต่จะแต่งตัวยังไงไปประท้วงดี สีเขียวหรือสีแดง จะมีคนหล่อๆร่วมขบวนประท้วงมั้ย? โอย ได้หัวเราะจนน้ำตาเล็ด

ตอนท้ายคำพูดของเนสต้าจับใจมาก จนอิซต้องออกปากว่า “That’s really deep.” จะขอยกคำพูดเนสต้ามาทั้งยวง ไม่แปลนะคะ แต่ถ้าเมื่อไหร่จะเปลี่ยนอาชีพเป็นนักแปล เรื่องที่อยากแปลที่สุดก็เรื่องนี้แหละ เอ…ตอนนี้มีใครแปลไปรึยังน้า

“I’ve been thinking about it a lot over the last few weeks. I was really worried that you all thought I was lightweight, you know, shallow, but I realized something the other night when I was at Luke’s house watching his war film. I’ll never be into heavy stuff like politics or war. I’ll never be into reading literary-type books with clever words that only brainboxes understand. But I’ve realized that it doesn’t matter. There’s room for everyone, and that includes people who are lightweight. In fact there are times people want lightweight. There’s room for all types of films, for all types of books, and for all types of people. And one sort shouldn’t make the other sort feel unworthy or inferior. This is my new philosophy. There’s a place for black and there’s a place for pink. Room for garlic and for roses. Garlic smells um…garlicky, roses smell sweet. There’s a time and place for both of them…As I said, everything has its place. Same with people. We’re all different and that’s what makes life interesting. You can’t be everything and know about everything nor can you be what you are not. Shouldn’t even try to be. Um, a rose shouldn’t try to be garlic, nor the other way round. Um..what am I trying to say? Um..that all you can be is true to yourself.”
Page 199-200


ช่างลึกซึ้งยิ่งนัก ดอกกุหลาบไม่ควรพยายามเปลี่ยนตัวเองให้เป็นกระเทียม!




 

Create Date : 04 กรกฎาคม 2548   
Last Update : 11 พฤษภาคม 2550 14:05:11 น.   
Counter : 1205 Pageviews.  

ดาวหลงฟ้า (นิยายไทย)


หลังจากเรื่องเรือนไม้สีเบจแล้วก็ไม่ค่อยได้ติดตามละครเรื่องไหน จนมาถึงเรื่องดาวหลงฟ้า ตอนที่ตัวอย่างละครออกฉาย ใจมันก็อยากจะดูซะแล้วเพราะชอบแนวชีวิตเข้มข้น นางเอกเป็นเชอรี่ที่เราเพิ่งได้ดูการแสดงของเธอจริงๆจังๆจากบทน้องมุก เขาว่ากันว่าเรื่องนี้เป็นนางร้ายในคราบนางเอก น้องมุกเนี่ยนะ? น่าสนใจแฮะ

ตั้งแต่วันแรกที่ฉายก็ติดหนึบ ดำเนินเรื่องไว เสื้อผ้าสวย มุกสองป้าก็ฮาดี ติดดาวหลงฟ้าในทีวียังไม่พอ ติดกระทู้ดาวหลงฟ้าของคุณคนตะวันออกในพันทิปด้วย เป็นกระทู้ที่รวมภาพ capture ของละครในแต่ละวันเอาไว้
ขอบคุณคุณคนตะวันออกอีกครั้ง สำหรับการอดตาหลับขับตานอนแปะรูปให้ดูกัน

ในกระดานข่าวของช่องสามเองก็คึกคักถึงแม้จำนวนข้อความไม่มากเท่าเรือนไม้สีเบจ ฮอยอันฉันรักเธอ และแต่ปางก่อนที่ทำสถิติทะลุหนี่งพันข้อความ แต่ก็เกือบถึง 1 พัน แถมยังมีแฟนละครที่น่ารักช่วยกันหาเพลง หาไฟล์ละครมาให้โหลดกันอย่างไม่กลัวถูกฟ้อง ใครฟ้องก็ใจร้ายเกินไปหน่อยล่ะ ถ้าตัวทำวีซีดีออกมาขายใครเขาจะโหลดเอาเล่า ใช้เวลาโหลดไฟล์ตอนล่ะตั้งหลายชั่วโมง จำนวนข้อความในชมรมคนรักเชอรี่ก็พุ่งปรี๊ดอย่างเห็นได้ชัด มีแต่เสียงชื่นชม มีคนชอบอั้ม อธิชาติเพิ่มขึ้นมากเพราะอิทธิฤทธิ์ของคาถา ‘รักดอม หลงดอม’ นายกก็ดู เอ่อ...ความจริงนายกก็ดูละครหลายเรื่องอ่ะนะ เพลิงพายุที่มีเสียงด่ามากกว่าเสียงชมก็ดู แต่ไม่รู้ว่านายกจะดูอยู่กับก๋งหรือเปล่า อุ๊บส์ส์ส์...

เราเป็นคนหนึ่งที่อยากรู้ว่าดาวหลงฟ้าในหนังสือกับดาวหลงฟ้าในละครมันเหมือนและต่างกันยังไง ทำไมคุณโสภาค สุวรรณคนแต่งเอง ถึงกับออกปากชมว่าทำละครได้สนุก ต้องปรบมือให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนรวมทั้งคุณจิระวิทย์ สมบัติสิริหรือเอก ลิขิตคนเขียนบทโทรทัศน์ (บทละครเรือนไม้ของคุณเอก ลิขิตก็ได้รับรางวัลมาแล้ว แต่จำไม่ได้ว่าสำนักไหน) หาซื้อเรื่องดาวหลงฟ้าแถวนี้ไม่มี เลยต้องฝากพี่ที่ทำงานซึ่งจะเข้ากรุงให้ซื้อมาให้ พี่เขาใจดีมาก ซื้อให้ฟรีๆ เพราะเป็นคอดาวหลงฟ้าเหมือนกัน ขอบคุณฮับ ซาบซึ้งซาบซึ้ง แต่รับมาเฉยๆไม่ได้หรอก เดี๋ยวเรายกเรื่องเหลี่ยมลูกไม้ให้พี่ก็แล้วกัน


ละครเริ่มเรื่องด้วยฉากอุบัติเหตุที่ทำให้แม่และสองป้าเสียชีวิต น้ำหวาน เสียโฉม แล้วค่อยย้อนอดีตสมัยเด็กที่แกล้งดอม ปล่อยแมวกัดนก
เคยมีคนบอกในพันธุ์ทิพย์ว่าละครวันแรกก็เท่ากับอ่านหนังสือไปครึ่งเล่ม ตอนนั้นเรายังคิดไม่ออกเลยว่ามันจะเป็นงั้นได้ไง หนังสือดาวหลงฟ้านี่ก็เล่มเดียวจบ แล้วละครที่เหลือเขาจะทำกันยังไง หรือมันจะเป็นละครสั้น? บ๊อดอกค่ะ (แปลว่าไม่ใช่ค่ะ) มันก็ยาวเหมือนละครทั่วไปนั่นแหละ คนเขียนบทเก่งมาก เข้าใจตัดทอน และเพิ่มเติมเนื้อหา

หนังสือเริ่มเรื่องด้วยการพูดถึงดอม ย่าหงส์ และคนในบ้านเช่นยายเปียกคนครัวและเปีย หลานยายเปียก เปียนี่ก็แสบนะ เปียในหนังสือ กับเปียในละครนี่ตรงกัน “เด็กรุ่นสาวคนนั้นที่ตัวอ้วนกลมจนดูเหมือนว่า เสื้อแสง กางกุ้งกางเกงที่สวมจะปริแตก” หน้า 1 เลือกคนแสดงได้ดีจริงๆ เปียในละครเราชอบมาก น่ารักแสดงเก่ง ย่าหงส์นี่ก็ไม่ธรรมดาเลย เคยทำงานรับใช้เจ้านายในวัง กิริยามารยาทเลยต่างจากยายเปียกคนครัว

พูดถึงเรื่องแมวหนึ่งบทเต็มๆ บรรยายแผนการของหวาน การอ้อนเพื่อให้ได้แมวมาเลี้ยงของหวาน แต่ละครไม่พูดพล่ามทำเพลงหวานหิ้วแมวมายัดใส่กรงนกเลย

คุณติ๋มเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยระดับรองศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ โอ้โฮเฮะ “บางครั้งบางคราดอมอดนึกถึงนักศึกษาในมหาวิทยาลัยไม่ได้ หนุ่มสาวพวกนั้นจะเคยปะทะกับอารมณ์และกิริยาอาการของคุณติ๋มนี้บ้างหรือไม่หนอ” หน้า 29 สองป้าเป็นครูและค่อนข้างหัวโบราณ นุ่งซิ่นตลอด ในละครปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยและมีมุกฮากระจายให้ป้ากลางพูดอังกฤษคำไทยคำ

พิชา เขามีชื่อเล่นนะจ๊ะ ชื่อ เม่น ดอมเรียกว่าคุณเม่น ส่วนยัยหวานของเราเรียกเขาว่าพิชา ม้าใช้...อันนี้ไม่มีใครรู้เพราะเธอจะต่อชื่อเขาในใจ นายพิชานี่ก็ม้าใช้จริงๆ ทำทุกอย่างเพื่อเธอ สุภาพ ไม่มีนอกลู่นอกทาง พาหวานไปผับก็ไม่สั่งดริ้งเพราะคุณพ่อคุณแม่ไม่อนุญาต ช่างเป็นผู้ชายที่หาได้ยากมากในสังคมนี้สงสัยจังว่าทำไมคุณเอก ลิขิตไม่ให้ดอมเรียกพิชาว่าคุณเม่นเหมือนในหนังสือ? ทั้งๆที่ก็เรียกคุณติ๋ม คุณไก่ได้

คุณชิดกับอำภา คนที่ให้นกกับดอมและเป็นเพื่อนบ้านกัน ก็มีบทบาทมาก ละครออกมาติ๊ดเดียว

ตอนไปบ้านพ่อ แล้วไปแผลงฤทธิ์กับพยอมน่ะ พ่อพานั่งรถไฟไปค่า

เอาล่ะ ทีนี้มาดูความสวยของน้ำหวานกันมั่ง
สวยมาตั้งแต่เด็ก born to be สวย born to be ดารา ฟันน้ำนมขึ้นได้ซี่นึงก็เป็นแบบโฆษณานมผงแล้ว สูง ขายาว เครื่องหน้าสวย มีเสน่ห์อย่างที่เรียกว่า sex appeal และที่เด่นที่สุดก็ผิวขาวอมชมพูของเธอนี่แหละ ยังไม่มีนางเอกคนไหนในนิยายเท่าที่อ่านมานี่จะมีผิวสวยเท่าน้ำหวาน ช่างแต่งหน้าก็ชมแล้วชมอีกยกให้น้ำหวานเป็นดาราที่ผิวสวยที่สุด ถ้าจะเทียบกับมิเชลล์ในฟ้าจรดทรายอาจจะสูสี แต่เล่ห์กลมารยานี่คนอื่นชิดซ้ายไปเลย ดอมบอกว่าเธอมีมารยาสองร้อยเล่มเกวียน และที่ขาดไม่ได้สำหรับนิยายของโสภาคและทมยันตีคือ กลิ่นกายที่หอมสดชื่นของนางเอก พระเอกนั่งใกล้ หรือยืนใกล้ๆนี่ต้องสูดเอาความหอมสดชื่นนั้นให้ฉ่ำปอด

ดอม---ไม่มีบรรยายความหล่อ นอกจากบอกว่าสูงเพรียว ผิวสีน้ำตาลอย่างชายแท้ เครื่องหน้าใช้ได้ ไม่เคยมีแฟน ละครเพิ่มเจนนี่กับแพรเข้ามาให้มีสีสัน นางเอกจะได้หึงนิดๆหน่อยๆ ไม่งั้นพระเอกเฉา ตอนอยู่กับนางเอกก็ไม่มีจูบ ไม่มีกุ๊กกิ๊ก ทำไข่เจียวอร่อยที่สุดในโลกอะไรนั่นหรอก
แต่รับรองได้ว่าดอมไม่ใช่เกย์
'จากกระจกบานนั้น เขาเห็นเงาสะท้อนของอัญมณีเต็มที่ เงาของผู้หญิงสวยจัดชวนให้บุรุษใดก็ตามผู้มีโอกาสยลโฉมแม้เพียงชั่วครู่ชั่วยาม ก็มิอาจถอนสายตาแลเลยผ่านไป..น้อยนักอีกเช่นกันจะไม่ฝัน ฝันให้ตัวเองเป็นบุรุษที่หล่อนจะร่มภิรมย์สมสู่ แล้วเขาล่ะ เขาที่เป็นผู้ชายธรรมดา มีเลือดเนื้อ ความปรารถนา ไม่ต่างจากใครอื่นทั้งหลาย แน่ละ...แน่ยิ่งกว่าแน่ที่เขาย่อมมีอารมณ์หวือ วูบวาบกับหล่อน มีความฝันที่ไม่ต่างจากบุรษทั้งหลาย' หน้า๓๘๑
แต่ดอมรู้เช่นเห็นชาติน้ำหวานจน แหม...มันก็เลยไม่ถึงไหนน่ะ ถามว่ารักหวานไหม แล้วรักมันคืออะไร? ถ้ารักคือการรู้ใจกันไปหมด เห็นสีหน้าก็รู้ว่าหวานคิดอะไร ดอมรักหวาน ถ้าความรักคือการไม่ยอมลงให้กัน ถ้าอีกฝ่ายทำไม่ถูก ดอมก็คงรักหวาน ถ้าความรักนั้นมีความหมั่นไส้ ไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวด้วย แต่ก็อดที่จะยุ่งไม่ได้ ดอมก็คงรักหวานอีกนั่นแหละ ดอมได้ใกล้ชิดหวาน ได้กอดครั้งแรกก็ตอนที่หวานเชือดข้อมือตัวเองแล้วดอมอุ้มลงมาจากห้อง
"ดอมโอบอุ้มร่างนั้นไว้กับอก ค่อยๆเดินลงบันไดอย่างระมัดระวัง เสี้ยวหนึ่งของความคิดบอกให้รู้ว่า หล่อนช่างบอบบางเสียเหลือเกิน ตั้งแต่เกิดโตมา ก็เพิ่งครั้งนี้แหละที่เขาได้สนิทชิดเชื้อ ถึงเนื้อถึงตัวหล่อนอย่างแท้จริง"
หน้า ๔๔๓

ส่วนหวานบอกได้เลยว่า เกลียดดอม เกลียดเข้ากระดูกดำเลย จริงๆแล้วหวานทั้งเกลียดทั้งเกรงอยู่สองคนคือยายกับดอม เพราสองคนนี้จะรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมเธอทุกอย่าง หวานไม่เคยพูดว่าไอ้บ้าดอม มีแต่ด่าว่าไอ้บ้า! ใจร้าย! เธอปากร้ายกว่านี้มาก ละครให้หวานปากร้ายมากไม่ได้ แต่ทั้งดอมและหวานน่ะ ถ้าใครซักคนไม่อยู่นี่จะรู้สึกเหงา ทั้งคู่เหมือนลงเรือลำเดียวกัน พ่อแม่หย่าร้าง ยังไงดีล่ะ ความรู้สึกของทั้งคู่ก็คงแบบว่า เออ อย่างน้อยดอมก็เหมือนเรา คุณหวานก็เหมือนเรา เพื่อนร่วมทุกข์ทำนองนี้แหละ ดอมสงสารเวทนาหวาน หวานไม่มีใคร สุดท้ายทั้งคู่ลงเอยกันเพราะความผูกพันทั้งหลายแหล่ที่ว่ามานั่นแหละ โดยไม่มีการบอกรักแสนจะโรแมนติกอย่างในละคร

สรุปว่าละครทำออกมาได้ดี ดูสนุก แต่ถ้าใครอยากรู้ความรู้สึกนึกคิดลึกๆของหวานว่าทำไมถึงโกรธ ถึงเบื่อ ถึงทำตัวน่าเกลียด เข้าใจดอมที่คอยขัดหวาน และเข้าใจตัวละครอื่นๆต้องอ่านหนังสือ ไม่แพง ของสำนักพิมพ์หรรษาเล่มละ ๗๐ แต่สะกดผิดเยอะชะมัด






ภาพจากละครดาวหลงฟ้า ไทยทีวีสีช่องสาม เมษา-มิถุนา ๒๕๔๘ captureภาพโดยคุณคนตะวันออก



พฤศจิกายน 2549
หลังจากติดหนึบละครดาวหลงฟ้าเมื่อปีที่แล้วไป ปีนี้มาติดแก้วตาพี่ ช่างบังเอิญจริงที่ละครที่เราติดหนึบ นางเอกเป็นเชอรี่ทุกเรื่องเลย
ดูละครเชอรี่เรื่องแรกก็เรือนไม้สีเบจ ชอบแนวดราม่า พระเอกดังอย่างแอนดริวอีก แต่ดูไปดูมากลับชอบเชอรี่มากกว่า

ต่อมาก็ดาวหลงฟ้า แนวดราม่าอย่างที่ชอบ เชอรี่เล่นได้ดีมาก ดังระเบิด มีละครเวที มีมิวสิควีดีโอ โอ้ละหนอมายเลิฟของพี่เบิร์ดตามมาอีก
มาปีนี้แก้วตาพี่ แหม---คนหล่อคนสวยมาเจอกัน ไม่พลาดอยู่แล้ว ภาพจากละครหาได้จากกระทู้แก้วตาพี่ที่คุณ ^OsO^ แคปไว้ให้นะคะ หรือไปที่ blog คุณ mesaya ค่ะ //mesaya.bloggang.com อิ่มอกอิ่มใจแน่ สาวกแก้วตาพี่น่ารักทั้งนั้น ช่องสามสนองความต้องการทำวีซีดีมาขายด้วย
แต่ไม่ทำดาวหลงฟ้าแฮะ ช่องสามเพิ่งมาเริ่มทำวีซีดีเรื่องแรกก็อุ้มรักแล้วก็ต่อด้วยแก้วตาพี่ นอกนั้นก็หาซื้อเอาตามเว็บนะพี่น้อง

หลายคนชื่นชมเชอรี่ ถามว่าละครเรื่องไหนของเธอที่สมาชิก pantip ชอบที่สุด
สำหรับเราต้องยกให้ดาวหลงฟ้า ความจริงก็ดูอยู่แค่สามเรื่อง อย่างที่บอก
และเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นละครที่ทำออกมาได้ดีที่สุดด้วย ผู้จัดคือคุณทาริกา เริ่มจากบทละครของคุณเอกลิขิตที่เขียนเพิ่มเติมจากนิยายอีกเยอะ และทำให้ดูสนุกขึ้น คณเอกลิขิตเขียนบทละครเรื่องเรือนไม้สีเบจด้วย
นักแสดง แสดงได้ดีทุกคน เอ่อ…เว้นไว้คนหนึ่ง ซึ่งเป็นนักแสดงหน้าใหม่ แต่ก็ให้อภัยได้ เพราะดูซื่อ(บื้อ)สมเป็นม้าใช้ของยัยน้ำหวาน
เครื่องแต่งกาย แต่งหน้าแต่งตา ยอดเยี่ยม เชอรี่เรื่องนี้ดูสวยกว่าเรื่องอื่นๆ ในเรื่องแก้วตาพี่ หลายคนบอกว่าแก้มเป็นสีชมพูเกินไป ส่วนเรื่อนไม้สีเบจดูแก่กว่าแอนดริว นักแสดงคนอื่นๆในดาวหลงฟ้าก็ดูสวยโดยเฉพาะสองป้าและคุณติ๋ม ที่ทำงานต้องเอาเรื่องเสื้อผ้ายัยน้ำหวานมาคุยกันตอนหลังละครจบ มีอยู่ชุด ที่เป็นที่กล่าวขวัญกันมาก ว่าถ้าไม่แน่จริงอย่างได้เจ๋อใส่เชียว นั่นก็คือกางเกงแดงตัวนี้


และในเรื่องดาวหลงฟ้านี่ น้ำหวานเป็นผู้หญิงมีเสน่ห์ แต่งเนื้อแต่งตัวได้เซ็กซี่ แต่ไม่โป๊ ซึ่งละครของอีกช่องแนวนางเอกร้ายเหมือนกัน แต่งเนื้อแต่งตัวให้หวอเปิด อันนี้ไม่โทษใครนอกจากคนทำละครที่ปล่อยให้ภาพนั้นหลุดออกมา
เรื่องไม่โดด เสื้อผ้าไม่โดด อย่างนางเอกจะถูกปล้ำ ผมเผ้ามันก็ต้องยุ่งเหยิง ไม่เหมือนแก้วตาพี่ที่อมิตตดาจะถูกปล้ำแต่ผมสลวยสวยเก๋จนคนดูอยากรู้ว่าใช้แชมพูอะไร หรือพี่อาร์มในเรือนไม้ ซึ่งเดี๋ยวผมสั้น เดี๋ยวผมยาว
ตัวน้ำหวานเชอรี่ก็ได้แสดงอย่างเต็มที่ นางร้ายในคราบนางเอก แรกๆนี่คนดูเกลียด หมั่นไส้ “ทำไมร้ายอย่างงี้ฟะ” ตอนท้ายหลายคนเสียน้ำตาให้เธอเพราะความสงสาร หลายคนก็สมน้ำหน้า สะใจ ทำไม่ดีไว้เยอะก็ควรได้รับกรรม

ใน pantip มีคนคิดถึงดาวหลงฟ้า เราก็เลยลองหากระทู้เก่าๆเกี่ยวกับดาวหลงฟ้ามารวบรวมไว้ และก็จัดรูปที่คุณคนตะวันออกแคปไว้เป็นกลุ่มๆ ถ้าอยากติดตามดูตามลำดับก่อนหลังในเรื่องก็ตามลิ้งไปเลยค่ะ
ผลงานเชอรี่ เข็มอัปสรในปีนี้ ชิ้นไหนชอบมากสุด
Pollนางเอกยอดนิยมของชาวpantip
ใครที่เคยไม่ชอบ อั้ม อธิชาติ แต่พอดูดาวหลงฟ้า แล้ว.......................
"ดาวหลงฟ้า" เมื่อคืน รู้สึกสงสาร หรือ สะใจยัยน้ำหวานมากกว่าครับ
วันนี้ "ดาวหลงฟ้า" สุดยอดมากๆ มันส์สุดๆ
"ดาวหลงฟ้า" นายกทักษิณ ฯ ยังติดหนึบอะ!!
วิเคราะห์ดาวหลงฟ้า แรงเพราะอะไร
แล้ว..ดาราอย่าง หวาน กับ ดร.อย่าง ปาริฉัตร พฤติกรรมใครร้ายกว่ากัน?{แตกประเด็นจาก A34875}
"ดาวหลงฟ้า"...ดราม่ารสจัด "เชอรี่"ร้อนเป็นไฟ
นางเอกเรื่องดาวหลงฟ้านี่มันเลวจริง ๆ
ถามแฟนๆละครดาวหลงฟ้า
(((( ดาวหลงฟ้า )))) พฤหัสบดีที่ 2 มิย. 2548
((( ดาวหลงฟ้า ))) พุธ 1 มิย. 48
(( ดาวหลงฟ้า )) พฤหัส 26 พค. 48
(( ดาวหลงฟ้า )) 25 พค. 48
((( ดาวหลงฟ้า ))) พฤหัสบดี 19 พค.48
((( ดาวหลงฟ้า ))) พุธ 18 พค.48
เข้ามารอ คุณ คนตะวันออก กับดาวหลงฟ้า
หวาน-ดอม ..ดาวหลงฟ้า.
"อั้ม-เชอรี่"ประชันครั้งแรก ละครเข้ม"ดาวหลงฟ้า"
เชอรี่..ดาวหลงฟ้า มันสุดๆๆ
ใครดู ดาวหลงฟ้า สนุกจัง
เพิ่งดู "ดาวหลงฟ้า" รู้สึกดีจัง
รู้สึกยังไง กับเรื่องดาวหลงฟ้า วันแรกค่ะ
ดาวหลงฟ้าตอนแรก++คืนนี้จะดูละครเรื่องอะไรกันดีค่ะ+

Collection รูปน้ำหวาน อัญมณี
ชุดแรก "งง" อะไรกันเนี่ย!!



ภาพชุด "หวานไม่ชอบ หวานเบื่อ น่ารำคาญ!"







ภาพชุด มะโหแล้วนะ







ภาพชุด โลกนี้ต้องมีผู้ชายอย่างดอม
*ภาพชุดนี้ไม่ได้จัดลำดับก่อนหลังตามเนื้อเรื่องนะคะ ทั้ง capture เองและเอารูป capture ของคุณคนตะวันออกมาจัดใหม่









ช่อง 3 เอาเรื่องดาวหลงฟ้ามาฉายใหม่ตอนบ่ายต่อจากเรื่องแรงเงา เริ่มฉายวันที่ 3 พ.ค. 2550

ดู vcd ไปอีกรอบเรียบร้อยแล้ว สนุกจริงๆ ตอนสองป้าและแม่ตาย เราก็ยังจะร้องไห้เหมือนเดิม และก็มีกำลังใจในการตามหา นายดอม ของเราต่อไป โลกนี้ต้องมีผู้ชายอย่างเธอ---

ฉากไข่เจียวที่หลายคนชอบ


นายดอม




ยายหวาน






 

Create Date : 29 มิถุนายน 2548   
Last Update : 5 มิถุนายน 2550 11:46:53 น.   
Counter : 8787 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

mrguide
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




สวัสดีค่ะ
เคยเจอปัญหา อยากจะซื้อหนังสือนิยายมาอ่านซักเล่ม
แต่ก็ไม่รู้ว่า จะซื้อเรื่องอะไรดี หรือบางทีเรื่องที่ใครๆเขาว่าดี เรากลับเห็นว่าไม่เห็นจะสนุกตรงไหน ต่างจิตต่างใจนะคะ แต่อย่างน้อยถ้ามีใครมาเล่าเรื่องให้ฟังคร่าวๆ ประกอบการตัดสินใจซื้อ หรืออ่าน ก็น่าจะดี
ก็เลยเกิด blog นี้ขึ้นมาเพื่อบอกเล่าเรื่องที่เคยอ่านมา
และเป็นเวที แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประสาคนรักนิยายค่ะ

[Add mrguide's blog to your web]