|
เริ่มแรกทำไมก็ต้อง"สุโขทัย"ก่อน
คิดว่าหลายคนคงเคยคิดกันอยู่เช่นกัน ว่า ถ้าหากจะเริ่มนับหนึ่งในการเรียนประวัติศาสตร์ ชาติไทย สิ่งที่ต้องเริ่มต้นกัน คือ การศึกษายุคสมัยสุโขทัย แล้วทำไมต้องเป็นสุโขทัยด้วย? ทำไมไม่เริ่มที่อยุธยา ทำไมไม่ศึกษาก่อนหน้ายุคสุโขทัย? ทั้งหมดนี้เชื่อว่า การเริ่มต้นในการศึกษา"ประวัติศาสตร์ชาติ"นั่น ศูนย์รวมจิตใจ ความเชื่อ ความศรัทธา จากความหลากหลายของทางวัฒนธรรมในปัจจุบัน ปัจจัยจากยุคสุโขทัย สอดรับความเป็นสังคมอุดมคติบางอย่างที่คนยุคปัจจุบันโหยหาต้องการที่ไม่อาจเป็นจริงได้ ไม่ว่าจะจากปัจจุบันและอนาคต
ทั้งที่จริงแล้ว การเริ่มต้นนับสุโขทัยเป็นราชธานีแรก (แต่จริงรึเปล่า) เพิ่งเกิดขึ้นอย่างจริงๆจังๆ ก็ช่วงในสมัยรัชกาลที่๕ อันเป็นยุคสมัยของการร่วมชาติ จากต่างกลุ่มหัวเมืองทั้งทางแถบอีสาน หัวเมืองเหนือ ตลอดจนหัวเมืองมลายู หลังจากที่ขุนนางตระกูลบุนนาคหมดอำนาจเชิงบริหารส่วน กลางลง แผนบริหารแบบร่วมศูนย์ครั้งใหญ่ (นับแต่ที่สมัยพระบรมไตรโลกนารถ) การฟื้นฟู่ประวัติ ศาสตร์ชาติให้เหนือกว่าประวัติศาสตร์ท้องถิ่นจึงมีความสำคัญ ในแง่การสร้างสำนึกร่วมในความ เป็นชาติ เป็นประวัติศาสตร์ที่มีความสมบูรณ์ในแง่อุดมคติเกือบทุกด้าน ไม่ว่า การเป็นเอกราชจาก การยึดครองของขอม การปกครองแบบครอบครัวเชิงอุปถัมภ์(พ่อปกครองลูก) เศรษฐกิจที่รุดหน้า กว่าชาติตะวันตก (การค้าเสรี) ภาษาเชิงอารย (มีอักษรใช้เป็นของชาติเอง) และอื่นๆ
แม้ว่า ถ้าให้นับกันจริงๆแล้ว กลุ่มอำนาจสุโขทัยแทบจะเป็นปฏิปักษ์กับกลุ่มละโว้อยุธยาโดยสิ้นเชิง แต่การเขียนประวัติศาสตร์ก็สอดรับกับยุคสมัยไปด้วยดีแทบจะไม่มีปัญหา อีกทั้งยังไม่รวมเนื้อหา ในศิลาจารึกที่มีข้อน่าสงสัยหลายส่วนที่ไม่สอดรับกับสภาพภูมิศาสตร์ในสมัยนั่นและยังขัดแย้งกับ ความเป็นจริงกับหลักฐานชิ้นอื่น อย่างเช่น เมืองสุโขทัยไม่ใช่เมืองที่อุดมสมบูรณ์ที่ทำนาพอเลี้ยงคน ในเมืองสุโขทัยได้ หรือ พระเดชานุภาพสมัยพ่อขุนรามที่กระจรกระจายไปถึงหัวเมืองมลายู (ซึ่งจะอธิบายในภายหลัง) แง่รูปแบบสถาปัตยกรรมอย่างมีเอกลักษณ์ ก็มีรูปแบบที่เป็นลักษณะเฉพาะ ชัดเจนโดยปรับประยุกต์ให้สอดคล้องเชิงพุทธศาสนา เช่น เจดีย์ประธานทรงดอกบัวพุ่มข้าบิณฑ์ การประดิษฐานพระศรีศักยมุนี พระพุทธสีหิงค์ อันเป็นสัญลักษณ์เชิงศาสนาพุทธ การจัดสรรชลประ ทานทางน้ำแบบคูเมืองล้อมรอบ ทั้งหมดนี้เป็นเทคนิควิทยาการที่บ่งบอกความสำนึกบางประการอีก เช่นกันถึงการเป็นกลุ่มชนที่มีการพัฒนาการด้วยตนเองหาใช่รับแต่รับวัฒนธรรมส่งนอกแบบที่ตะวันตกวิทยาเคยคิดกัน
แต่ถึงอย่างไร ยุคสุโขทัย ก็พออธิบายอุดมคติและวิธีคิดแบบไทยๆ ได้เป็นอย่างดี ทั้งในแง่ ความรักสงบ การคิดเชิงผู้ใหญ่ที่มีต่อผู้น้อย สังคมแบบเกษตรกรรม (อันเป็นภาพที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยชอบนำมาเสนอขายแพ็คเกตท่องเที่ยวเสมอมา) ยังไม่รวมพิธีกรรมเชิงวัฒนธรรมอีกหลายๆด้านที่ ถูกทำให้เป็นสัญลักษณ๋แห่งชาติ ไม่ว่าวรรณกรรมเล่มแรกของไทย อย่างไตรภูมิพระร่วง การลอยกระทงมีขึ้นสมัยสุโขทัย นางนพมาศ (ซึ่งก็ไม่ได้เกิดขึ้นจริงในสมัยสูโขทัยแต่อย่างใด) ยิ่งเขตแดน ทางอำนาจของกรุงสุโขทัยในอดีตก็ไม่เหมือนกับสุโขทัยในแง่ที่เป็นจังหวัดในปัจจุบัน จึงทำให้ประวัติ ศาสตร์ในแง่การต่อเนื่องในการรับรู้ของประชาชนมีปัญหา เรื่องสุโขทัยจึงเป็นเสมือนเครื่องสร้างสำนึก ประเภทหนึ่งทางการเมือง (แต่ก็ไม่ปฏิเสธในแง่คุณค่าไม่งั้นผมคงไม่บ้าสนใจพอสมควร) แต่เพราะ การปักหลักเลือกสุโขทัยแบบเรียนตั้งต้น จึงทำให้ละเลยประวัติศาสตร์ก่อนหน้าอื่นๆไปไม่น้อย ไม่ว่า ศรีเทพ ทวารวดี ล้านนาล้านช้าง ศรีสัตนาคนหุต ลังการสุกะ เป็นต้น และนี้อาจทำให้ผมคิดไป เองว่า วิธีแบบรวมศูนย์ทางการเมือง มันจึงทำให้คนไทยมีความคิด ความเชื่อที่ไม่อยู่บนฐานความจริง ของท้องถิ่นที่ตนอยู่เพราะไม่มีสิ่งเชื่อมตัวตนที่เป็นกับประวัติศาตร์ที่ปลูกฝังกันมา แนวประวัติศาตร์ เช่นนี้มันจึงเหมาะกับคนในเมืองที่ไม่ผูกพันกับถิ่นที่ตนอยู่กระมัง?
Create Date : 27 เมษายน 2551 |
Last Update : 27 เมษายน 2551 15:16:41 น. |
|
6 comments
|
Counter : 1501 Pageviews. |
|
|
|
โดย: แพทค่ะ (Patarawan H ) วันที่: 27 เมษายน 2551 เวลา:16:40:18 น. |
|
|
|
โดย: ดำดีสีไม่ตก IP: 68.174.142.69 วันที่: 28 เมษายน 2551 เวลา:6:16:31 น. |
|
|
|
โดย: แล้ว ศิลาจารึก พ่อขุน (snookie ) วันที่: 19 พฤษภาคม 2551 เวลา:0:59:24 น. |
|
|
|
โดย: แล้ว ศิลาจารึก พ่อขุน (snookie ) วันที่: 19 พฤษภาคม 2551 เวลา:1:00:18 น. |
|
|
|
โดย: แล้ว ศิลาจารึก พ่อขุน (snookie ) วันที่: 19 พฤษภาคม 2551 เวลา:1:00:18 น. |
|
|
|
โดย: ครูสังคม IP: 118.173.134.191 วันที่: 28 มกราคม 2552 เวลา:22:56:21 น. |
|
|
|
| |
|
|