A ........ Z
Group Blog
 
All blogs
 
ศิลาจารึกพ่อขุนรามทำเองแค่๑๗บรรทัเเท่านั้น



ถ้าให้ประเมินมูลค่าว่า วัตถุโบราณชิ้นใด มีค่ามากที่สุดสำหรับประวัติศาสตร์
ชาติไทย? คงเป็นคำถามที่ยากที่สุดข้อหนึ่งในประเทศ เพราะคำตอบมันถูกกำหนด
มาแต่ต้นสำหรับวัตถุโบราณของชาติว่า "ประเมินค่าไม่ได้" (Difinited Valua)
แต่ดูเหมือนตามหลักเศรษฐศาสตร์สากล ไม่มีอะไรที่มนุษย์จะตีราคาค่างวด
ไม่ได้ แม้แต่ชีวิตมนุษย์ก็ยังสามารถมีสูตรหลักคำนวน อายุการทำงาน ระดับ
การศึกษา รายได้ปัจจุบัน รายได้วัยเกษียณ มูลค่าความเสียหาย เท่ากับ
ค่าเสียหายที่ต้องจ่าย ได้ฟังแล้วก็อึ้งไปเหมือนกัน แต่เมื่อโลกความเป็นจริง
เป็นเช่นนี้ ผมคงเพียงตายอย่าเป็นผีไร้ญาติก็น่าจะเพียงพอ

แต่ผมกล้าฟันธงฉับๆ ว่า หลักศิลาจารึก น่าจะเป็นคำตอบต้นๆ ของใครหลายๆคน
เพียงแค่ความเก่าแก่ (ที่มีการตั้งคำถามว่าจริงรึไม่?) ก็เป็นภาพที่ปรากฎในใจไม่น้อย
ถึงแม้ว่าเราจะอ่านมันไม่ออกหรอกที่บันทึกไว้ว่าอย่างไร แต่เมื่อนำไปผูกับความ
เป็นชาติแล้ว คงต้องยอมรับว่ามันยิ่งใหญ่ไม่น้อยในสำนึกของคนไทยหลายๆคน

สมัยที่ผมยังได้รับการอบรมสั่งสอน จากสถาบันการศึกษา อาจารย์ท่านหนึ่งเคย
เล่าว่า "ช่วงกระแสอาณานิคมอันเชี่ยวกราด ที่ฝรั่งมั่งคากำลังเป็นนักช้อปปิ้ง
อธิปไตยชาวบ้าน ประเทศสยามเป็นสินค้าชั้นเลิศที่หลายประเทศต้องการ
ไม่ว่า อังกฤษ ฝรั่งเศส ฮอลันดา โปรตุเกส ล้วนอยากใจจะขาด หาเรื่องประ
เทศสยามเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเพื่อนบ้านที่มีตะวันตกเป็นเจ้าอาณานิคม
อีกที มีความพยายามขุดตำนานนั่น โน่น นี้ สารพัดที่จะมาได้ มาอ้างความชอบ
ธรรมในการรุกราน แต่แล้ววันดีคืนดี รัชกาลที่๔ (ยังออกผนวกอยู่) พบหลักศิลา
จารึกเข้าเป็นหลักฐานชั้นเลิศที่แสดงว่าสยามเป็นชาติที่มีอารยะ มีการปกครอง
ที่มีเป็นธรรม มีการค้าเสรีก่อนประเทศยุโรปเสียอีก หลักฐานตำนานที่พวกตะวัน
ตกถือกลายเป็นสิ่งที่ไม่มีความน่าเชื่อถือไปในบัดดล ศิลาจารึกจึงกลายเป็น
เครื่องชิ้นดีชิ้นหนึ่งที่รักษาเอกราชเอาไว้ได้ หาใช่เพียงแค่การคานอำนาจกับ
ฝ่ายยุโรปเพียงอย่างเดียว" สิ่งผมเองก็เห็นด้วยตามนั่นมันเลยเป็นข้อสงสัยข้อหนึ่ง
ในหลายๆข้อ ที่ตั้งคำถามถึงความเก่าแก่ของศิลาจารึกชิ้นนี้

แต่หลักศิลาจารึกหลักที่๑ ของพ่อขุนรามคำแหง น่าจะเป็นที่รู้จักกันดี สิ่งที่ผมอยาก
จะมาอธิบายในที่นี้คือ หลักศิลาจารึกหลักที่๒ วัดศรีชุม ที่ผมมักอ้างมาตั้งแต่ต้น
ในการอธิบายประวัติศาสตร์ในยุคพ่อขุนบางกลางหาว (พ่อขุนศรีอินทราฑิตย์)
ว่าให้ง่ายเข้า หลักที่๑ว่าด้วยอุดมคติแบบสุโขทัยแบบกว้างๆ เช่น การปกครองพ่อ
กับลูก ใคร่ค้าก็ค้า น้ำมีปลานามีข้าว ส่วนหลักที่๒ ว่าด้วยข้อมูลเชิงลึกขึ้น
ถึงสายสัมพันธ์วงศ์กษัตริย์ รายละเอียดต่างๆ และไม่ได้ทำขึ้นจากพระประสงค์ของ
พ่อขุนรามคำแหงแต่อย่างใด แต่จากใครนั่นจะมาขออธิบายให้ทราบกัน

ถ้าพูดถึงศิลาจารึกร้อยทั้งร้อยทุกคนจะคิดถึง ศิลาจารึกของพ่อขุนรามฯ
เป็นแน่ แต่พอเอ่ยศิลาจารึกหลักที่๒ แห่งวัดศรีชุม แม้ผ่านการค้นพบของ
นายพลโท พระยาสโมสรสรรพการ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๐ พบในอุโมงค์วัด
ศรีชุมครั้นมีการตรวจตราเมืองสุโขทัย วัดศรีชุมเป็นวัดสำคัญตั้งอยู่นอก
กำแพงเมืองทางตอนเหนือ สร้างความตื่นเต้นไม่เว้นแก่ศ.ยอร์ช เซเดส์
เพราะถือเป็นการอธิบายหน้าประวัติศาสตร์สุโขทัยครั้งสำคัญนับแต่
ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง เท่ากับเป็นการสืบโคตรตระกูลพระร่วงและ
เป็นตัวต่อทางประวัติศาสตร์ในเหตุการณ์อันเกี่ยวเนื่องอื่นๆต่อไป

เมื่อเทียบความเก่าแก่กับศิลาจารึกหลักพ่อขุนราม ศ.ประเสริฐ
ณ นคร เชื่อว่าจารึกขึ้นในสมัยพระยาลิไท ผมคิดว่าหลายคนคงไม่
ทราบว่า จารึกพ่อขุนรามคำแหงนั่น ไม่ได้จารึกเสียทั้งหมดในสมัย
ท่าน เอาเข้าจริงสมัยพ่อขุนรามฯจริงๆ มีการจารึกเพียง ๑๗ บรรทัด
แรกเท่านั่น จากนั่นมีการเพิ่มเติมอีกทีในสมัยพญาลิไทจนครบทั้ง
๔ด้าน สำหรับศ. เซเดส์ มองจารึกศรีชุมน่าเก่าแก่แบบสมบูรณ์กว่า
สมัยพ่อขุนรามเสียอีก เพราะสันนิษฐานว่าจารึกของศรีชุมทำขึ้นสมัย
พ่อของพญาลิไทเสียอีก (จนมีนักประวัติศาสตร์บางคนมองว่าการทำ
ศิลาจารึกเป็นการแข่งบารมีกันระหว่างลูกพี่ลูกน้องกัน) จารึกหลักที่
๒วัดศรีชุม ว่าด้วยเรื่องการสรรเสริญสมเด็จพระมหาเถรศรศรัทธาราช
จุฬามุนีรัตนลังการทีปมหาสามีเป็นเจ้า ส่วนท่านผู้นี้มีความเกี่ยวพัน
อย่างไรกับพ่อขุนผาเมือง พ่อขุนรามคำแหง แรงดลใจการทำศิลาจารึก
เพื่ออะไร ออกบวชด้วยเหตุทางการเมืองรึไม่ คงว่ากันยาวๆในคราวต่อไป





Create Date : 14 เมษายน 2551
Last Update : 14 เมษายน 2551 17:16:16 น. 4 comments
Counter : 1105 Pageviews.

 
มีความสุขวันสงกรานต์นะค่ะ






โดย: Imaginewing วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:18:57:59 น.  

 
ขอบคุณ จ๊ะ ที่นำความรู้มาฝาก

สุขสันต์ สงกานต์ มากมายนะ


โดย: บ้าได้ถ้วย วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:21:59:02 น.  

 
อยากได้แบบภาษาในนั้นอ่ะ

พร้อมคำแปลด้วย

มีไหม??


โดย: นุ้ก IP: 125.26.55.77 วันที่: 7 สิงหาคม 2551 เวลา:17:38:08 น.  

 
เว๊บไรนิ


โดย: kuy1 IP: 61.7.147.60 วันที่: 27 กรกฎาคม 2552 เวลา:8:58:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mr.Chanpanakrit
Location :
สงขลา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]




Friends' blogs
[Add Mr.Chanpanakrit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.