A ........ Z
Group Blog
 
All blogs
 
ประเมินสถานภาพการเงิน หลังตะล่อนงานมหกรรมหนังสือนานาชาติ ครั้งที่๑๕


ทั้งๆที่ ศูนย์ปฏิบัติการช้อปปิ้ง หรือ ย่อๆว่า ศอช.
ควรจะเกิดตั้งแต่เมื่อวาน เมื่อเข้าสู่หมวดปฏิบัติการนับสตางค์ในกระปุก
ปิดประตู ล็อกห้อง และคิดบัญชี
เป็นบัญชียอดสุทธิและประเมินการสรุปแผนเป้าหมายเป็นเล่มๆ
เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับ "งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่๑๕"
ที่มักจัดขึ้นทุกปลายเดือนตุลาคม ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
จึงต้องปรับวิชาและบริหารความอยาก ร่ายกำหนดแผนนโยบายปลายเดือน
เพื่อมิให้การอ่านไปมีผลกระทบต่อภาวะอิ่มมื้อ ที่สั่นคลอนในทุกๆสิ้นเดือน
ยิ่งรัฐบาลสนับสนุนให้การอ่าน เป็นวาระเเห่งชาติ
อนุมัติให้นำค่าใช้จ่ายในการซื้อหนังสือและสื่อส่งเสริมการอ่าน
เพื่อบริจาคแก่สถานศึกษา มาหักเป็นค่าใช้จ่ายได้สองเท่า (แต่ไม่เกินสิบเปอร์เซ็นต์)
และยกเว้นภาษีเงินได้ให้กับนิติบุคคลสำหรับเงินได้ที่จ่ายเท่ากับ
จำนวนเงินหรือมูลค่าทรัพย์สินร้อยเปอร์เซ็นต์ของรายจ่ายที่จ่ายไป
นั้นย่อมหมายความว่า บุคคลผู้เข้าข่ายสามารถหลีกเลี่ยงภาษีอย่างถูกกฎหมายได้
แบบไม่ต้องทำตัวเป็น "ชายเกาะโน้นทีนี้่ที"
เท่ากับเป็นการขยายช่องทางเพือ่เพิ่มปริมาณผู้ซื้อในตลาด
ที่เดิมที ก็แอดอัดยัดเยียดเบียดเกินสองพอตัวอยู่แล้ว ให้มากขึ้นไปอีก





เลยได้ตั้งนาฬิกาปลุกชิงความได้เปรียบแต่เช้า
ด้วยยังอยู่ในช่วงเปิดมหกรรมอุ่นๆ สื่อสารมวลชนยังไม่กระพรือข่าว
ให้เป็นที่เกรียวกราด ส่งเสริมปริมาณอัดผู้ช้อปลงฮอล์ล
และหลายสำนักมุ่งเสนอแต่ข่าวน้ำท่วมที่กลบข่าวอื่นซะมิด
ด้วยเมื่อวาน อบอุ่นร่างกายผิดวิธี ปรารถนาดีเป็นการส่วนตัว
หวังจะระบายกองจากหุบเขาหนังสือในงานฯ ในหลายครั้งก่อนๆ
โดยคิดมงคลว่า เอาสักหน้าสองหน้าก็ยังดี
เพื่อเป็นสัญญาณว่า ได้บรรเทาปริมาณหน้าจากครั้งก่อน
ให้แลดูพร่องลงไปบ้าง อย่างน้อยๆก็ช่วยสร้างกำลังใจในการซื้อเข้าบ้าน
แต่ด้วยเกียรติ์ของคุณชายสายเสมอ ผิดวิสัยของการตื่นเช้า
ประกอบกับอัตราการเร่งของกล้ามเนื้อลูกกะตา ที่จำต้องเร่งกวดเกินอารมณ์ชิวล์ๆ
มีผลสะกดให้พล่อยหลับไปอย่างไม่ตั้งใจ พอตื่นขึ้นมาได้อีกที ก็ล่อไปสักบ่าย
จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนมาตราการบางอย่าง
ให้วันเสาร์เป็นวันแห่งการนอนไปซะ แล้วค่อยไปเริ่มต้นใหม่ในวันพรุ่งนี้แทน



และแล้ว วันนี้ก็เป็นผลสำเร็จ
สิ่งใดที่กองมาแต่เดิม สิ่งดังกล่าวก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของตถาคต
มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และกองต่อไป
ไม่กล้าไปฝืนธรรมชาติตัวเอง เพราะเกรงว่าจะเป็นเช่นวันวาน
พร้อมกับการตั้งกฎเกณฑ์เฉพาะตามแบบแผนบัญชี
ที่เคยประสบมาจากงานหนังสือฯครั้งก่อน เพราะเชื่อจากประสบการณ์ว่า
การถนอมแรง ยังไม่สำคัญเท่ากับการถนอมตังค์ไว้กินบำนาญปลายเดือน
กฎศักดิ์สิทธิ์ ที่ตั้งขึ้นเพื่อถนอมตัว มีดังว่า

ก) หนังสือหมายหัว ที่วางแผนจะจัดซื้อ ทั้งจากงานหนังสือฯครั้งกอ่น และ
ผ่านตาแต่ไม่สู้ราคาจากร้านหนังสือทั่วไป ครั้งนี้ตั้งไว้ที่ ๕ เล่ม
แต่ละเล่มก็ล้วนแล้วแต่มีราคา ก็หนักหนาเอาการอยู่
ข) หนังสือตายดาบหน้า จะเป็นบรรดาพวกหนังสือออกใหม่
ที่นอกเหนือจากการทำการบ้านล่วงหน้า ตั้งไว้เพียงแค่ ๒-๓ เล่ม เท่านั้น
ถ้ามากไปกว่านี้ ก็ค่อยไปโยงเข้ากับ ข้อ ก ในงานหน้าละกัน
ค) หนังสือในกองกะบะ กองลดราคา
และหนังสือเก่าจนมีส่วนลดเกิน๒๐เปอร์เซ็นต์ อันนี้ตั้งไว้ที่ยอดพันบาทถ้วน
ถ้ามากไปกว่าที่วางไว้ ก็อัญเชิญหนังสือเหล่านั้น กลับไปยังที่ๆเคยหลั่นล้าต่อ


เพราะเข็ดขยาดการใช้กิเลสอาสวะ เป็นเครื่องชักนำอย่างไร้ทิศทาง
ผลสุดท้ายที่ตามมา คือ เข้าสู่ภาวะล้มละลายชั่วคราวและมีกองภูเขาย่อมๆให้แสลงใจ






และดูเหมือนว่า การตั้งเงือ่นไขข้างต้นทำท่าว่าจะได้ผล
ปีนี้ เท่าที่สังเกตโดยภาพรวม ความเป็นมหกรรมนานาชาติ
ที่มีชนร่วมแจมหลายชาติ ดูจะจางลง
แต่จะไปมีตลาดจากสำนักพิมพ์เจ้าใหม่ มาเปิดบู้ธลงตลาดมหกรรมฯกันมากขึ้น
โดยเฉพาะหนังสือเเปลจากจีนแผ่นดิน ดูจะหนาตาขึ้น
แต่จะหนักไปในทางสยองขวัญหรือไม่ก็สืบสวนอิงประวัติศาสตร์
พูดให้เข้าทาง เพราะเตรียมมาเพื่อสอย งานชุด "ตี๋เหรินเจี๋ย นักสืบคู่บัลลังค์"
ความที่สนุกไม่เลิก กับงานภาพยนตร์ที่มีพี่หลิวเต๋อหัวเล่น
แต่ดันไปติดกับความอลังการงานจอ เลยทำให้พล็อตสืบสวนดูจางลง
ครั้งนี้จะซื้อให้ครบชุดสี่เล่ม ก็เกรงว่าจะทำให้ค่าเงินหยวนแข็งตามสกุลดอลลาร์
จึงขอลองวิชา เพียงสามเล่ม ที่มีตอน สกัดแผนโค่นอำนาจบู๊เช็คเทียน
ตอน ปราบกบฎเสอหลิง และตอน ไขปริศนานิกาชุดดำ เอาไว้ก่อน
แปลโดย "เรืองชัย รักศรีอักษร" ที่ชื่อนี้คนไทยหน้าจีน แต่อ่านจีนไม่ออก
การันตีในงานแปลได้ เมื่อไปคว้างานของค่ายมติชนแล้ว
อีกเล่มที่วางมือไม่ได้ ในฐานะที่ติดตามสายข่าวทหาร "วาสนา นาน่วม"
กับ "ลับ ลวง เลือด" ที่ถือว่าเป็นงานตระกูลลับ ลวง พราง เล่มที่สี่ของค่ายมติชน
งานมหกรรมหนังสือฯเพิ่งจัดได้สามวัน แต่ทว่า ลับ ลวง เลือด
ถูกมาจัดพิมพ์เป็นครั้งที่สี่เข้าไปแล้ว แม้ว่างานหนังสือฯครั้งนี้
แนวการเมืองดูเหมือนจะไม่เปรี้ยงปร้าง ไม่รู้ว่าจะด้วยกระแสเบื่อสี เบื่อพรรครึเปล่า
จึงเป็นเหตุให้ลับ ลวง เลือด มีคนต่อเข้าคิวซื้อแบบหัวเคาท์เตอร์ไม่แห้ง
ด้วยคู่แข่งการเมืองเจ้าอื่น ไม่ขอท้าประชันในเวทีงานมหกรรมครั้งนี้
ส่วนคุณวาสนาเอง จะมาแจกลายเซ็นต์ ก็วันศุกร์ที่ ๒๙ เป็นอะไรที่น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน
และเล่มสุดท้่ายของบู้ธนี้ เป็นงานเล่มล่าสุดของคอลัมภ์ฟ้าดฟู้ดธุรกิจ
"คำถาม สำคัญกว่า"
เหตุที่ต้องซื้อ เพราะใน Facebook ของพี่ "หนุ่มเมืองจันท์"
แกขยันขายของเสียจน เสร็จลูกตะล่อมของแกทุกที แต่จริงๆ แล้ว
ก็สะสมให้ครบเซท เพราะดันไปตอบคำถามหน้า facebook ของแกไม่ถูก
ก็ใครมันจะไปรู้อะน้อว่า หวยสองตัวท้ายมันจะไปออกอะไร
เพราะงานนี้ระบบของการเล่นโต้ด ไม่อยู่ในกติกาที่แกตั้งขึ้นด้วยสิ
และทำท่าว่า โควต้าหนังสือกองกระะบะ ได้หดหายไปตั้งครึ่ง
ด้วยกระบะหนอยๆของค่ายมติชน มีหนังสือที่ชื่อ "ทุน" เล่มหนึ่งและสอง
เป็นงานกึ่งเซยิดให้กับ ศ ผาสุก พงษ์ไพจิตร" ลดตั้งห้าสิบเปอร์เซ็นต์
ชนิดที่มองได้อีกด้านว่า หากซื้อเต็มราคาหนึ่งเล่ม เหมือนได้ฟรีอีกหนึ่งเล่ม
คิดแบบนี้ ก็เข้าทางกระเป๋าขาออกโดยทันใด
เด็กคิดเงิน มันคงงงๆ ว่าพี่ท่านนี้ แกคงสะสมถุงพลาสติก
เพราะเดี๋ยวก็จ่าย แว้บกลับไป ก็คว้าหนังสือมาอีกเล่ม แล้วก็แว้บกลับไปอีก





หมดเวลากับบู้ธมติชนพอสมควร กลัวบู้ธค่ายสำนักพิมพ์อื่นจะน้อยใจ
เลยเดินออกจากโซนพลาซา เลาะไปฝั่งข้างเคียงบริเวณ C1, C2และ Main Hall
ซึ่งโดยส่วนใหญ่ มีเจตนาตรงไปยังร้านประจำ อย่าง เคล็ดไทย,คบไฟ,มูลนิธิเด็ก
ปาเ จรา,ไทยเดย์,จุฬา,ธรรมศาสตร์,วิญญูชน,สุขภาพ,สวนเงินมีมาและเนชั่น
แต่ไปเสร็จ แบบได้ทั้งใบเสร็จและหนังสือติดมือมา ก็ในส่วนของบู้ธ เคล็ดไทย
ที่ไปซื้อหนังสือที่ตัวเองเคยซื้อแล้ว ที่ชื่อ
"พุทธศาสนาไทยในอนาคต ของพระไพศาล วิสาโล"
ด้วยเล่มก่อนหน้านั้น ได้นำไปถวายพระที่เป็นกัลยาณธรรม
เท่าที่สังเกต หนังสือธรรมะครั้งนี้ ไม่เปรี้ยงปร้างแบบบรรลุแท่นพิมพ์เหมือนครั้งกอ่นๆ
อย่างมากสุด ก็แค่นำเล่มเก่าๆที่เคยมีลิขสิทธิไว้ มาพิมพ์ต่อ
แล้วไปสอย "ธรรมะกับการเมือง ของพุทธทาส" ในบู้ธสุขภาพใจ ด้วยราคาที่ไม่แพง
ติกเลขหนึ่งไว้ในหมวดข้อ ค ไป
ซึ่งหมวดนี้ก็มีงานของ "อ.สุวินัยที่เขียนถึง อ เสกสรรค์"
คล้ายๆเป็นงานเซยิด เล่มไม่หนาเท่าไร พว่งด้วย "คนกับเสือของ อ เสกสรรค์"
ที่ซื้อมาด้วยไม่รู้อารมณ์ไหน ต้องโทษการจัดวางหนังสือที่เข้าหลักฮวงจุ้ยพอดี
ส่วนบู้ธเนชั่น ก็ได้หนังสือของแอนเดอร์สัน
ที่เคยรีวิวไว้ในบล็อกตอนที่ยังไม่มีแปล
ในชื่อว่า ฟรี
อารมณ์ประมาณเดียวกับที่แกเคยเขียนเรือ่ง Long Tail
ยังไม่พ้นความเป็นนักสังเกตรูปแบบการตลาดที่หลบซ่อนในโลกไอที
ว่าจะซื้อดีวีดี Zen 2010 แต่คิดว่าดูผ่าน youtube ดูจะง่ายกว่านะ
เก็บตังค์ไว้ซื้อหนังสืออื่นต่อดีก่า
ไปได้หนังสือที่เล็งกะว่าจะซื้อ ในหมวด ก คือ "ความหวัง ความฝัน แรงบันดาลใจ
๑๐๐ ผู้นำวิสัยทัศน์แห่งศตวรรษที่ ๒๐ (Visionaries: The 20th Century’s
100 Most Important Inspirational Leaders)"
ประมาณว่า ถ้ามาซื้อในงานคงได้ส่วนลดที่เยอะกว่า
และกำลังอยู่ในช่วงปรารถนาแรงบันดาลใจของการมีชีวิตอยู่อย่างแรง





จนกระทั่งบ่ายแก่ๆ ทรัพย์ก็ค่อยๆทรวบกับบู้ธ โพสต์บุ๊ค
เพราะหมวดหนังสือของเขาเข้าตา พอให้ลืมกฎบัญญัติหัวรุ่งเกือบทุกข้อ
เริ่มต้นก็ "คนเหนือคน super seal" อันนี้ติดใจจากกองทัพไม่ทราบฝ่าย
ตอนช่วงขอคืนพื้นที่ราชประสงค์ ที่ทำให้พี่กี้จึงมีเวทีแห่งนี้ให้มีพี่เลี้ยงไว้คอ่ยเสี้ยมสอน
และชื่อคนเขียน เป็นเหตุให้ซื้ออย่างแรง เพราะเป็น "วาสนา นาน่วม"
นักข่าวอาวุโสประจำของหนังสือพิมพ์ค่ายนี้
ตอ่ด้วย "ประวัติย่อการเมืองไทยในรอบทศวรรษ" ที่ชื้อก็เพราะคุณจ้อย นรา
เชียร์แนะนำผ่าน facebook อีกคน ริจะเรียนลัดการเมืองไทยในรอบทศวรรษ
ทั้งๆจะว่าไป เรื่องการเมืองก็ตามติดผ่านค่ายมติชน ตั้งแต่มีสัปดาห์งานหนังสือครั้งแรกๆ
และ รู้ทันทักษิณ ของค่ายสำนักพิมพ์ขอคิดด้วยคน เอาเป็นว่ามีไว้ก่อน
ประโยชน์ตามมาทีหลัง ค่อยมาว่ากัน เป็นว่า กฎข้อ ข ก็ส่งสัญญาณแดงเต็มพิกัด
เหลือตอนนี้ได้แค่หนังสือใหม่ กับ หนังสือลดอย่างหนักเท่านั้น
ทำให้ต้องรีบชิง เล่มอื่นๆของค่ายนี้เอาไว้กอ่น
ดีนะว่า ทนพิษการรอคอยไม่ไหว จึงได้สอยหนังสือค่ายนี้ตามร้านทั่วไปก่อนหน้า
ไม่คอยได้อดทนรอเหมือนเมื่อกอ่นๆ เก็บไว้อั้น หวังจะมาระเบิดงานนี้งานเดียว
แต่ไม่วาย ที่เผอิญไปซื้อราคาเต็มทีไร ต้องอดที่จะเอาเครื่องคิดเลข
มาคิดในอัตราส่วนลดของงานหนังสือฯเสียทุกที




กลายเป็นว่า โควต้าหนังสือจากกองกะบะครั้งนี้ ไม่คอยน่าสนใจ
และอีกด้าน มีปริมาณส่งเสริมการลดน้อยลงกว่าทุกๆคราว
หรือจะโดนนักสอยมือเติบจากเขตภูธร ที่แบกกระเป๋ารถเข็นอย่างที่เคยสังเกต
ในงานสัปดาห์หนังสือ ฯ เมื่อต้นปี ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง
หวังว่าอุทกภัยที่เกิดขึ้น คงไม่กวาดเหล่าบรรดาหนังสือกองโปรดของพวกท่าน
หรือยกขึ้นหนีน้ำได้ทันเวลา ได้แต่อธิษฐานจากเพื่อนนักอ่านด้วยความบริสุทธิใจ
แวะไปดู almanac ปี ๒๐๑๑ ที่ร้าน asiabook ว่ามารึยัง
เพราะอยากจะเห็นหน้าสี่สีตรงกลาง ที่ฝรั่งเขาจะรวบรวมเหตุการณ์สำคัญของโลก
ซึ่งน่าจะมีการยึดพื้นที่คืนจากกลุ่มคนเสื้อแดง แต่ซุ้มเขตเพลนนารีฮอล์อเป็นอะไรที่
ต้องอาศัยแก๊สน้ำตา และฝูงสลายการชุมนุมสักสิบกองร้อย
จึงพอจะเดินเข้าไปได้ พูดง่ายๆกว่านั้น คือ โคตรเยอะ ได้ไม่คุ้มเสีย
สู้ไปหาอาหารเวฟแกะกล่อง หาที่นั่งพื้นทำเป็นสถานที่ปิคนิค
แบบที่พ่อ แม่ลูก ครอบครัวอื่นๆ เขาปฏิบัติกันกองเกลื่อน
ไม่ต่างจากม็อบที่รอแกนนำปราศรัยเอาสักเลย



สรุปปฏิบัติ ศอช. ครั้งนี้ เมื่อเทียบไตรมาสก่อนของงานมหกรรมหนังสือฯ ครั้งที่ ๑๔
แน่นอนว่า ทรัพย์กระจายตัวเรี่ยราดกว่าเดิมเยอะ ถึงเยอะมาก
ละเมิดญัตติข้อ ก อย่างชัดเจนหลายเล่ม ซึ่งกระทำด้วยเหตุ "บันดาลตะกละ"
มารู้สึกตัวอีกที ก็จำเป็นต้องมีคำสั่งฟ้าผ่าในใจ ให้ต้องระงับเหตุสลายช้อป
เข้ากลับสู่พื้นที่กรมกอง ส่งอำนาจไปให้กรมบัญชีกลาง
ทำการโยกงบดุลข้อ ค มาโปะเเก้ตัวเลขงบแดงโหล้ในข้อ ก
ส่วนข้อ ข บรรลุตามที่ได้รับมอบหมาย และไม่มีการเคลื่อนที่งบส่วนนี้
ตั้งแต่อยู่ที่พิกัด C1 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนที่เหลือ จากนี้ คือ การประคองชีวิตให้อยู่รอดและทำการระบายหน้าที่เหลือ
จากหนังสือกองดองที่มีฝุ่นปกคลุมหนาและยักใยขึ้นเป็นบริเวณกว้าง
งบนอ้ยไม่ควรออกจากฝั่ง (หน้าบ้าน) ในระยะหนึ่งถึงสองวันนี้
จนกว่าเงินเดือนจะเข้าบัญชีในอีกวัน
ทำไงได้ ก็ดันเสพย์ติดจากฤทธิ์ของการอ่านเรื้อรังและยังรังควาญ
แม้ท่าน อัลเฟรด ลอร์ด เทนนิสัน จะเคยขู่ฟ่อๆว่า

knowledge comes but wisdom lingers .


........






Create Date : 24 ตุลาคม 2553
Last Update : 25 ตุลาคม 2553 17:34:48 น. 8 comments
Counter : 697 Pageviews.

 
งบกระจัดกระจายมากเลย
เราเองก็ต้องคุมงบส่วนตัวอย่างหนัก
ปฎิบัติการรอบแรก สูญเสียไปพันกว่าๆ
ยังคิดในใจต่อไปว่า จะมีรอบ 2 ได้อีกหรือไม่


โดย: นัทธ์ วันที่: 24 ตุลาคม 2553 เวลา:21:51:56 น.  

 
ค่าสนองกิเลสทั้งสิ้นในเวลา 2.5 ชม. คือ 2.8 พันบาทค่ะ
แต่จะไปเดินอีก +555


โดย: midnite-angel วันที่: 25 ตุลาคม 2553 เวลา:11:09:28 น.  

 
ปีนี้บู๊ทมติชนดูน่าสนใจสุดเลยค่ะ ได้มาหลายเล่ม โปรโมชั่นก็ดีจนต้องตัดกิเลสไม่ซื้อติดมาด้วยทุกเล่มที่อยากได้ เฮ้อ


โดย: TaMaChaN (narumol_tama ) วันที่: 25 ตุลาคม 2553 เวลา:12:10:16 น.  

 
อยากเห็นรูปหนังสือที่ซื้อมาจังค่ะ


โดย: PULLPE' วันที่: 25 ตุลาคม 2553 เวลา:14:23:10 น.  

 
นัธท์>>>ก็อกแรกก็ทำท่าว่าจะแย่อยู่นะครับ
ถ้าก็อกสองนี้ ถ้าต้องเรียกว่าช่างประปาโดยพลันสักแล้ว

midnite-ange>>อัตราไอโซโทปการเงินของคุณ คือ ครึ่งชั่วโมงละห้าร้อยห้าสิบบาท สูงมิใช่เล่นเลย
นะขอรับ


TaMaChaN >>นั่นสิครับ เมื่อก่อนเป็นมติชน ต่อมาเป็นมติชม ตอนนี้เป็นมติช้อปส์สักแล้ว กรรม


PULLPE'>>ว่าจะเก็บไว้เป็นแบบยื่นเสียภาษีแนบท้ายนิติบุคคลล้มละลายนะท่าน







โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 25 ตุลาคม 2553 เวลา:15:33:47 น.  

 
คุณchanpanakrit มีการวางแผนดีจังเลยค่ะ

มีการจัดแบ่งหนังสือที่จะต้องซื้อเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน

แบบนี้เป้าหมายก็ไม่กระจัดกระจายดีค่ะ

งบประมาณก็ไม่ขาดดุล ให้ต้องมากลุ้มใจ ดีจังค่ะ

อ่านดูแล้วบรรยากาศคงคึกคักเหมือนทุกๆปีนะคะ

เห็นว่ามีน้องหนูวัยใสคอยทำหน้าที่เชิญชวนให้ซื้อหนังสือด้วยใช่ไหมคะ

อ่านเจอบอกว่าบางสำนักพิมพ์มีการเก็บตัวติวเข้ม

อย่างกะคัดตัวนางสาวไทยเลยล่ะค่ะ

ดีนะคะ ทำให้บรรยากาสคึกคัก ไม่ขรึมขลังเกินไป



โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.5.243 วันที่: 25 ตุลาคม 2553 เวลา:15:48:13 น.  

 
งานแบบนี้ดิฉันอยากไปล้มละลายชั่วคราวมากๆ ปีหน้าปลายเดือนมีนา มีอีกงานใช่ไหมคะ รับรองขนกลับมาอ่านกระเป๋าแฟบแน่ๆ


โดย: settembre วันที่: 25 ตุลาคม 2553 เวลา:17:07:42 น.  

 
ทำไมตัวหนังสือแปลกๆ อ่านยากมากเลยค่ะ เง่อ....

หมดไปมิใช่น้อยเหมือนกันค่ะ

สำนวน...สุดยอด 555+


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 26 ตุลาคม 2553 เวลา:13:14:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mr.Chanpanakrit
Location :
สงขลา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]




Friends' blogs
[Add Mr.Chanpanakrit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.