|
|
คนเล็ก งานอดิเรกใหญ่:ชายตาพิการผู้ดันไปพบอะตอม
นึกถึงสมัยเด็กๆ ที่ยังคงเรียนหนังสือหนังหาอย่างคร่ำเคร่ง
อันด้วยองค์ประกอบสองอย่าง คือ ไม้เรียวของคุณครู กับ ก้านมะยมของคุณแม่
เวลาส่วนใหญ่ที่หมดไปกับห้องเรียน จะเต็มไปด้วยลายเส้นที่เลอะเทอะ
อันเกิดจากจิตวิญญาณทางศิลปิน ที่อุตริคิดไปเองโดยการส่วนตัว
หาได้ซึมซาบอันใดไม่ในหัวสมอง หนังสือเรียนของผมจึงได้รับการโอดครวญจากน้องที่
ต้องรับช่วงสืบทอดมรดกในรุ่นต่อไป เพราะเต็มไปด้วยภาพการ์ตูนอันเกิดจาก
ความตั้งใจฟังครูบาอาจารย์พร่ำสอนเกี่ยวกันเนื้อหา แล้วผมก็สะท้อนออกมาเป็นรูปภาพ
สอนเรื่องนก...............................ก็วาดนก
สอนเรื่องจักรวาล......................ก็วาดระบบกาแล็กซี
สอนเรื่องอวัยวะภายใน.............ก็วาดออกเป็นเครื่องใน-อวัยวะ
แต่สอนเรื่องอะตอม...................อันนี้วาดไม่ออก! เพราะไม่รู้ว่าจะให้วาดอย่างไร?
ที่จะทำให้มีตัวนิวตรอนยืนทื่ออยู่ตรงกลาง แล้วมีโปรตอนเป็นประจุบวก โดยที่มี
อิเล็กตรอนวิ่งซุกซนวนอยู่รอบอย่างไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย
"อะตอม" ก็คล้ายกับผี มีอยู่โดยรอบตัวแต่ไม่อาจชี้ว่ามันอยู่ ณ ที่ตรงนั้น-ตรงนี้
แต่เชื่อไหม? ..............................................
ว่าคนที่เสนอแนวคิดนี้ มาจากชายผู้พิการทางสายตา แต่กับให้ความหมายที่ลึกซึ้งแก่คนทั้งโลก
ถ้าให้ถามคนไทย ว่ารู้จักใครในเมืองแมนเชสเตอร์บ้าง
เสียงส่วนใหญ่คงไม่พ้น ไรอัน กิ๊ก , อิริก คันโตน่า หรือ โรนัลโด้
(แม้จะมีกองเชียร์แมนซิตี้ที่ไม่อยากรู้จักกันนักก็ตาม)
แต่คงไม่มีใครในเมืองแมนเชสเตอร์ที่ไม่รู้จัก "จอห์น ดาลตัน"
"จอห์น ดาลตัน" (John Dalton 1766 – 1844) เป็นที่รู้จักกันในนามชายผู้มากความสามารถ
เพราะเป็นทั้ง นักเคมี นักอุตุนิยมศาสตร์ นักธรรมชาติวิทยา รวมไปถึงนักฟิสิกส์
มีประวัติมาแนวคล้ายๆ เล่าปี่ คือ บิดาเป็นนักทอผ้า
ณ lake district ความที่เป็นเด็กเรียนเก่งมากกว่าเด็กที่เรียนเก่งทั่วไป
เพียงแค่อายุ ๑๒ พี่แกก็ได้ตำแหน่งครูใหญ่แถวเควกเกอร์ ซึ่งเป็นถิ่นของพี่แก
ชั่วชีวิตของพี่แก หากินกับสติปัญญาทางการศึกษาอยู่เนืองนิจ
ตีนเท้าฝาหอย ริเปิดโรงนาเป็นสำนักเรียน เก็บตังค์เด็กแถวบ้าน คนละ ๖ เพนนี
อายุ ๒๖ พิมพ์หนังสือชุดเกี่ยวกับพันธุ์พืชและสัตว์ จนวิทยาลัยนิวคอลเลจ แมนเชสเตอร์
เชิญดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์สอนวิชาปรัชญาธรรมชาติและคณิตศาสตร์
พอย้ายไปอยู่เมืองยอร์ค ก็รับจ้างเป็นครูสอนพิเศษคณิตศาสตร์เป็นรายชั่วโมง
และที่แห่งนั้น ก็ทำให้เขามีชีวิตที่จดจ่ออยู่กับศาสตร์ทางเคมี
(ชีวิตหมอนี้ถือว่าเป็นนักจดจ่อศาสตร์ ที่ทำอะไรแล้วจะต้องทำอย่างตั้งใจ จริงจังและเอากันจนตาย
อย่างเรื่องดินฟ้าและพยากรณ์ลมฝน แกก็มั่นวัดความชื้นด้วยเครื่องมือบุโร่ทังของแก
และจดบันทึกประจำวัน แม้จะเป็นวันสุดท้ายของชีวิตแก
พอให้ศึกษาเรื่องก๊าซ ก็ได้ศัพท์เฉพาะเรื่องเกี่ยวกับกฎความดันย่อย ว่า
Dalton's Low of Partial Pressures
หรืออย่างการศึกษาเรื่องตาบอดสี ที่ทำให้ผู้ยิ่งใหญ่อย่างเขาตกม้าตายได้เสมอ
ในเวลาที่ทางบ้านไหว้วานให้ซื้อสินค้า มักจะถูก product แต่ผิดสีอยู่เป็นประจำ
ซึ่งเป็นความพิการแต่กำเนิดของแก แกก็ยังเอาจุดด้อยมาเป็นวิชา
ไปศึกษาจนพบสารที่ทำหน้าที่แปรผลของสี จนชาวโลกต้องนิยามศัพท์แสงเฉพาะ
ให้เป็นเกียรติ์ว่า Daltonism ซึ่งเป็นความพิการที่ผู้เขียนให้ได้ตั้งชื่อเรื่องดูตื่นเต้นเล่นๆ )
ในหนังสือที่ชื่อ A New System of Chemical Philosophy
ได้อธิบายองค์ประกอบทางอะตอมได้ดียิ่งขึ้นและลึกยิ่งกว่า เมื่อครั้ง ๔๐๐ ปีก่อนคริสตกาล
ที่ปู่เดโมคริตุสและลุยซิปปุส ยังเล่นเอาก้อนหินข้างๆเท้า มาเป็นตัวอธิบายเจ้าอะตอม
แต่ดาลตันได้สร้างกฎห้าข้ออรหันต์ (Five main points of Dalton's Atomic Theory)
ที่เข้าใจหัวอกเจ้าอะตอม แต่อาจไม่เข้าใจหัวอกเด็กสายวิทย์ ที่ต้องท่องจำจนขึ้นใจไว้ว่า
๑. ธาตุต่าง ๆ ประกอบไปด้วยอนุภาคเล็ก ๆ จำนวนมากที่เรียกว่า "อะตอม (Atoms)"
(Elements are made of tiny particles called atoms.)
๒. อะตอมของธาตุต่าง ๆ ก็มีลักษณะ และน้ำหนักประจำเฉพาะของธาตุนั้นๆ
(All atoms of a given element are identical).
๓. สารประกอบเกิดจากการรวมตัวของสสารตั้งแต่ ๒ ชนิดขึ้นไป และต้องเป็นไปในอัตราส่วนที่เลขลงตัวเสมอ เช่น อัตราส่วนเป็น ๔ : ๑ เป็นต้น เสมอ
(Atoms of one element can combine with atoms of other elements to form chemical compounds ; a given compound always has the same relative
numbers of types of atoms.)
๔. อะตอมไม่สามารถสร้างขึ้นใหม่ หรือทำลายให้สิ้นสูญไปได้
(Atoms cannot be created, divided into smaller particles, nor destroyed in the chemical process ; a chemical reaction simply changes
the way atoms are grouped together.)
๕. อะตอมเป็นหน่วยที่เล็กที่สุด ในส่วนประกอบที่เล็กที่สุดของธาตุ ซึ่งไม่สามารถแยกออกไปได้อีก
(The atoms of a given element are different from those of any other element; the atoms of different elements can be distinguished from one another by their respective relative weights)
-คำแปลนี้หาได้แปลเองไม่ แต่ลอกเขามาอีกที
ความยิ่งใหญ่ทางพหูสูตรของแก พอๆกับการมีชีวิตที่เรียบง่าย
แม้แต่กฎหลักของอะตอม เขาก็มักจะชื่นชมในฐานะเป็น "กฎที่แสนจะเรียบง่ายโคตร"
(rule of greatest simplicity) เป็นชายที่น้อยคนจะหลีกเลี่ยงการได้รับเกียรติ์เป็น
หนึ่งในคณะรอยัลโซไซตี อันเป็นชุมชนเลื่องชื่อทางวิชาการ นี้ยังไม่นับเหรียญรางวัล
ที่ห้อยพะรุ่งพะรังอยู่เต็มฝนังบ้าน ที่ต่างยัดเยียดให้แก่มือเขาทั้งสิ้น
วิถีชีวิตในความเรียบง่ายของเขา ทำให้ครั้งหนึ่ง นักเคมีชาวฝรั่งเศส พี เจ เพลเลทิเยร์
ยอมลงทุนเดินทางข้ามประเทศเพื่อมาพบวีรบุรุษแห่งอะตอม
เขาพยายามเดินเซาะหาทั่วสถาบันอันใหญ่โต แต่กับไปพบเขากำลังสอนค่าเฉลี่ยระดับประถม
ในโรงเรียนเล็กๆ เล่นเอาพี่ท่านถึงกับงงงวย จนแทบไม่เชื่อในสายตา
เมื่อเขาตาย คนกว่าสี่หมื่นร่วมเคารพศพอย่างเนื่องแน่น มีความยาวกว่าสามกิโลเมตร
ในคำบรรยายในพจนานุกรมแห่งชาติ คนที่ถือว่ายาวสูสีพอฟัดพอเหวี่ยงกับนักวิทยาศาสตร์
ร่วมศตวรรษที่ ๑๙ เพียงแค่ "ดาร์วิน" กับ "ไลเยลล์" เท่านั้น
การค้นพบของดาลตัน ถูกหยิบยกเป็นหนึ่งในสิบการค้นพบครั้งใหญ่แห่งโลกทางเคมี
ใน "ดิสคัฟเวอร์รี" (Discovery Channel) ให้ได้เทียบชั้นกับ ค้นพบการแผ่รังสี
ของมาดาม คูรี และความสัมพันธ์ของอิเล็กตรอนของนีลส์ บอร์ เลยทีเดียว
.........................................................
โลกจึงมีนักวิทยาศาสตร์ที่สร้างกฏและทฤษฎีที่ยิ่งใหญ่ นับร้อยนับพัน
แต่ความเรียบง่าย ก็เป็นทฤษฎีหรือกฎข้อหนึ่ง ของความยิ่งใหญ่ในปถุชน
ข้อมูลจาก
-ประวัติย่อของเกือบทุกสิ่ง
-//en.wikipedia.org/wiki/John_Dalton
-//siweb.dss.go.th/Scientist/scientist/John%20Dalton.html
-13 มหัศจรรย์เคมีพลิกโฉมวิถีคน จาก ผู้จัดการออนไลน์
-//www.school.net.th/library/snet5/topic5/atom.htm
| Create Date : 04 มิถุนายน 2552 |
| Last Update : 4 มิถุนายน 2552 23:20:00 น. |
|
1 comments
|
| Counter : 602 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: จันทร์ไพลิน  วันที่: 6 มิถุนายน 2552 เวลา:8:33:10 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [
>
เรื่องแบบนี้ดีจัง เดี๋ยวให้น้องมาอ่านดีกว่ากะลังทำรายงาน