A ........ Z
Group Blog
 
All blogs
 
คอรัปชั่น ฉันรับข้อนี้ไม่ได้


วันนี้มีโอกาสรอรถเมล์เล่นหนึ่งวัน ด้วยเหตุที่สตงค์สตางค์ที่ร่อยหรอตาม
กาลเวลาตามประสามนุษย์เงินเดือนที่รายได้จะออกตอนสิ้นเดือน (ไหนจะ
ต้องยืนอ้อระเหยลอยชายต่อแถวยาวยืดเพียงแค่จิ้มปุ่มเอทีเอ็มไม่กี่ปุ่มหน่วย
ในวันที่สามสิบ อันเป็นกิจวัตรประจำเดือนที่มักมาไม่ปกติ) เห็นเด็กคนหนึ่ง
สะกิดผู้ปกครองให้เหงยหน้ามองดูป้ายโฆษณาชิ้นหนึ่ง พอถามคำถามซื่อๆว่า
"ลุงคนนี้ เขาโกรธคร้ายมาฮะคับ?" ผู้ปกครองท่านนั้นได้แต่อมยิ้ม แล้วตอบกลับ
ไปว่า "สไตล์เขาละอ้ายหนู" ครับ ป้ายนั้น คือ การหาเสียงผู้ว่ากรุงเทพ ของ
นายชูวิทย์ กระมลวิศิษฐ์ ที่เน้นการตรวจสอบโครงการรถดับเพลิง ประมาณว่า
เสียไปพันล้านไม่ได้ใช้สักบาท ถือเป็นความแหวกแนวตามฟอร์มของนายคนนี้
ท่ามกลางนโยบายเอาใจคนกรุง เหมือนผู้ว่าท่านอื่นๆ

เริ่มต้นอย่างนี้ ไม่ได้หมายความว่าจะมาเขียนอะไรเกี่ยวกับท่านชูวิทย์หนาวงาม
นิสัยบุ่มบามหรืออะไรที่เกี่ยวกับผู้ว่ากรุงเทพ เพียงแต่ชอบใจตรงที่นายคนนี้
กระตุ้นต่อมพิเศษชนิดไวของคนกรุงที่ขยะแขยงต่อการคอรัปชั่น อันเป็นคุณลักษณะ
เฉพาะที่ในหนังสือ"สองนคราฯที่อ.เอนก เหล่าธรรมทัศน์" วิเคราะห์ไว้ ซึ่งทุกวันนี้
ก็ยังทันสมัยอยู่ (ถึงแม้จะเคยมีโพลล์สำนักหนึ่งชี้ว่าคนกรุงป่วยหนักยอมรับการคอรัปชั่น
ได้ก็ตาม...แต่จะเป็นคนกรุงที่มีสำนึกในแง่ศีลธรรมหรือแง่เศรษฐกิจ ตรงนี้โพลล์ท่าน
ไม่ได้บอกไว้ ไม่งั้นมีเปลี่ยน!)

สิ่งที่จะบอกเล่า ก็อย่าได้เชื่อผมเพราะผมไม่ใช้คนกรุงเทพโดยกำเนิด เพียงแต่อาศัย
พื้นที่หาเลี้ยงเอาตัวรอด ให้ได้ประคองท้องอันหิวโซในแต่ละมื้อ แต่ทว่าชอบแอบมอง
พฤติกรรมคนกรุงเพื่อจะได้เลียนแบบและลอกตาม จะได้ไม่ถูกมองว่าเป็นคนบ้านนอก
คอกนา ไม่จำต้องศัลยกรรมใบหน้า-ฟอกตัวจะได้ไม่ถูกคน ณ ภูมิลำเนาประนามว่า
"เข้าเมืองจนลืมนา"

เคยมีคนตั้งสมการของการคอรัปชั่น (ที่ใช้ได้ดีกว่าการท่องตรีโกณมิติเยอะ) ไว้ว่า
"คอรัปชั่น (Corruption)= อำนาจ (Power) - การตรวจสอบ (Accountability)"
ผมไม่รู้หรอกครับว่า ใครน้อช่างเป็นคนช่างคิด เพียงแต่การจะปล่อยให้อำนาจนั้น
ลอยตัวโดยไม่มีการกำกับตรวจสอบนี้ จะเข้ากับภาวะของอาการทางจิตที่อดีต
ผู้นำของประเทศหลายคนเป็นกันที่เรียกว่า "Power trends to corrupt and Absolute
Power corrupts absolutely"ประโยคนี้ Lord Acton วินิจฉัยจากประสบการณ์อันช้านาน
อันเป็นภาวะเวรกรรมของผู้หลงใหลจนสำลักในอำนาจ จึงมักแสดงออกในสิ่งคนกรุง
นั้นรับไม่ค่อยจะได้ เพราะในแง่การเข้าถึงศูนย์กลางของข้อมูลข่าวสารชนิดถาโถมและ
ระดับของมาตราฐานชีวิตที่ทำให้คนคิดอะไรได้มากกว่าการมุ่งหน้าหากินเพียงถ่ายเดียว
ซึ่งเรื่องนี้ผมไม่ได้คิดเอง เพียงเอามาจากหนังสือแล้วมาเล่าเสริม โดยข้อจำกัดที่บัตร
ประชาชนมันฟ้องว่าไม่ใช่"กรุงเทพ" สิ่งที่ทำให้คนกรุงดูแตกต่างจากความเป็นคนชนบท
สิ่งหนึ่งที่อ.เอนกมอง คือ ความขัดแย้งในลักษณะของเขาควาย (dilemma) ที่เป็นเส้นขนานตลอด
โดยชนชั้นกลางเป็นเพียง “ฐานนโยบาย” แต่ไม่เป็น ”ฐานเสียง” ของพรรคการเมือง
ในขณะที่ชาวไร่ชาวนาก็เป็นเพียง “ฐานเสียง” แต่ไม่ได้เป็น “ฐานนโยบาย” ของพรรคการเมือง

กิจกรรมคอรัปชั่นบ้านเรานี้ก็เล่าผ่าน ภาพลักษณ์สันทนาการอันใกล้ชิดเสียจนไม่น่าจะ
เกิดการคอรัปชั่นได้ อย่างสำนวน ใต้โต๊ะ น้ำร้อนน้ำชา แป๊เจี๊ยะ ดูมันชักจะออกไปทำนอง
หนังจีนกำลังภายในที่ลิ้ม กิมฮวง หาอะไรลองท้อง ก่อนไปถล่มถ้ำค้างค้าว ภาพลักษณ์ชนิดนี้
สืบเนื่องมาจากความเป็นเจ้าภาษีนายอากร ที่รัฐบาลจะมอบอำนาจสิทธิขาดแก่เอกชนในการจัด
เก็บภาษีอากรชนิดนั้นให้ไปดำเนินการ เมื่อถึงเวลากำหนด ผู้ประมูลจะต้องนำเงินภาษีอากรที่จัดเก็บ
มาส่งให้ครบจำนวนตามที่ประมูลไว้ จึงเกิดอำนาจการผูกขาด แก่คนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด (ซึ่งมักเป็นชาวจีน)
เกิดระบบอุปถัมภ์ที่ผู้จัดเก็บมีผลประโยชน์ร่วมกัน การขาดการควบคุมอย่างจริงจังเช่นนี้นำไปสู่การทุจริต
ดังนั้นระบบเจ้าภาษีนายอากรที่ทดลองใช้ สร้างปัญหาสืบเนื่องต่อสังคมไทยอย่างมาก อาทิเช่น
#สมัยเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) มีเจ้าภาษีนายอากรหลายคนอยู่ใต้อุปถัมป์
เมื่อเจ้าภาษีนายอากรเหล่านี้ได้รับการคุ้มครอง ก็จะทำผิดหรือเก็บภาษีเกินขอบเขต ไม่ส่งมอบเงินให้รัฐ
แต่เงินจะรั่วไหลไปอยู่กับขุนนางเป็นจำนวนมาก
# เจ้าพระยาภาณุวงค์มหาโกษาธิบดี (ท้วม บุนนาค) นำเงินจากเจ้าภาษีนายอากรไปใช้ประโยชน์เอง
เมื่อเจ้าภาษีฯ นำเงินมาส่งจะเก็บไว้ในกำปั่น เมื่อมีธุระจะใช้ก็ใช้เงินในกำปั่นนี้ท้งสิ้น มีตั้งแต่งานราชการแผ่นดิน
ค่าจ้างชาวจีนงานศพ ทำประภาคาร สร้างบ้านบุตรชาย แจกเงินภรรยาน้อย บุตร และคนใช้ ให้เงินภรรยาหลวงไปทำบุญ ฯลฯ
# มีสมาคมลับ (อั้งยี่) คุ้มครองผลประโยชน์ และกำจัดคู่แข่ง ทำให้การประมูลถูกผูกขาด
และรายได้รัฐต่ำลงมาก บางทีขุนนางก็เลี้ยงอั้งยี่เองเพื่อควบคุมชาวจีนไม่ให้ไปอยู่ในบังคับของ ชาวตะวันตก
(นำมาจาก//www.palawat.org)

รูปแบบการอุปถัมภ์ลักษณะนี้ แม้จะถูกปรับเปลี่ยน โดยให้เจ้าภาษีนายอากรชำระเงินกับหอรัษฎากรพิพัฒน์
ไม่ต้องผ่านขุนนาง มีการจัดตั้งพระคลังมหาสมบัติจัดเก็บภาษีโดยตรง
เว้นแต่ให้เจ้าภาษีนายอากรผูกขาดเฉพาะที่จำเป็นบางชนิด เช่น ภาษีฝิ่น สุรา บ่อนเบีย และหวยฯ
เนื่องจากต้องใช้ความชำนาญพิเศษ แต่แล้วก็หาได้หยุดยั้งคนกลุ่มนี้ลงได้ เพราะหลังจากมีสัญญาเบาว์ริง
คนกลุ่มหนึ่งก็ปรับเปลี่ยนตนเองเป็นนายทุนใหม่ที่ยังคงอิงกับกลุ่มขุนนางอภิสิทธิ์และตลาดส่งออก
ขณะเดียวกันขุนนางบางตระกูลก็โดดมาเล่นเป็นนายทุนใหม่เสียเอง

แต่ก็มีนักวิชาการบางคนมองว่า ทั้งหมดของกลุ่ม เคลื่อนไหวต่อต้านคอร์รัปชั่นและผลักดันด้านความโปร่งใส
ล้วนเป็นคนชั้นกลาง (ระดับกลางและล่าง-เพราะระดับบนยังดูเพชรกันไม่เลิก) ฉะนั้น
มีความเปลี่ยนแปลงด้านมาตรฐานและค่านิยมอะไรบางอย่างในหมู่คนชั้นกลางไทย
ที่ทำให้ระดับความอดทนต่อการคอร์รัปชั่นในกิจการสาธารณะลดลง
มีการคอร์รัปชั่นในกิจการสาธารณะในประเทศไทยมากขึ้น จนคนชั้นกลางทนไม่ไหว
ต้องลุกขึ้นมาต่อต้านเป็นการใหญ่ (มาจากบทความ วัฒนธรรมคอรัปชั่น โดย ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ )

กลายเป็นว่าเอาเข้าจริง ความรู้สึกเปราะบางเกี่ยวกับการคอรัปชั่น อาจไม่ได้เกิดจากความเป็นคนกรุงที่แท้จริง
เพียงแต่เป็นความรู้สึกเฉพาะทางชนชั้น (ซึ่งชนชั้นกลางมักถูกมองว่าเป็นหัวหอกเสมอ)
แม้ชาวบ้านบ้างคนจะมองว่าโกงมาเถอะ แต่แบ่งให้เราได้กินบ้าง จึงเกิดรูปแบบการโกงเชิง
นโยบาย ที่ออกมาเป็นแพ็กเก็ตเที่ยวระลอกไม่หวั่นไม่ไหว ลึกลับซับซ้อนกว่าเดิม ชนิดที่
ยังตั้งคณะกรรมการสอบของเก่าไม่ทันจะหมด ก็มีการออกนโยบายใหม่ ที่หาค่าหัวคิวกิน
กันไม่รู้จักจบสิ้น โกงชนิดกรรมตามไม่ทันซักที ประชาชนดีๆอย่างเรา ดันกลับรู้สึกตกนรกสักเอง

เรื่องอย่างนี้ทางหลักเศรษฐศาสตร์ อธิบายความเป็นอภิสิทธิ์ชนผู้มีสิทธิ์ผูกขาดชนิดนี้ว่า
คนเหล่านี้มีโอกาสพิเศษที่เรียกว่า "ค่าเช่าทางเศรษฐกิจ" (ECONOMIC RENTS) อันหมายถึง
ส่วนของผลตอบแทนที่บุคคลได้รับ ซึ่งมากเกินกว่าที่สมควรจะได้ หากดำเนินกิจกรรมตามปกติอย่างมีการแข่งขัน
ค่าเช่าทางเศรษฐกิจ ถือเป็นต้นทุนที่ไม่จำเป็น เกิดการสูญเสียโดยใช่เหตุ
หลายกฎเกณฑ์ที่ข้าราชการจงใจสร้างขึ้น เพื่อให้เกิดค่าเช่าทางเศรษฐกิจ จึงมักมีเสียงบ่นอย่าง
เบาๆว่า"ทำอย่างไร เราจะมีโอกาสได้ค่าเช่าเช่นนี้บ้าง" หากค่าเช่าทางเศรษฐกิจชนิดนี้
ไม่ถูกตั้งค่าปรับและบทลงโทษที่แพงเกินกว่า โอกาสจากการได้มาของค่าเช่า เราก็จะเห็นค่าเช่า
เหล่านี้เต็มบานเปรอะ จากกลุ่มผู้วิ่งเต้น จากโครงการของรัฐที่เร่งคลอดแบบบางอย่าง
ไม่ผ่านการไตร่ตร่องของสภา จึงอย่างแปลกใจที่รัฐธรรมนุญไทยจำต้องตราองค์กรตรวจสอบ
นั้น โน่น นี้มากมาย โดยมีสมมติฐานตั้งต้นที่อ.รังสรร ธนะพรพรรค์นิยามนักการเมือง
ไว้ก่อนล่วงหน้าว่า"อัปรียชน"

ดังนั้นในฐานะที่ ผมเข้าไม่ถึงโอกาสของการคอรัปชั่นและไม่ได้เป็นคนกรุงผู้ตื่นต่อการเห็น
นักการเมืองมีอภิสิทธิ์เลยเถิดที่ข้ามผ่านเส้นศีลธรรมบางอย่างโดยหยิบยกอย่างตะเบ็งใน
ข้อกฏหมายว่า"มันไม่มี๊ ไม่มีบัญญัติเอาไว้" ป้ายของชูวิทย์จึงอาจดูส่าแก่ใจผม แต่ทว่า
อย่างเตือนท่านว่า คนกรุงเข้าไม่ได้ท่านมาเป็น สว. เพื่อตรวจสอบเพียงอย่างเดียวนะครับท่าน..........................




การ์ตูนร้ายจาก//sobnation.files.wordpress.com


Create Date : 25 กันยายน 2551
Last Update : 25 กันยายน 2551 21:40:53 น. 2 comments
Counter : 1193 Pageviews.

 
เราก็เบื่อ
ขนาดเรามีสิทธิ์ตามกฏหมาย จะไปขออะไรตามสิทธิ์นั้นๆ ยังจะเอาของกำนัลเลย


โดย: จันทร์ไพลิน วันที่: 26 กันยายน 2551 เวลา:18:08:55 น.  

 

GOOD MORNINGGGGG


โดย: จันทร์ไพลิน วันที่: 27 กันยายน 2551 เวลา:6:40:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mr.Chanpanakrit
Location :
สงขลา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]




Friends' blogs
[Add Mr.Chanpanakrit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.