A ........ Z
Group Blog
 
All blogs
 
เศรษฐศาสตร์ princo ภาคนอกภูมิลำเนา






มีเรื่องที่ดูจะไม่เป็นเรื่อง ที่อยากจะให้เป็นเรื่อง
ได้ประดับบล็อกสักหนึ่งเรื่อง
ประเด็นก็คือว่า เคยมีเพื่อนสนิทวัยเยาว์ของท่านผู้อ่านสักคนบ้างไหมครับ
ที่พอรู้ว่าตัวท่านเองกำลังมีแผนที่จะกลับบ้านเกิดเมืองนอน
จะด้วยเหตุผลประการหนึ่งประการใดก็แล้วแต่
สิ่งหนึ่งที่พอทำให้เพื่อนยามยาก รู้สึกว่าตัวท่านเองมีคุณค่าในประการหนึ่งต่อเขา
สิ่งนั้นถูกแสดงออกอย่างเป็นรูปธรรม
ด้วยความหมายที่คล้ายๆเป็นการลอเชิงและลองใจ
ว่ายังยึดมั่นที่จะคงดำรงไว้ ในความหมายของคำว่า "เพื่อนเก่า"
สิ่งนั้นถูกถอดรหัสอย่างไม่ต้องใคร่ครวญให้ลึกซึ้งมากนัก
ด้วยการปฏิบัติที่ตรงตัวกันอย่างสุดๆ นั่นก็คือ "ของฝาก"
ของที่ผู้ต้องปฏิบัติอย่างตัวคุณ ต้องลำบากลำบนแสวงหาให้ได้ถึงแหล่งโอท้อป
ที่ตัวของท่านเองได้พำนักอาศัย เลี้ยงปากเลี้ยงท้องในปัจจุบัน
ที่สำคัญอย่างน่าหนักใจกว่า ก็คือ การที่ต้องควักตังค์ส่วนตัวออกไปกอ่นนี้สิ
ซึ่งอันนี้จะไม่มีผลในฐานะค่าโสหุ้ยที่ไปบวกเพิ่ม
ทั้งในเรื่องของการบรรทุก ในค่าเดินทางและในค่าเหนื่อย
จากเม็ดเหงื่อที่ได้สูญเสียไปนอกเหนือจากการออกกำลังกาย
เพราะการออกกำลังกาย ยังพอทำความเข้าใจได้ในหลักฟิสิกส์
ว่ามีผลต่อพลวัตทางด้านกล้ามเนื้อและการกระตุ้นของเม็ดเลือด
แต่เหนื่อยจากการซื้อของฝาก มันเป็นอะไรที่ยังไม่รวมถึงเรื่องการเหนื่อยใจ
จากผลตอบแทนที่นอกจากจะไม่ได้อย่างเต็มเม็ดด้วยแล้ว
ยังอาจเหนื่อยยิ่งกว่า เมื่อเพื่อนเก่ามีแนวโน้มจะแสดงโอกาส
ความเป็นเพื่อนเหมือนในครั้งเก่า ที่มักแสดงอยู่ออกบ่อยไป
และไอ้ความบ่อยๆนี้สิ ที่เป็นตัวบ่งบอกสถานะของความสนิทที่แนบแน่น
ที่ปัจจุบัน เราอาจจะไม่ต้องการผลสัมฤทธิ์เช่นนั้น
ด้วยเพื่อนในปัจจุบันก็มีอยู่เพียงพอแล้ว
มิให้ต้องการหรือถวิลหาขอความเห็นใจจากการมีเพื่อนกันเสียเท่าไรนัก




แต่ประเด็นของผู้เขียน ไม่ได้ต้องการจะเสนอเรื่องนี้
เพียงแต่สงสัยในความที่เป็นประเด็นของ "ของฝาก"
ของฝากที่ดูไม่น่าจะเป็นของฝากไปได้ ในสายตาของผู้อาศัยนอกถิ่นเก่า
ที่มองแตกต่างไปจากสายตาของผู้อาศัยในถิ่นเดิม
ที่ผลของกระบวนการกลไกทางราคา
มีผลต่อจิตวิทยาและพฤติกรรมในการบริโภค เมื่อเพื่อนเก่าของผู้เขียน
ประสงค์ของฝากที่ชื่อ princo อันเป็นแบนด์ของผู้เล่นคอมที่น่าจะรู้จักกันดี
ว่าเป็นชื่อของผลิตภัณฑ์แผ่นซีดีและดีวีดี ที่ขึ้นชื่อและเป็นที่นิยมในการเลือกใช้
ด้วยต้นทุนราคาของแผ่นต่อหน่วยที่แสนถูก
จนฆ่าคู่แข่งในแนวโปรดักส์ไลท์เดียวกันมานักต่อนักแล้ว




ไอ้ตอนแรกที่ได้ยินมาว่า เพื่อนเก่าของผู้เขียนประสงค์ที่จะให้ซื้อของฝาก
ในฐานะคำขอที่ไหว้วอน ผู้เขียนได้เตลิดนึกไปไกลถึงเหล่าบรรดาสินค้า
เทคโนโลยีที่มีราคาถูกหรือไม่ก็จำหน่ายในพื้นที่จำกัด
รวมไปถึงเหล่าบรรดาสินค้าที่ระลึกหรือไม่ก็ของกินเลื่องชื่อ
หรือคิดง่ายกว่านั้นหน่อย ก็เหล่าบรรดาสินค้าเกรนด์เยียร์เซลล์
ที่ห้างสรรพสินค้ามักนิยมโปรโมทจนคนกรุงชาชิน เ
เพราะรู้ดีว่ามันก็แผนการกระตุ้นในตลอดทุกเดือน
เพียงแต่เปลี่ยนชื่อคอนเซ็ปต์ให้ดูแตกต่างกันออกไปก็เท่านั้น
แต่เมื่อได้ยินเต็มๆสองรูหู ก็ทำให้ผู้เขียนมีปริศนาขึ้นในใจ
จนต้องทำการนอกใจเพื่อมาระบายเป็นคำถามศอกกลับกลับไปว่า
แล้วทำไมจึงไม่ซื้อสักที่นั้นในสิ้นเรื่องสิ้นราว
แทนที่จะมารอความเมตตาของผู้ที่กำลังรับสายอย่างผู้เขียน
คำตอบที่ได้รับ ดูเหมือนจะไม่ต้องการข้อโต้แย้งหรือตั้งโต๊ะเจรจาแต่อย่างใด
ด้วยมูลค่าที่วางจำหน่ายระหว่างต้นสายกับปลายทางของโทรศัพท์นั่น
มีความแตกต่างทางราคาถึง ๗๐-๘๐ เปอร์เซ็นต์ นั่นก็หมายความว่า
ถ้าเกิดผู้ซื้อ(ที่บ้านเกิด)เผลอลืมรับเงินทอนเสียยี่สิบบาทจากผู้ขาย
ก็เท่ากับ อำนาจของผู้ซื้อที่เผลอลืมรับเงินทอน โอนมาให้กับผู้เขียนที่ถูกไหว้วอน
ในช่วยซื้อสินค้าเดียวกันจากต่างที่ จะได้สินค้า princo เป็นสองกล่อง
แทนที่จะเป็นหนึ่งกล่อง ที่ได้ไปซื้อจากถิ่นบ้านเกิด




อะไรมันทำให้สินค้าชนิดเดียวกัน เพียงแต่อยู่กันคนละที่
ถึงได้มีมูลค่าการจำหน่ายในส่วนต่าง ที่มากกันขนาดนี้
อันนี้ให้ตอบในเชิงวิจัยก็คงตอบให้ไม่ได้ ส่วนหนึ่งผู้เขียนไม่ได้รับงบวิจัย
จากสถาบันไหนๆ และอีกอย่างเอาเข้าจริง princo
อันเป็นยี่ห้อของสื่อเทคโนโลยีการบันทึกนี้ ก็มีเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น
ที่ถูกจำหน่ายในพื้นที่ที่มีการเสียภาษีอย่างถูกต้อง เอาเข้าจริง
ต้นทุนในวัตถุดิบการผลิตจริงๆ มีมูลค่าเท่าไรนัก ผู้เขียนก็ไม่กล้าที่จะยืนยัน
แต่พอนั่งยัน (ศอก) แบบกำลังพิมพ์เพื่อแก้ความสงสัยส่วนตัว
โดยฟังมาจากปากของผู้จำหน่าย ที่ผู้เขียนได้ไปซื้อยังแหล่งจำหน่ายเพื่อ
ให้สมถวิลต่อเพื่อนผู้ไหว้วอน ด้วยผู้เขียนไม่อยากเคล้าสุราหน้าหลุมศพ
ในเทศกาลเช้งเม้ง ทั้งๆที่ในอีกทางก็เอื้อต่อการปรับสารทุกข์สุขดิบวงสุรา
กับเพื่อนฝูงรุ่นเก่าๆกัน
ผู้จำหน่ายก็บอกเล่าอย่างโอดครวญ ซึ่งก็ไม่รู้จะเป็นแผนลับล้วงพรวงอีกรึไม่
แต่บอกเพียงว่า ถ้าเขาไม่ยอมขายในราคานี้ เขาก็จะสูญเสียตลาดกลุ่มผู้ซื้อ
ไปให้กับผู้จำหน่ายในสินค้าชนิดเดียวกัน ที่วางจำหน่ายในราคาที่ต่ำกว่า
นั่นก็หมายความว่า กลไกตลาดได้มีมือที่มองไม่เห็น เป็นตัวควบคุมในราคากลาง
แบบที่ไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงพาณิชย์ เข้ามาควบคุมราคา
แต่เป็นการตัดราคาของกลุ่มผู้จำหน่ายในตลาดเดียวกัน
เพื่อมิให้เป็นฝ่ายที่ได้เปรียบเสียเปรียบ จากนั้นผู้ซื้อก็จะใช้วิจารณญาณ
เปรียบเทียบราคาในใจ เพื่อให้ได้สินค้าในราคาที่ต่ำที่สุดหรือพึงพอใจสุด
อันจะหมายถึง ความคุ้มทุนในฐานะที่ตัวสินค้ามีราคาใกล้เคียงกับ
เส้นแบ่งของต้นทุนหลักทางวัตถุดิบ ที่บวกรวมถึงต้นทุนขนส่ง ค่ารักษา
ค่าเก็บสต็อกสินค้า เป็นต้น
การได้ไปซื้อถึงแหล่งตลาดสินค้าหลัก นอกจากผู้ซื้อจะได้เปรียบเทียบ
ในมูลค่าของสินค้าแล้ว ยังจะได้พบกับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอื่นๆ
ที่มีลักษณะใกล้เคียงหรือต่อยอดทางผลิตภัณฑ์ที่ตัวเองกำลังซื้อ
ยกตัวอย่าง ไปซื้อแผ่นดีวีดี บางทีก็จะได้พบกล่องใส่ดีวีดี น้ำยาล้าง
สติกเกอร์รูปลอก และดีวีดีที่บรรจุเนื้อหาภายในที่หาซื้อไม่ได้ในนอกตลาด
มองให้เป็นจุดดี ก็อาจมองได้ว่าเป็นศูนย์ครบวงจรในสายงานผลิตภัณฑ์ชนิดนั้นๆ
แต่ถ้ามองในจุดร้าย ก็อาจเป็นแหล่งถลุงสตางค์จากสิ่งที่อยู่เหนือนอกแผนการ
ทั้งๆที่ประสงค์เพียงแค่แผ่นดีวีดีเพียงแผ่นเดียวก็ตาม




ความแตกต่างของมูลค่าของราคา ทั้งๆที่เป็นสินค้าแบบเดียวกัน
เพียงแต่อยู่คนละภูมิภาค แม้จะพยายามอธิบายในต้นทุนแอบแฝงประเภทอื่นๆ
ไม่ว่าจะเป็นค่าขนส่ง ค่าประกันสินค้า
และอาจคิดเสริมในแง่ที่แทงใจดำต่อเจ้าหน้าที่ ประเภทใต้โต๊ะ บนโต๊ะหรือข้างโต๊ะ
จนโต๊ะจะไม่เป็นโต๊ะอยู่แล้ว ก็ไม่น่าจะมีผลทำให้สินค้ามีมูลค่าทบทวีใกล้เส้น
หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ ด้วยเข้าใจว่าผู้จำหน่ายคงฉลาดพอที่จะไม่ซื้อสินค้าอีกแหล่ง
ด้วยราคาเดียวกันกับผู้ที่ซื้อสินค้ารายปลีก แต่น่าจะได้รับในส่วนของราคาขายส่ง
ในฐานะที่เลือกเกิดมาเป้นพ่อค้าคนกลางที่รับช่วงขายมาอีกที
อันนี้จะพยายามเลือกมอง โดยข้ามเส้นแบ่งทางจริยธรรมของผู้ค้า
ที่ไม่น่าศรัทธาเท่ากับพลังเสรีในกลไลตลาดที่ควบคุมให้เกิดเส้นดุลยภาพ
ของผู้ค้ากับผู้ค้าที่มาบรรจบกัน อันจะนำมาซึ่งประโยชน์ของผู้ซื้อเต็มๆ




มันทำให้ผู้เขียนนึกไปถึงหนังสือที่ชื่อ Undercover Economy
ของ Tim Harford ที่ว่ากันด้วยเรื่องของ "ทำเลที่ตั้ง" ที่มีผลต่อการกำหนดราคา
ว่าทำไมบางที่ จึงสามารถตั้งราคาขายได้แพงเวอร์ ขณะที่บางที่ก็ทำได้นะ
แต่สักพักก็จะอยู่รอด และราคาที่กำหนดนั่น ก็จะต้องเป็นที่ยอมรับ (หรือทนรับ)
สำหรับผู้ซื้อที่มีหนทางของแหล่งจำหน่ายอันจำกัด โดยหนังสือได้ยกตัวอย่าง
ทฤษฎีนักเศรษฐศาสตร์ที่เอาดีทางการเมืองขึ้น อย่าง เดวิด ริคาร์โด
ที่ว่า มันต้องมีเส้นประสิทธิภาพของทำเลกับมูลค่าของส่วนกำไรที่จะเพิ่มขึ้น
อันเนื่องจากพื้นที่ คิดง่ายๆก็หมายความว่า ถ้าอยากให้ princo
ที่ขายในบ้านเกิดของผู้เขียนมีราคาที่ถูกลง แบบที่ไม่ต้องเป็นภาระของผู้เขียน
ที่มีแผนการที่จะต้องเดินทางกลับทุกปี แต่ไม่ได้มีแผนที่จะต้องลำบากลำบน
ฝ่าการจราจรและม็อบแดงที่ชวนติดขัด นั่นก็หมายความว่า
ผู้เขียนจะต้องจ้างวานจ้างให้เกิดร้านค้าของแผ่นprinco แบบล้อมหน้าและล้อมหลัง
มุ่งโจมตีเจ้าร้านที่ขาย princo แสนแพง
แล้วโฟนอินให้ในร้านที่จ้างวานโดยผู้เขียนเอง
ตั้งราคากดแบบที่เอากำไรต่ำๆ เพื่อบีบให้ร้านที่ขายแพงเข้าตาจน
จนต้องมาเเข่งราคาในระดับเดียวกันกับร้านที่ผู้เขียนจ้างวาน
ซึ่งเท่ากับเป็นการแย่งฐานลูกค้าเก่า ที่เชื่อได้ว่าความจงรักภักดีของผู้ค้า
คงไม่เท่ากับกลไกราคาที่ยั่วน้ำลายของผู้ซื้อยิ่งกว่า
ซึ่งกระบวนการคิดทั้งหมด เป็นการคิดเล่นๆในใจ ก็หมายความว่า
การโทรศัพท์ของเพื่อนเก่า เพื่อให้ผู้เขียนช่วยซื้อของฝากดั่งที่ตั้งใจ
เป็นวิธีที่ง่ายและไม่เตลิดบรรเจิดอย่างที่ผู้เขียนคิด ซึ่งก็ต้องต่อจุดมุ่งหมาย
ที่จะได้รับสินค้าในอรรถประโยชน์ใช้งานและราคาที่พึงพอใจ
เพียงแต่การซื้อสินค้าซ้ำในครั้งหน้า อาจจะต้องวางแผนรออีกยาวนาน
ซึ่งก็ต้องวางแผนในการบันทึกใช้แต่ละแผ่นให้คุ้มค่าอย่างสูงสุดของตัวผู้ใช้เอง
ซึ่งอันนี้เกินขอบเขตอำนาจของผู้เขียน ที่ทำได้ดีที่สุด
เพียงแค่การ"ทวงตังค์" และการ"ทวงบุญคุณ" ก็เท่านั้นเอง
ขณะเดียวกัน ก็แก้เผ็ดด้วยการฝากซื้อของฝากจากเพื่อนเก่า
ก็ไม่อาจที่จะทำได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะสถานะของของฝาก
ต้องมาจากดินแดนที่แปลกถิ่น และผู้เดินทางต้องมีส่วนเกี่ยวข้องทางเดียว
ที่ไม่มีผลในฐานะที่สถานที่นั่นมีผลกระทบต่อผู้ฝาก หรือมีผลก็มีผลโดยทางอ้อม




แม้ผู้เขียนจะฝากได้ ก็จะถูกย้อนถามกลับมา
อันเป็นความเสียเปรียบในทุกประตู สำหรับคนไกลที่ไปทำงานของถิ่นก็อย่างงี้เเหละ........






Create Date : 02 เมษายน 2553
Last Update : 13 เมษายน 2553 22:39:51 น. 0 comments
Counter : 622 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mr.Chanpanakrit
Location :
สงขลา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]




Friends' blogs
[Add Mr.Chanpanakrit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.