Group Blog All Blog
|
เมื่อสาวเหนือพาไปกินร้านครูเบลล่า อิ่มอร่อยจานเดียวในราคานศ.
ชื่อร้าน : ครูเบลล่า
รายการอาหาร : อาหารจานเดียว บะหมี่ เค้ก ไอติม กาแฟ น้ำผลไม้ ขนมปังปิ้ง เวลาเปิดบริการ : 10.00 - 22.00 น. ที่ตั้งร้าน : หลังมช. เลยทางเข้าซอยวัดอุโมงค์ ตรงข้ามคณะศึกษาศาสตร์ มช., เชียงใหม่ Thailand พิกัด GPS : 18° 47' 33.65" N 98° 57' 16.44" E รีวิวนี่มาจากเมื่อวาน(เกือบ)สดๆร้อนๆค่ะ เพราะนัดกินข้าวกับเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมา 10 ปี วันนี้จะมีงานเลี้ยงรุ่น เมื่อวานเลยชวนกันไปกินอะไรเบาๆ ก่อน เพราะมากันน้อย เลยเลือกร้านที่ใกล้ที่ทำงานเพื่อนอีกคนดีกว่า เขาจะได้ไม่ต้องขับรถไปไกล...เราก็เปิดหาคัมภีร์แผนที่ร้านอาหารในเมืองเชียงใหม่ เป็นหนังสือทำมือชื่อ ไม่รักไม่บอก เป็นหนังสือทำมือราคา 30 บาท มีราว 80 หน้าค่ะ ภายในจะแนะนำประเภทของร้านอาหาร แผนที่ และเมนูที่แนะนำ โดยเกจินักชิมชาวเชียงใหม่ทั่วสารทิศที่มิขอเปิดเผยรายชื่อ ^ ^ มีทั้งบรรณาธิการนิตยสารฟรีก็อปปี้ดังของเมืองไทย คุณหมอ นักเขียน ฯลฯ ที่มาช่วยกันเขียนแนะนำร้านแบบไม่มีเส้นมีสาย ไม่เล่นพวก ไม่อวยร้านตามกระแส น่ารักทีเดียวเลยค่ะ...เสียดายว่าสแกนให้ดูข้างในไม่ได้ เพราะกลัวว่าจะละเมิดลิขสิทธิ์ค่ะ หนังสือนี่ดีที่มีแผนที่ของเมืองเชียงใหม่ในย่านต่างๆ พร้อมแผนที่บอกตำแหน่งของร้านอาหาร รวมถึงบอกประเภท(หมายถึงเป็นร้านข้าวเช้า-กลางวัน-เย็น หรือนั่งฟังเพลง หรือร้านเค้ก) รวมถึงเมนูแนะนำค่ะ...เราก็เปิดแผนที่หาร้านหลังมช. ก็ป่ะกับร้านครูเบลล่า ติดถนนใหญ่หลังมช. เลยซอยทางเข้าวัดอุโมงค์ไป ตรงข้ามคณะศึกษาศาสตร์มช. ร้านนี่แต่เดิมเป็นโรงเรียนสอนดนตรีครูเบลด้วยค่ะ (ปัจจุบันโรงเรียนก็ยังอยู่ข้างในร้าน) พื้นที่ด้านหน้าจึงทำเป็นร้านอาหาร เปิดเวลา 10 โมงเช้า - 4 ทุ่มค่ะ บรรยากาศภายในร้านโอเคเลยค่ะ สไตล์ชิลล์ๆ? ตรงนี้พื้นที่แบบเอาท์ดอร์ ฝนเพิ่งตกหมาดๆเลย มีชั้นสองด้วยนะค่ะ แต่เป็นที่นั่งแบบสองที่ โต๊ะเล็ก เหมาะมาดื่มกาแฟหรือเดทกัน ^ ^ (ข้อห้ามของร้านนี่คือ ห้ามสูบบุหรี่นะค่ะ) เพราะร้านมีลูกค้าเป็นนักเรียน-นักศึกษาค่ะ (ดีว่าไม่ได้เลือกนั่งข้างบน เพราะตอนค่ำๆ ฝนตกหนัก แถมยุงเยอะอีก T T) หมา(ไม่)น้อยบริเวณเอาท์ดอร์ ส่วนนี้บริเวณข้างในร้านค่ะ เหมาะนั่งกันมาเป็นกลุ่ม และเน้นกินข้าวค่ะ เพราะโต๊ะสูงพอสมควร ถ้าไปด้านกาแฟ โต๊ะจะเตี้ยไป บีเกิลจอมขี้เซาในอินดอร์ (หน้าตาแอบโหด ^ ^ ") ขอพาไปชมห้องน้ำก่อนค่ะ เพราะห้องน้ำก็น่ารัก...เข้าไปชมได้แต่ห้องน้ำหญิง ไม่กล้าเข้าไปถ่ายห้องน้ำชาย...เพราะมีคนนั่งกินโต๊ะแถวนั้นด้วย ^ ^" ห้องน้ำสีชมพู มีชั้นวางกระบองเพชร ตุ้งติ้งห้อยจากเพดานห้องน้ำแบบโอเพ่นแอร์ เป็นบัวรดน้ำ น่ารักมาก ^ ^ ทางเดินภายในสวน ร่มรื่นจัง ^ ^ มาดูเมนูอาหารค่ะ เริ่มจากอาหารจานหลักก่อน...ปรากฎว่า ทีนี่ไม่มีกับข้าวแยก เป็นอาหารจานเดียว ราคา 40 บาททุกจานค่ะ...ดูแล้วได้คำตอบเลยว่า กลุ่มลูกค้าร้านนี่เป็นนักเรียน-นักศึกษาจริงๆ เพราะกินแบบเร็วๆ ง่ายๆ สะดวก เวลาสั่งให้เขียนลงกระดาษแบบฟอร์มที่ทางร้านมีประจำไว้ที่โต๊ะค่ะ ติ๊กลงไปเลยว่าจะกินอะไร เขียนเสร็จยื่นให้พนักงาน เริ่มอาหารหนักจานแรกของเราก่อนเลยค่ะ ข้าวไก่ทอดราดซอสแกงกระหรี่ไข่ เมนูใหม่ของร้าน (เราเป็นประเภทชอบกินเมนูใหม่,เมนูแนะนำของร้านค่ะ ไม่ชอบกินอะไรที่ไม่ใช่แนะนำอ่ะ) เป็นไก่ทอดสับเละ ราดด้วยซอสแกงกระหรี่ (ไม่แน่ใจว่าทำไมแกงกระหรี่สีแดง ปกติจะเห็นแกงกระหรี่ญี่ปุ่นสีน้ำตาล หรือแกงกระหรี่อินเดียสีเหลือง) แต่อร่อยค่ะ แถมด้วยไข่ต้มครึ่งซีก (เป็นคนกินข้าวราดแกงอะไรต้องมีไข่กินแกล้ม ไม่งั้นกินบ่ม๋วน ^ ^) ชอบอีกตรงที่ทำก้อนข้าวเป็นรูปหัวใจ รูปดาวอ่ะ น่ารักมากๆ รสชาติใช้ได้เลยค่ะ ส่วนของเพื่อนสั่งข้าวราดแกงฮังเลค่ะ...แต่...แกงที่ให้มา ทำไมน้อยเยี่ยงนี่ = =" คือเขาเป็นคนที่ชอบกินกับเยอะกว่ากินข้าวค่ะ...แต่ถ้าเอาแกงราดกับข้าวแล้ว มันก็สมดุลกันดีนะ แต่โชคร้ายว่าเขาชอบกินกับมากกว่าอ่ะนะ ที่ลงภาพให้เห็นไม่ปิดบัง เพราะไม่อยากให้ใครมาว่าว่าเราปิดบังข้อมูลเรื่องนี้ค่ะ ก็เลยแนะนำว่า ถ้าใครจะกินพวกข้าวราดแกง...ให้ตรองใจหน่อยนึงล่ะกัน ^ ^" ส่วนของเพื่อนอีกคนสั่งสเต็กไก่ย่าง...แต่เผอิญมันอยากลดความอ้วน เลยไม่เอามันบดค่ะ เลยเอาแต่สเต็กไก่ย่างแจ่วฮ้อนมาเพียวๆ ประหยัดค่ามันบดไป 10 บาท ^ ^ ต่อไปมาดูเมนูของหวานและเครื่องดื่มกันค่ะ ก็ตามในภาพเลย เราสั่งขนมปังปิ้งแยมสับปะรดมาค่ะ แผ่นละ 10 บาท พอสั่งมาแล้วใหญ่มากเลยแฮะ ดีที่ไม่สั่งเยอะ อร่อยดีค่ะ ^ ^ เมนูของหวานอีกอันปิดท้าย เป็นเหมือนไอติมป่าตันใส่ท็อปปิ้งค่ะ เพื่อนเราสั่งแบบใส่คอนเฟล็กส์ค่ะ รสชาติไอติมเหมือนป่าตันเด๊ะ อร่อยดี ราคาถูกกว่าไปกินน้ำแข็งไสบนห้างดังอีก สรุปรีวิวร้านนี่น่าประดับใจ น่ารักในการจัดร้านและอาหาร เสียอย่างว่ายุงมีแต่น้อยหน่อย และถ้าฝนลงมาทีนี่ โดนสาดเพียงเล็กน้อยค่ะ ร้านนี่เน้นกลุ่มลูกค้าเป็นนักเรียน-นักศึกษา มานั่งกินนั่งแช่ได้สบายค่ะ และห้ามสูบบุหรี่ในร้านโดยเด็ดขาดนะค่ะ ที่จอดรถมีน้อยหน่อยจอดรถได้ประมาณไม่เกิน 10 คันค่ะเพื่อนเราสั่งแบบใส่คอนเฟล็กส์ค่ะ รสชาติไอติมเหมือนป่าตันเด๊ะ อร่อยดี ราคาถูกกว่าไปกินน้ำแข็งไสบนห้างดังอีก เมื่อสาวเหนือพาไปกินร้าน ดินดี ร้านญี่ปุ่นหัวใจเชียงใหม่
ชื่อร้าน : ดินดี
รายการอาหาร : อาหารไทย-ฝรั่ง-ญี่ปุ่นแนวออแกนิกส์ ชา กาแฟ เค้ก เวลาเปิดบริการ : 11.00-21.00 น. วันอาทิตย์ปิด 19.00 น. และปิดวันจันทร์ทั้งวัน ที่ตั้งร้าน : ตรงทางเข้าข้างหอศิลปวัฒนธรรมมช., เชียงใหม่ Thailand พิกัด GPS : 18° 47' 28.27" N 98° 57' 49.92" E ที่จริง เราเดินผ่านไปมาร้านนี่มา 2 ปีแล้ว เพราะเป็นร้านอาหารแห่งเดียวที่อยู่ในอาณาบริเวณคณะ Media Arts and Design ซึ่งอยู่ในหอศิลป์มช. อีกทีหนึ่ง เมื่อ 2 ปีที่แล้วเราเป็นนศ.ป.โทอยู่ที่นั่นค่ะ ทำให้ใครที่ไม่อยากเดินไปหาร้านอาหารที่ไหนไกล ก็จะอุดหนุนร้านนี้เป็นประจำ...แต่สำหรับเราแล้วที่มีเรียนภาคค่ำ จึงไม่ค่อยได้อุดหนุนร้านนี้นัก จะมีโอกาสก็ช่วงต้องมาทำงานที่คณะตอนกลางวัน โอกาสนี่คงอาจจะไม่ค่อยได้มาร้านนี่อีก เราก็เลยขอนำเสนอร้านนี่เหมือนระลึกเพื่อนเก่ากันสักหน่อย ร้าน ดินดี เป็นร้านบ้านดินขนานแท้ ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นบ้านแสดงผลงานแกลอรี่ของนศ. ต่อมาทิ้งร้างไป และท้ายสุดก็ได้ คุณอายูมิ โอคุมะ สาวญี่ปุ่นมาจัดการให้กลายเป็นร้านอาหารค่ะ บริเวณหน้าร้านจะจัดสวนแนวผักสวนครัวซะหน่อย แสดงให้รู้ว่า นี่เป็นร้านอาหารสุขภาพนั้นแล บรรยากาศภายในร้าน จะมีโต๊ะนั่งใหญ่ 4 คน 4 ชุดค่ะ ร้านดินดีจะเปิดเวลา 11.00 - 21.00 น. ปิดในวันจันทร์ และปิดเวลา 19.00 น.ในคืนวันอาทิตย์ค่ะ เพราะคืนวันอาทิตย์ อายูมิจังจะเปิดให้ชาวญี่ปุ่นที่อาศัยในเชียงใหม่ มาสังสรรค์พบปะปาร์ตี้กันค่ะ ร้านนี่เลยกลายเป็นศูนย์กลางของคนญี่ปุ่นในเชียงใหม่นั้นแล (เฉพาะเลยปิดยาววันจันทร์ด้วย เพราะปาร์ตี้ดึกค่ะ ไม่ได้นอน) เนื่องจากคนญี่ปุ่นที่อาศัยในเชียงใหม่มีกว่า 800 กว่าคน (ถ้านับทั่วประเทศไทยมี 2,000 กว่าคน อ้างอิงจากนิตยสาร IMAGE) เคยมีข่าวว่ารัฐบาลท้องถิ่นของเชียงใหม่จะเสนอให้มีการสร้างหมู่บ้านสำหรับชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะ เหมือนต้องการจำลองอดีตสมัยอยุธยาที่มีหมู่บ้านของชาวต่างชาติ (น้องสาวเราเคยได้ไปทำโพสสำรวจความต้องการของชาวญี่ปุ่นในเชียงใหม่ค่ะ) เคยมีการสัมภาษณ์อายูมิจังในเรื่องนี้ ซึ่งอายูมิคัดค้านการทำหมู่บ้านนี่ค่ะ เพราะอายูมิบอกว่า ที่มาอยู่เมืองไทย ก็เพราะอยากสัมผัสวัฒนธรรมแบบคนไทย ไม่ใช่ไปเจออะไรที่เป็นญี่ปุ่นอีก ถ้าเธออยากเจอ เธอกลับบ้านเกิดตัวเองดีกว่าค่ะ มุมโต๊ะน่านั่งเดทแบบสวยๆ แนะนำให้มาตอนหน้าหนาวจะดีมากนะค่ะ หรือไม่ก็มากินข้าวตอนเย็นตอนค่ำแทน...เพราะข้างในบ้าน ถ้าไม่เปิดพัดลมนี่ ร้อนมากเลยอ่ะ = =" ไม่เข้าใจว่าเป็นบ้านดินน่าจะเย็นนะ แต่ทำไมร้อนก็ไม่รู้ (ดีที่ร้านมีพัดลมบริการ)มุมโต๊ะน่านั่งเดทแบบสวยๆ แต่ที่นั่งมุมโปรดของเรา คือ โต๊ะแบบนั่งนี่แลค่ะ เห็นแล้วได้บรรยากาศญี่ปุ่นจริงๆ ที่กลางเสาบ้าน จะมีโต๊ะใส่เครื่องปรุงเพิ่มเติม เห็นตะกร้ากับภาพถ่ายแล้วแอบน่ารักอ่ะสมแล้วที่เป็นคนญี่ปุ่น ทุกอย่างอาโนเนะมาก เคาน์เตอร์แคชเชียร์ มีของแฮนด์เมดแนวรักษ์โลกขายตรึม นอกจากนั้นก็มีโต๊ะวางขายของแฮนด์เมดต่างๆ รวมทั้งคุกกี้โฮมเมดด้วย คุกกี้ มีแยมโฮมเมดไขมันต่ำด้วย ชั้นบนมีโถชาตั้งโชว์ มีขายเสื้อผ้าแนวรักษ์โลก ของที่เย็นที่สุดในร้านนี้คือ ตู้แช่เค้ก ตั้งอยู่ด้านขวาของทางเข้าร้าน ของที่แช่นั้นจะเป็นเค้กหรือพุดดิ้งเพียวๆ ที่ยังไม่มีการแต่งหน้าอะไรลงไปนะค่ะ นอกจานนั้นก็มีเค้กช็อกโกแลต กับ ชีสมอนซาลา (ชีสนมควายอ่ะเปล่า) แล้วก็นมแพะค่ะ มีโยเกิร์ตพุดดิ้งเปล่าๆ แช่เตรียมรอทรงเครื่องไว้แล้ว อย่างซอฟท์พุดดิ้ง เค้กเนยสด เค้กช็อกโกแลต กระถางต้นไม้ มีการติดรูปเมนูด้วย ใช้ทุกพื้นที่ให้คุ้มค่า ก่อนจะไปดูอาหารจริง มาดูเมนูกันดีกว่า ถ้วยชาแบบนี้เลย ชานมอินเดียน กาแฟเชคการาโต้ สูตรอิตาเลียน อาหารญี่ปุ่นก็มีค่ะ แต่ถ้าคุณนึกถึงซุปมิโซะ ซูชิ ซาซิมิ คงต้องบอกว่าไม่มีค่ะ... ...แต่จะเป็นอาหารจานเดียวแบบพื้นถิ่น เมนูนี้เป็น มะระผัดเต้าหู้ อาหารประจำเกาะโอกินาวา มีให้เลือกแบบเนื้อและเจด้วย มีซุปสาหร่ายไทยแถมให้ด้วยค่ะ ขอบอกว่าร้านนี้ให้ซุปสาหร่ายแบบใจป้ำมาก อีกอันคือ หมี่เย็นใส่กระเจี๊ยบเขียวแบบญี่ปุ่น (มีเมนูเย็น เชื่อหรือยังว่า นั่งกินในร้านมันร้อนแค่ไหน) เมนูนิวเอนทรีประจำร้านคือ ยำใบบัวบก ได้ลงนิตยสารชีวจิตด้วย นอกจากนั้นก็มีอาหารตามสั่ง แบบไม่ธรรมดา แถมรักสุขภาพมากมาย แกงถั่วลูกไก่ อันนี้เป็นอาหารเจ แกงดินดี แกงโกโบริ เอ๊ย โกโบ้&เซเลลี่ มีอาหารฝรั่งด้วยนะเธอว์ แซนวิชแกงถั่วลูกไก่ อันนี้เมนูโปรดข้าน้อย คลับเซนวิช รับประกันความอร่อย(เพราะมีไส้ไข่) มีของหวานเป็นโยเกิร์ตทรงเครื่องธัญพืชด้วยนะเธอว์ เต้าทึงก็มี ดูเมนูมาครบแล้ว มาดูของจริงกัน เห็นบ่นว่าร้อนๆ แต่เรากลับสั่งโกโก้...ร้อนมาหวะเป็นพวกคนประหลาดงับ ขนาดหน้าร้อนยังอาบน้ำอุ่นเลย โกโก้นี่ขนานแท้ ทั้งหวานปนขม...แต่อร่อยค่ะ เพราะงั้นเลยสั่งมาก่อนไงค่ะ แล้วเราก็สั่ง...พุดดิ้งทรงเครื่องมานั่นแล รสชาติฤา...ก็ถ้าคนชอบจืดอร่อยแบบโยเกิร์ตก็คงชอบอ่ะนะ แต่ถ้าเพิ่มรสหวานของน้ำตาลหรือวิปปิ้งครีม น่าจะดีกว่า วันเวลาเปิดปิดร้านพร้อมที่อยู่ส่งท้ายจ้า ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ค่ะ เมื่อสาวเหนือพาไปกินโรตี Alee พันธมิตรหน้าร้านข้าวซอยอิสลาม
ชื่อร้าน : อาลี โรตี
รายการอาหาร : โรตี มะตะบะ กาแฟ ขนมปัง ชา นมแพะ โกโก้ ไข่ลวก-ดาว เวลาเปิดบริการ : 6.00 - 13.00 น. ที่ตั้งร้าน : ตรงข้ามร้านข้าวซอยอิสลาม ซอยเจริญประเทศ 1, เชียงใหม่ Thailand พิกัด GPS : 18° 47' 10.02" N 99° 0' 6.03" E ร้านนี้มาจากการที่ไปนั่งรอเพื่อนจากกรุงเทพที่ร้านกาแฟบ้านเวียงค่ะ แล้วก็พาเพื่อนมากินข้าวซอยอิสลามอย่างที่สาวชาวบางกอกใฝ่ฝันจะมาชิม...แต่เราขอไม่รีวิวข้าวซอยอิสลามนะค่ะ เพราะเป็นที่รู้จักของนักกินเที่ยวมากพอสมควรแล้ว เราจะรีวิว อาลี โรตี พันธมิตรหน้าร้านข้าวซอยอิสลาม กันค่ะ หลังจากกินข้าวซอยกันเสร็จ แต่อยากหาอะไรล้างปาก ข้างหน้าร้านก็มีร้านอาลี โรตี ซึ่งเป็นรถเข็นและปรุงทำโรตี หน้าห้องแถวขนาด 1 คูหา เมนูก็มีตามป้ายในภาพค่ะ ที่ร้านเปิดแต่เช้า เพราะว่ามีบริการอาหารเช้าด้วยค่ะ เมนูก็ตามป้ายเลย ข้างในมีชั้นขายขนมปังแบบฝรั่ง ง่ายๆ ขายด้วยค่ะ แต่ในเมื่อเรามากินโรตี เราก็ต้องสั่ง...มะตะบะ = =* แฮ่ ก็ตั้งแต่เกิดมาเชียงใหม่จะ 30 ฝนแย้ว ยังไม่เคยกินมะตะบะเลยอ่ะ จริงๆน้า T[]T (ที่บ้านซื้อแต่โรตีให้กินตลอด) สั่งเมนูไปแล้ว ก็ถ่ายช็อตการทำงานของแม่ครัวไปพลางๆ และนี่เป็นครั้งแรกที่เราเพิ่งเคยเห็นกะตาตัวเองว่า เอาอีโต้มาใช้ในการทำมะตะบะได้ด้วยอ่ะ 0[]O แล้วแม่ค้าก็เริ่มทำมะตะบะ เห็นเครื่องที่หยอดลงมาแล้ว นึกถึงไส้กะหรี่ปั๊บเลย แบบสำเร็จเรียบร้อยค่ะ...รสชาตินั้น อาจจะจืดไปนิด สำหรับใครที่ไม่ชอบความเข้มข้นมาก อาจจะชอบนะค่ะ ส่วนโรตีนั้นเขาใส่ไม่หวานนัก ถ้าใครชอบหวานๆ ก็ขอสั่งแม่ครัวให้ใส่เยอะๆ หน่อยค่ะ ก็ไม่รู้ว่าร้านเขากลัวว่าใส่เยอะไป เดี๋ยวลูกค้าไม่ชอบหรือเปล่า เลยทำให้จืดสักหน่อย แล้วค่อยเพิ่มรสทีหลังได้ ดีกว่าใส่เครื่องเยอะไปแล้วแก้ไม่ได้ค่ะ ถ้าใครได้แวะไปร้านข้าวซอยอิสลาม ลองกินโรตีอาลีมาเป็นของว่างล้างปากได้ค่ะ เมื่อสาวเหนือพาไปจิบน้ำผลไม้บรรยากาศวนิดาที่ ที เฮาส์ สยาม ศิลาดล บ้านเก่าเกือบ 100 ปี
ชื่อร้าน : ที เฮาส์ สยาม ศิลาดล
รายการอาหาร : ชา น้ำผลไม้ เค้ก และอาหารไทย-ฝรั่งทั่วไป เวลาเปิดบริการ : 9.00-18.00 น. ที่ตั้งร้าน : ติดถนนใหญ่ท่าแพ ใกล้สะพานแม่ข่า เลยสี่แยกไนท์บาซาร์-กาดกลวง ไปทางวัดแสนฝางและวันมหาวัน, เชียงใหม่ Thailand พิกัด GPS : 18° 47' 18.11" N 98° 59' 59.35" E คราวนี่เป็นร้านชากันบ้าง ซึ่งอายุก็เกือบ 100 ปีแล้วงับ (อายุปัจจุบันคือ 97 ปี) บริเวณหน้าร้านจะเป็นส่วนขายถ้วยโถโอชาม เครื่องเคลือบแบบเอเชีย บริเวณหน้าร้านจะเป็นส่วนขายถ้วยโถโอชาม เครื่องเคลือบแบบเอเชีย ประวัติของร้านค่ะ ส่วนตรงกลางของบ้าน จะเป็นร้านขายของที่ระลึกสองฟาก เคาน์เตอร์บาร์ พร้อมตู้แช่โชว์อาหาร ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเค้กเอาไว้ดื่มกับชานี่แล โคสให้เห็นตู้แช่ (ทำไมมีน้อยจังวุ้ย)
ชาใสใส่แตงโม ชามะนาว มีโถน้ำเชื่อมสำหรับเติมความหวาน น่ารักดีค่ะ ข้างบนของบ้านสามารถขึ้นไปถ่ายรูปได้นะค่ะ เสียดายว่ากล้องเราแบตหมดซะก่อน แต่ถ้าได้ขึ้นไปแล้ว อาจจะได้อารมณ์แบบทวิภพแถมมาอีกด้วยนะค่ะ ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้นะค่ะ คุณประจักษ์ ^ ^ เมื่อสาวเหนือพาไปจิบกาแฟยามเช้า บรรยากาศชิลล์ๆ ที่ กาแฟบ้านเวียง
ชื่อร้าน : กาแฟบ้านเวียง
รายการอาหาร : กาแฟ น้ำผลไม้ คุกกี้ (ไม่มีเค้ก) เวลาเปิดบริการ : 6.00 - 18.00 น. ที่ตั้งร้าน : ตรงข้ามจวนผู้ว่าเชียงใหม่ สะพานนวรัฐ ติดกับพุทธสถาน หน้าถนนเจริญประเทศซอย 1 (อยู่ใกล้ข้าวซอยอิสลาม แต่อยู่ติดถนนใหญ่ที่ออกซอยไปโผล่สะพานนวรัฐ), เชียงใหม่ Thailand พิกัด GPS : 18° 47' 12.15" N 99° 0' 8.81" E ร้านกาแฟร้านนี่บังเอิญเป็นร้านของลูกค้าของพ่อเราที่มาติดต่อซื้อขายกันค่ะ เจ้าของร้านเป็นหัวหน้าคนจีนมุสลิมในย่านแถวไนท์บาซาร์ และเป็นเจ้าบ้านเรือนไม้ล้านนาอายุกว่า 200 ปี ซึ่งอยู่ตรงข้ามจวนผู้ว่าเชียงใหม่ ถนนเจริญประเทศ ที่เป็นสี่แยกจะข้ามสะพานนวรัฐค่ะ...แต่ขออนุญาตไม่ถ่ายรูปบ้าน เพราะไม่อยากรบกวน ก็ขอถ่ายรูปร้านกาแฟก็พอค่ะ ป้ายร้าน ทางเข้าหน้าร้าน (รู้สึกดีที่มาถ่ายตอนเช้า แสงสวยจัง อีกด้านของทางเข้าร้าน ภายในร้าน ที่นั่งด้านหน้าร้าน ด้านหน้าร้านมีประมาณชุดที่นั่ง 2 คน จำนวน 4 ที่ (ข้างนอกอีกที่หนึ่ง) มองจากภายในร้านออกไป แสงสวยเหมาะมาจิบกาแฟยามเช้าเสียจริงๆ แต่อีกฝั่งด้านซ้ายมือของร้านนั้น เป็นร้านขายของเก่า หัตถกรรมของชาวเหนือค่ะ มีที่นั่งให้อีก 1 ชุด ซึ่งข้าน้อยว่า มุมนี่ดูสวยกว่าเยอะเลย ชอบภาพนี่สุดๆ รายการราคาเครื่องดื่มข้างบน กาแฟลาเต้ รสชาติโอเช น้ำผลไม้ปั่น รสชาติ...ก็โอเคนะงับ ออกแนวออร์แกนิค ไม่หวานมาก แต่รู้สึกใส่น้ำแข็งเยอะไปหน่อยไหม ดูดเจอแต่น้ำแข็งอ่ะ แต่ถ้าใครคิดจะสั่งเค้ก...ขอบอกว่าเสียใจค่ะ ทีนี้ไม่มี เขามีแต่... หรือไม่ก็ข้าวอบธัญพืช ฉะนั้นร้านนี่เหมาะจะมานั่งพักเท้าจิบกาแฟระหว่างทาง ใครหวังจะมากินเค้กก้อนใหญ่ๆ ก็คงต้องบอกว่าร้านนี้ไม่มีงับ ของตกแต่งภายในร้าน ที่น่ารักก็คือ เขาเอาเมล็ดกาแฟมาตกแต่งนี่แล ระหว่างรอนั้นก็แว่บไปเห็นแมวตัวนึงในสวนของร้านค่ะ ด้วยความที่ว่างจัด เลยถ่ายรูปเจ้าเหมียวไปเพลินๆ แต่เจ้าเหมียวก็ดูไม่ค่อยให้ความร่วมมือนัก เห็นได้จากในภาพว่า กำลังเตรียมมองหาทางหนีข้าน้อยอยู่ แล้วมันก็หนีขึ้นไป...บนระแนงไม้ในสวนนั้นแล แล้วมันก็ให้ความร่วมมือ เป็นแบบแชะภาพให้ข้าน้อยแบบไม่หนีไปไหนเลยเว๊ย ไอ่นี่นิ ขอจบการรีวิวแบบเหมียวๆ เพียงเท่านี้ค่ะ ^ ^ |
สาวเหนือเซาะกิ๋น
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] สวย ถึก และบึกบึน Link |