Group Blog All Blog
|
เมื่อสาวเหนือไปเมาเหล้าที่ GELATE สาขา Asiatique The River Front
ชื่อร้าน : GELATE สาขา Asiatique The River Front
รายการอาหาร : ไอศกรีมหลากรส เวลาเปิดบริการ : 17.00 - 24.00 น. ที่ตั้งร้าน : Asiatique The River Front เข้าทางประตูเจริญกรุง ให้หาร้านสุคิยะ แล้วเดินเข้าซอยของร้านจากนั้นเลี้ยวขวาจะเจอร้านพอดี, กรุงเทพมหานคร บางคอแหลม Thailand พิกัด GPS : 13° 42' 18.42
วันนี้ก็ขอรีวิวสั้นๆ เหมือนเดิมค่ะ เพราะวันนี้ทำงานเยอะ เอาไว้ถ้าวันหยุดจะลงรีวิวร้านที่ลงภาพเยอะๆให้ค่ะ ^ ^ รีวิวนี่มาจากหลังจากกินมื้อเย็นที่ Asiatique The River Front รุ่นพี่ที่เคารพทั่นหนึ่งเลี้ยงไอติม...เราก็ไม่รู้ว่าพี่ทั่นจะพาไปเลี้ยงร้านไหน ก็เดินตามรุ่นพี่ไป ประหนึ่งลูกเจี๊ยบเดินตามแม่ไก่อีกตามเคย (ฮา) แล้วรุ่นพี่ก็พามาร้านที่มีคนเดินเข้าเดินออกจนเต็มแน่นร้าน ไม่ห่างจากย่านทางเข้าประตูเจริญกรุง (ฝั่งที่ติดถนน) เห็นตัวอักษรแสงไฟติดหน้าร้านอย่างชัดเจน ไอศกรีม GELATE ร้านเล็กมากเลยค่ะ ตกแต่งสไตล์วินเทจ...แต่คนเยอะมากจนหาวิวถ่ายภาพในร้านดีๆ ไม่ได้เลยค่ะ T^T ถ่ายได้แค่หน้าร้านเท่านั้นเองงิ
พอเข้าไปในร้านคนก็เยอะมาก รุ่นพี่ก็บอกให้เข้าคิว แล้วรีบเลือกรสไอติมเลย (เพราะคนพร้อมจะเข้ามาถล่มร้านได้ทุกเวลา T^T จะเยอะไปไหนเนี่ย แจกฟรีหรือไงหว่า) พอเห็นไอติมในตู้แล้ว สีสันละลานตาละลานใจมาก...แต่ดูจะไม่มีรสไหนแปลกๆให้อยากลองเลยอ่ะ...อันนี้เป็นตู้ไอศกรีมรสผลไม้ค่ะ
เดินมายังตู้ที่สอง ตู้นี่เป็นไอศกรีมรสอื่นๆ ค่ะ เห็นมีรสขนมสายไหมด้วย (สีฟ้าๆ) ประดับท็อปปิ้งน่ารักเชียว XD....แต่ก็ยังไม่เตะตาเราพออ่ะ
แต่พอเราเห็นป้ายอันนี้แล้ว...วุ้ย! แปลก(สำหรับเรา)ดีค่ะ ชอบๆ XD นั้นคือไอศกรีมช็อกโกแลตผสมเหล้ารัมนั้นเอง! พอขอลองชิม กลิ่นรัมหอมเตะจมูกมากเลยค่ะ XD เลยตกลงเอารสนี่เลย พอได้กินก็ไม่ผิดหวังเพราะได้รสช็อกโกแลต และกลิ่นเหล้าด้วย (นี่จึงเป็นที่มาของหัวกระทู้เขียนให้ตกใจเล่นๆค่ะ XD)
แต่พอลองถ่ายรูปถ้วยไอติมที่ตักมานั้น ดูภาพไม่ค่อยน่าสนใจนัก เลยไม่ได้เอาลงค่ะ...เอารูปถ้วยไอติมรสสายไหมสีฟ้าสดใสมาลงแทนล่ะกันค่ะ สีสวยดี XD
ต่อไปสาวเหนือจะไปร้านไหนในบางกอกอีก โปรดติดตามนะเจ้า XD เมื่อสาวเหนือออกจากสมรภูมิออนเซล ไปพักเมื่อยขาที่ Ks cafe
ชื่อร้าน : Ks cafe
รายการอาหาร : วาลเฟิน กาแฟ ชา น้ำผลไม้ แซนวิช เวลาเปิดบริการ : ทุกวัน 10.00 - 22.00 น. ที่ตั้งร้าน : ติดร้านหนังสือ Kinokuniya ชั้น 3F (ขึ้นทางลิฟต์หลังร้านหนังสือจะสะดวกกว่า) สยามพารากอน, กรุงเทพมหานคร ปทุมวัน Thailand พิกัด GPS : 13° 44' 44.71" N 100° 32' 5.25" E
เนื่องมาจากร้านที่ไปกินแถวบางรักนั้น มีฟรีวิวลงในพันทิปชวนชิมแล้วค่ะ ไม่อยากให้ซ้ำกัน เลยขอข้ามร้านนั้นเลยล่ะกันค่ะ ส่วนที่รีวิวร้านนี่ เพราะวันนี้เวลาน้อยค่ะ เลยขอรีวิวสั้นๆก็แล้วกันค่ะ ^ ^ อันเนื่องมาจากรู้ว่ามีงานออนเซลของที่ห้างสยามเซ็นเตอร์ เลยชวนเพื่อนไปดูสถานการณ์...ปรากฎว่า เราคงเป็นผู้หญิงส่วนน้อย = =" ที่เห็นของเซลแล้ววิ่งเข้าหา เพราะเราเห็นจำนวนคนเยอะอย่างกะมางานแจกของฟรี ผู้คนอย่างกะฝูงมด ไฮโซล้านนาเนิ่บๆอย่างข้าเจ้า ขอถอยไม่สู้ต่อสมรภูมิช้อปปิ้งของบางกอกดีกว่า = =" (งานช้อปที่เชียงใหม่ไม่ใช่ขนาดนี้ อิฉันขอยอมแพ้) เราเลยเสนอกับเพื่อนว่า หาร้านนั่งพักขาหน่อยเถอะ เพราะถ้าเดินนานกว่านี่ เตรียมส่งอิฉันไปแอดมิทตัดขาทิ้งเลยดีกว่า T T เมื่อมองหาจุดหมาย ก็เหมือนจะร้องไห้ เพราะร้านเกือบส่วนใหญ่ คนเต็มหมดเลย แง T^T เพื่อนเลยชวนให้อดทนเดินมาที่ชั้นอาหารที่ห้างสยามพารากอนแทน แต่ยิ่งมาเห็นผู้คนจับจองโต๊ะเกือบหมดทุกร้าน เราก็เกือบจะคลานแล้ว เพื่อนก็เสนอว่า งั้นไปร้านตามชั้นๆต่อๆไปไหม มันก็มีร้านที่เหลือนะ...แต่ถ้าอยากได้ที่นั่งว่างๆ จริงๆ คงต้องขึ้นไปชั้นสูงๆหน่อย จนกระทั่งเราคิดได้ว่า...ยังมีอีกร้านที่คนไม่น่าจะนั่งแช่นานอยู่นี่นา มาสยามพารากอนหลายรอบทีไรก็ได้แต่นั่งมอง ไม่เคยเข้าไปใช้บริการเสียที คราวนี้ขอไปหน่อยเถอะ เพราะเป็นร้านปิดข้างใน ไม่ต้องนั่งฟังเสียเจ๊าะแจ๊ะเหมือนร้านแบบเอาด์ดอร์ตามริมระเบียงห้าง เราแข็งใจเดินขึ้นชั้น 3F ทันที เพื่อมุ่งหน้าไปยังร้าน Ks cafe นั้นแล
Ks cafe เป็นร้านคาเฟ่เล็กแต่น่ารักอบอุ่นติดกับร้านหนังสือ Kinokuniya ร้านหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในสยามพารากอน กลุ่มเป้าหมายดูจะเน้นลูกค้าที่ซื้อหนังสือ มีความสงบ และมุมที่สวยของร้านนี่อยู่ติดกับกระจกใสใหญ่ที่เห็นวิว BTS สยามจากมุมสูง เห็นรถไฟฟ้าแล่นผ่านไปผ่านมา...แต่ที่นั่งตรงนั้นมีลูกค้านั่งอยู่แล้วอ่ะซิค่ะ เลยอดได้ที่นั่งมุมสวยเลยอ่ะ T^T แต่ได้ที่นั่งเก้าอี้ดีหน่อย เหยียดแข้งเหยียดขาให้หายเมื่อยได้หน่อย ^ ^ มาถึงก็ดูเมนูกันหน่อยค่ะ หน้าปกดูธรรมดาไปนิดนะ
แต่ข้างในเมนู สีสวยสดใสชวนน่ารับประทานเสียจริง XD และเราชอบสั่งเมนูที่มักจะเป็นเมนูแนะนำ (ที่เห็นในภาพจะเป็นเมนูติดดาว) มาลองชิมดูค่ะ (เรานิสัยเหมือนผู้ชาย ชอบแสวงหาเมนูแปลกใหม่มาลอง XD)
เราก็เลยสั่ง ไอซ์ คาราเมล เฟรบเป้ มาลองดู เห็นเป็นเมนูแนะนำติดดาว ผลปรากอบว่า...ก็โอเชค่ะ กินได้...(เว้นไว้ในฐานที่เข้าใจ) = =
แต่อารมณ์ก็ดีทันทีเมื่อเพื่อนสั่งวาฟเฟิลกล้วยหอมราดช็อกโกแลตมา XD สวยทั้งหน้าและรสชาติเลยค่ะ เลยอารมณ์ดีขึ้นมาทันที XD
นั่งแช่อยู่ในร้านสมใจอยากจนเกือบ 1 ทุ่มเลยออกจากร้านไปมีทติ้งมื้อเย็นกับเพื่อนอีกกลุ่มต่อ...คิดไว้เลยว่า ถ้าได้มีโอกาสมาที่ร้านนี่อีกครั้ง จะจองวิวมุมกระจกสูงให้ได้เลย XD มาลุ้นพรุ่งนี้นะค่ะ ว่าสาวเหนือจะไปกินร้านอาหารใดในบางกอกอีก XD เมื่อสาวเหนือ(ถูก)พาไปดื่มชานมไข่มุกไต้หวันสุดอร่อยที่โอชยะ เขตบางรัก
ชื่อร้าน : โอชยะ OCHAYA
รายการอาหาร : ชานมไข่มุก วาฟเฟิลไข่ ฯลฯ เวลาเปิดบริการ : ทุกวัน 10.00-21.00 น. ที่ตั้งร้าน : ติดถนนเจริญกรุงสายใหญ่ ฝั่งซอยเจริญเวียง ร้านอยู่หัวมุมซอยพอดี ให้สังเกตร้านที่มีสีเขียวและป้ายชื่อร้านภาษาไทย, กรุงเทพมหานคร บางรัก Thailand พิกัด GPS : 13° 43' 12.67" N 100° 30' 57.44" E
เนื่องจากเมื่อช่วงวันที่ 30 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม สาวเหนือลงมาแอ่วบางกอกค่ะ เลยได้ไปทัวร์ชิมอาหารดังๆในบางกอกเยอะเลย จึงจะทยอยเอามาลงวันละกระทู้นะค่ะ ภาพอาจจะมีน้อยและชิมไม่ครบบ้าง ขออภัยด้วย เริ่มต้นจากที่เราเดินตามเพื่อนสาวชาวบางกอกไปต้อยๆ ตามประสาคนต่างถิ่นที่ไม่รู้จักที่ทางกรุงเทพนัก หลังจากเพื่อนพาไปชมนิทรรศการที่วัดไตรมิตรแล้ว ราว 4 โมงเย็น ก็จะไปเที่ยวเอเชียทิค เดอะ รีเวอร์ไซต์ต่อ โดยนัดเพื่อนบางกอกอีกคนไว้คือเวลาเรือของเอเชียทิคมารับที่ท่าเรือสาทร เราก็เลยออกจากวัดและนั่งรถท่าเตียนสาย 1 มายังเขตบางรัก ย่านถนนเจริญกรุงกันค่ะ เพื่อนให้ลงป้ายไหนเราก็ลงอย่างโดยดี เขาเดินไปไหนเราก็ตามไปด้วย ประดุจลูกเจี๊ยบเดินตามแม่ไก่ (ฮา) จนกระทั่งเพื่อนพาเข้าร้านนี่ค่ะ ร้านสีเขียวเด่นสะดุดตาที่หัวมุมถนน น่าจะซอยเจริญเวียง มีนามกรว่า ร้านโอชยะ
เมื่อเข้าไปในร้าน (ขอเข้าเลย เพราะอากาศข้างนอกร้อนจนแป้งแต่งหน้าละลาย = = ") ส่วนเพื่อนก็ตรงดิ่งไปที่เคาน์เตอร์สั่งชา ได้ยินพนักงานถามว่า ใส่มุกไหม...ถึงได้รู้ว่าเป็นชานมไข่มุกค่ะ ป้ายบอกสรรพคุณของชาร้านโอชยะ (มีเฟส FB ด้วย ถึงได้ทราบว่าเป็นชาไต้หวันแฟรนไชต์ มีหลายสาขา)
ดูจากป้ายเมนูในร้านแล้วมีให้เลือกสรรมากมายเลยค่ะ...แต่ที่นั่งในร้านไม่ค่อยมีเลย โต๊ะก็เล็กมีแค่สองตัว แล้วก็มีลูกค้าวัยรุ่นนั่งดื่มจับจองไปเกือบหมด อาจเพราะเป็นร้านห้องแถวเดียวด้วย คงจะเหมาะซื้อกินกลับบ้านมากกว่าอ่ะ = ="
เราก็มองหาดูว่ามีเมนูแนะนำหรือพิเศษอะไรของร้านไหม...คือเราเป็นคนที่จะสั่งเมนูพิเศษของอาหารจากร้านนั้นมากกว่าจะกินเมนูธรรมดานะค่ะ เพราะอยากชิมอะไรพิเศษๆ มองดูป้ายก็ไม่ค่อยมีอะไรเด่นเลยแฮะ หรือแย่งกันเด่นจนไม่น่าสนใจ แต่พอเหลือบไปดูป้ายที่ติดตรงเสาข้างประตูจึงได้เห็นเมนูแนะนำแล้วค่ะ ทายสิว่า เราจะสั่งอะไร ^ ^
ขณะที่สั่งไปแล้ว ก็มองหามุมถ่ายรูปของร้านไป ก็สะดุดตากับป้ายอันเบ้อเริ่มข้างหลัง ซึ่งเขียนว่ามีเมนูวาฟเฟิลด้วย (ที่จริงพนักงานเค้าก็ถามว่าจะรับวาฟเฟิลไหม แต่เราตอนนั้นหนืดอากาศร้อนค่ะ เลยมึนไม่ค่อยได้ยิน)
และดูไปอีกป้ายหนึ่ง...ดูเหมือนว่าวาฟเฟิลของร้านจะไม่ธรรมดา เพราะเป็นวาฟเฟิลที่มีรูปทรงเหมือนแผงไข่ไก่...ดูแนวดีแฮะ...เสียดายไม่ได้สั่งมาชิมค่ะ เพราะว่าเราจะไปกินอย่างอื่นอยู่ (ที่จริงตอนนั้นมึนจนร้อนมาก อยากได้น้ำเย็นๆมากกว่ามากินอะไรร้อนๆอ่ะ)
รอไม่นานเลยก็ได้ชามาแล้ว...ขอไม่บอกนะค่ะว่าชาอะไร ให้เดากันก็ตามรูปที่โพสไป ^ ^ ...แต่อร่อยดีค่ะ ชื่นใจ ชอบที่ฝาปิดสนิทดี รับรองว่าไม่ต้องระวังหกแบบฝาครอบพลาสติก ออกแบบกราฟิกก็เก๋ดีและมีช่องให้หลอดเจาะโดยเฉพาะ (เหมือนจะเป็นฝาใหม่ ไม่ใช่ฝาแบบบนป้ายโฆษณา) แถมมีที่อยู่ของเว็บไซต์และ FB ด้วยค่ะ ลองไปตามรายละเอียดในภาพกันได้ เหมือนจะมีการเปิดให้ขายแฟรนไซต์ด้วยค่ะ
ส่วนจะไปร้านไหนต่อ ไว้ติดตามพรุ่งนี่่นะค่ะ ^ ^ เมื่อสาวเหนือพาไปจิบกาแฟเย็นที่ Chez15
ชื่อร้าน : Chez15
รายการอาหาร : กาแฟ เค้ก น้ำผลไม้ปั่น อาหารไทย-ฝรั่งทั่วไป เวลาเปิดบริการ : ทุกวัน 8.00 - 24.00 น. ที่ตั้งร้าน : ที่ตั้งของร้านนั้น ถ้าเราจะเดินข้ามสะพานนวรัฐจากฝั่งกาดหลวง ให้เดินชิดซ้าย แล้วเลี้ยวซ้ายไปทางร้านอาหารริมแม่น้ำปิง เลยร้านกู้ดวิวไป, เชียงใหม่ Thailand พิกัด GPS : 18° 47' 22.64" N 99° 0' 14.18" E
ร้านนี่เพิ่งไปเมื่อวานนี่เองค่ะ พอดีมีธุระไปส่งพัสดุให้น้องที่กาดหลวง และจำได้ว่า ลูกศิษย์ที่เพิ่งจบ ชวนไปกินกาแฟร้านที่เค้าเป็นบาริสต้าอยู่ค่ะ เลยคิดว่าไหนๆ ก็มาแล้ว ไปแวะหน่อยดีกว่า...และพอดีว่าเงินเดือนออก เลยกล้าไปร้านค่ะ เพราะลูกศิษย์กระซิบหน่อยๆ ว่า...ครูต้องกระเป๋าหนักนิดนึงนะงับ
ด้านซ้ายมือทางเข้าร้าน มีกำแพงที่เพ้นท์โปรโมทร้าน Chez ค่ะ ถามลูกศิษย์ เค้าบอกว่า Chez (ซิส)แปลว่า บ้าน ในภาษาฝรั่งเศส
ส่วน 15 มาจากว่าที่ตั้งของร้านอยู่บนเลขที่ 15 ค่ะ มุมสำหรับถ่ายรูปสวยๆ แต่วันที่ไปแดดร้อนมากๆ เลยขอบาย
อาคารของร้าน
ภายในร้านค่ะ ตกแต่งเหมือนสไตล์ผู้ดีอังกฤษหน่อยๆ
ถ่ายภาพภายในลำบากมาก เพราะแสงเยอะ หรือไม่รู้กล้องกากไม่รู้ 555
อันนี้ก็มืดสุดๆ เพลีย (แต่ได้บรรยากาศดีน้า)อันนี้ก็มืดสุดๆ เพลีย
เตาผิง(ปลอม)
ห้องกินใหญ่
โต๊ะเล็กใกล้เคานเตอร์ชงกาแฟ
เอาท์ดอร์ของร้าน เหมาะมากินตอนเย็นๆค่ำๆ ค่ะ หน้ากลางวันถ้าไม่ใช่หน้าหนาว ไม่แนะนำ แดดร้อนมว้ากกกกกกก
กลับมาดูเมนูของร้าน สไตล์ Retro ดูน่ารักดี
หน้าแรกเป็นกาแฟ ร้อน-เย็น-เพิ่มวิปปิ้งครีม ราคาไม่เท่ากันนะค่ะ
หน้าสองเป็นเค้ก
ส่วนอันนี้เมนูแนะนำค่ะ...เห็นราคาแล้วรู้เลยว่าทำไมลูกศิษย์เตือนว่าให้กระเป๋าหนักหน่อย 0[ ]o
ตอนแรกยังไม่เจอลูกศิษย์ค่ะ คิดว่าสงสัยพลาดมาตอนเค้ายังไม่เข้าเวร (ไม่มีเบอร์โทรด้วย) เลยสั่งของมากินก่อน
เค้กช็อกโกแลต (95 บาท) อร่อยดีค่ะ แต่แข็งนิดหน่อย
ช็อกโกแลตเย็นเพิ่มวิปปิ้งครีม (90 บาท)
เค้กอื่นๆ
ชีสเค้ก
แล้วเราก็ลองถามบาริสต้าที่ทำช็อกโกแลตเย็นว่า มีลูกศิษย์ชื่อนี่ไหม เขาก็บอกว่า...ตอนนี้ทำงานอยู่พอดี แต่อยู่ข้างนอกร้าน ก็เลยขอรบกวนเขาช่วยตามตัวมาให้หน่อย บอกว่าอาจารย์มาหา...ก็เลยได้เจอกันค่ะ (ขออนุญาตไม่เปิดเผยหน้าตานะค่ะ ^ ^) และเพื่อไม่ให้เสียน้ำใจว่าอุตส่าห์มาแล้วไม่ได้ชิมฝีมือลูกศิษย์ เลยสั่งกาแฟ Chez สูตรเฉพาะของร้าน ให้เขาทำให้กินก่อนกลับบ้านค่ะ เป็นกาแฟที่มีรสซ่าเหมือนมินต์หน่อยๆ (85 บาท) แล้วก็โปะด้วยไอติมมีรสให้เลือก (วานิลา,สตรอบเบอร์รี่,ช็อกโกแลต) เป็นไอติมจากหนองโพค่ะ เหมือนโฟลค่ะ อร่อยดี
ส่วนเมนูอื่น เอาไว้ถ้ามีเพื่อนมากินเยอะๆ อาจจะพามาร้านนี่ค่ะ ก็ต้องทำใจหน่อยว่า ร้านติดแม่น้ำปิง มักจะมีราคาสูง 555 ดูได้จากบิลค่ะ
ก็จบการรีวิวเพียงเท่านี้ค่ะ ^ ^ เมื่อสาวเหนือพาไป Hang out ที่ Monkey Club
ชื่อร้าน : Monkey Club
รายการอาหาร : เครื่องดื่มและอาหารทั่วไป เวลาเปิดบริการ : 16.00-02.00 น. ที่ตั้งร้าน : นิมมานซอย 9, เชียงใหม่ Thailand พิกัด GPS : 18° 47' 51.53" N 98° 58' 4.79" E
เนื่องจากเมื่อคืนนี่มีงานรวมรุ่นเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกัน 10 ปีค่ะ ตอนแรกก็ไปงานรวมรุ่นที่โรงเรียนก่อน ต่อมาก็พากันไปต่อ Hang out ที่ Monkey Club ผับชื่อดังของเชียงใหม่ ในย่านนิมมานซอย 9 ค่ะ ^ ^
แต่ขอบอกตรงนี้ก่อนว่า เราไม่ใช่คอเที่ยวนัก แต่เพื่อนเป็นคอดื่ม = =" ฉะนั้นถ้าเพื่อนอยากไป เราก็ต้องไปค่ะ ถือว่านานๆครั้งเปลี่ยนบรรยากาศ กินเหล้ากินเบียร์บ้าง...เพราะไม่เคยมีใครมอมอิฉันสำเร็จ 555 ดังนั้นจะไม่ค่อยรีวิวอาหารมากนักว่ามีอะไรพิเศษ เพราะมันยังอิ่มโต๊ะจีนงานเลี้ยงรุ่นอยู่งิ T T ต้องบอกอีกว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เราไปที่นี่เลยค่ะ =///= แม้ว่าที่นี่จะเปิดอยู่คู่เชียงใหม่มาก็นาน แต่ไม่ค่อยได้มีโอกาสไป เพราะบ้านไกล และครอบครัวก็ไม่ชอบให้เราไปเที่ยวกลางคืนด้วย ยกเว้นจะมีเพื่อนขับรถไปรับไปส่งอ่ะค่ะ Monkey Club ในเริ่มแรกเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวลิงมาก่อน จึงมาขยับขยายกลายเป็นผับดังในย่านนิมมาน ในระยะแรกๆ นักเที่ยวทั้งในถิ่นและต่างถิ่นเชียงใหม่ มักจะมุ่งหน้าไปผับ Warm Up เพราะอำนวยในเรื่องสถานที่จอดรถ ติดถนนใหญ่ และการอนุญาตให้ซื้อเหล้านอกเข้าไปกินข้างในได้ (แบบที่เดี่ยวโน้ส-อุดมแซวว่า นักเที่ยวไปซื้อเหล้าที่ 7-11 แต่เอาไปกินใน Warm Up) ส่วน Monkey Club นั้นจะมีเสียงบ่นจากนักเที่ยวว่าราคาแพงไป แต่พอมาในปัจจุบัน มนต์ขลัง Warm Up เริ่มจะซาลง ด้วยเพราะการโหมกระแสคนไปเยอะๆ สถานที่คับแคบ ประกอบกับการเบื่อกระแส (อะไรๆก็ไปแต่ Warm Up จนเอียน) ทำให้นักเที่ยวเริ่มมองหาที่กินเหล้าฟังเพลงสบายๆ หน่อย...Monkey Club จึงกลายเป็นที่หมายยอดนิยมในปัจจุบัน เพราะมีการแบ่งส่วนที่นั่งชัดเจน ระหว่างกลุ่มนักเที่ยวที่ต้องการนั่งแบบสบายๆ กว้างๆ กับมีโซนห้องเต้นโดยเฉพาะ นักร้องวงนี้ร้องเพลงเพราะดีจัง ^ ^
ส่วนที่นั่งด้านหน้าทางเข้า จะเป็นแนวดื่มเหล้าค่ะ เพราะดูโต๊ะมันเตี้ย ต้องข้างในๆ หน่อย ที่โต๊ะจะสูง กินข้าวกินปลาสบายๆได้ แต่ไม่ได้เข้าไปถ่ายรูปนะค่ะ เพราะข้างในคนค่อนข้างเยอะ คืนวันศุกร์-เสาร์ คนจะแน่นค่ะ ตรงทางเข้าจะมีสะพานข้ามบ่อปลาคาร์พ เคยเห็นผู้หญิงเมามากจนตกส้นสูง ตกไปในสระน้ำแล้ว = =" ฉะนั้นเตือนผู้หญิงว่า เมาแล้วเซฟๆ ตัวเองหน่อยเถอะค่ะ
เคาน์เตอร์บาร์แบบมานั่งดื่มคนเดียว ตรงนี้ติด TV ถ่ายทอดการแข่งฟุตซอลเมื่อคืนด้วย
ห้องน้ำหรือส่วนโซนเต้นไม่ได้ถ่ายนะค่ะ คนเยอะ ถ่ายเฉพาะเมนูอาหารแนะนำพร้อมราคาก็พอค่ะ
เพื่อนก็สั่งเบียร์มาทาวเวอร์นึงค่ะ (แล้วก็ดื่มไม่หมดอีกนะ พวกนี้ = =*) ยำสาหร่ายญี่ปุ่น อร่อยมาก
ปลาหมึกชุบแป้งทอด รสชาติก็โอเคนะ (ทำไมกล้องเบลอ หรือเบลอตามความเมาของคน ^ ^")
ปีกไก่ทอดจนกรอบหมดเลย
ปูอัด (อาหารญี่ปุ่นที่นี่ราคาพอดีค่ะ แต่ซาซิมินี่ 399 บาทแล้ว ดูน้อยไม่ค่อยคุ้ม)
ดื่มเบียร์ไปได้เหยือกเดียว เริ่มร้อนท้องยังไงไม่รู้ ไม่รู้เบียร์ไปตีกับอาหารจีนในท้องอ่ะเปล่า T T เลยต้องสั่งน้ำองุ่นมาดื่มแก้ค่ะ (70 บาท) ชอบที่มีเชอร์รี่มาตกแต่งแก้วนี่แล ^ ^ ของโปรด
จากนั้นก็วงเกือบแตก เพราะมีกลุ่มชุดตำรวจเข้ามาตรวจในร้าน ทำให้นักเที่ยวเซ็ง เดินออกจากร้านกันเกือบหมดตอนราวๆ ตี 1 ครึ่ง เราก็เลยปึ้กบ้านไผบ้านมันเลยแล้วดีกว่าค่ะ (ถ้าสั่งเบียร์หรือเหล้าเป็นขวด กินไม่หมด เอากลับบ้านได้นะค่ะ ยกเว้นแบบทาวเวอร์เน้อ ^ ^)อ เสียดายว่าไม่ได้มาตอนเย็นๆ แบบมากินข้าวเย็นมื้อแรกค่ะ จะได้สั่งกินให้เยอะกว่านี่หน่อย...ก็ต้องขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ ถ้าใครมาเที่ยวเชียงใหม่ แล้วอยากหาผับนั่งได้เต้นดี ก็ลองมาที่คลับลิงเต้นได้นะค่ะ |
สาวเหนือเซาะกิ๋น
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] สวย ถึก และบึกบึน Link |
