Group Blog
 
All blogs
 

61. วัดมหาธาตุวรวิหาร จ.เพชรบุรี

196 ถนนดำเนินเกษม ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี

วัดมหาธาตุวรวิหาร จังหวัดเพชรบุรี เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างในสมัยใด มีผู้สันนิษฐานว่าน่าจะสร้าง สมัยทวารวดี - สุโขทัย มีอายุราว 800 - 1,000 ปี โดยประมาณ เนื่องจากขุดพบซากอิฐสมัยทวารวดีอยู่เป็นจำนวนมาก มีผู้กล่าวว่าวัดมหาธาตุวรวิหารน่าจะเคยเป็นวัดที่เคยมีความเจริญรุ่งเรืองและเป็นพระอารามหลวงมาก่อน ต่อมาชำรุดทรุดโทรมลง จนถึงสมัยรัชกาลที่ 6 จึงได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกฐานะเป็นพระอารามหลวง เมื่อปี พ.ศ. 2459 ซึ่งพระสุวรรณมุณี (หลวงพ่อชิด ชิตรัตน์) เป็นเจ้าอาวาส

วัดมหาธาตุวรวิหาร เป็นวัดที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ศิลปะและโบราณคดี ภายในพระวิหารหลวงของวัดประดิษฐานพระพุทธรุปสำคัญ คือ หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ วัดมหาธาตุ ด้านหลังพระวิหารหลวง คือ พระปรางค์ 5 ยอด อยู่ภายในวิหารคต ทางด้านทิศใต้ของพระวิหารหลวง คือ พระวิหารน้อย และวัดมหาธาตุวรวิหารยังได้สร้าง พิพิธภัณฑ์ของวัด เป็นที่รวมรวมศิลปะ ความเป็นมาต่าง ๆ ของวัดไว้ให้ผู้สนใจได้เข้าชม

พระวิหารหลวง สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย รัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ (พ.ศ. 2275 - 2301) ภายในพระวิหารหลวงมีพระพุทธรูปที่สำคัญ คือ พระพุทธรูปประธานทรงราชาภรณ์ นอกจากนี้ ยังมี หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ วัดมหาธาตุ เป็นพุทธรุปปรางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 8 นิ้ว หัตถ์ซ้ายถือพัด ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อวัดมหาธาตุ ภายในพระวิหารหลวงผนังทุกด้านมีจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงาม ทั้งภาพชาดก และเทพชุมนุมที่หน้าบันประดับด้วยลาย ปูนปั้น รูปพระนารายณ์ทรงครุฑยุดนาค มีพยาวานรแบกครุฑอยู่อีกชั้นหนึ่ง พื้นหลังเป็นลายกนก ก้านขดออกช่อลายหางโต เป็นรูปครุฑ นาค ยักษ์ ฯลฯ

พระวิหารน้อย เป็นสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยา ฐานอ่อนโค้งทรงสำเภา ตั้งอยู่ระหว่างพระวิหารหลวงกับพระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหลวงพ่ออู่ทอง ศิลปะแบบอู่ทอง ปางมารวิชัย ที่ฐานมีลายปูนปั้น ประดับกระจกสวยสดงดงาม เช่น รูป ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรีแบกฐานพระเป็นต้น ที่หน้าบันประดับด้วยลวดลายปูนปั้นวิจิตรงดงาม เช่นเดียวกับพระอุโบสถ และพระวิหารหลวง

วัดมหาธาตุวรวิหาร มีพระปรางค์ 5 ยอด เป็นสัญลักษณ์ สูงตระหง่านในเขตพุทธาวาส สามารถมองเห็นได้แต่ไกลทั้ง 4 ทิศ วัดจากฐานถึงยอดนภศูลได้ 55 เมตร รอบฐานยาว 120 เมตร มีอายุราว 1,000 กว่าปี ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุมาแต่อดีตกาล มีระเบียงคตรอบพระปรางค์ เป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ในระเบียงคตมีพระพุทธรูปจำนวน 193 องค์ ประดิษฐานบนระเบียง พร้องทั้งมีตัวแบกที่ฐานพระ ส่วนมากตั้งอยู่ใต้องค์พระพุทธรูปทรงเครื่องไว้หลากหลาย สวยงาม พระพุทธรูปส่วนใหญ่ เป็นศิลปะอยุธยาตอนปลาย และสกุลช่างเมืองเพชร พุทธลักษณะงดงามมาก























 

Create Date : 19 กันยายน 2556    
Last Update : 9 กรกฎาคม 2560 17:03:59 น.
Counter : 1812 Pageviews.  

62. วัดใหญ่สุวรรณาราม จ.เพชรบุรี

เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร
88 ถรรพงษ์สุริยา (ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 1 กิโลเมตร) ตำบลท่าราบ อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี

วัดนี้สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา และได้มีการบูรณะในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ภายในวัดมีศาลาการเปรียญ เป็นพระตำหนักไม้สักทั้งหลังที่พระเจ้าเสือแห่งกรุงศรีอยุธยา พระราชทานแด่พระสังฆราชชาวเพชรบุรี ศาลาการเปรียญนี้มีการแกะสลักไม้ที่สวยงาม โดยเฉพาะบานประตูสลักลายก้านขดปิดทอง และยังมีธรรมาสน์เทศน์ ซึ่งแกะสลักลงรักปิดทอง รูปทรงเป็นบุษบกที่งดงามและสมบูรณ์ บนผนังภายในพระอุโบสถ มีภาพเขียนเทพชุมนุม อายุกว่า 300 ปี สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าชมศิลปกรรมในพระอุโบสถและศาลาการเปรียญ ต้องไปติดต่อขอกุญแจที่เจ้าอาวาส

หลักฐานโบราณสถานและโบราณวัตถุในวัดแสดงถึงความเก่าแก่ที่น่าจะมีมาตั้งแต่ ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา และได้รับการปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในสมัยสมเด็จพระเจ้าเสือ (พ.ศ.๒๒๔๖-๒๒๕๑) โดยพระสุวรรณมุนี (สังฆราชแตงโม) ชาวเพชรบุรีซึ่งเคยมาอยู่อาศัยในวัดนี้และบรรพชาเป็นสามเณรก่อนจะขี้นไปอยู่ กรุงศรีอยุธยา ในสมัยรัชกาลที่ ๕ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๕๒ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเหล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ยกวัดใหญ่สุวรรณารามขึ้นเป็นพระอารามหลวง และเสด็จทอดพระเนตรหลายครั้งพร้อมทั้งพระราชทานเงินสำหรับการปฏิสังขรณ์วัด ด้วย แสดงถึงความสำคัญของวัดใหญ่สุวรรณารามที่ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์มาโดยตลอด โบราณสถานที่ปรากฏอยู่ในวัดใหญ่สุวรรณารามนั้นทรงคุณค่าทางด้านศิลปกรรม และสถาปัตยกรรมโบราณที่งดงาม สมัยกรุงศรีอยุธยา อันประกอบด้วย

พระอุโบสถ ก่ออิฐถือปูนที่มีฐานปัทม์อ่อนโค้งแบบฐานสำเภาภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังสีฝุ่น ภาพพุทธประวัติ และเทพชุมนุม เสาและเพดานมีการตกแต่งด้วยลายทองบนพื้นแดงอย่างวิจิตร ตัวพระอุโบสถมีวิหารคตที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๕ ล้อมรอบ

ศาลาการเปรียญ ลักษณะเป็นเรือนไทยขนาดใหญ่ ม.ร.ว.ศึกฤทธิ์ ปราโมช สันนิษฐานว่าเป็นพระตำหนักเจ้าพระขวัญในสมเด็จพระเพทราชา ที่สมเด็จพระเจ้าเสือได้พระราชทานให้พระสุวรรณมุนีมาปลูกเป็นศาลาการเปรียญ ลักษณะเด่น คือ ฝาผนังเป็นไม้แบบฝาปะกนด้านนอกเดิมเขียนลายทอง มีพรึงเป็นรูปกระจังปฏิญาณขนาดใหญ่ประดับโดยรอบอาคาร ทางด้านทิศเหนือมีหน้าต่างรูปแบบพิเศษ ๒ ช่อง โดยมีกรอบเช็ดหน้าประดับด้วยซุ้มเรือนแก้วปิดทอง ประตูทางเข้าศาลาการเปรียญด้านทิศตะวันออกมี ๓ บาน ตั้งอยู่ในกรอบเช็ดหน้าทำเป็นรูปซุ้มเรือนแก้ว เน้น
เป็นพิเศษที่ประตูกลางซึ่งบานประตูเป็นไม้มีการจำหลักลายก้านขดหางโต ปลายก้านลายเป็นรูปหงส์ คชสีห์ ราชสีห์สอดแทรกด้วยพันธุ์ไม้ และสัตว์จำพวก ลิง กระรอก และนกจับตามก้านลาย อกเลาแกะเป็นลายรักร้อยตลอดไม่มีนม เชิงประตูเป็นภาพธรรมชาติและรูปสัตว์ ส่วนฝาผนังภายในศาลาการเปรียญมีภาพจิตรกรรมสีฝุ่นผสมกาวเขียนเป็นภาพเทพ ชุมนุม ทวารบาล และภาพสัตว์ชนิดต่างๆ สภาพลบเลือนมาก เสาศาลาการเปรียญเขียนเป็นลายรดน้ำแตกต่างกันในแต่ละคู่

หอไตร ตั้งอยู่กลางสระน้ำ ลักษณะเป็นอาคารไม้ทรงไทยชั้นเดียวมีเสาไม้ ๓ เสาตามแนวยาวกลางอาคารซึ่งเป็นรูปแบบพิเศษ ฝาไม้ปะกน หลังคาทรงจั่วยอดแหลม มุงกระเบื้องเกล็ดเต่า

นอกจากนี้ยังมีโบราณสถานที่สำคัญอีกหลายอย่างภายในวัดใหญ่สุวรรณาราม เช่น หมู่กุฏิสงฆ์ศาลาโถง หอระฆัง หอไตรหลังใหม่ พระปรางค์ เจดีย์ ถาน เป็นต้น ซึ่งมีรูปแบบศิลปกรรมในสมัยกรุงศรีอยุธยาและกรุงรัตนโกสินทร์ที่มีคุณค่า เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญ กรมศิลปากร ได้ประกาศขึ้นทะเบียนวัดใหญ่สุวรรณารามเป็นโบราณสถานของชาติในราช กิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๘ พิเศษ ๘๗ เมื่อวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๔๔











 

Create Date : 19 กันยายน 2556    
Last Update : 9 กรกฎาคม 2560 17:05:53 น.
Counter : 836 Pageviews.  

63. วัดพระพุทธไสยาสน์ (วัดพระนอน) จ.เพชรบุรี

61 ถนนคีรีรัถยา ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเขาวัง (พระนครคีรี)

เป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยา ประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่มีลักษณะงดงามและมีขนาดใหญ่ 1 ใน 4 ของประเทศ (ยาว 21 วา 1 ศอก 7 นิ้ว) สร้างด้วยอิฐตลอดทั้งองค์และลงรักปิดทอง เชื่อว่าเป็นฝีมือสกุลช่างสมัยอยุธยา องค์พระยื่นออกมาจากหินภูเขาที่อยู่ด้านหลัง สำหรับพระวิหารมีผนังเพียง 3 ด้านเท่านั้นเพราะอยู่ติดกับเขาวัง ผนังอีกด้านจีงเป็นส่วนของภูเขา บริเวณฝ่าพระบาทของพระพุทธไสยาสน์จะมีมงคล 108 ซึ่งเป็นลวดลายมงคล ปัจจุบันลวดลายเลือนหายไปบางส่วน การได้นมัสการบูชามงคล 108 มีความเชื่อว่าเป็นการปัดเสนิยดรังควาน และสิ่งเลวร้ายทั้งปวงออกจากตัวเอง และครอบครัว ให้แคล้วคลาดจกาภยันตราย สิ่งอัปมงคลทั้งหลายทั้งปวง





















 

Create Date : 19 กันยายน 2556    
Last Update : 9 กรกฎาคม 2560 17:08:58 น.
Counter : 907 Pageviews.  

64. วัดเขาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี

ต.ไร่ส้ม อ.เมือง จ.เพชรบุรี

แต่เดิมเคยเป็นสำนักสงฆ์เก่าแก่มาตั้งแต่สมัยสุโขทัย มามีฐานะเป็นวัดในสมัยกรุงศรีอยุธยา
วัดนี้เป็นวัดที่มีชื่อเสียงทางด้านความงามของศิลปะปูนปั้นชั้นครูที่ฝากผลงานไว้เหนือหน้าบันพระอุโบสถ เป็นลายปูนปั้นที่งดงามงามสกุลช่างเมืองเพชร เป็นรูปลายกนกเปลวพลิ้วล้อมรูปครุฑ

นอกจากนั้นบริเวณวัด ยังมีถ้ำให้ชมอีกหลายแห่ง ถ้ำแรก คือ "ถ้ำประทุน" มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ตามผนังถ้ำทั้งสองด้าน ลึกเข้าไปจะเป็นถ้ำ "พระเจ้าเสือ" ที่ชื่อเช่นนี้เพราะมีเรื่องเล่ากันมาว่า พระเจ้าเสือได้เสด็จมาหาอาจารย์แสง และได้ถวายพระพุทธรูปยืนปางห้ามสมุทรประดิษฐานไว้ในถ้ำแห่งนี้ ถัดจากถ้ำนี้เข้าไปทางด้านใต้จะมีถ้ำพระพุทธไสยาสน์ จะมีพระนอนองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ และตรงซอกผนังถ้ำมีประทุนเรือทำด้วยไม้เก่าแก่มาก เป็นประทุนเรือที่พระเจ้าเสือถวายอาจารย์แสง นอกจากถ้ำทั้งสามนี้แล้ว ยังมีถ้ำอื่น ๆ เช่น ถ้ำพระอาทิตย์ ถ้ำพระจันทร์ ถ้ำสว่างอารมณ์ ถ้ำช้างเผือก และถ้ำดุ๊คซึ่งมีชื่อตามดุ๊คโยฮันฮัลเบิร์ต ผู้สำเร็จราชการเมืองปอร์นสวิค (Braunschweig) ประเทศเยอรมัน ผู้เคยมาเยือนเพชรบุรีและมาเที่ยวถ้ำแห่งนี้

มีโบสถ์กับวิหาร เรียกกันว่าโบสถ์เมียน้อยเมียหลวง มีเจดีย์องค์หนึ่งตั้งอยู่ตรงกลาง ยอดเจดีย์เอียงไปทางวิหารหน้าบันพระอุโบสถเป็นลายปูนปั้นเป็นภาพครุฑจับเถาก้านลาย เป็นที่ชื่นชมกันว่าฝีมืองดงามไม่มีที่ใดเหมือน ทั้งนี้โบสถ์เมียน้อยเมียหลวงร่วมทั้งเจดีย์ที่ประดิษฐานอยู่ที่วัดเขาบันไดอิฐก็ได้มีการเล่าขานถึงโบสถ์และเจดีย์แห่งว่า มีเศรษฐีแสงมีภรรยาอยู่ 2 คน ก่อนตายได้สร้างเจดีย์ไว้และสั่งภรรยาทั้งสองให้นำอัฐิของตนไว้ที่เจดีย์นี้ ต่อมาภรรยาทั้งสองถกเถียงกันว่าเศรษฐีรักภรรยาใดมากกว่ากัน เมื่อตกลงไม่ได้ทั้งสองจึงสร้างโบสถ์และวิหารเคียงข้างเจดีย์และอธิษฐานว่าเศรษฐีรักใครขอให้ยอดเจดีย์เอียงไปทางนั้น ภรรยาหลวงสร้างโบสถ์ ภรรยาน้อยสร้างวิหาร เมื่อสร้างเสร็จก็พร้อมกันทำบุญฉลอง ปรากฏว่าไม่นานยอดเจดีย์ก็เอนไปทางวิหารของภรรยาน้อย










 

Create Date : 19 กันยายน 2556    
Last Update : 9 กรกฎาคม 2560 17:12:18 น.
Counter : 1284 Pageviews.  

65. วัดจันทราราม จ.ราชบุรี

อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี

"หลวงพ่ออโนทัย" เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ประดิษฐาน ณ วัดจันทาราม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เป็นที่เคารพเลื่อมใสของชาวบ้านในพื้นที่ อ.บ้านโป่ง เป็นอย่างยิ่ง ความศักดิ์สิทธิ์และปรากฏการณ์ที่สืบสานกันมาช้านาน

วัดจันทาราม หรือแต่เดิมเรียกกันว่า วัดหนองตะแคง ซึ่งชาวบ้านเรียกตามชื่อหมู่บ้าน ปัจจุบันตั้งอยู่ติดถนนเพชรเกษม ม.10 ต.หนองอ้อ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ประวัติการสร้างไม่มีการบันทึกไว้อย่างเป็นทางการ เพียงแต่มีการเล่าขานสืบต่อกันมาว่า สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2450 ในบริเวณละแวกบ้านหนองตะแคง อยู่ในซอยบ้านบางตาล

ต่อมา พระครูชนัตยาภิรัตน์ เจ้าคณะอำเภอบ้านโป่งในขณะนั้น เห็นว่าวัดอยู่ในซอยลึกไม่สะดวกแก่สาธุชนที่จะเข้าไปบำเพ็ญกุศล ทั้งยังมีเนื้อที่คับแคบ จึงได้หารือ เจ้าอาวาสและชาวบ้าน ต่างก็เห็นชอบที่จะขนย้ายมาสร้างวัดแห่งใหม่ในสถานที่ปัจจุบัน และให้ชื่อว่า "วัดจันทาราม" เมื่อปี พ.ศ.2473

พระพุทธรูป "หลวงพ่ออโนทัย" ประวัติความเป็นมานั้นไม่มีการบันทึกวันเวลาอย่างแน่ชัด แต่มีการเล่าสืบต่อกันมา ว่า เดิมที่วัดนางโน อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี (ปัจจุบัน คือ วัดมโนธรรมาราม) ได้มีพระพุทธรูปจำนวน 3 องค์ ได้ปรากฏขึ้นที่บริเวณริมแม่น้ำหน้าวัด และหนึ่งในพระพุทธรูปนั้น ได้มาเข้าฝันชาวบ้านหนองตะแคงว่าต้องการมาประดิษฐานอยู่ที่วัดจันทาราม

จากนั้นพระอาจารย์แดง เหล็กดี เจ้าอาวาสวัดจันทาราม และชาวบ้าน ได้พากันเดินทางไปนิมนต์หลวงพ่ออโนทัย เมื่อไปถึงปรากฏ ชาวบ้านอีกหลายหมู่บ้าน ที่ทราบข่าว ต่างก็มาอัญเชิญหลวงพ่ออโนทัย เพื่อนำไปประดิษฐานยังหมู่บ้านของตนเช่นกัน แต่ก็ไม่สามารถที่จะยกองค์หลวงพ่อขึ้นจากน้ำได้

พระอาจารย์แดง ได้จุดธูปพร้อมตั้งจิตอธิฐานว่า "ถ้าหากหลวงพ่ออยากไปอยู่ที่วัดจันทารามจริง ดังที่เข้าฝันชาวบ้านก็ขอให้ยกท่านขึ้นได้" และเหมือนปาฏิหาริย์ ชาวบ้านสามารถที่จะยกองค์หลวงพ่อขึ้นมาจากน้ำโดยไม่ยากเย็น จากนั้นจึงนิมนต์พระพุทธรูปดังกล่าวเดินทางกลับวัดโดยใช้แพ ล่องมาตามลำน้ำแม่กลอง และนำมาขึ้นเกวียนที่บริเวณบ้านหลวงสิทธิ์เทพการ และเมื่อเดินทางมาถึงที่บริเวณหน้าวัด ล้อเกวียนที่ใช้ขนส่งพระพุทธรูปเกิดหัก ชาวบ้านเชื่อว่าพระพุทธรูปนี้ต้องการจะประดิษฐานอยู่ที่วัดจันทารามนี้จริงๆ

ลุงสุพจน์ ใจมั่น อายุ 55 ปี ประชาสัมพันธ์วัดจันทาราม เป็นอีกผู้หนึ่งที่ทราบเรื่องเล่าขานของหลวงพ่ออโนทัย ว่า หลวงพ่ออโนทัย เป็นพระพุทธรูปแบบสมัยอยุธยาตอนต้น แต่เดิมองค์หลวงพ่อเป็นเนื้อศิลาแลง ไม่มีใครรู้ว่าหลวงพ่อมีชื่อว่าอะไร ชาวบ้านจึงขนานนามกันว่า พระเทพนิมิตร โดยเริ่มแรกชาวบ้านได้ประดิษฐานหลวงพ่อในอุโบสถ (บริเวณเมรุในปัจจุบัน) คู่กับหลวงพ่อขาว ต่อมาได้ย้ายหลวงพ่อ ประดิษฐาน ณ ศาลใต้ต้นตะคร้อด้านหน้าวัด (บริเวณน้ำพุในปัจจุบัน) เพื่อชาวบ้านจะได้กราบไหว้บูชาง่ายขึ้น

แม้จะมีขโมยแอบมาโจรกรรมองค์พระและตู้บริจาคเงินหลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถที่จะเอาออกไปจากเขตรั้ววัดได้แม้แต่ครั้งเดียว ในสมัยพระครูพิศาลธรรมาภรณ์ เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ได้ร่วมกับชาวบ้านสร้างวิหารหลวงพ่อ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2534 โดยมีพระเทพนิมิต หลวงพ่อขาว และหลวงพ่อเงิน ประดิษฐานอยู่ภายใน ต่อมา มีซินแสเป็นชาวจีนในร่างทรงของเจ้าพ่อเสือ ได้มาเข้าทรงและเปิดเผยว่าที่จริงแล้วหลวงพ่อพระเทพนิมิตนี้ มีชื่อว่า หลวงพ่ออโนทัย ดังนั้นชาวบ้านจึงได้ตั้งชื่อวิหารดังกล่าวว่า วิหารหลวงพ่ออโนทัย และชาวบ้านหนองตะแคง จึงเรียกชื่อว่า หลวงพ่ออโนทัย นับแต่นั้นเป็นต้นมา

ชาวบ้านเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ขององค์หลวง พ่ออโนทัย ที่ปรากฏอยู่หลากหลายเรื่อง ทั้งด้านธุรกิจค้าขาย การเจ็บป่วย การเรียน การสมัครงาน อีกทั้งเรื่องคู่รักคู่ครอง สร้างศรัทธาให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก ต่างมากราบไหว้บนบานอธิษฐานหลวงพ่ออโนทัย ให้สัมฤทธิผลดังที่ใจหมาย เมื่อได้ผลสำเร็จดังที่ตั้งใจไว้แล้ว ในส่วนของที่จะนำมาแก้บน นอกจากจะเป็นไข่ต้ม ผลไม้ต่างๆ แล้ว ที่จะขาดเสียมิได้ คือ การฉายหนังกลางแปลงแก้บน เรียกได้ว่าแทบจะทุกคืน จนเป็นที่เคยชินของชาวบ้านหนองตะแคงไปเสียแล้วว่าถ้าคืนไหนไม่ได้ยินเสียง ไม่มีการฉายหนัง คล้ายกับว่าขาดสิ่งใดไปบางประการ













 

Create Date : 19 กันยายน 2556    
Last Update : 9 กรกฎาคม 2560 17:14:23 น.
Counter : 1125 Pageviews.  

1  2  

เหมียวสินธร
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




Friends' blogs
[Add เหมียวสินธร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.