Group Blog
 
All blogs
 

21. วัดชมโพธยาราม จ.ฉะเชิงเทรา

ประวัติการก่อสร้างของวัดก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2523 โดยพระครูปลัดสุโพธิ์ จันทาโภเป็นผู้ก่อตั้งบนพื้นที่ดินที่ได้รับการบริจาคถวายจาก นายชม และนางเยี่ยม ทองคำเปลว 2 สามีภรรยาบริจาคที่ดิน รวม จำนวน 12 ไร่เศษ ก่อสร้างกุฏิ, ศาลาการเปรียญ, พระอุโบสถ พร้อมสังเวชนียสถานที่จำลองแบบมาจากของจริงทั้งหมดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2544
ภายในวัดได้จำลองสังเวชนียสถาน 4 ตำบล คือ สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงธรรม และปรินิพพาน คล้ายกับที่ประเทศอินเดีย สำหรับให้ผู้คนได้สักการะ ภายในสังเวชนีสถานมีพระพุทธรูปปางต่างๆ ประดิษฐานอยู่ เปิดให้นักท่องเที่ยวที่เข้าชมได้ทุกวัน











 

Create Date : 17 กันยายน 2556    
Last Update : 8 กรกฎาคม 2560 18:27:19 น.
Counter : 2088 Pageviews.  

22. วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา

ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา เป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดวรวิหาร

วัดโสธรวรารามวรวิหาร เดิมชื่อว่า วัดหงษ์ สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นที่ประดิษฐาน หลวงพ่อพุทธโสธร พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของฉะเชิงเทรา เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 1.65 เมตร สูง 1.48 เมตร ฝีมือช่างล้านช้าง

ตามตำนานเล่าว่า หลวงพ่อพุทธโสธร เป็นพระพุทธรูปหล่อสำริดปางสมาธิหน้าตักกว้างศอกเศษ มีรูปทรงสวยงามมาก ได้แสดงปาฏิหาริย์ลอยน้ำมา และมีผู้อัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานที่วัดแห่งนี้ แต่พระสงฆ์ในวัดเกรงจะมีผู้มาลักพาไปจึงได้เอาปูนพอกเสริมหุ้มองค์เดิมไว้จนมีลักษณะที่เห็นในปัจจุบัน

แต่เดิม หลวงพ่อพุทธโสธรประทับอยู่ในโบสถ์หลังเก่าที่มีขนาดเล็ก รวมกับพระพุทธรูปอื่นๆ 18 องค์ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2509 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จราชดำเนินมาที่วัดแห่งนี้ ทรงมีพระราชปรารภเรื่องความคับแคบของพระอุโบสถเดิม พระจริปุณโญ ด.เจียม กุลละวณิชย์ อดีตเจ้าอาวาสจึงได้รวบรวมเงินบริจาคเพื่อจัดซื้อที่ดินสำหรับสร้างพระอุโบสถหลังใหม่

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธานการสร้าง และทรงเป็นผู้กำกับดูแลงานสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนิน ทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อ พ.ศ. 2531 และทรงประกอบพิธียกยอดฉัตรทองคำ น้ำหนัก 77 กิโลกรัม ประดิษฐานเหนือยอดมณฑป เมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2539 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จมาทรงตัดหวายลูกนิมิต เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2549

การก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ สร้างขึ้นครอบพระอุโบสถหลังเดิม โดยใช้เทคนิควิศวกรรมสมัยใหม่ โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายองค์หลวงพ่อพุทธโสธร และพระพุทธรูปทั้ง 18 องค์

ศิลปะภายในพระอุโบสถหลวงพ่อพุทธโสธร ประกอบด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังโดยรอบนับตั้งแต่พื้นพระอุโบสถ เสา ผนัง และเพดานจะบรรจุเรื่องราวให้เป็นแดนแห่งทิพย์ เป็นเรื่องราวของสีทันดรมหาสมุทร จตุโลกบาล สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พรหมโลก ดวงดาว และจักรวาล โดยตำแหน่งของดวงดาวบนเพดาน กำหนดตำแหน่งตรงกับวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2539 ณ เวลาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพิธียกยอดฉัตรทองคำ







 

Create Date : 17 กันยายน 2556    
Last Update : 8 กรกฎาคม 2560 18:29:27 น.
Counter : 608 Pageviews.  

23. วัดเสม็ดเหนือ จ.ฉะเชิงเทรา

ต.เสม็ดเหนือ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา
วัดนี้มีโบสถ์เก่า อายุ 130 ปี กราบนมัสการพระพุทธรูปภายในโบสถ์แห่งนี้ เพื่อความเป็นสิริมงคล








 

Create Date : 17 กันยายน 2556    
Last Update : 8 กรกฎาคม 2560 18:32:42 น.
Counter : 839 Pageviews.  

24. วัดสมานรัตนาราม จ.ฉะเชิงเทรา

ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง บ้านหมู่ที่ ๑๑ ตำบลบางแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา และใกล้กับโครงการเขื่อนทดน้ำบางปะกง มีเนื้อที่ตามหน้าโฉนดที่ตั้งวัด ๒๖ ไร่ ๓งาน ๕๐ ตารางวา (ที่ดินนอกวัดไม่มี)

ตามคำบอกเล่าขานของผู้เฒ่าผู้แก่ในสมัยนั้นเล่าสืบกันต่อกันมาว่ามีครอบครัวหนึ่งอยู่ในฐานะมั่นคงเป็นคหบดีมีคนเคารพนับถือ คือครอบครัวท่านขุนสมานจีนประชา (เดิมชื่อจ๋าย) เมื่อท่านขุนสมานจีนประชาถึงแก่กรรมแล้ว ภรรยาทั้ง ๒ ของท่านขุนสมานจีนประชา นางทิม สืบสมาน และ นางผ่อง สืบสมาน(เพิ่มนคร ) พร้อมด้วย นางยี่สุ่น วิริยะพานิช (ผู้เป็นน้องสาว ต่อมาภายหลังได้สร้างพระปรางค์ขึ้นหน้าโบสถ์ ปัจจุบันยังปรากฏให้เห็นอยู่) มีความศรัทธาคิดจะสร้างวัดเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้สามีผู้ล่วงลับ จึงได้ดำเนินการสร้างวัด ปรากฏตามหลักฐาน เมื่อ พ.ศ.๒๔๒๒

พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุข
เป็นปางนอนเสวยสุของค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งปางนอนนั้นมีความหมายว่า เป็นปางที่ ประทานความมีกินมีใช้ เงินทองไม่ขาดมือ อยู่อย่างสุขสบาย อิ่มหนำสำราญ ขจัดปัญหา ไม่มีเรื่องให้วุ่นวายใจ เนื้อองค์มีสีชมพู รอบฐานมีปางต่างๆถึง 32 ปางให้ชม ภายใต้ฐานพระพิฆเนศ ได้เปิดให้ประชาชนสักการะกราบไหว้ และ ริมแม่น้ำมีศาลาที่ประดิษฐานองค์พระพิฆเนศ ปางนอนและ มีพระพุทธรูป ให้ประชาชนได้กราบไหว้สักการะขอพร

ถ้านักท่องเที่ยวสังเกตุหน้าฐานพระพิฆเนศ จะเห็นปูนปั้นรูปหนู อยู่สองตัว ที่ยืนทำมือป้องหูไว้ ตามประวัติเล่าว่า พระพิฆเนศมีหนูเป็นบริวาร และในความเชื่อของผู้ที่เคารพและสักการะขอพรเป็นประจำ เชื่อว่า ถ้าอยากได้สิ่งใด ขอพรสิ่งใดให้สมหวัง ให้ไปกระซิบที่หูหนู แล้วหนูจะนำความไปบอกท่านพระพิฆเนศให้ประทานสิ่งที่ต้องการกลับมา และที่สำคัญอย่าลืมติดสินบนหนูด้วย โดยการทำบุญใส่ตู้ที่วางไว้ด้านหน้า















 

Create Date : 17 กันยายน 2556    
Last Update : 8 กรกฎาคม 2560 18:35:21 น.
Counter : 523 Pageviews.  

25. วัดโพรงอากาศ จ.ฉะเชิงเทรา

ต.โพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา
ในปี พ.ศ. 2510 พระอาจารย์สมชาย พุทฺธสโร ได้บวชจำพรรษาที่ วัดโพธิ์เฉลิมรักษ์ คลอง 20 อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ถวายตนเป็นลูกศิษย์กับหลวงพ่อพระครูแจ๋ ติสฺสโร และได้ใฝ่ศึกษาพระธรรมวินัย สอบได้นักธรรมเอก นอกจากนี้ได้ศึกษาวิชาโหราศาสตร์ พร้อมกับศึกษาด้านวิชาอาคมต่างๆ จากหลวงพ่อพระครูแจ๋ ติสฺสโร ซึ่งเป็นพระที่มีบารมีธรรมที่สูงส่งเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนทั่วไป
พระอาจารย์สมชาย พุทฺธสโร ได้เดินทางไปฝากตนเป็นลูกศิษย์กับพระเถระอาจารย์อีกหลายรูป อาทิ หลวงพ่อกี วัดหูช้าง จังหวัดนนทบุรี หลวงพ่อทอง วัดก้อนแก้ว อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา หลวงปู่เทียม วัดกษัตริย์ตราธิราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลวงพ่อสีหมอก จุมพิทโต จังหวัดชลบุรี และได้เดินทางไปปฏิบัติกรรมฐานจากหลวงพ่อศิม พุทฺธจาโร วัดถ้ำผาปล่อง จังหวัดเชียงใหม่และ หลวงปู่หล้า ตาทิพย์ วัดป่าตองตึง จังหวัดเชียงใหม่
พระอาจารย์สมชาย พุทฺธสโร ได้ออกธุดงด์ไปตามสถานที่ต่างๆจนในปีพ.ศ2519 ได้รับบริจาคที่ดินจากคุณพ่อทอง และคุณแม่บุญชู มีแสง เนื้อที่ 8 ไร่ และยังได้รับบริจาคที่ดินจากคุณจันทร์,คุณแม่แฉล้ม ประดิษฐวงศ์ (ศิริสุขะ เดิม) จึงได้เริ่มต้นในการก่อสร้างวัดโพรงอากาศ และพระอาจารย์สมชาย ได้ที่ดินเพิ่มเติมจากชาวบ้านใกล้เคียง รวมมีเนื้อที่ทั้งหมด 48 ไร่ ได้เริ่มต้นการก่อสร้างอุโบสถมหาเจดีย์ในปี พ.ศ.2539 ปัจจุบันการก่อสร้างคืบหน้าไปมากแล้ว จนทำให้อุโบสถมหาเจดีย์ ดูเด่นตะหง่านสวยงามมาก มองเหลืองอร่ามเห็นแต่ไกลอย่างเด่นชัด อุโบสถมหาเจดีย์มีความสูงจากฐานชั้นล่างถึงยอดฉัตรมหาเจดีย์ สูงประมาณ 96 เมตร นับเป็นอุโบสถมหาเจดีย์ที่สวยงามและสูงที่สุดในประเทศไทย บนคอระฆังได้นำพระประจำวันเกิดที่เป็นพระยืนและพระปางต่าง ๆ พระแต่ละองค์หล่อด้วยทองเหลืองมีความสูงองค์ 3 เมตร ขึ้นประดิษฐานทิศ(ด้าน)ละ 4 องค์ รวมท้งหมด 16 องค์ บนชั้นสองประตูทางเข้าอุโบสถและวิหาร มียักษ์ที่ลงลวดลายปิดกระจกอย่างงดงาม ความสูงยักษ์แต่ละตนสูง 6.40 เมตร ประตูละ 2 ตน รวม 8 ตน ด้านในอุโบสถและวิหารมี หลวงพ่อพระพุทธโสธรองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ทั้งในอุโบสถและในวิหาร ส่วนชั้นล่าง ปัจจุบันมีพระสามพี่น้อง หลวงพ่อพระพุทธโสธร หลวงพ่อวัดบ้านแหลม หลวงพ่อโต ประดิษฐานให้ประชาชนกราบไหว้บูชาและปิดทอง







 

Create Date : 17 กันยายน 2556    
Last Update : 8 กรกฎาคม 2560 18:36:51 น.
Counter : 1036 Pageviews.  

1  2  

เหมียวสินธร
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




Friends' blogs
[Add เหมียวสินธร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.