|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
 |
|
บันทึกทวาทศมาส ประจำปี 67 ตอนที่ 1 เดือน ม.ค.-มี.ค. |
|
บันทึกทวาทศมาสประจำปี 67 ตอนที่1เดือน ม.ค.-มี.ค.
วันเวลาผ่านไปเร็วจริง ๆ ค่ะ ปี 2567 ก็ผ่านไปอีก 1 ปีแล้ว ปี 2568 มาแทนที่แล้ว ฉันก็มาเขียนบันทึกเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นในปี 2567 เหมือนที่เคยบันทึกของปีก่อน ๆ เพื่อเก็บไว้ ในความทรงจำเหมือนทุก ๆ ปีที่ผ่านมา ค่ะ เรามาเริ่มต้น ตั้งแต่เดือนแรกของปี คือ เดือน มกราคม ค่ะ เดือนแรกของปี เริ่มด้วย วันที่ 5 ม.ค. นายกหรั่ง (นายกสมาคมฯ) ได้นัดกันเพื่อนำกระเช้าไปสวัสดีปีใหม่แก่ผู้ที่มี อุปการคุณต่อสมาคม ก็มี ผอ.โรงเรียน ในฐานะเป็นผอ.โรงเรียน คุณมนตรี ที่ได้ช่วยพิมพ์บัตรคืนสู่เหย้าและใบฎีกาผ้าป่าให้ทุกปี และกำพลลูกศิษย์เก่าช่วย ทำบัญชีให้สมาคมนักเรียนเก่า ฯ มาชมภาพ ค่ะ ส่วนเจ้าอาวาส นัดไว้วันอาทิตย์ เพราะมีการประชุมสมาคมฯ ด้วย

มอบกระเช้าให้ ผอ.สามารถ ผอ.โรงเรียนซึ่งเพิ่งย้ายมาแทน ผอ.ราเมศน์

นายกหรั่ง เป็นตัวแทนในการมอบ ค่ะ

มอบกระเช้าเพื่อสวัสดีปีใหม่ให้คุณมนตรี ค่ะ

คุณมนตรีมอบขนมเปี๊ยะให้ นายกหรั่ง ค่ะ

ตัวแทนคนงานของกำพล เป็นผู้รับมอบกระเช้า สวัสดีปีใหม่ ค่ะ
หลังจากที่ไปสวัสดีผู้มีอุปการคุณเรียบร้อยแล้ว ก็ไปกินข้าวมื้อเที่ยงกันที่ร้าน สายทิพย์ มาชมอาหารค่ะ เป็นอาหารใต้




รายการอาหารใต้มื้อนี้ ค่ะ
วันที่ 7 ม.ค. วันนี้ กรรมการที่มาประชุม ได้ไปแสดงมุทิตาจิตต่อเจ้าอาวาสวัดธาตุทองแล้ว นมัสการ เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ค่ะ แล้วจึงไปประชุม ค่ะ



 ของฝากจาก รุ่งที่ซื้อมาฝาก ค่ะ กับข้าวล้วน ๆ ค่ะ อิอิ
วันที่ 20 ม.ค. วันนี้เหลนฮงมาสวัสดี ปีใหม่ ปรกติ ไม่เคยมาหลังปีใหม่นานมากขนาดนี้ ปีนี้สงสัยติดงาน ฮงเป็นลูกของหลาน ลูกพี่สาวของฉัน พ่อแม่ของเขามีปัญหา แต่สองพี่น้องก็ผ่านพ้นอุปสรรคและเดินไปสู่ชีวิตที่ดี สร้างเนื้อสร้างตัวมีงานมีการทำ มีบ้านที่อยู่เป็นของตนเอง ฮง เป็นเด็กกตัญญู ปีใหม่ เขาจะแวะมาสวัสดีปีใหม่ และ ตอนเช็งเม้ง เขาก็จะมารับ ไปสุสานพ่อแม่ฉัน (ซึ่งก็เป็นตาทวดกับยายทวดของเขา)

ปีนี้ ฮงมาคนเดียว ไม่ได้พาก้อย เหลนสะใภ้มา



ของฝากของ ฮง จะเป็นของที่ดีต่อสุขภาพ ค่ะ
วันที่ 27 ม.ค. วันนี้ไปร่วมงาน 100 วัน ของพี่รัชนี มีคณะกรรมการไปร่วมงานหลายคน ตั้งแต่พี่เขาถึงแก่กรรม ฉันเพิ่งมางานครั้งแรก เนื่องจากตอนถึง แก่กรรม ฉันติดธุระเดินทางไปเที่ยวอินเดีย นั่นเอง ค่ะ




วันที่ 30 ม.ค. ได้รับข่าวเศร้าว่า เถื่อน (ปกรณ์) ลูกศิษย์ที่สอนรุ่นแรกที่ธาตุทองถึงแก่กรรม ซึ่งป่วยเป็นมะเร็ง รักษา ผ่าตัดก็หลายครั้ง รักษามาเป็นเวลา หลายปี ฉันและเพื่อน ๆ ของเขาทุกคน พยายามให้กำลังใจแก่เขา เขาเป็นคนที่มีความจำ แม่นมากเป็นผู้รวบรวมเพื่อนในห้อง 2/3 เป็นกลุ่มไลน์ ทำให้รวมห้องได้ จัดงานพบปะกัน 2 ครั้ง เขาเป็นคนมีอารมณ์ขัน ชอบเล่าเรื่องสนุก ๆ เล่าถึงความหลังตอนเป็นนักเรียน ทุกคนในกลุ่มเพื่อน รักเขาทุกคน เนื่องจากวัดไกลจากบ้านฉันมากและไม่มีใครมารับฉันไปด้วย เลยไม่ได้ไปฟังสวด ตั้งใจว่า ฉันกับเพื่อน ๆ ผู้หญิงของปกรณ์จะไปส่งเขาขึ้นสวรรค์ ค่ะ
เดือน ก.พ. เดือนที่ 2 แล้ว เริ่มต้นบันทึกในวันที่ 4 ก.พ.เป็นวันที่เศร้าเสียใจตั้งแต่ต้นเดือน เพราะวันนี้ ฉันกับลูกศิษย์ผู้หญิงเพื่อน ๆ ของปกรณ์ ซึ่งถึงแก่กรรม เมื่อ วันที่ 30 ม.ค. ที่ได้บันทึกไปแล้ว วันนี้จะไปส่งเขาขึ้นสวรรค์ ค่ะ ไปถึงวัดแถวลาดพร้าว ช่วงเช้า ฉันต้องไปประชุมสมาคมฯ เพื่อเตรียมงานผ้าป่าการศึกษา ที่ตกลงว่า จะจัดในวันที่ 19 พ.ค. ฉันเลยนัดกับลูกศิษย์พบกันที่โรงเรียนประมาณบ่ายโมงแล้ว จ้างแท้กซี่ไปวัดกัน มีบุญมี สุรีย์ นันทา รวมฉัน 4 คนค่ะ ไปถึงที่วัด ลาดพร้าว เหลือเวลาอีกน่าจะสองชั่วโมงถึงจะเป็นเวลา ฌาปนกิจ พวกเราเลยเดิน ชมวัดไปกราบพระที่วัดด้วย มีคนมาไหว้พระไม่เยอะนะ เราหยอดเงินใส่กล่องที่เขาวางไว้ พักใหญ่ ๆ พวกเราก็ไปศาลา 15 ที่ปกรณ์อยู่ ข้างนอก แดดร้อนมาก ๆ พวกเราเดินหาศาลาจนเจอ เดินเข้าศาลา แฟนของเถื่อนจำพวกเราได้เดินมาต้อนรับพวกเรา นำซองช่วยงานศพให้แฟนเขา และไปจุดธูปบอกปกรณ์ว่า ฉันและเพื่อน ๆ เขามาส่งเขา ขึ้นสวรรค์ ให้เขาไปสู่สรวงสวรรค์ ค่ะ




วรวุฒิและตี๋ศุภชัย เพื่อนรัก เพื่อนสนิทของเขา มาส่งปกรณ์ด้วย ค่ะ

ห้อง 2/3 เพื่อนปกรณ์มาส่งเขาไปสู่สรวงสวรรค์ ค่ะ
8 ก.พ. เป็นวันจ่าย 9 ก.พ. ไหว้ตรุษจีน ค่ะ ปีนี้ ตรุษจีน ก็เหมือนเดิม น้องชายนำของไหว้ที่น้องสะใภ้ ทำมา ไหว้พระ ไหว้เจ้า และไหว้พ่อแม่ ส่วนน้องสะใภ้เขาไม่ได้ มาไหว้พ่อแม่ฉันนานแล้ว ได้แต่ทำกับข้าวของไหว้มาให้โดยฉันให้เงินไปจัดการตามสมควร มีแต่หลานสะใภ้ เหลน หลานชาย มาไหว้เท่านั้น
14 ก.พ. ฉันนัดกับเอมอรไปทำบุญไหว้พระที่วัดเล่งเน่ยยี่ ทำบุญยา ปีนี้ เล่งเน่ยยี่ ยังสร้างไม่เสร็จ ยังเหลือบางส่วน แต่ปีนี้จัดสถานที่สวยงามตามสไตล์จีน คือสีแดงและโคมแดงสวยงามมาก คนมาถ่ายรูปมากมายด้วย ค่ะ มาชมรูป ค่ะ




เป็นมุมสวยงามอีกมุมหนึ่งที่ทางวัดเล่งเนี่ยยี่ จัดไว้ให้คนมาไหว้พระถ่ายรูปกัน ค่ะ จากเล่งเน่ยยี่แล้ว เราก็เดินทะลุไปทำบุญที่ปอเต๊กตึ้ง ทำบุญโลงศพ 1 ชุด และพะเก่งด้วย เยาว์และจ๋า ฝากมาทำบุญทุกปีด้วย จากนั้น ก็ไปเข้าแถว รับขนมเปี๊ยะและสาคูใส่ถุงไปกินที่บ้าน เมื่อทำบุญที่ปอเต๊กตึ้งเสร็จแล้ว เราสองคน ก็ไปหาของกิน คือ ตือฮวนเกี้ยมฉ่าย ข้าวเหนียวยัดไส้หมู กินเป็นมื้อเที่ยงก่อนแยกย้ายกันกลับบ้าน ค่ะ
18 ก.พ.วันนี้เป็นวันที่น่าบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ไทย ที อดีตนายกทักษิณ ชินวัตร ได้รับ การพักโทษออกจาก ร.พ.ตำรวจ ข่าวของอดีตนายกคนนี้ มีมาตั้งแต่ปีที่แล้ว (สังคมเรียนเขาว่า นักโทษหนีคดี) เรื่องราวของเขา เกิดขึ้นเมื่อปี 66 คือ รัฐบาลอนุญาตให้กลับประเทศเพื่อมาสู้คดีตามคำขอของเขา มาวันแรก ที่จริงก็ต้องไปนอนในเรือนจำ แต่ปรากฏว่า คืนแรกที่มาถึงประเทศไทย เขาก็ป่วย จนต้องส่งตัวไปรักษาที่ ร.พ.ตำรวจ คนภายนอกเลยตั้งอีกฉายาหนึ่งว่า "นักโทษเทวดา" เฮ้อ! นี่แหละการเมืองไทย โอกาสที่จะเจริญก้าวหน้าความเท่าเทียมของคน ในสังคม คงยากที่จะเป็นไปได้ยาก เนาะ จบค่ะ 21 ก.พ. วันนี้ ได้รับเชิญไปตรวจสุขภาพที่ BccA ฉันชวนเอมไปตรวจด้วย เพราะเขาต้องการหลาย ๆ คน การตรวจสุขภาพฟรี เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่จะให้ลูกค้าที่เชิญ มาตรวจฟรีนั้น ซื้อคอร์สรักษากับเขาด้วยวิธีของเขา พอตรวจเลือด ตรวจเอ๊กซเรย์ แล้วก็แจ้งผลการตรวจ เสนอคอร์สในการรักษาอย่างยั่งยืน แพงมากเป็นแสน ฉันรู้อยู่แล้ว เอมก็รู้ เราก็มาตรวจตามที่ เขาเชิญนั่นแหละ หว่านล้อมอย่างไร ฉันกับเอมก็ให้คำตอบว่า ยังไม่พร้อม เพราะเราไม่มีเงิน มากพอ โดยเฉพาะฉันอ้างได้เต็มที่ เพราะฉันเป็นข้าราชการบำนาญ เป็นอะไรรักษาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อิอิ จบค่ะ 22-23 ก.พ.เป็นวันที่ฉันต้องไปพบหมอที่ ร.พ.เลิดสิน ทั้งสองวัน 22 หมอไทรอยด์และไขมันสูง 23 หมอกระดูก เฮ้อ! น่าเบื่อหน่ายจริง ๆ หนอ แต่มันก็เป็น ธรรมดาของชีวิตที่เกิดมาต้องพบกับความทุกข์ เพราะเจ็บป่วย ที่กล่าวกันว่า เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องของวัฎสงสาร ที่เราต้องเจอ จนกว่าเราจะสามารถพ้นจาก การเวียนว่ายตายเกิด (นิพพาน) นั่นแหละ คือ ความสุขที่แท้จริง ค่ะ
26 ก.พ. วันนี้ทิพย์ ทิพย์และพัฒน์ ศิษย์เขยแวะมาหาฉันที่บ้าน เพราะฉันซื้อผ้าพันคอ ตอนไปเที่ยวเลห์ ลาลัค เมื่อ ต.ค. ปีที่แล้วมาฝากเขา เขาก็ไม่มีเวลาว่างสักที วันนี้เป็นวันชดเชยวันมาฆบูชาเลยแวะมาเยี่ยมและรับของฝาก จากฉันด้วย ซื้อผลไม้และขนมมาฝากด้วย ขอบใจมากจ้ะ



ลูกพลับอร่อยมาก ค่ะ น่าจะนำไปใส่บาตร 1 ผล


นำลูกพลับมาไหว้เจ้าที่ ขอพรจากเจ้าที่ที่บ้านให้พรแก่ ทิพย์ทิพย์ คนซื้อมาฝากฉัน ค่ะ
เวลาผ่านไปรวดเร็วจริง ๆ ปี 67 ก็ผ่านไปแล้ว 2 เดือน มาถึงเดือนที่ 3 มาดูกันว่า เดือนนี้ จะมีเหตุการณ์สำคัญที่น่าบันทึกอะไรบ้าง ค่ะ วันที่ 3 มี.ค. มีการประชุมคณะกรรมการสมาคม ฯ ค่ะ ปรึกษาหารือ การจัดผ้าป่าการศึกษา ซึ่งจะจัดในวันที่ 19 พ.ค. ช่วยกันพับซองผ้าป่า และรับไปช่วยกันแจกซอง ค่ะ


6 มี.ค. ฉันกับรุ่ง เป็นตัวแทนไปต้อนรับ รองฯ คนใหม่ รองฯ นรชัย (วันนี้ นายกหรั่งติดงานไม่ได้มา)





พวงมาลับที่ เมธวินได้รับจาก รองฯ นรชัย ตอนมอบของที่ระลึกให้ รองฯ มอบมาลัย ให้เม เมก็นำมาไหว้ครูอีกที เลยถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก หลังจากเสร็จงานต้อนรับ รองฯ นรชัย แล้ว รุ่งพาไปกินข้าวมื้อเย็นที่ สบายใจไก่ย่าง อิ่มแปร้เลย ขอบใจคุณลูกนิ้งนิ้ง มาก ๆ จ้ะ มาชมภาพพวกเรา ค่ะ




หมูแดดเดียว อร่อยมาก ค่ะ


ต้มแซบเอ็นหมูก็อร่อย ค่ะ อร่อยทุกอย่าง ค่ะ

วันที่ 9 มี.ค. วันนี้ ลูกศิษย์ ภัชลีย์ นัดมารับซองไปช่วยแจกเพื่อน ๆ ของเขาและเป็นการมาเยี่ยมฉัน นั่งคุยกัน ไม่มีงาน ก็ไม่ได้นั่งคุยกันเลย ต่างคนต่างมีภาระ หน้าที่ของตัวเอง เขาซื้อส้มตำมานั่งกินกับฉันด้วย ค่ะ อยู่คุยกันหลายชั่วโมง หายคิดถึงกันเลย เนาะ

ภัชลีย์ กินส้มตำปูปลาร้าแต่ฉันไม่กินปลาร้า กินแต่ส้มตำไทย ค่ะ มีปลาดุกด้วย ค่ะ




นอกจากภัชลีย์มารับซองแล้ว ยังมี อ๊อด (อดิศักดิ์) ก็มารับซองไปช่วยแจกอีกคน ค่ะ

ลูกชายของอ๊อด เป็นลูกหลง ค่ะ หน้าตาหล่อนะ หลานศิษย์

มารับซองไปแจก ค่ะ


ขนมที่อ๊อดซื้อมาเยี่ยมฉัน ค่ะ
วันที่ 10 มี.ค. วันนี้เป็นวันที่นัดกันจะไปไหว้พ่อแม่และพี่สาวที่สุสานที่ห่องฮ้วงซัวจึง หัวกุญแจ จ. ชลบุรี ปีหนึ่ง ๆ เราก็ไปไหว้ ไปหาเพียงครั้งเดียว คนไปก่อน ย่อมมี ความสุขก่อน ไม่ต้องมาลำบากในชีวิตทางโลกมนุษย์ ที่ยังต้องพบกับโรคภัยไข้เจ็บ พบกับปัญหาในสังคมยุคนี้ ซึ่งมีแต่เรื่องน่าเศร้า ข่าวที่ไม่น่ายินดีเลย เขาถึงได้กล่าวกันว่า คนตายไปแล้ว ก็พ้นทุกข์ เพราะไม่ต้องรับรู้เรื่องใด ๆ แล้ว เนาะ


ปีนี้ลืมถ่ายรูปที่ตอนไหว้ที่สุสานพ่อแม่ มานึกได้ตอนกินข้าวเสร็จ ก่อนกลับบ้านจึงได้ ถ่ายรูปหมู่ไว้เป็นที่ระลึก ค่ะ
วันที่ 12-14 มี.ค. ฉันตั้งใจที่จะไปบริจาคเงิน 100,000 (หนึ่งแสนบาท) ให้กับ ร.พ.อุ้มผาง ซึ่งเป็น ร.พ.ชายแดน ได้ทราบจากข่าวและหมอบางคน ได้โพสต์ไว้ที่เฟซบุ๊คว่า ขาดแคลนยา ขาดแคลนหมอ พอดีเงินกรมธรรม์ครบสัญญา จอยเองก็เคยมาบอกว่า ร.พ.อุ้มผางลำบาก มีการโพสต์ขอยา ที่เหลือจากคนไข้เพื่อส่งไปบริจาคที่ ร.พ.นี้ กำหนดไว้ตามเวลาดังกล่าวและถือโอกาส ไปเที่ยว น้ำตาทีลอซู ที่กล่าวกันว่า สวยงามมาก หนทางที่ จะไปลำบากมาก แต่ปัจจุบันได้พัฒนาให้การเดินทางสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งการไป ทำบุญครั้งนี้ การท่องเที่ยวจึงถือว่าเป็นผลพลอยได้ ค่ะ เรื่องนี้ ฉันได้เขียนลงในบล็อกแก๊งแล้ว ค่ะ ถ้าสนใจสามารถไปอ่านได้ตามลิ้งค์ นี้ ค่ะ https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=suvimol&month=30-03-2024&group=8&gblog=64


เจ้าหน้าที่การเงินมารับเงินบริจาคและเขียนใบเสร็จให้ฉันด้วยค่ะ

บ่อน้ำร้อนที่พวกเราลงไปแช่ ค่ะ


ซื้อทัวร์ล่องแก่งไปเที่ยว ทีลอซู ค่ะ น่าจะคนละ 1000 บาท

ระหว่างทาง ล่องแก่ง เรือยางจอดให้พวกเราถ่ายรูปด้วย ค่ะ




ถ่ายรูปหมู่กัน ที่น้ำตกทีลอซู ค่ะ
วันที่ 17 มี.ค. ต๋า สุณี นัดมาเยี่ยมฉันที่บ้าน ต๋า เป็นนักเรียนภาคค่ำ ที่สนิทกับฉันมากคนหนึ่ง เราไม่ได้เจอกันนานหลายปี เนื่องจาก เขาไปไหนไม่ได้นานนัก เพราะมีแม่ซึ่งอายุมากแล้ว ต้องคอยดูแล ไม่กล้าปล่อยแม่อยู่บ้านคนเดียว วันนี้เลยซื้อบะหมี่เป็ด เอ็มเค และขนมมากินกันที่บ้าน กินไปคุยไป ต๋า ยังคงเป็นคนคุยสนุก ตอนนี้ดูเหมือนลูกสาวคนเดียว คงเรียนจบแล้วแหละ ก็สบายใจไปหายห่วง ที่บ้านก็เปิดเป็น ร้านค้าขายเครื่องเขียน ก็ไม่ลำบากอะไร มาชมภาพของเรา ครูศิษย์กัน ค่ะ






วันที่ 20 มี.ค.วันนี้มีนัดกับ ตุ๊ก(อ.รุจิรวรรณ) ไปตัดเสื้อผ้าที่ ร้านจุก แถวพัฒนาการ แล้วเราก็ไปกิน มื้อเที่ยงที่บิ๊กซี อ่อนนุช ด้วย เดินช้อปเสื้อผ้าราคาถูก ตัวละ 20 บาท สนุกสนาน แต่ของฉันไม่ค่อยได้เสื้อหรอก เพราะไม่มีไซด์เล็ก มีแต่ไซด์ใหญ่ ๆ ทั้งนั้น อิอิ ช้อปเสร็จ ตุ๊กขับรถมาส่งฉันที่บ้าน ค่ะ





วันนี้มีข่าวเศร้าในวงการบันเทิงเกิดขึ้น นั่นคือ วินัย ไกรบุตร ค่ะ เขาป่วยเป็นโรคแปลกประหลาด มีตุ่มขึ้นทั่วตัว รักษามานานหลายปี ทุเลาแล้ว แต่ก็ไม่หายขาด มาอ่านประวัติของดารามากฝีมือคนนี้ ค่ะ เมฆ วินัย ไกรบุตร มีภูมิลำเนาเกิดที่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ เกิดเมื่อ 16 มิถุนายน พ.ศ.2512 ต่อมา ได้เปลี่ยนชื่อเป็น หัฒศนัย ไกรบุตร ครอบครัวมีฐานะยากจน แต่ก็สามารถ จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และศึกษาต่อ ระดับปริญญาโทบริหารในสถาบันเดียวกัน เมฆ วินัย เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเป็นนายแบบ ถ่ายโฆษณา และเคยเล่นมิวสิกวิดีโอเพลงของ แกรมมี่ อาร์เอส ประมาณช่วงปี พ.ศ.2535- 2537 มาก่อน จากนั้นจึงได้แสดงละครโทรทัศน์และภาพยนตร์ราว 4-5 เรื่อง เช่น หอบรักมาห่มป่า (พ.ศ.2537) ผู้ชายหัวใจไม่พายเรือ (พ.ศ.2538) เป็นต้น ซึ่งในตอนนั้นเมฆ ก็มีชื่อเสียงในระดับหนึ่ง
ผลงานของ วินัย มีมากมาย โด่งดังจากภาพยนตร์ เรื่อง นางนาก เมื่อปี พ.ศ.2542 จนได้รับฉายาว่า "พระเอกร้อยล้าน" ปี พ.ศ.2543 เมฆ ก็ได้รับบท อ้ายอิน ในหนังเรื่อง บางระจัน ซึ่งก็ประสบความสำเร็จทาง รายได้อีกเช่นกัน หลังจากนั้น เมฆ วินัย ก็ได้เล่นหนังอีก 3-4 เรื่องแต่ก็ไม่มีเรื่องไหนประสบความสำเร็จเท่ากับหนัง นางนาก และ บางระจัน มีละครเรื่อง อตีตา ปี 2544, แม้เลือกเกิดได้, ไกรทอง, พ่อตาปืนโต, อตีตา ปี 2559, เพลิงพระนาง และหนัง ปล้นนะยะ อีกด้วย มีกิจการของตัวเอง นอกเหนือไปจากการแสดง คือ ขายปุ๋ย โดยมีโลโก้เป็นรูปหน้าตัวเอง
ชีวิติครอบครัว เมฆ วินัย แต่งงานกับ เอ๋ ชลรดา แสนสินรังษี แฟนสาวนอกวงการ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ.2554 และทั้งคู่ก็มีบุตร-ธิดาด้วยกัน 3 คน
ในปี 2562 เมฆ วินัย แจ้งข่าวว่าตัวเองนั้นป่วยเป็นโรคตุ่มน้ำพอง ทำให้งานในวงการบันเทิง ค่อย ๆ ลดลง เพราะอาการป่วยเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน ทำให้เมฆตัดสินใจพาครอบครัวย้ายกลับไปอยู่ที่ต่างจังหวัด และเริ่มขายของออนไลน์ เพื่อหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว หลังจากที่ต่อสู้กับอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง จากโรคตุ่มน้ำพองมาเป็นระยะเวลานานถึง 5 ปี ซึ่งถือว่าเมฆนั้นมีความเป็นนักสู้ พยายามรักษาตัวเองทุกวิถีทางเพื่อให้อาการป่วยดีขึ้น แต่ ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2567 อาการป่วยของเมฆก็เริ่มทรุดลง ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2567 จากภาวะความดันตก และติดเชื้อในกระแสเลือดที่โรงพยาบาลสายไหม กรุงเทพมหานคร สิริอายุรวม 54 ปี มาชมรูปของคุณวินัย ค่ะ

ภรรยาของ วินัย ไกรบุตร

ขอแสดงความอาลัยต่อการจากไปของ คุณวินัย ไกรบุตร ค่ะ
วันที่ 27 มี.ค. มีเรื่องน่าบันทึก ก็คือ กฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่านสภาแล้ว ต่อไป หญิงกับหญิงสามารถ จดทะเบียนสมรสกันได้ หรือชายกับชายสามารถจดทะเบียนสมรสกันได้ ก็เป็นกฎหมายที่แสดงถึงความเท่าเทียม เรื่องเสรีภาพตามแต่จะเรียกเนาะ เฮ้อ! โลกปัจจุบัน มันเปลี่ยนแปลงไปมากมายเหลือเกิน
ทวาทศมาส ปี 67 บันทึกเป็นตอนละ 3 เดือน ตอนที่ 1 นี้ ก็เป็นเหตุการณ์ในเดือน ม.ค.- มี.ค. ก็จบเพียงแค่นี้ ค่ะ
Create Date : 08 มกราคม 2568 |
Last Update : 9 มกราคม 2568 19:39:21 น. |
|
18 comments
|
Counter : 177 Pageviews. |
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณกะริโตะคุง, คุณThe Kop Civil, คุณกะว่าก๋า, คุณสองแผ่นดิน, คุณtoor36, คุณhaiku, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณmultiple, คุณnewyorknurse, คุณNior Heavens Five, คุณหอมกร, คุณ**mp5**, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณชีริว, คุณปัญญา Dh |
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 9 มกราคม 2568 เวลา:20:17:47 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 มกราคม 2568 เวลา:22:36:41 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 10 มกราคม 2568 เวลา:4:59:38 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 มกราคม 2568 เวลา:5:33:10 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 มกราคม 2568 เวลา:14:52:32 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 10 มกราคม 2568 เวลา:18:48:37 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 มกราคม 2568 เวลา:6:01:22 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 11 มกราคม 2568 เวลา:8:05:59 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 มกราคม 2568 เวลา:12:18:06 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 11 มกราคม 2568 เวลา:14:03:56 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 มกราคม 2568 เวลา:6:53:21 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 12 มกราคม 2568 เวลา:13:57:03 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 มกราคม 2568 เวลา:21:22:59 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 12 มกราคม 2568 เวลา:23:24:48 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 มกราคม 2568 เวลา:5:36:52 น. |
|
|
|
|
|
 |
|
|
|
 |
ฝากข้อความหลังไมค์ |
 |
Rss Feed |
 | Smember |  | ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]

|
เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ
http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif |
|
 |
|