คืนกำไรให้ชีวิต เพื่อพิชิตไปในโลกกว้าง
space
space
space
<<
กุมภาพันธ์ 2568
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
232425262728 
space
space
7 กุมภาพันธ์ 2568
space
space
space

บันทึกทวาทศมาส ประจำปี 2567 ตอนที่ 3 เดือน ก.ค.-ก.ย
บันทึกทวาทศมาส ประจำปี2567 ตอนที่ 3  เดือน ก.ค.-ก.ย 

บล็อกนี้  ก็เป็นการบันทึก ทวาทศมาส ปี 67   ก็มาถึงตอนที่ 3 แล้ว  เราจะมาเริ่ม
เดือน ก.ค. ก่อนเลย ค่ะ 
        เดือน  ก.ค.  วันที่ 1 ฉันยังคงวุ่นวายเรื่อง  โทรศัพท์หายที่อินเดีย ยังคงแก้ไขไม่ได้
ทั้งหมดฉันจึงต้องเดินทางไปที่ธนาคารทหารไทย
ที่ฉันเปิดบัญชี  เปิดแอฟ  ถามพนักงานของที่นี่  ว่า จะทำอย่างไร  เมื่อให้สาขาอื่น
ทำการปลดล็อกแอฟแล้ว  แต่ทางสำนักงานใหญ่บอกว่า
ปลดล็อกให้ไม่ได้   ไลน์ ก็ยังไม่สามารถกู้คืนเลย   สันติธรรม  ซึ่งเป็น ผู้จัดการสาขา 
บอกว่า ไม่ต้องกังวล เขาสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้
แก้อยู่เป็นชั่วโมง ก็ไม่สามารถทำได้  กู้ไลน์ก็ไม่ได้ เพราะว่า  ไลน์ของฉันโดนล็อก
รหัสสองชั้น  ฉันก็จำรหัสไลน์ไม่ได้  เพราะลูกศิษย์เป็นคนตั้งให้ 
(แถม มีคนมาช่วยแก้ไขเวลาคอมมีปัญหา)  ในที่สุดก็ต้องสร้างไลน์ใหม่  แล้วแจ้งลูกศิษย์
ในเฟซให้มาแอ้ดไลน์ใหม่กัน  ส่วนแอฟก็ยังใช้ไม้ได้ 
ทางสำนักงานใหญ่บอกว่า  ให้ทางสำนักงานธนาคารที่ฉันเปิดบัญชี ทำจดหมายรับลองบัญชี
ของฉัน โดยส่งทางอีเมล ประมาณ1 อาทิตย์ ก็สามารถปลดล็อตได้ 
ซึ่งก็เป็นไปตามนั้น  ฉันสามารถเปิดใช้แอฟในการโอนเงินได้ตามปรกติ ในวันที่ 8 ก.ค. ค่ะ เฮ้อ!


 วันที่ 10 ก.ค.  วันนี้ เกดนัดกับฉัน  จะพาฉันไปที่มาบุญครอง  เพื่อไปที่ร้านที่ซ่อม
โทรศัพท์และขายซิมเทพด้วย  เขานัดฉันรอกันที่
สถานีสยาม  มาสายมาเคย  แต่ครั้งนี้สายประมาณ 10 นาทีได้มั้ง  เมื่อเจอกันแล้ว
  ก็ไปร้านที่ชื่อ  ติ่งโมบาย   ฉันต้องการซื้อซิมเทพ  ใส่โทรศัพท์เครื่อง
หัวเหว่ย    เพื่อใช้เป็นเครื่องแชร์ฮอสปอร์ต  เขาแนะนำว่า ซื้อซิมเทพ ของดีแท็ค 1900 บาท
ก็พอ  ไม่ต้องซื้อของ เอไอเอส ซึ่งแพงกว่ากหลายร้อย  ฉันก็ตกลง
เพราะใช้อยู่แต่ที่บ้าน  ก็น่าจะใช้ได้แล้ว   ทำธุระเสร็จ  ก็กลับบ้าน  ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน 

                 วันที่ 16 ก.ค. ช่วงนี้  เริ่มเป็นหน้าสะตอ  เยาว์เพื่อนรัก  เขาจะต้องส่งมาให้ฉันกิน
ปีละ ประมาณ 2-3 ครั้ง  ฉันก็จะผัดสะตอ ใส่บาตร อธิษฐาน
ขอพรให้เยาว์ด้วย  มาชมภาพ ค่ะ 



 พะเยาว์  เพื่อนรัก   เจ้าของสะตอ ค่ะ 





สะตอผัดกับกุ้ง  อร่อยมาก ค่ะ 


 วันที่ 17 ก.ค.  ช่วงนี้  บ้านเรา มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่อง ปลาชนิดหนึ่ง   เรียกว่า ปลาหมอคางดำ
   ระบาดหนัก ฉันฟังข่าวเป็นเรื่องที่มีปัญหาเกี่ยวกับอาชีพคนเลี้ยงปลา
ตลอดจนเศรษฐกิจตามมาด้วย  จึงบันทึกเหตุการณ์ครั้งนี้ไว้ ค่ะ มารู้จัก ปลาหมอคางดำ 

                   ปลาหมอคางดำมีถิ่นกำเนิดมาจากทวีปแอฟริกา นิยมอาศัยอยู่ในพื้นที่น้ำกร่อย ซึ่งระยะเวลา
ที่ผ่านมาก็มีการนำเข้าปลาสายพันธุ์ดังกล่าวไปยัง
หลายทวีปทั่วโลก รวมถึงทวีปเอเชีย และในประเทศไทย ดังนี้
                 
                   ปลาหมอคางดำมีถิ่นกำเนิดมาจากทวีปแอฟริกา นิยมอาศัยอยู่ในพื้นที่น้ำกร่อยซึ่งระยะเวลา
ที่ผ่านมาก็มีการนำเข้าปลาสายพันธุ์ดังกล่าวไปยัง
หลายทวีปทั่วโลก รวมถึงทวีปเอเชีย และในประเทศไทย ดังนี้
         พ.ศ. 2549 คณะกรรมการด้านความหลากหลายและความปลอดภัยทางชีวภาพของ
กรมประมง (IBC) อนุญาตให้บริษัทนำเข้าปลาหมอคางดำเข้ามา
เพื่อปรับปรุงสายพันธุ์ปลานิล
พ.ศ. 2553 บริษัทได้นำปลาหมอคางดำจำนวน 2,000 ตัว มาเลี้ยงที่ จ.สมุทรสงคราม
โดยระบุว่าตายเกือบทั้งหมดและได้ทำการกำจัดทิ้งแล้ว
พ.ศ. 2555 เกษตรกรชาวสมุทรสงครามพบการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ
พ.ศ. 2561 กรมประมงได้แก้ไขประกาศกระทรวงฯ ห้ามนำเข้าปลาหมอสีคางดำ ปลาหมอมายัน
และปลาหมอบัตเตอร์ ใครฝ่าฝืนจะมีโทษทางกฎหมาย

ปลาหมอคางดํา คือ ปลาชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายกับปลาหมอเทศหรือปลาหมอสี เพียงแต่
บริเวณใต้คางมีสีดำ มีชื่อวิทยาศาสตร์คือ Sarotherodon 
melanotheron Ruppell จัดอยู่ในวงศ์ Cichlidae เมื่อโตเต็มวัย จะมีขนาดยาวถึง 8 นิ้ว
หรือมากกว่า ปลาสายพันธุ์นี้ลักษณะพิเศษหลายอย่าง
เช่น ทนต่อความเค็มได้สูง ปรับตัวกับสภาพแวดล้อมได้ดี ขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว
และแม้ว่าจะไม่สามารถระบุเพศได้อย่างชัดเจน
  แต่ก็มีข้อสังเกตเล็กๆ น้อยๆ อย่างเพศผู้จะมีหัวและแผ่นปิดเหงือกที่มากกว่าเพศเมีย

    ปลาหมอคางดำสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น แกงปลาหมอคางดำ
ฉู่ฉี่ปลาหมอคางดำ ปลาย่างเกลือ ทอดมันปลา ซึ่งได้รับ
ความนิยมมากกว่าการนำไปขาย เนื่องจากหากนำไปขายก็จะขายไม่ได้ราคาสูง
มากนัก เนื่องจากมีปลาจำนวนมาก

    คุณสมบัติของ  ปลาหมอคางดำเป็นปลาที่ปรับตัวกับสภาพแวดล้อมได้ดี ทนกับความเค็ม
ได้สูงในขณะเดียวกันปลาสายพันธุ์นี้สามารถ
กินได้ทั้งพืช สัตว์ หรือซากของสิ่งมีชีวิต และสามารถย่อยอาหารได้ดี
จึงทำให้มีอัตราการเติบโตที่รวดเร็ว

สิ่งที่เป็นปัญหา  คือ  ปลาหมอคางดำเพศเมีย 1 ตัว มีไข่ประมาณ 50-300 ฟอง หรือมากกว่านั้น
ใช้เวลาตั้งท้องเพียง 22 วัน ใช้เวลาฟักไข่ในปากเพศผู้
เพียง 4-6 วัน ก่อนจะดูแลตัวอ่อนประมาณ 2-3 สัปดาห์ไว้ในปากเช่นเดิม ส่งผลให้อัตราการรอด
สูงกว่าปกติ และสามารถผสมพันธุ์ได้ทุกฤดูกาล 
ซึ่งนับว่าเป็นการขยายพันธุ์ที่รวดเร็วนั่นเอง นี่เป็นปัญหาที่แพร่พันธุ์เร็ว ปลาหมอคางดำกลายเป็น
ปัญหาสำคัญที่ควรแก้ไขอย่างรวดเร็ว
 เพื่อไม่ให้ส่งผลเสียต่อระบบนิเวศ รวมไปถึงชาวประมงและเกษตรกรไทย นิสัยโดยทั่วไป
ของปลาหมอคางดำ มีความดุร้าย อีกทั้งยังมีความต้องการอาหาร
อยู่ตลอดเวลา ถ้าขยายพันธุ์มีจำนวนมา ก็ทำให้ปลาชนิดอื่น ๆ ถูกมันกิน

สถานการณ์ปลาหมอคางดำในปี 2567 ปลาหมอคางดำเป็นสัตว์น้ำต่างถิ่นที่สร้างความเดือดร้อน
ให้แก่เกษตรกร ทำให้หลายภาคส่วนของรัฐรีบเร่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น

(รวบรวมข้อมูลจาก อินเตอร์เน็ต )  



วันที่ 23 ก.ค. วันนี้ไปที่ โรงพยาบาลศิริน  เป็น ร.พ.ที่เปิดเพื่อดูแลคนป่วยที่ติดเตียง  ร.พ.ประเภทนี้
  จะสุ่มโทรหาคน (ไม่รู้เขาไปหาเบอร์โทรจากที่ใด) 
โทร.พร้อมเสนอโปรแกรมตรวจฟรี เช่น  ตรวจเลือก เอ็กซเรย์  ฯลฯ แล้วหมอ ก็จะเอาผลตรวจมาอธิบาย
  แล้วก็บอกเราว่า เราเป็นโรคอะไร ถ้าไม่รักษาต่อไปจะเป็นโน่นเป็นนี่ 
การรักษาของเขา  คือ ขายวิตามิน เพื่อเป็นการบำรุง  แปลว่า ไม่ใช่เป็นการรักษา แต่เป็นการป้องกัน
ไม่ให้เป็น เขามีวาทศิลป์ในการพูดมาก  (ฉันเคยไปตรวจแบบนี้มาแล้ว  เลยรู้วิธีการ) 
การไปครั้งนี้  เจ้าหน้าที่ที่โทรมาบอกว่า  ฉันสามารถพาเพื่อนไปได้ด้วย  ฉันจึงชวนจอย  แต๋ว  น้อง
แต่คนที่ไปได้ มีจอยและแต๋วจอยมารับฉันที่บ้าน 
รู้สึกจะให้ทูนไปรับแต๋วจากบางแสนมาพบกันที่บ้านจอย  แล้วจึงเอารถตู้ไปที่ ร.พ.ศิริน  
         
มาถึงที่ ร.พ. แล้ว  เจ้าหน้าที่ก็ให้กรอกประวัติ  มีคนมาพร้อมเราหลายคนเหมือนกันหลังจากที่
เข้าห้องเจาะเลือด  ผลออกมา  หมอก็วินิจฉัย เหมือนที่
ฉันกับเอมเคยไปตามคำเชิญชวน  นั่นแหละ  จากนั้น  ก็จะมีอีกคนหนึ่งมาพูดถึงการรักษา
  โน้มน้าวใจให้รักษา  ราคาที่เสนอ เป็นคอร์ส  คอร์สละ เป็นแสน
สามารถแบ่งจ่ายเป็นงวด ๆ  จอย เขาเข้าคอร์ส 10 ครั้งมั้ง เสียเงินหลายหมื่น ก่อนเขาจะเข้าคอร์ส
ฉันบอกเขาว่า เราไม่ต้องเข้าคอร์สเขาหรอก รู้ว่าจุดอ่อน
ของร่างกายเราอยู่ตรงไหน ก็ไปรักษาที่ ร.พ.ที่เรามีสิทธิ์ ก็พอแล้ว  แต่จอย เขาบอกว่า เขาเคย
ไปรักษามาเหมือนกัน  (พอไม่ได้รักษาต่อเนื่อง ก็เหมือนเดิม) 
จอยเขาขอลงแค่ 10 ครั้ง ก็ตามใจเขา เพราะ เขารวย อิอิ 
               
ออกจาก ร.พ.แล้ว  ก็มากินก๋วยเตี๋ยวเรือหน้าปากซอย  ค่อนข้างเค็ม พอกินได้  เสร็จแล้ว
ก็เตรียมกลับ  จอย เห็นมีทุเรียนที่แกะเสร็จขาย  ก็ซื้อขึ้นรถ 1 แพ็ค 
ราคา 800 บาท  เขาเป็นคนเลี้ยง  แล้วขับรถไปบางแสน ส่งแต๋ว  ก่อนไปส่ง ก็แวะกินข้าวอีกที่
แถว ๆบางแสน  (น่าจะเปิดใหม่) จอยเป็นคนสั่งอาหาร
ตามที่เขาชอบ นั่นแหละน่าจะสั่ง 4 อย่างตามรูปที่ฉันถ่ายมาให้ชม ค่ะ  มื้อนี้หาร 3 
ประมาณคนละ  300 บาทมั้ง  จำไม่ค่อยได้  มาชมภาพ ค่ะ



ห้องที่เจ้าหน้าที่ให้นั่งรอคนที่จะมาให้เรากรอกประวัติ ค่ะ 



เด็กหนุ่มคนนี้เป็นเจ้าหน้าที่ของ ร.พ. นี้ มาสอบถามประวัติของพวกเรา ค่ะ 



ไปกินข้าวตอนไปส่งแต๋วที่ บางแสน 
 


ถ่ายหมู่สักรูป ค่ะ





แกงส้มผักกะเฉด 



น่าจะแกงป่า ฉันกินไม่ค่อยเป็น หรอก



ปลากะพงทอดน้ำปลา จานนี้แพงที่สุด ค่ะ 



น่าจะผัดผัดเปรี้ยวหวานทะเล  จานนี้น่ากินที่สุด

26 ก.ค. 67  วันนี้ นัดกับหลวงศิษย์ ดาบส จะไปรับบะหมี่สำเร็จรูป ที่ท่านไปหาให้เป็น
อาหารกลางวันของนักเรียนที่ไปติววิชากับนักเรียนปทุมคงคา 
ซึ่งหมอแม็คเป็นเด็ก ม.ต้นของ ธาตุทอง แต่ไปเรียนต่อ ม.ปลายที่ปทุม และสอบติด
คณะแพทย์สร้างชื่อเสียงให้ ร.ร.ปทุม
แต่อย่างไรก็ตาม  ฉันก็ดึงเขามาเป็นกรรมการของสมาคมนักเรียนเก่า ฯ แต่ดูเขาไม่ค่อยผูกพันกับ
ธาตุทองเท่าไรนัก  น้อยครั้งนักที่จะเข้าประชุม เพราะติดงาน
  แต่เขาก็พยายามให้รุ่นน้อง ม. 6  ธาตุทองสมัคร เข้าร่วมติวกับเด็กปทุมคงคา เขาเป็นคนขอทุนจากรุ่นพี่
ที่ปทุมในการเรื่องค่าใช้จ่าย เช่น  ค่าอาหาร  เขาออกความคิด
ให้ฉันขออาหารพวก มาม่า  ยำยำ  ปลากระป๋องจาก พระ ฉันก็เลยลองขอจากพระลูกศิษย์ แจ้  ซึ่งท่านก็ให้
ความช่วยเหลือจัดบะหมี่เกาหลี เจ๊ไฝ ซึ่งก็คงนำมาถวายพระในวัด
  ท่านก็ไปขอบริจาคมาได้ น่าจะ 8  รัง มั้ง ฉันก็จำไม่ค่อยได้แล้ว  กินได้หลายมื้อทีเดียว   
วันนี้เลยนัดกับหมอแม็คไปรับบะหมี่เกาหลีที่วัด ตามที่ได้นัดกับพระแจ้ไว้ก่อน ค่ะ  มาชมรูป ค่ะ



พระแจ้ ลูกศิษย์ ที่ช่วยเรื่อง บะหมี่สำเร็จรูปมาให้ ค่ะ 






หมอแม็ค  สุรศักดิ์ อำมาตย์โยธิน  นำรถไปช่วยขนบะหมี่มาไว้ ที่ร.ร.ปทุม ค่ะ 






หมอแม็ค ซื้อขนมหม้อแกงมาฝากฉัน 2 ถาด ค่ะ 

วันที่ 30 ก.ค. วันนี้นัดกับ ตุ๊ก (รุจิรวรรณ)  ไปตัดเสื้อกับ จุก ช่างตัดเสื้อที่ทิพย์แนะนำให้  ราคาไม่แพงนัก
ฝีมือก็พอใช้ได้ หลังจากได้รับเสื้อแล้ว  พวกเรา
ก็ไปหาอาหารมื้อกลางวันกินกัน  วันนี้  เราไปกินกันที่ร้านสบายใจไก่ย่าง เจ้าประจำ 
 สั่งอาหาร 3 อย่าง มีส้มตำไทย  ต้มแซ้บเอ็นหมู และ ตับหวาน  (ตามรูป) 
วันนี้นำผ้าพันคอที่ซื้อจากอินเดีย ฝากตุ๊ก 1 ฝืน 







ต้มแซบเอนหมู ใส่เห็ด  ฉันชอบกินมาก ค่ะ 



ขึ้นเดือนใหม่  เดือน สิงหา แล้ว  เป็นเดือนเกิดของฉัน  ต้นเดือน  ก็มีการสูญเสีย นักร้องลูกทุ่ง
ที่โด่งดังไปอีกคนแล้ว  คือ เพลิน  พรหมแดน  อายุ 85 ปี
เรามาทราบประวัติของเขา  ค่ะ 
         
 เพลิน  พรหมแดน  มีชื่อจริงว่า สมส่วน พรหมสว่าง มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านกิโลสอง อำเภออรัญประเทศ
จังหวัดปราจีนบุรี (ปัจจุบันแยกออกมาเป็นจังหวัดสระแก้ว)
เกิดเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2482 เป็นบุตรของนายปลื้มและนางตุ่น พรหมสว่าง
มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 8 คน  เขาเป็นบุตรคนที่ 5
เริ่มศึกษาในระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนศรีอรัญโญทัย หลังจากสำเร็จการศึกษาในระดับ
ประถมศึกษาแล้ว ได้ช่วยพ่อแม่ทำนาอยู่ระยะหนึ่ง 
จากนั้นบรรพชาเป็นสามเณร และจำพรรษาอยู่ ณ วัดเศวตฉัตร กรุงเทพมหานคร เมื่อสอบ
ได้นักธรรมโท จึงลาสิกขาออกมาช่วยบิดามารดาทำนาที่บ้านเกิด
        
      เพลิน  พรหมแดน เป็นผู้มีนิสัยชื่นชอบการร้องเพลง เมื่ออายุประมาณเกือบ 20 ปี ได้สมัครเข้าประกวด
ร้องเพลงตามงานต่าง ๆ ที่รับสมัครประกวดร้องเพลง และได้เข้ามา
ร้องเพลงเชียร์รำวงในคณะรำวง “คณะตาเหมือน” เมื่อสถานีวิทยุยานเกราะประกาศรับสมัครประกวด
ร้องเพลง นายสมส่วนได้สมัครเข้าแข่งขัน และได้รับรางวัลชนะเลิศ 
ภายหลังได้ก้าวเข้าสู่วงการดนตรีโดยเข้าสังกัดในคณะวงดนตรีชุมนุมศิลปิน หัวหน้าวงดนตรี คือ
จำรัส วิภาตะวัตซึ่งเป็นผู้เปลี่ยนชื่อจากนายสมส่วน พรหมสว่าง มาเป็น 
เพลิน พรหมแดน จนได้บันทึกแผ่นเสียงเพลงแรกในชีวิตเพลง “ทุ่งร้างนางลืม” ผลงานของ “นิยม มารยาท"
   

ต่อมาได้แยกตัวออกมาตั้งวงดนตรี “เพลิน พรหมแดน” โดยเพลงส่วนใหญ่ “เพลิน พรหมแดน”
จะเป็นผู้ประพันธ์เองและร้องเอง แนวเพลงที่ทำให้ประสบความสำเร็จ
จะเป็นเพลงที่มีเนื้อร้องและคำพูดในแนวตลกสนุกสนานจนได้รับสมญานามว่า “ราชาเพลงพูด” เพลงแรก
ที่ เพลิน พรหมแดน ได้ร้องแล้วพูดในเพลงคือ “สมัครด่วน”
          ในปี พ.ศ. 2513 ฉลอง ภักดีวิจิตร ได้ชักชวนให้แสดงภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกคือ ฝนใต้
ตามต่อเรื่อง ฝนเหนือ และ ระเริงชล และในปี พ.ศ. 2522
 ได้แสดงเป็นพระเอกเรื่อง แค้นไอ้เพลิน คู่กับนางเอก วิยะดา อุมารินทร์...

เลขาของครูเพลินพรมแดน แจ้งว่า ครูเป็นลมล้มเมื่อช่วง 11.00 น. ที่ผ่านมา ของวันนี้
แล้วรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลศิริราช เข้าห้องฉุกเฉิน ปั๊มหัวใจยื้อชีวิต 
จนกระทั่งเสียชีวิต  ในวันที่  3 สิงหาคม 67 ด้วยวัย  85 ปี

(รวบรวมข้อมูลจาก อินเทอร์เน็ต) 



ขอไว้อาลัยต่อการจากไปของ คุณเพลิน  พรหมแดน ค่ะ 

วันที่ 6 สิงหา  เป็นวันคล้ายวันเกิด  เดี๋ยวนี้ เทคโนโลยี่ก้าวหน้า  ลูกศิษย์ เพื่อนฝูง ต่างอวยพรวันคล้ายวันเกิด
ทางไลน์  ทางเฟซบุ๊ค  มีทิพย์ ที่ส่งขนมเค้กมาอวยพร
วันคล้ายวันเกิดของฉัน  ซึ่งเขาทำเช่นนี้มาหลายปี ติดต่อกัน ต้องขอบใจเขาที่ระลึกถึงวันคล้ายวันเกิด
ของฉันขอบใจมาก ๆ จ้ะ ที่สม่ำเสมอ ไม่เปลี่ยนแปลง 



ทิพย์ ทิพย์ เจ้าของเค้ก ไอศกริม ค่ะ 


         
เค้ก ไอศกรีม  คะ 

วันที่ 7 ส.ค. เป็นที่ควรจารึกไว้ในวงการเมืองไทย  นั่นคือ  ศาลตัดสินให้ยุบพรรคก้าวไกล  แต่การยุบพรรค
ก้าวไกลก็ไม่น่ามีผลมากมายนัก  เขาคงไม่สะดุ้งสะเทือนอะไรมากนัก
  เพราะรุ่งขึ้น วันที่ 8  เขาก็ตั้งพรรคใหม่  ชื่อว่า พรรค ประชาชน เลย  เฮ้อ ! นี่แหละการเมืองไทย 
          วันที่ 8 วันนี้ ได้รับของฝากวันคล้ายวันเกิดจาก เพื่อนรัก เยาว์และจ๋า  ช่วงเย็น  เอ๋

ร้านโจ๊ก สุขุมวิท 38 ก็ให้ของฝาก น่ารัก ๆ ให้  มาชมภาพของฝากค่ะ 



เอ๋ เจ้าของ ของฝากวันคล้ายวันเกิด ค่ะ 





         วันที่ 10-14 ส.ค. จอยชวนไปทอดผ้าป่าของพระอาจารย์กิติพันธ์และวันคล้ายวันเกิดของท่าน (วันที่ 16 ส.ค.)
ฉันไปชวนเอมและแต๋วไปด้วย  ทริปนี้  นอกจากเรา 3 คนแล้ว
ก็ยังมีวรรณ จุ๊ และสมศักดิ์ (สามีจุ๊ ) รวมแล้ว 7 คน มีทูนเป็นคนขับรถ  รวมเป็น 8 คน  เรื่องนี้ ฉันเขียนเล่าไว้
ในบล็อกแก๊งใครสนใจหรือยังไม่ได้อ่าน เชิญอ่านได้ตามลิ้งค์นี้เลย ค่ะ
   https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=suvimol&month=21-10-2024&group=9&gblog=27
มีรูปมาประกอบเล็กน้อย ค่ะ



นำเงินทอดผ้าป่าที่ฉัน  เพื่อน และลูกศิษย์ทำบุญผ้าป่า  ถวายพระอาจารย์  ค่ะ





ก่อนการทอดผ้าป่า  มีการตักบาตร ข้าวเหนียวก่อน ค่ะ ชาวบ้านเตรียมข้าวเหนียว
เผื่อพวกเราด้วย ค่ะ  น่ารัก มาก ค่ะ 



เที่ยว  ทุ่งกะมัง 













ภาพสวยงาม ที่บ้านพัก ค่ะ 







บ้านพัก คืนแรกของทริป นี้ ค่ะ 

วันที่ 14 ส.ค. เป็นวันหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นถึงความผันผวนทางการเมืองของประเทศไทยเรา  นั่นคือ 
ศาลมีคำสั่งให้ นายกเศรษฐา    ทวีสิน  ให้้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ของไทย  ส่วนทักษิณ เย็นนั้น ก็เรียกคณะรัฐมนตรี เข้าประชุมที่พรรคเพื่อไทย
  เพื่อลงคะแนนเสียง เลือกนายกรัฐมนตรี คนใหม่ทันที  ผลก็ปรากฏว่า  
แพรทองธาร  (อุ๊วอิ๊ง) ลูกสานของเขา  ก็ได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทนเศรษฐา ทันที  นี่แหละ
การเมืองไทยที่น่าสงสารเหลือเกิน เฮ้อ !  
        วันที่  16 ส.ค.  วันนี้ นัดกับรุ่งจะไปงานทำบุญ 100 วัน คุณแม่ของ รองฯวณิภา  ตามคำเชิญของเขา 
เขาขอให้หาร้านอาหารทำบุญด้วยแบบบุฟเฟ่ ก็เลยติดต่อ
ร้านฟ้าใสของคุณชูศักดิ์ให้  รองฯ  เขาก็ชอบรสชาติอาหาร  แขกที่มางาน น่าจะประมาณ
ไม่ถึง 20 คนมั้ง  แต่ก็ดูอบอุ่นดี  มาชมภาพบรรยากาศ ค่ะ 



หลวงพ่อ ชุบ เจ้าอาวาสมาทำพิธีให้ ค่ะ 





พระดาบส ลูกศิษย์ก็มาด้วย ค่ะ 



น้นทา ลูกศิษย์ทำบุญอยู่ที่วัดธาตุทอง ค่ะ 




        วันนี้ นอกจากงานทำบุญ 100 วัน คุณแม่ของ รองฯ แล้ว  ช่วงเย็นยังต้องไปงานศพแม่ของหมอแม็ค
ซึ่งเป็นกรรมการคนหนึ่งของสมาคมนักเรียนเก่าฯ หรั่งไม่ว่าง
ฉันกับรุ่งและดารณีเป็นตัวแทนของสมาคมฯ พร้อมพวงหรีดและเงินช่วยงานศพ 1000 บาทของสมาคมฯ
ส่วนฉันใส่ซองส่วนตัวไปให้อีกซองทำบุญให้แม่เขาด้วย
  งานนี้เจอพี่สาวเขาด้วย  ฉันจำไม่ได้หรอก เขามาทักและกอดฉัน ชื่อสุกันยา ห้องเดียวกับพระตู่ 
ก็ไม่เคยติดต่อกับฉันใครจะจำได้ล่ะ อิอิ มาดูบรรยากาศพิธีศพแบบคริสต์ ค่ะ 



พวงหรีด ของสมาคมนักเรียนเก่า ฯ ค่ะ 



ถ่ายรูปหมอแม็คและ สุกันยา พี่สาวหมอแม็ค ค่ะ 



วันที่ 18 ส.ค. วันนี้ การเมืองไทย  ก็มีนายกหญิงคนที่ 2 หลังจากนายกหญิงคนแรก ยิ่งลักษณ์
  ที่หนีคดีไปอยู่ต่างประเทศเมื่อหลายปีก่อน และจากเสียงวิจารณ์
ของสังคม ที่เราได้ทราบจากข่าว  ประชาชน ก็ไม่ได้ปลื้มเลย ค่ะ มีพ่อเป็นเงาคอยช่วยอยู่ตลอด  เฮ้อ ! 
        วันนี้เป็นวันสาร์ทจริงด้วย  ฉันก็ทำพิธีไหว้เจ้า ไหว้ บรรพบุรุษ ตามประเพณีที่ดีงาม
  วันนี้มีมาลีหลานสะใภ้และเหลนกับเหลนเขย มาช่วย  มาไหว้  ไหว้เสร็จก็ พร้อมหน้าพร้อมตากันกินข้าว 
ช่วยล้างถ้วยล้างชาม  และถูบ้าน ก่อนที่เขาจะลากลับบ้านไป เบาแรงฉันไปได้บ้าง

วันที่ 19 ส.ค. ศาลได้ให้ ทักษิณไปแก้ต่างที่ทำความผิด ม.112  ตามที่มีผู้ยื่นฟ้อง  ยังไม่มีการตัดสิน
  นัดอีกครั้ง  เดือน ก.พ. 68  ต้องติดตามข่าวคราวต่อไปในปี 68 นานมากเลยนะเนี่ย  
                 
วันที่ 20 ส.ค.  วันนี้นัดกับตุ๊ก ไปร้านตัดเสื้อที่ร้าน จุก  แล้วก็ไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือที่บิ๊กซี  ค่ะ
กินคนละ 2 ชาม ชามละ 20 บาท  นิดเดียว ต้องสั่งสองชาม
จึงจะอิ่ม  แล้วยังมีขนมถ้วยอีกด้วย  กินคนละ 2 ฝา อิ่มแปล้ เลย ค่ะ  




                 
 วันนี้ยังมีข่าวเศร้า  คือ การสูญเสียนักร้องแผ่นเสียงทองคำไปอย่างไม่มีวันกลับ  คือ ชรินทร์  นันทนาคร 
ในวัย 91 ปี ค่ะ มาทราบประวัติของท่าน ค่ะ 

                   ชรินทร์  นันทนาคร  เกิด เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์  2476 มีชื่อเล่นว่า  ฉึ่ง หรือ มัย  ที่จังฟวักเชียงใหม่
   เป็นบุตรของ นายบุญเกิด และนางจันทร์ดี งามเมือง
เมื่อครั้งเป็นวัยเยาว์เป็นเด็กป่วยบ่อย ครอบครัวจึงเปลี่ยนชื่อให้เป็น ชรินทร์   ต่อมาได้รับพระราชทาน
นามสกุลจากพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ว่า  "นันทนาคร" ซึ่งมีความหมายว่า "ผู้ให้ความรื่นรมย์แก่ชาวเมือง
                 
 ด้านการศึกษา
ชรินทร์ นันทนาคร เรียนจยระดับประถมที่โรงเรียนดาราวิทยาลัย จากนั้นเรียนต่อ
ระดับมัธยมการศึกษาจากโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย 
จังหวัดเชียงใหม่ และโรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชยการ กรุงเทพมหานคร

ชีวิตส่วนตัว
                  ชรินทร์สมรสครั้งแรกกับสปัน เธียรประสิทธิ์ ซึ่งเป็นน้องสาวของปองทิพย์ ภรรยาของสุรัตน์ โอสถานุเคราะห์
ชรินทร์และสปันมีบุตรสาวสองคนคือ ปัญญ์ชลี เพ็ญชาติ
(สมรสกับ เศรณี เพ็ญชาติเป็นมารดาของ ปวริศา เพ็ญชาติ) และปัญชนิตย์ นันทนาคร (สมรสกับ
สหัสชัย ชุมรุมเป็นมารดาของ ปัญญริสา เธียรประสิทธิ์)
ต่อมาชรินทร์ได้หย่าขาดสปัน และได้สมรสใหม่กับ เพชรา เชาวราษฎร์ อดีตนางเอกภาพยนตร์
ชื่อดัง  มีบุตรด้วยกัน 1 คน แต่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเล็ก
                 เริ่มฝึกหัดร้องเพลงกับ ไสล ไกรเลิศ และเริ่มร้องเพลงสลับละครเวทีเรื่อง นางไพร เมื่อ พ.ศ. 2492
ด้วยเพลงดวงใจในฝัน และเริ่มบันทึกแผ่นเสียงจำหน่ายเป็นครั้งแรก
 และตามด้วยเพลง อิเหนารำพัน เมื่อ พ.ศ. 2494 จากนั้นย้ายกลับไปเชียงใหม่ ทำงานที่บริษัท
กมล-สุโกศลสาขาเชียงใหม่ แล้วสำนักงานใหญ่เรียกมาทำงานที่กรุงเทพฯ ทำตำแหน่ง
แผนกบัญชี แผนกต่างประเทศ ไปจนถึงแผนกแผ่นเสียง จากนั้นทำงานเป็นเลขานุกรมที่องค์การยูซ่อม


 ผลงานของชรินทร์ นันทนาคร ที่สร้างชื่อเสียงเป็นที่นิยมสูงสุด ได้แก่ เพลงเรือนแพ, มนต์รักดอกคำใต้,
หยาดเพชร, อาลัยรัก, ทาษเทวี, เด็ดดอกรัก, ผู้ชนะสิบทิศ,
ที่รัก, นกเขาคูรัก, แสนแสบ, ท่าฉลอม, สักขีแม่ปิง, ทุยจ๋าทุย, เพราะขอบฟ้ากั้น ฯลฯ ได้รับรางวัล
พระราชทานแผ่นเสียงทองคำจากเพลง อาลัยรัก 
ก่อนจะผันตัวไปเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ในนาม นันทนาครภาพยนตร์ เมื่อปี พ.ศ. 2508
ในเรื่อง เทพบุตรนักเลง จากนั้นจึงเริ่มกำกับภาพยนตร์ด้วยตัวเอง
เป็นครั้งแรกในเรื่อง สวรรค์วันเพ็ญ ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 4 ของนันทนาครภาพยนตร์เมื่อ
ปี พ.ศ. 2512  มีผลงานในฐานะผู้ผลิตภาพยนตร์ทั้งหมดกว่า 19 เรื่อง
 โดยมีภาพยนตร์เรื่อง รักข้ามคลอง ที่ทำรายได้สูงที่สุด และภาพยนตร์ แผ่นดินแม่ ถือเป็นภาพยนตร์
เรื่องแรกของประเทศไทยที่สร้างในระบบ 70 มม. แต่หลังจากนั้น
ก็เลิกทำหนังไปเหตุเพราะวงการหนังที่เปลี่ยนไปจึงเกิดความเบื่อ
         
ชรินทร์ นันทนาคร เป็นผู้ริเริ่มร่วมสร้างสรรค์เพลง สดุดีมหาราชา ซึ่งส่งผลให้ได้รับรางวัลกิตติคุณสัมพันธ์
"สังข์เงิน" สาขาใช้ศิลป์สร้างสรรค์ให้เกิดความรักชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์
          ชรินทร์ นันทนาคร ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ที่ขับร้องเพลงไทยสากลผสมผสานกับเพลงไทยเดิม
มีท่วงทำนองสูงต่ำเอื้อนด้วยน้ำเสียงที่มีเสน่ห์ชวนฟัง
 ออกเสียงอักขระได้ชัดเจน มีผลงานบันทึกแผ่นเสียงประมาณ 1,500 เพลงได้รับการยกย่อง
จากคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยสากล-ขับร้อง)
ประจำปี พ.ศ. 2541  (รวบรวมจากอินเทอร์เน็ต)

ชรินทร์ถึงแก่กรรมเมื่อเวลาประมาณ 02:23 น. ของวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2567 ณ โรงพยาบาลตำรวจ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ หีบลายก้านแย่ง กับทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้แทนพระองค์อัญเชิญ
พวงมาลาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
 พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง, สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระกนิษฐา
ธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 
วางหน้าหีบศพ ซึ่งตั้ง ณ ศาลา ชูทับทิม(ศาลา 9) วัดธาตุทอง พระอารามหลวง แขวงพระโขนงเหนือ
เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม กำหนดสวด
พระอภิธรรมระหว่างวันที่ 21-27 สิงหาคมจากนั้นจะเก็บร่างไว้ 100 วัน เพื่อรอการพระราชทานเพลิงศพ
ต่อไปและเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2567 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า
กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ 
สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานเพลิงศพ






ขอแสดงความอาลัยต่อการจากไปของ คุณชรินทร์  นันทนาคร ค่ะ 

วันที่ 21 ส.ค. เล็ก เพื่อนบ้าน เขาแต่งลูกสาว  มีการ์ดเชิญไปงานแต่งด้วย  มีรถรับส่งให้  ฉันจึงไปด้วย
  เพราะเป็นเพื่อนบ้านที่เก่าแก่  พึ่งพาอาศัยกันและกัน 
งานเขาจัดดูหรูหรา อาหารมีเป็นอาหารหลัก อาหารเสริม เป็นเซ็ทใครเซ็ทมัน  มีชื่อกำกับที่นั่งด้วยนะ 
คนมีเงิน ลูกสาวคนเดียว  ก็จัดให้มันสมศักดิ์ศรี เนาะ ชื่อ โรงแรม
อะไร จำไม่ได้แล้ว  มาชมบรรยากาศของงานแต่ง ค่ะ 



ยาย ของเจ้าสาว  น่้าของเจ้าสาว และคนดูแล ยายของเจ้าสาว ค่ะ 





รวมครอบครัวของฝ่ายเจ้าสาวถ่ายรูปกันค่ะ  มีฉันเป็นเพื่อนบ้าน ค่ะ (เขาเรียกไปถ่าย ค่ะ)



ทุกที่นั่งจะมีชื่อกำกับไว้ แบ่งฝ่ายเจ้าสาวและเจ้าบ่าวคนละฝั่งค่ะ 





  
         ช่วงเวลา 22 เป็นอาทิตย์มีแต่ข่าวฝนตกหนักทางภาคเหลือ  เชียงราย  เชียงใหม่  น่าน แพร่ 
ประสบอุทกภัยอย่างหนัก ภาพที่ถ่ายทอดจากโทรทัศน์ ดูน่ากลัวมาก 
น้ำท่วมและไหลจากป่าผสม พัดพาเอาสิ่งต่าง  ทรัพย์สินขนกันไม่ทัน สัตว์เลี้ยงจมน้ำตายไปก็ไม่น้อย  เฮ้อ !
เศร้าใจมาก หน่วยงานต่าง ๆ มูลนิธิต่าง ๆ ตลอดจนดาราหลายคน
ก็ให้ความช่วยเหลือ  บริจาคเงิน  บริจาคสิ่งของ  ในหลวง ร. 10 ก็มีถุงสิ่งของที่จำเป็น พระราชทาน
ให้แก่ผู้ประสบภัย  ฉันเอง ก็ช่วยได้เล็กน้อย  บริจาคเงินให้กับสภากาชาด
สมทบไปช่วยเหลือ  มาชมภาพ ค่ะ 








วันที่ 25 ส.ค. ไปประชุมสมาคมฯ เพื่อเตรียมจัดงาน  คืนสู่เหย้าชาวธาตุทอง  ปีที่ 73 
ปีนี้ ไล้ เสนอจัดงานเป็นธีม  "งานวัด"  ทุกคนก็เห็นด้วย ค่ะ  




     



ประชุมกัน เก็บภาพไว้เป็นผลงานของสมาคมฯ  ค่ะ 

เดือน  ก.ย. เดือนสุดท้ายของ ตอนที่ 3 แล้ว ค่ะ 
         วันที่ 3 ก.ย. วันนี้ได้รับ สะตอและลองกองจาก เยาว์เพื่อนรัก มาจากปัตตานี ขอบใจมากนะ
เพื่อนรัก  ที่ส่งของโปรดของเรามาให้กินทุกปี   ฉันถ่ายรูปของฝาก
ของเยาว์ไว้ ทุกครั้ง มาชมค่ะ



เจ้าขิงลองกอง  สะตอ ค่ะ 





สะตอจะหมดหน้าแล้ว เลยส่งมาน้อย 



นำลองกองไหว้ เจ้าที่ ของพรให้เจ้าของ ลองกอง ค่ะ 

  
 
นำลองกองไหว้พ่อและแม่ ด้วย ค่ะ  

           วันที่ 8 ก.ย. ก็มีการประชุม  เรื่องการจัดงาน คืนสู่เหย้า  เพื่อติดตามงาน  ของการประชุมคราวก่อน
  เรื่องจำนวนโต๊ะที่มีศิษย์เก่าเริ่มมาจอง  ใครรับผิดชอบ
งานด้านไหน  เป็นต้น  มาชอบรูป ค่ะ 









เลิกประชุม ถ่ายรูปโรงเรียนไว้ เป็นที่ระลึก อิอิ



บูลย์  อุปนายก และ นายา ฯ ในอนาคต อิอิ 
   
วันที่ 13 ก.ย. วันนี้มีข่าวคนสำคัญในวงการบันเทิงถึงแก่กรรม อีกคนหนึ่งแล้ว  คือ คุณฉลอง  ภักดีวิจิตร
เรามารู้จัก ประวัติของฉลอง  ภักดีวิจิตร ค่ะ 

          ฉลอง ภักดีวิจิตร มีชื่อจริงว่า บุญฉลอง ภักดีวิจิตร
เกิดเมื่อ วันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2474  ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา
สำเร็จการศึกษาที่โรงเรียนวัดสุทธิวราราม ในระดับ มัธยมศึกษาปีที่ 6
สำเร็จการศึกษาระดับเตรียมอุดมศึกษาปีที่ 2 จากโรงเรียนอำนวยศิลป์
ฉลอง ภักดีวิจิตร เริ่มเห็นการทำงานด้านภาพยนตร์ของครอบครัวตั้งแต่อายุ 5 ขวบ
เข้าสู่วงการภาพยนตร์ด้วยการเป็นตากล้องมาก่อน โดยทำหน้าที่
เป็นตากล้องถ่ายทำภาพยนตร์ตั้งแต่ยุค 16 ม.ม. จนถึง 35 ม.ม. ให้กับผู้สร้างภาพยนตร์หลายราย

ส่วนภาพยนตร์ที่ ฉลอง ภักดีวิจิตร แสดงฝีมือ กำกับการแสดงเป็นเรื่องแรกก็คือ ภาพยนตร์ 16 ม.ม.
เรื่อง จ้าวอินทรี โดยใช้นามว่า ดรรชนี ในการกำกับการแสดง 
ภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้สร้าง-ถ่ายภาพ และกำกับเอง และเขาก็เรียกว่าสร้างผลงานด้านกำกับออกมา
มากมายทั้งได้รางวัลและตีตลาดต่างประเทศ

ผลงานในยุคปัจจุบัน ทางด้านงานละคร ฉลอง ภักดีวิจิตร เป็นผู้บุกเบิกละครแนวแอ็คชั่นของทางช่อง 7 สี
ในนามบริษัท บางกอก ออดิโอ วิชั่น จำกัด  หลังจากนั้น ในปี 2551
ฉลองได้รับรางวัลเกียรติยศ ปูชนียบุคคลแห่งวงการบันเทิง จากสตาร์เอนเตอร์เทนเมนต์อวอร์ดส 2007

ปี 2554 ได้รับรางวัลเกียรติยศแห่งความสำเร็จ จากงานประกาศผลรางวัลสตั๊นท์แมนยอดเยี่ยมครั้งที่ 1
ปี 2555 ได้รับรางวัลรางวัลมณีเมขลาเกียรติยศ บุคคลดีเด่นผู้ทรงคุณค่าในวงการโทรทัศน์ จาก
งานรางวัลเมขลาครั้งที่ 24 ประจำปี 2554
ในปี พ.ศ. 2556 ฉลองได้รับยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ผู้สร้าง-ผู้กำกับภาพยนตร์
และละครโทรทัศน์) ประจำปี พ.ศ. 2556

นอกจากนั้น วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 ฉลอง ภักดีวิจิตร ได้ถูกบันทึกชื่อลงในบันทึก
สถิติโลกกินเนสส์ ว่าเป็นผู้กำกับการแสดงที่มีอายุมากที่สุดในโลก
 (Oldest TV Director; อายุวันที่จดสถิติเมื่อ 1 กันยายน พ.ศ. 2565 คือ 90 ปี 297 วัน)
"ฉลอง ภักดีวิจิตร"  ถึงแก่กรรมอย่างสงบ ณ โรงพยาบาลรามาธิบดี เวลาประมาณ 15.30 น.
"ฉลอง ภักดีวิจิตร" เสียชีวิตแล้ว ตำนานเจ้าพ่อหนังแอคชั่นเมืองไทย


(ข้อมูลจาก อินเทอร์เนต)  



ขอแสดงความอาลัย ต่อการจากไปของ คุณฉลอง  ภักดีวิจิตร ค่ะ 

วันที่ 14 ก.ย.  เช้านี้ เฟิร์ส  หลานชาย  โทรมาบอกว่า  จะให้โกวมางานซ้อมรับปริญญา  ถ่ายรูปกับเขา
  เด็กสมัยใหม่นี่แปลกดี เนาะ ไม่มีการแจ้งล่วงหน้าเลย
สงสัยเพิ่งคิดได้อยากให้ไปมั้ง อิอิ  ฉันถามว่า ฉันแก่แล้ว ไปคนเดียวไม่ไหว  เขาบอกว่า
เขาจะให้พ่อเขา (น้องชายฉัน)  มารับฉันที่บ้าน  งั้นก็โอเค 
        นัดกันตอน 11 โมงมั้ง  น้องชายมา ฉันก็แต่งตัวเสร็จ  เดินออกไปเรียกแท้กซึ่ไป จุฬา  คณะอักษรศาสตร์
  ไปถึงที่หมาย พักใหญ่  บ้านและญาติทางน้องสะใภ้
ก็มางาน มีพี่สาวและลูกของเขา มาพร้อมน้องสะใภ้และฟริ้นส่วนเจ้าเฟิร์ส มาอยู่กับเพื่อนคณะของเขา
มาแต่เช้าแล้ว แต่มาถึงก็ยังไม่เจอเขาหรอก  นั่่งรออยู่หน้าอาคาร
ที่เขาขายอาหาร  มีคนเข้าไปกินเยอะ ทั้งผู้ปกครองที่มางานลูกหลานและนิสิต ค่อนข้างแออัด 
น้องสะใภ้ ถามว่า ไปกินข้าวในห้องอาหารไหม  ฉันไม่อยากเข้า  เพราะ
ดูแออัดเกินไป  กลัวติดเชื้อโควิด  ซึ่งตอนนี้ก็ยังไว้ใจไม่ได้  เลยไม่ได้ไปด้วย  นั่งรอกันอยู่ด้านนอก
ที่เป็นม้าหิน  รอเพื่อนของเฟิร์สที่จะเป็นตากล้องให้  นัด 11 โมง มาเอา
เที่ยงมั้ง  กว่าจะได้ถ่ายรูปและถ่ายเสร็จก็บ่ายโมงได้มั้ง  อากาศวันนี้ก็ร้อนอบเอ้ามาก ตอนถ่ายรูป
ฉันไม่ได้ซื้อดอกไม้ให้หลานหรอก แต่บอกญาติเขาไปซื้อดอกไม้สักช่อ 
ก็พอ  ให้ดูว่าเป็นงานรับปริญญา  (ค่านิยม ค่ะ)   ส่วนฉันเตรียมเงิน 2,000 บาท ใส่ซองแดงให้หลาน
อยากได้อะไรก็ไปซื้อเอาเอง  ถึงจะซื้อเป็นสิ่งของก็ซื้อไม่ทันหรอก
เพราะเล่นบอกฉันตอนเช้าวันจะให้ไปงาน 



ใส่ซอง 2000 บาท แสดงความยินดี ค่ะ 














       วันที่ 15 ก.ย. ข่าวใหญ่ในวงการบันเทิง  ก็แจ้งข่าวเศร้า  คือ การสูญเสียดาราจีนมากฝีมือในการแสดง
  ฉีเส้าเฉียน  ดาราฮ่องกง ยอดฝีมือหนังบู๊  ฉันดูหนังที่เขาแสดงหลายเรื่องอยู่
  เช่น กระบี่ไร้เทียมทาน  เขาจากไปด้วยวัยเพียง 73 ปี ด้วยโรคมะเร็งหลอดอาหาร  เฮ้อ !  มาทราบประวัติของเขาค่ะ 

ฉีเส้าเฉียน เกิดที่กว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง ในวันที่ 16 ตุลาคม 1950 มีพี่สาวหนึ่งคน ส่วนพ่อของเขา
เป็นนักธุรกิจ เมื่อเรียนจบชั้นมัธยมที่โรงเรียนหลิงตง
 เขาก็เริ่มทำงานเป็นพนักงานติดตามหนี้ของธนาคารต่างประเทศ แล้วจึงย้ายไปทำงานในตลาดหลักทรัพย์
ในฐานะเสมียนบัญชีรับผิดชอบในการจัดการผลิตภัณฑ์ทางการเงิน
ในช่วงนั้นฉีเส้าเฉียนรู้สึกเบื่อหน่ายกับงานที่ทำ และมีเพื่อนของเขาแนะนำให้ไปเรียนการแสดง
ของชอว์ บราเดอร์ ซึ่งฉีเส้าเฉียนจบการแสดงในปี 1972
   
ผลงานของฉีเส้าเฉียน

        ฉีเส้าเฉียน ได้แสดงบทชาวบ้านในภาพยนตร์เรื่องแรก คือ ไอ้หนุ่ม 5 จอมเหี้ยม (The Savage Five/1974)
ที่นำแสดงโดย ตี้หลุง เดวิด เจียง เฉินกวนไถ้
 หลังจากนั้นเขาก็วนเวียนแสดงภาพยนตร์ของชอว์ บราเดอร์อีกหลายเรื่อง   จนกระทั่งในปี 1977
ทางสถานีโทรทัศน์ลี่เตอ Rediffusion Television 
 หรือ RTV (ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น ATV เอเชียเทลิวิชัน  ในวันที่ 24 กันยายน 1982)
ได้ขอยืมตัวฉีเส้าเฉียนไปแสดงละครโทรทัศน์เรื่อง Big Man (大丈夫/1977)   ก่อนที่จะกลับไปแสดง
ภาพยนตร์ให้ชอว์ บราเดอร์ เรื่อง ศึกล้างเจ้ายุทธจักร(Death Duel/1977)
ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายของโกวเล้ง เรื่อง ซาเสียวเอี้ย นำแสดงโดยเอ๋อตงเซิน และหวีอันอัน
ก่อนที่จะโด่งดังไปทั่วเอเชียกับบทบาท ฮุ้นปวยเอี้ยง ใน “กระบี่ไร้เทียมทาน”
ปี​ 1979​ ละครกำลังภายใน​ ในตำนานวงการโทรทัศน์​ฮ่องกงและไทย
                ได้ร่วมงานกับทีมหนังไทย ในเรื่อง “เพชรตัดหยก” และเรื่อง “พยัคฆ์ยี่เก” คู่กับ “สรพงศ์ ชาตรี”
ส่วนละครไทยก็มีเหมือนกัน คือเรื่อง “แสงเพลิงที่เกริงทอ”

(รวบรวมข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต) 





ขอแสดงความอาลัยต่อการจากไปของ ฉีเส้าเฉียน  ค่ะ 

 วันที่  19 ก.ย.  วันนี้ พะเยาว์ เพื่อนรัก ส่งสะตอ  ลองกองและลูกหยีอีก 2 ถุง  เดือนนี้ส่งมาเป็นครั้งที่ 2
  ฉันจึงนำสะตอผัดกับกุ้ง หมู และ ลองกอง 1 พวงใหญ่
ใส่บาตรตอนเช้าในวันรุ่งขึ้น คือ วันที่  20  สาธุให้เยาว์เจ้าของสะตอและลองกองด้วย จะได้บุญด้วยกัน ค่ะ 













ผัดสะตอแต่เช้า  เพื่อไปใส่บาตร ในวันรุ่งขึ้น ค่ะ อนุโมทนาบุญ ให้เยาว์ด้วย 

         วันที่  22 ก.ย. ข่าวเศร้าในวงการบันเทิงมาอีก 1 ข่าวแล้ว เดือนนี้  วงการบันเทิงทั้งไทยทั้งเทศ  หลายคนเลย
 ครั้งนี้คือ อ๋อม  อรรคพันธ์   ด้วยวัยที่ยังน้อยอยู่ มาทราบประวัติ ค่ะ 

         อ๋อม มีชื่อจริงว่า อรรคพันธ์ นะมาตร์  ชื่อเล่นคือ อ๋อม
เกิดวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2528 ปัจจุบันอายุ 39 ปี (ณ ปี พ.ศ.2567)
ภูมิลำเนาเป็นคนกรุงเทพมหานครส่วนสูง 183 เซนติเมตร
จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง
จบการศึกษา ระดับปริญญาตรีที่คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ สาขาโฆษณา

อ๋อม อรรคพันธ์ เกิดในครอบครัวที่มีพี่น้องสองคน โดยเขาเป็นพี่ชายคนโต เข้าสู่วงการบันเทิง
จากการถ่ายโฆษณาถ่ายเอ็มวี ก่อนที่จะขยับเข้ามาในวงการการแสดง
จากบทบาทนักแสดงสมทบ ก่อนที่จะพิสูจน์ตัวเองจากการรับบทรองและบทร้าย และไต่เต้าขึ้น
ไปถึงบทนำ ซึ่งการแสดงของเขาก็เรียกว่าไม่ธรรมดาเพราะเขาเคยได้รับ
รางวัลรางวัลโทรทัศน์ทองคำในสาขานักแสดงสมทบชายดีเด่น และก้าวขึ้นมาได้รับบทพระเอก
และสร้างผลงานที่น่าจดจำให้กับแฟนละครมากมาย

อ๋อมเป็นที่รู้จักจากบทพระเอกในละครแนวโรแมนติก-ดราม่า มีบุคลิกสุภาพเรียบร้อย
และได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงที่แสดงละครบู๊และแนวลึกลับ
นอกจากนี้เขายังเป็นที่รักของแฟนคลับด้วยความเรียบร้อยและเสน่ห์ส่วนตัวที่อ่อนโยน

 ในเรื่อง รักซ่อนแค้น ทางช่อง 3 และรับบทตัวรองและบทร้าย จากนั้นได้รับบทเด่นเรื่องแรก
เรื่อง พระจันทร์ลายพยัคฆ์ ทางช่อง 7 จนได้รับรางวัลโทรทัศน์ทองคำ 
สาขานักแสดงสมทบชายดีเด่น ต่อมารับบทพระเอกครั้งแรก
ในเรื่อง สาวใช้ไฮเทค ของดาราวิดีโอ โดยแสดงคู่กับ จุ๋ย - วรัทยา นิลคูหา และเริ่มเป็นที่รู้จัก
จากบทหลวงอัครเทพวรากร ในละคร ทวิภพ ต่อมาในปี พ.ศ. 2560
ได้ร่วมแสดงในซีรีส์ "ภารกิจรัก" เรื่อง ราชนาวีที่รัก รับบทเป็น เรือเอกจิรวัติ สุกปลั่ง

ในปีพ.ศ. 2565 อ๋อม อรรคพันธ์ เริ่มป่วยเป็นมะเร็งบริเวณกล้ามเนื้อหัวใจ ได้รับการผ่าตัด
เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2566 และต่อมาได้เสียชีวิต
เมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2567 ด้วยวัยเพียง 39 ปี






ขอแสดงความอาลัยต่อการจากไปของ อ๋อม อรรคพันธ์  คะ 

     

   วันที่  29 ก.ย. ประชุมสมาคม  ติดตามงานคืนสู่เหย้า  หลังจากประชุม  มาทดลองกิจกรรมต่าง ๆ
ที่ไล้ นำมาให้ลองเล่น  เช่น เกมปาเป้า  เกมทอยห่วง ปาโป่ง ฯลฯ 
เล่นกันสนุกสนาน น่าจะประมาณ 1 ชั่วโมง  ก็ช่วยกันขนของไปเก็บที่ห้องสมาคมฯ   เสร็จแล้ว
  รุ่งพาฉันไปซื้อของที่โลตัสและแวะกินข้าวมื้อเย็นที่ บ้านส้มตำ  ค่ะ มาชมรูป ค่ะ 









รางวัลในการเล่นเกม  ไล้หามามากมาย ค่ะ โดยไม่ได้ใช้เงินของสมาคมฯ เลย ค่ะ 





รุ่งพาไปกินข้าวมือเย็นที่ ร้าน ส้มตำ เจ้าประจำ ค่ะ ขอบใจ นะ ลูกสาวคนเก่ง 
     
 ทวาทศมาส ปี 67 ตอนที่ 3  ก็จบการบันทึกแล้ว ค่ะ  เหลือตอนที่ 4 อีก 3 เดือน  โปรดติดตามตอนจบ  นะคะ 


          






  



Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2568
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2568 19:20:48 น. 11 comments
Counter : 288 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณhaiku, คุณสองแผ่นดิน, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณกะว่าก๋า, คุณดอยสะเก็ด, คุณหอมกร, คุณtoor36, คุณtanjira, คุณkae+aoe, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณnewyorknurse


 
อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

ปลาหมอคางดำกับปัญหาควันในประเทศไทย
เป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกันเลยนะครับ
รัฐไม่สามารถเอาผิดหรือลงโทษได้เลย

อาจารย์มีกิจกรรมให้ทำตลอด
แวะล้อมไปด้วยเพื่อนและลูกศิษย์ที่น่ารักมากๆครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:6:11:31 น.  

 
Hello,

Exclusive promo quality music for DJ's https://sceneflac.blogspot.com
440TB MP3/FLAC, Label, Music Videos. Fans that help you gain full access to exclusive electronic music.

Sceneflac team.


โดย: MichaelCip IP: 79.137.89.102 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:7:45:12 น.  

 
กรี๊ดดดๆๆๆ ทวาทศมาส มาแล้วนะครับ แฮร่

อาจารย์สุ ถามเอ็งดีใจใช่มั้ยล้า อิอิ

อาาจารย์เต๊ะ บอก อาจารย์เต๊ะ ร้องปลอบขวัญตัวเอง ให้ฮึดสู้คร้าบ ฮ่าๆๆๆ

เรื่องธนาคารนี่ตอน พ่อเสีย อาจารย์เต๊ะต้องไปติดต่อธนาคารหลายแห่ง
ธนาคารที่เรื่องมากและจุกจิกมากก็ที่นี่แหละครับ ต้องทำนู่นทำนี่หาเอกสารมายืนยัน ต้องมีคนมาค้ำประกันอีกใข้เวลาหลายวันกว่าจะเรียบร้อย แต่อีกทีนึงนี่ แค่เอาสมุดเงินฝากให้ เจ้าหน้าที่จัดการให้เรียบร้อยเดี๋ยวนั้นเลยครับ

ส่วนเรื่องพี่หมอคางดำนี่ เห็นมีเรื่องฟ้องร้องหน่วยงานต้นเหตุอยู่
อยากให้ประชาชน ชนะซะบ้างนะครับ
จะได้เรียกร้องเสียให้เข็ดไปเล้ยย

ส่วนเรื่อง รพที่อาจารย์ว่านี่ ไม่ได้แอ้มตังอาจารย์แน่ เพราะอาจารย์มีสิทธิ์เบิกได้ใช่มั้ยครับ

ส่วนเสี่ยจอย หน้าตาาแก น่าจะชอบก๊งมากนะครับนี่ ปล่อยเสื่ยจอยไป แล้วจะรู้สึกนะครับ ฮ่าๆๆ

ส่วน เพลิน พรหมแดน นี่เพลงพูดของแก สนุกสนานเฮฮามาก
อาจารย์เต๊ะชอบฟังแกร้องมากตลกดี ตอนเสียนี่ อายุเท่าพ่อของอาจารย์เต๊ะเลยครับ

ส่วนเรื่องงานสมาคมนี่ อาจารย์ก็ช่วยงานสม่ำเสมอเรื่อยมานะครับ
อาจารย์เต๊ะว่า เรื่องความผูกพัน ความเอื้ออาทร ก็ยังดีกว่าอีกหลาย รร เลยนะครับนี่

ส่วนเรื่องอาชรินทร์นี่ ท่านอายุยืนมากเลยนะครับ
แล้วก็เรื่องนายกหญิงนี่ ไม่ได้เรื่องซักกะคนเลยนะครับ
นี่ได้ข่าวว่าน้าก็จะกลับมาแล้วนี่ครับ บันเทิงกันเลยคราวนี้ ฮ่าๆๆ

แล้วก็หนังของอาหลองนี่ อาจารย์เต๊ะ ชอบดูมาก สไตล์ ระเบิดภูเขาเผากระท่อมไม่มีใครสู้แกได้เลยนะครับ

ส่วนฉีเส้าเฉียนนี่ สมัยเด็ก อาจารย์เต๊ะก็ติด กระบี่ไร้เทียมทาน งอมแงมเหมือนกันครับ

แล้วก็หลานอาจารย์เรียนจบ อักษรจุฬาแล้วนะครับ
สมัยอาจารย์เต๊ะเรียนนี่ ชอบข้ามฝั่งไปเดินเล่น แถวคณะอักษรมากเพราะ สาวนิสิตเค้าสวยปิ้งจริงๆครับ

งานคืนสู่เหย้าชาวธาตุทอง นี่ก็น่าสนุกมาก ธีมงานวัด
ขาดแต่สาวน้อยตกน้ำ ของโปรด อาจารย์เต๊ะเลย แฮร่ ฮ่าๆๆๆ

อุ๊ยๆ อุ๊ย จบแล้ว อิอิ
วันนี้อาจารย์เต๊ะเม้นท์รวดเดียวจบได้ ดีใจ ต้องฉลองกันใหญ่แล้วละครับ อาจารย์ แฮร่ ฮ่าๆๆๆ







โดย: multiple วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:9:31:00 น.  

 
แหมนึกว่าอ๋อมจบวัดธาตุทองค่ะอาจารย์
ชีวิตของอาจารย์ดูมีความสุขดีนะคะ



โดย: หอมกร วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:14:44:49 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:5:47:01 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

ถ้าผมจำไม่ผิด
หนังสือของคุณคัจฉกุลเป็นชื่อภาษาอังกฤษเกือบทุกเล่มเลยครับ
เห็นด้วยกับอาจารย์ครับ
บางทีก็น่าจะมีการตั้งชื่อภาษาไทยไว้ด้วย
ภาษาไทยเราเพราะๆ ความหมายดีมากมายเลย



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:14:10:38 น.  

 
อาจารย์เต๊ะ อัพบล็อก แค่เดือนละครั้งเองครับ
กำลังดี มีเรื่องอะไรทำไปบ้าง ก็รีบเล่าไว้เอาใจแฟนคลับ
ทั้งสายเอนเทอเทนต์ ทั้งสายพืชสวน รวมทั้งสายคนรักเบาหวานด้วย 555

ส่วนเรื่องกินนี่ อาจารย์เต๊ะ ก็ไม่ได้เคร่งครัดมากเกินไปครับตึงมั่ง หย่อนมั่ง แบบว่า หมอเผลอแล้วเจอกัน แหละนะครับ555

ส่วนเรื่องเพลงนี่ ยังไม่ได้หัดร้องเพลงใหม่เลยครับ
ช่วงนี้ได้แต่ร้องเล่นไปเรื่อยๆ ออกแนวเรื่อยเปื่อยครับ 555

ขอบคุณเรื่องคำผิดด้วยนะครับ ถ้าอาจารย์ไม่บอกต้องเขียนผิดไปตลอด แหงๆเลยครับ 555



โดย: multiple วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:4:58:17 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:5:37:03 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

บ้านเราก็มีปัญหาการเมืองมายาวนานจริงๆครับ
คนที่เดือดร้อนที่สุดคือประชาชน
ส่วนนักการเมืองเสวยสุขบนความทุกข์ของประชาชนจริงๆครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:13:33:48 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:6:07:07 น.  

 
อาจารย์ยังคงเป็นที่รักของทุกคนจริงๆ ครับ ของกินไม่ขาดสายเลย

เรื่องปลาหมอคางดำจนถึงวันนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลยครับ เหมือนเขาไม่สนใจแล้วด้วยมั้ง ทั้งๆ ที่สถานการณ์ดูจะเลวร้ายมากยิ่งขึ้น

บะหมี่สำเร็จรูป นั่นเผ็ดอยู่นะครับ มีพูดถึงหลายๆ เรื่องเลยวันเกิดด้วย

เรื่องยุคพรรคมันไม่ควรจะมีเลยครับ ถ้าไม่ได้ชัดเจนแบบนาซีเยอรมัน ยุบไปแล้วมันก็ไม่ต่างจากกรณีไทยรักไทย ตั้งใหม่ ซ้ำร้าย ดันเป้นพยานเท็จใส่ร้ายจนยุบพรรคอีก ถ้าเทียบกับการประหารชีวิตก็ประหารผิดคนไปแล้ว

งานแต่งงานศพ ก็ยิ่งอายุมากขึ้นก็มีมากขึ้น แต่งานแต่งอาจเป็นรุ่นลูกๆ หลานๆ แทนเพื่อนฝูง


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:21:08:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

อาจารย์สุวิมล
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ

http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif
space
space
space
space
[Add อาจารย์สุวิมล's blog to your web]
space
space
space
space
space