เจ้าสมภมิต
ข้าภเจ้า นายปันบุญเรือง เปนผู้เรียบเรียง
ปริวรรตโดย สลุงเงิน
บทที่ ๓ (ต่อ)
๑๙๑ ว่าตัวแห่งคูบ่ควรทุกข์ไร้ ร้องร่ำไห้ไพมา
ฅนในโลกนี้ ย่อมมีตัณหา คันบ่บัรลาฅว่างธิ้งบ่ได้
ค็เที่ยงจักตาย วอดวายโสกไหม้ ย้อนเสนาในจ่องชัก
๑๙๒ การอันรักเมียเหมือนเชือกผูกมัด สุบสอดอั้นพันฅอ
ฅวามรักลูกน้อย เปรียบไพเหมือนปอ มาหวัดพันฅอผูกแขนไว้หมั้น
ฅวามรักเข้าของ เงินธองสิ่งอั้น เหมือนเอาเชือกคังมัดไว้
๑๙๓ ผูกสองตีนมือบ่หื้อย่างย้าย เดินท่องผ้ายหนีไพ
สามสิ่งนี้ คูจักตัดใจ บ่หื้ออาไลยใจหวันอ่วงห้อย
ค่อยตัดใจเสีย และวันและหน้อย ค่อยอดบันเทาทุกข์ร้าย
๑๙๔ ส่วนโพธิสัตว์พระองค์ท้าวไธ้ อยู่กลางป่ากว้างคีรี
จักอยู่ป่าไม้ บวชเปนรสี อยู่ป่าดงรีค็ใจบ่ตั้ง
................. ................ มีใจเพพังแตกม้าง
๑๙๕ ย้อนสีเนหา รักเจ้าบ่ยั้ง บ่ตัดขาดด้วยคำแพง
สมภมิตท้าว จิ่งตั้งใจแขง ค่อยเซาะสอดแยงหาสายที่อ้อน
ท้าวค็ลาหนี ออกไพที่ห้อง ลัดดงดอนเขตฅ้าย
๑๙๖ เยียะสะพายถงเหมือนฅนทุกข์ร้าย ค็เทียวท่องผ้ายซวนซำ
หัวอกท้าวไธ้ เหมือนไม้หักขำ กินสังบ่ลำแลงงายฅาบเข้า
เท่าคึดใจหา สามราหน่อเหน้า ลวดกวังเซเมาร่ำร้อง
๑๙๗ เหมือนดั่งจักหันสองเจ้าพี่น้อง มาจาฟู่ถ้องทวยเฅียว
พระองค์หน่อไธ้ ผ่อผ้ายแลเหลียว มีตัวเองเดียวค่อยเทียวท่องเต้า
ท้าวโสกโสกา ดวงไธยโสกเส้า ได้ลัดดงเลาเทษท้อง
๑๙๘ ได้ยินแต่เสียงส่ำเนียงนกร้อง เสียงสนั่นก้องซอแซ
แมงไยแมงว้าง จักจั่นจอแจ มาร้องซอแซในดงหลืบห้วย
นกตระเหว่า ค็เมาร้องด้วย เมื่อตาวันงวยต่ำค้อย
๑๙๙ เจ้าค็ร้องหาสามนางหน่อน้อย หล้างปะจวบเจ้าสักฅน
ท้าวเทียวเธี่ยวลัด ข้ามด่านไพรสน ไพสู่เมืองฅนที่หนฝ่ายหน้า
เจ้าค่อยผ่อหา เหมือนฅนเมาบ้า ไพเถิงสาลาท้าวไธ้
๒๐๐ ที่สวนอุญาณท่านส้างแปลงไว้ หื้อเปนที่ได้เซาแรง
เจ้าค็ยั้งภัก ง้ม ๆ แหงน ๆ คันอิดหิวแรงค็ยั้งอยู่หั้น
ส่วนว่าพระญา สีลาข้อขั้น ค็ตายเมือมอรณ์ม้วยมิด
๒๐๑ วจีกัมม์ มาธำชีวิต หื้อองค์ท่านเจ้านิพพาน
พวกมหาดเล็ก ค็ส่งสการ ธำบุญกินทานเจ้าตนแก่เถ้า
ส่วนว่าอาชญา สีลาผู้เถ้า บ่มีบุตต์ชายสืบเชื้อ
๒๐๒ มีแต่บุตต์ยิงบ่มีใผร่วมเนื้อ ม้าวเปนแถ่วเถ้าเพิงควร
กุมมารีน้อย ผ่อใผบ่เหมือน เซาะหาคู่เฅืองสืบเชื้อเครือเหง้า
ส่วนหมอโหรา ปโรหิตเถ้า อยู่เมืองพาราที่นั้น
๒๐๓ ค็มาร่ำเถิงฅิดเถิงหลายชั้น มีใจสอดดั้นไพมา
ว่าเมืองเรานี้ บ่มีใผรักสา มีแต่เสนาท้าวขุนแก่เถ้า
บ่มีใผไหน ฅนใดเปนเจ้า สืบแทนเมืองใหย่ยศ
๒๐๔ มีแต่โยธา ใฝ่ฝั้นละลด ไม่รู้ที่อั้นจักวาย
คันข้าเสิก็รู้ เที่ยงแดนฉิบหาย บ่มีแก่นายฅนใดอยู่เฝ้า
ส่วนว่าเสนา ปโรหิตเถ้า ค็ป่าวกันมาพร่ำพร้อม
๒๐๕ หมู่ท้าวแลขุนค็มานั่งล้อม เตมทั่วห้องในโรง
พากันนั่งพร้อม ฅิดอ่านสะสน เสนาริพลค็มาชุหน้า
ว่าเมืองเราเหิย เปนเมืองใหย่หม้า บ่มีพระญานั่งเค้า
๒๐๖ หมู่เราทังหลายมากมายอดเอ้า บ่มีใผเปนเจ้าแทนเมือง
เราหมู่นี้ มีปากบ่เหมือน บ่มีเจ้าเมืองทุกข์ใจหลายถ้าน
คันข้าเสิก็มา เทเมืองเทบ้าน จักมีฅนใดอ่านฅิด
๒๐๗ หมู่เราทังหลายจักเอาชีวิต หนีจากบ้านเมืองรา
พวกเราเดี่ยวนี้ ควรแสวงหา ยังสามีมาหื้อนางหน่อเหน้า
ส่วนว่าเสนา ปโรหิตเถ้า จัดแจงเร็วไวบ่ช้า
๒๐๘ เอาเครื่องรถยานออกมาใส่ม้า เจือลวาดผ้าผืนดี
ครัวเครื่องท้าว เอามา(ห)ลายสี น้ำต้นคันทีขันจาน้ำเต้า
แล้วตีนนตรี เภรีแหร่เข้า แวดวงเวียนรถไว้
๒๐๙ มาแต่งแปลงขันใส่ยังดอกไม้ ยอยื่นไหว้วันทา
ขอครุฑนาคน้ำ มเหสิกขา ทังเทวดาอินท์พรหมอยู่ห้อง
แม่ธอรณี รักสาป้านป้อง ทังจตุรงค์ท้าวไธ้
๒๑๐ ขอหื้อนำยาน รถข้าแต่งไว้ ไพหาท่านผู้ราชา
ขอนำรถม้า ไพแสวงหา ยังหน่อโพธาวิชาแก่กล้า
มาเปนพระญา แทนเมืองตูข้า ตักกสิลาที่นี้
๒๑๑ ส่วนพระญาอินท์จิ่งลงผ่อชี้ หันหมอแก่เถ้าวอนวาน
จิ่งเนรมิต หื้อออกสัณฐาน หื้อม้าเดินทางลากรถท่องเต้า
มาผัดตาสิน แวดเวียงผ้ายเต้า สามธีเลิยเลียบเลาะ
๒๑๒ ออกไพปะตู วันออกเฉพาะ ผัดแวดเกี้ยวเหลียวเมือง
แล้วค็พลิกงว้าย อว่ายไพหนเหนือ ลัดป่าดงเครือหนเหนือไต่เต้า
ค็ไพรอดเถิง เทิงองค์หน่อเหน้า ยั้งอยู่สาลาเทษท้อง
๒๑๓ ม้าอาชาไนย ค็หิแห่ร้อง เสียงมี่ก้องเชิยบาน
ค็เลิยชักรถ ออกจากสัณฐาน เถิงสาลางามที่วังฅุ้มหน้า
ค็พารถยาน ยั้งภักอยู่ถ้า ที่ริมสาลาป่าไม้
๒๑๔ อว่ายหน้ามาหา ยังเมืองท้าวไธ้ เหมือนนึ่งอั้นฅนนำ
ส่วนเสนาเค้า พราหมณ์เถ้าตามหลัง เขาหันสำคัญสจัรย์ใจ้ ๆ
ท่านปโรหิต จิ่งเข้าไพใกล้ ตามสาลาในเทษท้อง
๒๑๕ หันโพธิสัตว์บ่มีเพื่อนพ้อง นอนอยู่หั้นฅนเดียว
ส่วนพราหมณะ ผ่อผ้ายแลเหลียว ค็หันปาทารูปพระบาทเจ้า
เปนรูปกงจักก์ กระหวัดบ่เส้า หัตถามือองค์ค์พร้อม
๒๑๖ เปนลายกงจักก์วงเวียนแวดล้อม ใสสว่างเหลื้อมมีวัณณ์
ส่วนเสนาเค้า พราหมณ์เถ้าได้หัน เปนลายสำคัญกระสัตหน่อเหน้า
ค็รู้ว่าเปน โพธิสัตว์เจ้า บ่ใช่ฅนเบาถ่อยร้าย
๒๑๗ ค็เอาปุปผา มาลาดอกไม้ ยกยื่นให้นิมนต์
ขอองค์ท้าวไธ้ ไพอยู่เมืองตน เมือเปนมงคลพระญาเอกอ้าง
ปูรีเมือง ปโรใหย่กว้าง เปนแก่เสนาแต่งฅิด