สมัยหนึ่ง ขณะสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้แสดงธรรมอยู่ท่ามกลางบริษัททั้งหลายนั้น ได้มีนายโคบาลผู้หนึ่งเกิดความศรัทธาอย่างยิ่งที่จะฟังธรรม จึงค่อย ๆ ขึ้นไปยืนอยู่บนแผ่นไม้ โดยที่มิทันเห็นกบเพราะมัวแต่จ้องมองแต่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อเขาขึ้นไปเหยียบบนแผ่นไม้ มิรู้ว่าใต้แผ่นไม้นั้นมีกบตัวน้อย ๆ หลับตาฟังพระสัทธรรมเทศนาอยู่ แผ่นไม้จึงได้ทับลงบนร่างกบตัวน้อยที่น่าสงสารนั้นถึงแก่ความตายในที่นั้นเอง แล้วกบก็ได้เกิดเป็นเทวบุตรในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ แล้วลงมาเฝ้าพระพุทธเจ้าในทันที มาฟังคำให้การของกบน้อยดูว่าเป็นอย่างไร ? |
|
เทพบุตรอดีตกบตัวน้อย ได้กราบทูลสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ข้าพเจ้านี้มีนามว่ามัณฑุกเทพบุตร ชาติก่อนอาภัพกำเนิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นกบอาศัยอยู่ในห้วงน้ำนทีที่สระโบกขรณีใกล้กับวิหารแห่งนี้ ได้สดับพระสุรเสียงของพระองค์ทรงแสดงพระสัทธรรมเทศนาแล้วมีจิตผ่องแผ้วยินดี ถือเอานิมิตในพระสุรเสียงนั้น มีนายโคบาลมาแต่ไหนไม่ทราบได้ขึ้นไปยืนบนแผ่นไม้ และแผ่นไม้นี้ทับร่างกายของข้าพเจ้าบี้แบนไม่มีชิ้นดี ข้าพเจ้าทำกาลกิริยาตายไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์แล้วรีบมา ณ ที่นี้ ด้วยความปรารถนาจักมาถวายนมัสการแทบเบื้องยุคลบาทแห่งพระองค์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ และปรารถนาจักกราบทูลให้ทราบว่า |
|
อานุภาพแห่งรัศมีอันซ่านออกจากกายทิพย์ของข้าพระบาทก็ดี อิทธิฤทธิ์อันเป็นทิพย์ก็ดี บริวารยศอันเป็นทิพย์ก็ดี ซึ่งบังเกิดมีแต่ข้าพระบาททั้งหมดนี้ เนื่องมาแต่ว่าได้สดับตรับฟัง พระธรรมเทศนาของพระองค์ชั่วเวลาเพียงครู่เดียวเท่านั้น หากว่าสัตว์ทั้งหลายเหล่าใด ได้มีโอกาสสดับตรับฟังพระสัทธรรมเทศนา แห่งพระองค์สิ้นกาลนานแล้ว สัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น คงจักได้อานิสงส์พิเศษ ได้ทิพยสมบัติอันมากมาย ตลอดจนถึงได้บรรลุโลกุตตรสมบัติ คือ มรรคผลนิพพานอันประเสริฐ อย่างเที่ยงแท้โดยไม่ต้องสงสัย คงจะเป็นอย่างนั้นแน่นอน พระเจ้าข้า |
|
จากคำสารภาพของกบ จะเห็นว่าเขาเพียงสร้างกุศลกรรมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่เป็นการสร้างกุศลกรรมกับผู้ทรงคุณอันประเสริฐจึงได้รับอนิสงส์เพียงนี้ ขอท่านทั้งหลายจงอย่าประมาท รีบสร้างกุศลกันต่อไปเถิด แม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม |