Trip สั้น ๆ ราคาไม่แพง ราคา 12,888 บาท ใช้บริการ Thaiflytravel โดย let's go vietnam ไกด์ไทยชื่อคุณเอก ไกด์เวียดนาม น้องทราย(ชื่อเวียดนามจำไม่ได้) อัตราแลกเปลี่ยน 600 ด่องต่อ 1 บาท ตอนซื้อของ มึน ๆ กับค่าเงินมาก ไกด์ทั้งสองท่าน มีประสพการณ์และบริการดีมาก ๆ

วันแรก 19 ตค.60 นัดพบ ตี 5  บิน Air asia ที่สนามบินดอนเมือง ถึง สนามบินTAN SON NHAT นครโฮจิมินท์ ประมาณ 9 โมงกว่า

มาถึง เมืองโฮจิมินห์ซิตี้เดิมชื่อ ไซ่ง่อน เคยเป็นเมืองหลวงของเวียดนามใต้ เป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนามมีแม่น้าไซ่ง่อนไหลผ่านยาว 80 ก.ม. เป็นเมืองเศรษฐกิจ นั่งรถเดินทางไป ดาลัท มีระยะทางประมาณ300กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง 30นาที ระหว่างแวะชิมชา แต่ไหง มาชิมไอติมแทน รสชาติก็ไอครีมวอล บ้านเราแหละ

เดินเล่นตลาดไนท์เมืองดาลัท ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองของที่ระลึก และชิมอาหารพื้นเมือง

ราคาไม่แพง แต่ต้องต่อราคา พอสมควรเลย  ราคาสินค้าประมาณเมืองไทย

ิด

เดินไปซื้อขนมชิมไปเรื่อย ๆ รสชาติก็แปลก ๆ ดี

วันที่สอง 20 ตุลาคม2560

เมืองดาลัทเป็นเมืองโรแมนติกอากาศหนาวตลอดปี 18-25องศา ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น หุบเขาแห่งความรัก สัมผัสบรรยากาศที่แสนโรแมนติกโอบล้อมไปด้วยขุนเขา แมกไม้นานาพันธ์ และทะเลสาบ มีดอกไม้นานาพันธุ์ 

CRAZY HOUSE บ้านหน้าตาแปลกประหลาด หรือที่เรียกกันติดปากว่า "บ้านเพี้ยน" เป็นบ้านที่มีสถาปัตยกรรมแปลกๆ บ้านประหลาดหลังนี้เป็นของมาดาม Hang Nga ลูกสาวของอดีตรองประธานาธิบดีโฮจิมินห์ที่ยิ่งสร้างก็ยิ่งแปลกไปเรื่อยๆ

ห้องพักให้เช่าน่ารัก ๆ 

แต่ละชั้นมีห้องพักให้เช่า

พระราชวังฤดูร้อนของจักรพรรดิ ของจักรพรรดิเบ๋าได่ซึ่งเป็นจักรพรรดิองค์สุดท้ายของเวียดนาม ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นพระราชวังสุดท้าย ที่สร้างขึ้นในสมัยเลืองอานาจของฝรั่งเศสก่อนที่จะเกิดสงครามเวียดนาม จึงทำให้จักรพรรดิเบ๋าได่ต้องย้ายไปอยู่ที่ฝรั่งเศส และไม่กลับมาอีกเลย

รูปจักรพรรดิเบ๋าได่

ทำตัวเสมือนเป็นแขกมาเยือน พระราชวังฤดูร้อน เล็ก ๆ ดูเหมือน บ้านคนรวยมากว่า พระราชวัง

ด้านในมีจัดซุ้ม ใส่ชุดประจำชาติ  จ่ายค่าเช่าชุดและค่ารูป ไม่ให้ถ่ายรูปเองอันนี้แอบ ๆ ถ่าย นางแบบงามค่า

นั่งกระเช้าไฟฟ้า ชมวิวเมืองดาลัทจากที่สูงขึ้นไปชม วัดตั๊กลัม

ระหว่างทางจะไปวัดไกด์แวะให้ชิมกาแฟ และขนม เวียดนามขึ้นชื่อกาแฟอร่อย  ก็ซื้อกันไป กาแฟชะมด 3 in 1 จำนวน 20 ซอง 150,000 ดองประมาณ 250 บาท

วัดตั๊กลัมวัดพุทธในนิกายเซนแบบญี่ปุ่น ตั้งอยู่บนเทือกเขาเฟืองฮว่าง ภายในวัดมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม สะอาด เป็นระเบียบทัศนียภาพโดยรอบ ล้อมรอบไปด้วยดอกไม้ที่ผลิดอกบานสะพรั่ง นับได้ว่าเป็นวิหารที่นิยมและงดงามที่สุดในเมืองดาลัด

น้าตกDATANLA ซึ่งเป็นน้าตกที่ขนาดไม่ใหญ่มากแต่สวยงาม โดยนั่ง ROLLER COASTER ลงไปชมน้าตก

นั่ง ROLLER COASTER ลงไปชมน้าตก Dalanta ชอบมาก มีตากล้องขับรถตาม group tour ตลอด และขายรูป รูปนี้ใบละ 15,000 ดอง ประมาณ 25 บาท

รูปนี้ ขากลับหยิบไม้ selfie ขึ้นมาถ่ายเอง 

นั่ง ROLLER COASTER เพื่อดูสิ่งนี้ เมืองไทยน่าจะมีมั่งนะ สนุกดี น้ำตกก็งั้นๆ 

เบื้องหลังก่อนจะได้ภาพสวย ๆ ก็ต้องลงทุนนิดนึง

ถ้าไม่นั่ง roller coaster ก็สามารถนั่ง cable car ได้

วันที่สาม 21 ตุลาคม 2560

ทะเลทรายขาวกองภูเขาทรายสีขาวสุดขอบฟ้าเหมือนทะเลทรายอยู่ห่างจากตัวเมืองมุยเน 30 กม.ทะเลทรายขาวเป็นเนินทรายสีขาวที่มีแหล่งน้ำจืดหรือ โอเอซีส มีรถจี๊ปและ ATV ขับขึ้นมาเนินทะเลทราย ค่าเช่ารถจิ๊ป นั่งได้ 4-5คน ราคา 1,200 บาท ขับรถยังกับรถไฟเหาะ สนุก ๆ ชอบ ๆ ไม่จำกัดเวลา อยากอยู่ทะเลทรายนานเท่าไหร่ก็ได้ และขากลับไม่จำเป็นต้องคันเดิม(ถ้ารอนานจะไม่รอ แต่สามารถกลับ คันไหนก็ได้) แต่ไกด์บอกไม่เกิน 30 นาทีเพราะมันร้อนมาก

เพิ่งนั่งรถจิ๊ปมาถึง สดใสกันถ้วนหน้า

รถ ATV

นั่งรถ จี๊ป มาด้านล่าง มีโอเอซีส

ไม่เกิน 20 นาทีกลับละ ร้อนมาก ๆ

ทะเลทรายแดง ที่เกิดจากการรวมตัวของทรายสีแดงจากสนิมเหล็กจนเป็นบริเวณกว้างอยู่ริมทะเล ห่างจาก เมืองมุยเน่ 5 กม. มีแผ่นพลาสติกให้เช่า แล้ว สไลด์บนเนินทราย

กระโดด ซิคะ รออาราย

ท่าเรือมุยเน่บริเวณจุดชมวิวทุกท่านจะได้พบกับเรือกระด้งหรือเรือประมงของชาวเวียดนามที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะนับร้อยๆลาสุดลูกหูลูกตา

ซุ่ยเทียน(Fairy Stream) หรือ แกรนด์แคนยอนแห่งเวียดนาม เกิดจากการกัดเซาะของน่ำและลมเหมือนแพะเมืองผีของไทย และมีลำธารเล็ก ๆระดับน้ำประมาณตาตุ่มซึ่งพัดพาตะกอนทรายสีแดงไหลออกสู่ทะเล

ลงเรือ Bên NghéCruise ล่องเรือไปตามแม่น้าไซง่อนตลอดเส้นทางท่านจะได้อิ่มอร่อยไปกับบุฟเฟต์อาหารค่าสไตล์เวียดนามและเพลิดเพลินไปกับดนตรีสดแนวโฟล์กและการเต้นราพื้นเมืองที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมและมรดกที่เป็นเอกลักษณ์ของเวียดนาม

อาหารวางไว้อยู่แล้ว เย็นชืด  เลยไม่อร่อย

วันที่สี่ 21 ตุลาคม2560

โบสถ์นอร์ทเทอดามใช้เป็นหอสวดมนต์สาหรับชาวเวียดนามและชาวต่างประเทศที่เป็นคริสต์ศาสนิกชนทั้งนี้ มีทั้งผู้ที่มาท่องเที่ยวหรือได้เดินทางมาทางานในเวียดนามอีกด้วย โบสถ์ ฯ ได้ออกแบบมาจากประเทศฝรั่งเศสและเริ่มทาการก่อสร้างเมื่อวันที่ 7 เดือนตุลาคมพ.ศ. 2420 แล้วเสร็จเมื่อวันที่11 เดือนพ.ศ. 2423 เมษายนความยาวของโบสถ์ 133 เมตร กว้าง 35 เมตรและสูง 21 เมตร 

ไปรษณีย์กลางที่ยังคงความงดงามตามสถาปัตยกรรมดั้งเดิม

มีนักศึกษา มาถ่ายรูปวันรับปริญญากัน สนุกสนาน