|
|||
สวัสดี ยุโรปตะวันออก 9 วัน Karlovy Vary,Cesky Krumlov สวัสดี ยุโรปตะวันออก 9 วัน Karlovy Vary,Cesky Krumlov วันที่ 26 มีค.- 3 เมย. 54 วันที่เจ็ด เดินทาง 2 ชั่วโมงไปเมืองเมืองคาร์โลวี วารี (Karlovy Vary) หรือ เมืองคาร์ลบาต (Karsbad) ในภาษาเยอรมัน ตั้งอยู่บนสองฝั่งแม่น้ำเทปล้า( Tepla) เป็นเมืองน้ำแร่ ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโบฮีเมีย คาร์โลวี่ มาจากคำว่า Karl หรือภาษาอังกฤษว่า Charles ชื่อของกษัตริย์ผู้ปกครองเชค Vary วารี่ แปลว่าบ่อน้ำร้อน แปลรวมกันว่า "บ่อน้ำพุร้อนของคาเรล" ตามตำนานว่า พระเจ้าชาร์ลที่ 4 ออกมาล่าสัตว์แล้วเจ้าหมาล่าเนื้อของท่านตกลงไปในบ่อ ทำให้รู้ว่าที่นี่มีน้ำพุ 12 แห่ง พระองค์ทรงชื่นชมสถานที่แถบนี้ และน้ำพุร้อนคุณภาพเยี่ยมที่นี่มาก และได้ก่อตั้งเมืองนี้ขึ้นในปีค.ศ.1370 เมืองนี้จึงเป็นเมืองตากอากาศ และเมืองแห่งสปาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเชค วิวในเมือง มีแม่น้ำเทปล้าคั่นกลาง ตึก colonnade เป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุดในเมืองมีน้ำพุ 5 บ่อ คล่อมแม่น้ำเทปล้า(Tepla) มีบ่อน้ำพุที่พุ่งสูงที่สุดในเมืองคาร์โลวี วารี Korlovy v ary ความร้อน 73 องศา พุ่งสูง 12 เมตร ชิมน้ำแร่โดยใช้ถ้วยที่ทำจากพอร์ชเลน มีหลายราคา และของฝากอีกอย่าง คือ ที่ตะไบเล็บ น้ำแร่ที่นี่มีคุณสมบัติในการรักษาโรคต่างๆได้ นำมาใช้รักษาโรค มากกว่า 600 ปีแล้วที่นี่มีบ่อน้ำแร่ 12 แห่ง และอุณหภูมิต่างๆกันไปแต่ละบ่อมีคุณสมบัติการรักษาโรคไม่เหมือนกัน เช่น โรคเกี่ยวกับระบบการย่อยอาหาร อาการอ่อนแรง โรคเบาหวาน โรคเกี่ยวกับระบบการไหลเวียนโลหิต รสชาติน้ำแร่เกินบรรยายจริง ๆ ตอนแรกตั้งใจว่าจะชิมทุกบ่อ แต่พอลิ้มรสแล้ว แค่นี้ก็เกินพอแล้ว รสชาติเค็ม ๆ เหมือนกลิ่นสนิม บางบ่อมีรสชาติขม(เค้าบอกมา) อาหารกลางวัน วันนี้เป็นอาหารพื้นเมือง อย่างหรู จานแรก ตับห่าน จานหลัก เป็ดโบฮีเมีย ของหวาน ไอศกรีม อย่างตับห่านได้เห็นวิธีการเลี้ยงห่านเพื่อจะนำมาทำตับห่านจาก E-Mail เลยกินไม่ค่อยลง เดินทางต่อไปเมืองมรดกโลก World Heritage เพชรน้ำงามแห่งโบฮีเมียที่เมือง เชสกี้ ครุมลอฟ(Cesky Krumlov) ใช้เวลา 3 ชั่วโมง มาถึงก็บ่าย แก่ ๆ แล้ว คืนนี้พวกเราพักที่ Cesky Krumlov โรงแรม The Old Inn เนื่องจากรถใหญ่เข้าไม่ได้ ต้องเดินเข้ามาเอง ปราสาทแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ส่วนแรก บ่อหมี หอคอยและลานตึกด้านนอก ส่วนที่2 ตึกชั้นในซึ่งเป็นห้องพักสมัยก่อน ส่วนที่ 3 โรงละครโบราณและลานชมวิว ส่วนที่ 4 สวนซึงประดับด้วยรูปปั้นน้ำพุและดอกไม้ ที่่บ่อหมี เห็นเจ้าหมีตัวนี้ตัวเดียวอ่ะ เทคนิคการเขียนภาพแบบเฟรสโก หรือภาพปูนเปียก วิธีการทาสีให้เสมือนว่าเป็นอิฐ เมืองนี้ตั้งอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำวัลตาวา ความโดดเด่นของเมืองที่มีอาคารเก่าตั้งแต่ยุคกลางกว่า 300 หลัง จากศิลปของอาคารเก่าแก่ สร้างต่างยุคต่างสมัย ผสมผสานศิลป 3 ยุคสามสมัย คือ กอธิค เรเนซอง และบาร็อค มองจากมุมสูงจะเป็นหลังคาสีน้ำตาลแดงเหมือนกันหมด สวยงามมาก เดินเที่ยวชมเมือง จะมีร้านตกแต่งน่ารัก ๆ เยอะ แต่ถนนที่นี่จะเป็นหินก้อน ใหญ่ ๆ พอเดินนาน ๆ จะปวดเท้ามาก เลยต้องยุติการเดินชมเมือง ไปร้านอาหารที่ไกด์นัดดีกว่า หิวอ่ะ คนขับรถใจดีชาวเยอรมัน ขากลับที่ แอร์พอร์ต-มิวนิค หยอดเหรียญเพื่อจะนำรถเข็ญมาใส่กระเป๋าเดินทาง โดนกินเหรียญไป 3 ยูโร แถมไม่ได้รถเข็ญอีก คนขับท่านนี้อุตสาห์วิ่งไปหารถเข็นมาให้พวกเราอ่ะ(ฟรี) น่ารักจริง ๆ ตอนดึก ๆ จะมีการสำรวจปราสาทกัน เดินผ่านมาเห็นคนแต่งชุดโบราณ พากลุ่มหนุ่มสาวเกือบยี่สิบคน แล้วเล่าเรื่องน่ากลัวของปราสาทให้ฟัง เพื่อพิชิตความกล้า พวกเราก็เลยเดินสำรวจปราสาท มุ่งไปจุดชมวิวเมื่อตอนเย็นอีกครั้ง เพื่อสำรวจความน่ากลัวเหมือนกัน ตามมา เดินมาก็ไม่ค่อยเห็นมีคนเดินตามมา เงียบ และอากาศก็หนาวมาก เปิดไฟสลัว สลัว พอถึงจุดชมวิวเพื่อมองหลังคาอีกรอบ ก็มืด ๆ เลยกลับไปนอนดีกว่า The old inn พวกเราพักกันที่นี่ ห้องเล็ก แต่ก็จัดโรงแรมได้น่ารัก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ตื่นแต่เช้า เพื่อมาดูบรรยากาศอีกรอบก่อนจากลา แม่น้ำวัตลาวา เป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดของประเทศเชค ตอนเช้าก็เดินออกจากเมืองไปนั่งรถบัสที่จอดรออยู่ด้านนอก ระหว่างทางมีร้านน่ารัก ๆ เยอะ ขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่ต้องกลับบ้านก่อน The star เอ้ยไม่ช่าย พอดีนำกระเป๋าลงมาช้า รถกระบะที่ขนกระเป๋าออกไปก่อน(ตรงเวลามาก 8 โมงเช้า) เลยต้องลากมาเอง วันที่แปด เดินทาง 3 ชั่วโมง ไปมิวนิค ประเทศเยอร์มัน เป็นเมืองหลวงของแคว้นบาวาเรีย ใหญ่เป็นอันดับสามของเยอรมัน สนามฟุตบอลอลิอัน อารีน่า(Allianz arena) สร้างขึ้นเพื่อรองรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 เป็นสนามฟุตบอลของสองทีมใหญ่ คือ บาเยนมิวนิค(FC Bayern muchen) และ 1860 มิวนิค(TVS 1860 muchen) ตอนกลางคืนถ้ามีการแช่งขันจะเปิดไฟสนามกีฬาด้านนอกจะเปลี่ยนสีได้ shopping ในย่านมาเรียนพลาตซ์ ( Marienplatz )ในมิวนิค มีสินค้าแบรนด์เนม ราคาถูกที่สุดในโซนนี้ Refund tax 19% เคลมที่สนามบิน Marienplatz (Mary's Square) ตั้งชื่อตามรูปปั้นพระแม่มารีสีทองที่อยู่บนเสา สูงที่ตั้งตระหง่านกลางจัตุรัสมาตั้งแต่ปี 1638 เพื่อเป็นการขอบคุณเซนต์แมรี่ นักบุญแห่งแคว้นบาวาเรียที่ช่วยให้มิวนิคหลุดพ้นจากการครอบครองของกองทัพสวีเดน เป็นศูนย์กลางของเขตเมืองเก่า เป็นแหล่งนัดพบและสังสรรค์กัน ตลาดสด มีของสด เช่น เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ มากมาย เสาร์ไม้ที่ฉลองวันแรงงานแห่งชาติ อยู่กลางตลาดสด ร้านขายเนื้อสัตว์ เห็นแต่ละชิ้น ใหญ่มาก ลานเบียร์ Shopping สินค้าแบรนด์เนม กันที่นี่ อำลากรุงมิวนิค กลับกรุงเทพกัน ใช่ค่ะไปบัสอีกคันนึง มีบางช่วงยังหลงกลุ่มต้องขอความช่วยเหลือจากคุณนิ้งค่ะ
แต่ตอนนี้บล็อคเปิ้ลเพิ่งจะถึง st.wolfgang เองค่ะ โดย: apple.007 วันที่: 17 เมษายน 2554 เวลา:23:21:54 น.
ซาหรุปว่า...... ข้าพเจ้าขอใช้ข้อมูล บล็อกนี้เป็นเอกสารอ้างอิงว่าได้ไปเที่ยวที่ใดมาบ้าง 555+
เพราะไปเที่ยวนี้คงแก่ลงจิงๆ จดจำอะไรไม่ค่อยจะได้ ว่าไปเที่ยวที่ใด และวันไหนไปเที่ยวที่ไหนบ้าง เอิ๊กๆๆ ก็หน้าตาตึก และวิวทิวทัศน์ดูๆไปก็ละม้ายคล้ายกันไปทุกประเทศ ไว้ขยันๆ จะพยายามเขียนบล็อก เก็บเล็กผสมน้อย ที่ไปเที่ยว ยุโรปตะวันออกนี้บ้าง แต่ตอนนี้ยังไม่ว่างเลย ( จิงๆยังเหนื่อยอยู่อะ 555+ ) โดย: NiNa (NinaRita ) วันที่: 19 เมษายน 2554 เวลา:0:39:57 น.
ตามสบายเลยจ้า แต่ ผิด ตก ยกเว้น นะ บางทีเขียนไปแบบมึน มึน 555+
โดย: tata (Meanangtatalim ) วันที่: 19 เมษายน 2554 เวลา:17:44:32 น.
|
Meanangtatalim
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] บันทึกการเดินทางจาก ตะลอนทัวร์ไปเรื่อย Group Blog All Blog
Friends Blog Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
ดูภาพสวยๆ เพลินจริงๆ ชอบมาก ดูอากาศหนาวนิดๆ นะคะ