• 1. บันทึกความทรงจำ
• ....มุมรีวิวนิยายแปล
• ....มุมรีวิวนิยายไทย
• ....มุมเที่ยวไปตามฝัน
• ......Jordan
• ......Russia
• ....มุมตามใจตัวเอง (รหัส)
• 2. บันทึกงานเขียน
• .....ดั่งพรหมเพรียกหา
• 3. ห้องฟังเพลง
• .....มุมมิวสิควีดีโอ - Playlist
• 4. สวนข้างบ้าน
• 7. ห้องอเนกประสงค์ (รหัส)
• 8. ห้องเก็บของ (รหัส)
• ....ห้องเก็บของ No 2 (รหัส)
• 9. ห้องนิรภัย (รหัส)

จอมคนเจ้าหัวใจ (Only His) เรื่อง : จอมคนเจ้าหัวใจ (Only His) ผู้เขียน : Elizabeth Lowell ผู้แปล : อรสรวง ความสนุก : 4 ดาวครึ่ง วิลโลว์ มอแรนได้รับจดหมายจากแมทธิว มอแรน พี่ชายคนเล็กที่ส่งไปหาพี่ชายคนอื่นอีก 4 คน ขอให้ใครก็ได้ไปช่วยเขาขุดทอง แต่เมื่อจดหมายไปถึง บรรดาพี่น้องมอแรนที่เป็นชายต่างก็แยกย้ายไปอยู่ที่อื่นกันหมด ตั้งแต่ก่อนสงครามกลางเมืองฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้ เหลือวิลโลว์อยู่กับพ่อและแม่ในไร่ที่เวสต์เวอร์จิเนีย ระหว่างสงครามพ่อถูกฆ่าตายแม่ที่ไม่ค่อยแข็งแรงก็เสียชีวิตไปก่อนสงครามสิ้นสุด หลังสงครามบ้านไร่แทบไม่เหลืออะไร เมื่อได้รับจดหมายที่ว่า วิลโลว์ตัดสินใจขายแทบทุกอย่างที่มีเป็นค่าเดินทางพร้อมม้า 5 ตัวไปหาพี่ชายทันที แม้เขาจะบอกมาในจดหมายว่าอย่าให้เธอรู้เพราะกลัวว่าเธอจะตามพี่ชายคนอื่นไป คาเลบ แบล็คได้รับการติดต่อให้เป็นผู้นำทางวิลโลว์ไปตามหาพี่ชายด้วยค่าจ้าง 50 เหรียญ เขายินดีรับงานนี้เพราะต้องการตามหาตัวจอมพเนจรรีโน เพื่อแก้แค้นที่มาหลอกลวงน้องสาวจนท้องแล้วทิ้งไป เขาไปตามล่าหาตัวเพื่อให้มารับผิดชอบ แต่ไม่เจอเมื่อกลับไปหาน้องสาวอีกครั้งกลับพบว่าเธอเสียชีวิตจากการคลอดลูก และไม่นานเด็กก็เสียชีวิตตามไป คาเล็บจึงรับงานนี้เพื่อใช้วิลโลว์นำทางไปหาคนที่เขาตามล่ามานาน วิลโลว์รู้ว่าการที่สาวโสดเดินทางมายังดินแดนที่ป่าเถื่อน ไม่เจริญเป็นอันตรายกว่าหญิงที่แต่งงานแล้ว แม้สามีจะไม่ได้มาด้วยก็ยังมีสิ่งคุ้มครองตามที่จดหมายของพี่ชายบอกเล่าไว้ ทำให้เธอตัดสินใจโกหกคาเลบว่าแมทธิวเป็นสามี การพบกันครั้งแรกทำให้คาเลบเข้าใจว่าวิลโลว์เป็นสาวสวยชาวใต้ผิวบาง ที่สำรวยรักสบาย หยิบโหย่ง ส่วนวิลโลว์ก็เห็นว่าแม้ท่าทีของคาเลบสง่างามแต่ดูเป็นคนดุดันเหี้ยมโหด แม้จะไม่ลงรอยกันจากการพบปะพูดจาครั้งแรก แต่ระหว่างเดินทางไปด้วยกันทำให้เขารู้ว่าเขาดูเธอผิดไป แม้แต่ม้า 5 ตัวที่วิลโลว์ยืนยันให้เอาไปด้วยนั้นก็ทำให้เขาทึ่งถึงความอดทน ไม่ยอมแพ้เหมือนเจ้านายสาวของพวกมัน ทั้งคู่ต้องเจอโจรขโมยม้าที่สะกดรอยตาม นักล่าที่หวังได้ค่าหัวของคาเลบ การเดินทางที่ยากลำบากเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับอันตรายนานัปการโดยตรงด้วยการปีนเขาสูงที่เป็นเส้นทางที่ไม่มีคนใช้ ทำให้คาเลบได้พิสูจน์ความเข้มแข็ง อดทน ที่ผิดจากรูปลักษณ์ภายนอก และจิตใจที่กล้าหาญเด็ดเดี่ยวเมื่อเธอขี่ม้ากลับไปรับเขายามที่ม้าของเขาถูกยิงระหว่างการต่อสู้ทำให้เขาตั้งมั่นว่าจะทำให้เธอเปลี่ยนมารักเขาให้ได้ เพื่อว่าเมื่อไหร่ที่เขาฆ่าสามีที่ทิ้งเธอไปเธอจะได้ไม่เสียใจมากนัก วิลโลว์เองก็พบว่าแม้คาเลบจะแข็งกระด้าง แต่เขาก็เป็นผู้ชายที่อบอุ่นกับผู้ที่อ่อนแอ อ่อนโยนกับม้า เมื่อทั้งคู่จำต้องทิ้งม้าไว้เบื้องหลังเพราะพวกมันไม่สามารถตามทันได้ แต่เมื่อไปถึงที่ปลอดภัย ทั้งที่ตัวเองแทบไม่ได้นอน คาเลบก็ย้อนกลับไปตามม้าเหล่านั้น หลังจากผ่านเหตุการณ์มากมายมาด้วยกันวิลโลว์รู้ใจตัวเองว่าเธอรักและปรารถนาคาเลบ แม้คาเลบไม่อยากทำร้ายจิตใจวิลโลว์ในภายหลังยามเธอรู้ความจริง แต่เขาก็ไม่อาจปฎิเสธความต้องการเธอเช่นกัน ทั้งสองอยู่ด้วยกันระหว่างที่รอให้ม้าที่โดนกระสุนเฉี่ยวจนหกล้มหายดี เมื่อเดินทางต่ออีกครั้งเพื่อไปตามแผนที่ที่แมทธิวส่งให้ ระหว่างทางทั้งสองเจอแมทธิวที่มาดักรอเห็นฉากรักเข้าพอดี ทำให้แมทธิวบังคับให้คาเลบแต่งงานกับน้องสาวตัวเอง ทั้งคู่ต่างมีปัญหาต้องสะสางแต่ระหว่างนั้นก็ต้องหลบหลีกทั้งโจรและคนที่ตามล่า ทำให้ทั้งคู่ยอมสงบศึกชั่วคราว คืนนั้นเมื่อวิลโลว์หลับ คาเลบไปคุยกับรีโนตามนัด และเมื่อแมทธิวรู้ว่าคาเลบตามล่ารีโนเพื่อน้องสาวก็เข้าใจเรื่องราวได้ทันทีว่าเป็นการตามล่าผิดตัว เพราะรีเบคคาน้องสาวคาเลบรักกับชายหนุ่มรุ่นน้องที่เคยร่วมงานกับเขา แต่โดนฆ่าตายไปแล้ว รีเบคคากลัวพี่ชายจะทำร้ายคนรักจึงโกหกว่าเป็นรีโนแทน คาเลบโล่งใจที่เรื่องลงเอยด้วยดี ที่เขาไม่ต้องลงมือตัดสินกับรีโน แต่วิลโลว์ที่ตื่นขึ้นและมาแอบฟังรู้สึกว่าตัวเองถูกใช้เป็นคนนำทางมาฆ่าพี่ชาย เพราะคาเลบต้องการแก้แค้นเท่านั้น เมื่อทั้งคู่รู้ว่าวิลโลว์แอบฟังก็เรียกให้ออกมาและบอกว่าให้แต่งงานกับคาเลบโดยเร็วที่สุด วิลโลว์จำใจยอมรับแต่คืนนั้นกลับแอบหนีไป และถูกพวกที่ตามล่าจับตัวได้ เมื่อ 2 หนุ่มตื่นขึ้นแล้วรีบตามไประหว่างทางเจอวูลฟ์ โลนทรี เพื่อนของคาเลบและรีโนมาส่งข่าว ทั้งสามร่วมมือกันช่วยวิลโลว์ออกมาได้ ระหว่างต่อสู้วิลโลว์โดนยิงที่หัว ส่วนพวกตามล่าก็โดนฆ่าตาย เมื่อวิลโลว์ได้สติทั้งคู่ปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด บันทึกแนบท้าย เรื่องนี้เป็นนิยายแปลเรื่องแรกในรอบปีกว่าๆที่อ่านแล้วไม่รู้สึกน่าเบื่อ แม้จะไม่ถึงกับสนุกมากจนวางไม่ลง แต่ก็ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม เป็นการเดินเรื่องผ่านการเดินทางที่ยากลำบากของพระเอกนางเอก ทำให้เห็นการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ได้ดี ชอบทั้งพระเอก – นางเอก ไม่มีใครเด่นกว่าใคร บทดีเท่ากันทั้งคู่ เรื่องนี้ให้คะแนนความสนุก 4 ดาวครึ่ง   Create Date : 12 เมษายน 2557     Last Update : 12 เมษายน 2557 21:50:36 น. Counter : 1300 Pageviews.   11 comment Share Tweet

สื่อสังหาร (Dying To Please) เรื่อง : สื่อสังหาร (DYING TO PLEASE) ผู้เขียน : ลินดา โฮเวิร์ด ผู้แปล : พิชญา ความสนุก : 3 ดาวครึ่ง ซาร่าห์ สตีเว่นส์ ทำงานเป็นบัตเลอร์ (Butler) ให้อดีตผู้พิพากษาชราคนหนึ่ง โดยมีอีกหน้าที่ที่ไม่เปิดเผยคือเป็นบอดีการ์ดด้วย เนื่องจากผู้พิพากษาเคยโดนขู่ฆ่า สมัยยังทำงานอยู่ แม้จะเกษียณมาแล้วแต่ลูกๆ ยังไม่วางใจ จึงว่าจ้างซาร่าห์ให้มาดูแลพ่อ สามปีที่ผ่านมา ซาร่าห์สามารถจัดการงานในหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและราบรื่น แต่ในคืนหนึ่งที่เธอสามารถขัดขวางการพยายามโจรกรรมของโจร 2 คนด้วยมือเปล่า ทำให้เธอมีชื่อเสียงและได้ออกโทรทัศน์ การเปิดเผยตัวเธอครั้งนี้ไปสะดุดความสนใจชายคนหนึ่ง ทำให้เขาปราถนาจะได้เธอมาเป็นบัตเลอร์ของเขา เขาเสนองานพร้อมเงินเดือนที่สูงกว่า แต่ซาร่าห์โทรศัพท์ตอบปฎิเสธ ทำให้เขารู้ว่าเธอมีความจงรักภักดีซึ่งนั่นยิ่งทำให้เขาต้องการได้ตัวเธอมากขึ้น เขาส่งจี้ทับทิมล้อมเพชรไปให้ โดยไม่ใส่ชื่อผู้รับ ทำให้ซาร่าห์ต้องโทรไปปรึกษานักสืบคาฮิลล์ ซึ่งเธอรู้จักเมื่อครั้งเกิดคดีโจรกรรมที่บ้านของผู้พิพากษา แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีวี่แววอะไร ทำให้ซาร่าห์ใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อให้คนลึกลับปรากฏตัว แต่นั่นเป็นการเปิดโอกาสให้เขาเข้าไปสังหารนายจ้างของเธอ ซาร่าห์สงสัยว่าฆาตกรจะเป็นชายผู้ชื่นชมเธอ แต่ไม่มีหลักฐาน และตำรวจก็สงสัยเธอเพราะเธอได้รับมรดกจากอดีตนายจ้างด้วย แต่ที่สุดเธอก็พ้นข้อสงสัย ระหว่างคดีซาร่าห์และนักสืบคาฮิลล์พัฒนาความสัมพันธ์จนเป็นคู่รักกัน ซาร่าห์ใช้เวลาในวันหยุดที่บ้านของคาฮิลล์ระหว่างที่รองานใหม่ ภายในเวลาไม่นานซาร่าห์ก็ได้งานใหม่ ทำให้ฆาตกรลงมืออีกครั้ง ครั้งนี้ซาร่าห์ตกเป็นผู้ต้องสงสัย แม้แต่คาฮิลล์ก็สงสัยเธอ และเพราะซาร่าห์ตกเป็นผู้ต้องสงสัย ฆาตกรเลยต้องลงมือ ระหว่างที่เธอถูกควบคุมตัวเพื่อช่วยเธอ ซึ่งเป็นเหตุให้เธอรอดพ้นจากการเป็นผู้ต้องสงสัย และนั่นทำให้ซาร่าห์ตกลงรับปากกับคนที่เสนองานใหม่ให้ทันที เมื่อเห็นว่าเขาเชื่อมั่นในตัวเธอ ทั้งที่ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่กล้าจ้างเธอ เพราะเธอเหมือนตัวนำภัยมาให้นายจ้าง เธอย้ายเข้าไปอยู่บ้านนั้นและพบว่าชายคนนี้เองคือผู้ที่ส่งจี้ทับทิมให้เธอ และเป็นฆาตกรโรคจิตที่ฆ่านายจ้างทั้ง 2 รายของเธอ คาฮิลล์รู้ว่าตัวเองทำพลาดที่ไม่เชื่อใจซาร่าห์ เขาพยายามทุกทางเพื่อให้เธอหายโกรธ และเมื่อรู้ว่าเธอได้งานใหม่เขาก็ตรวจสอบนายจ้างของเธอ ขณะเดียวกันก็พยายามตามเบาะแสฆาตกรที่ฆ่าอดีตนายจ้างของเธอ เมื่อเขาเจอว่าที่แท้นายจ้างคนล่าสุดของเธอนี่เองคือ ฆาตกรที่เขาตามหาอยู่และเธอก็อยู่ในเงื้อมมือของมันคาฮิลล์บุกเข้าไปในบ้านของฆาตกรเพื่อช่วยเธอ และทั้งคู่ก็รอดมาได้ บันทึกแนบท้าย เรื่องนี้จุดเด่นอยู่ที่อาชีพนางเอก ซึ่งเป็นต้นเหตุให้เกิดการฆาตกรรม ฆาตกรเป็นคนโรคจิตที่เคยฆ่าพ่อของตัวเองมาแล้ว และเป็นคนที่มีอาชีพน่าเชื่อถือ เป็นคนรู้จักของเหยื่อทำให้ไม่มีใครรู้ตัวเมื่อถูกฆ่า เบาะแสเดียวที่ตำรวจมีคือภาพจากกล้องวงจรปิดที่ศูนย์การค้า และเป็นภาพไม่ชัด กว่าจะเจอคนที่จำลักษณะของคนร้ายได้ นางเอกก็เข้าไปอยู่ในบ้านของฆาตกรแล้ว โดยรวมก็อ่านได้เพลินๆ นางเอกสนใจพระเอกตั้งแต่เจอกันครั้งแรก ส่วนพระเอกก็มีปมที่ภรรยาสวมเขาให้กว่าจะหย่าร้างได้ทำให้เข็ดการแต่งงานไปเลย แต่เมื่อรู้ตัวว่ารักนางเอก ก็ยอมแต่งงานอีกครั้ง เรื่องนี้ให้คะแนนความสนุก 3 ดาวครึ่ง   Create Date : 06 มกราคม 2556     Last Update : 6 มกราคม 2556 0:39:23 น. Counter : 1037 Pageviews.   2 comment Share Tweet

สวรรค์รอรัก (Paradise) เรื่อง : สวรรค์รอรัก (Paradise) ผู้เขียน : Judith Mc Naught ผู้แปล : บารส ความสนุก : 4 ดาว ตอนอายุ 18 เมอร์ดิธ แบนครอฟ มีความสัมพันธ์คืนเดียวกับแมทธิว ฟาเรล ทำให้เธอตั้งครรภ์ เมื่อแมทรู้ก็รับผิดชอบจัดการให้ทั้งคู่แต่งงานจดทะเบียนกัน ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนคืนนั้น ทั้งสองดูเหมือนจะเข้ากันได้ดี แต่พ่อของเมอร์ดิธไม่คิดแบบนั้น เขามั่นใจว่าแมทต้องการตกถังข้าวสาร เพราะตอนนั้นแมทเป็นแค่คนงานโรงงานถลุงเหล็ก ถึงจะเรียนสูงจนจบปริญญาโทก็ตาม ส่วนเมอร์ดิธเป็นทายาทสาวของเจ้าของห้างสรรพสินค้าแบนครอฟ พ่อของเธอจึงทำทุกวิถีทางที่จะกำจัดแมทออกไปจากชีวิตของลูกสาว และเขาทำสำเร็จเมื่อเมอร์ดิธแท้งลูก สิบเอ็ดปีต่อมาแมทสามารถสร้างฐานะจนกลายเป็นนักธุรกิจชั้นแนวหน้า และร่ำรวยมากกว่าพ่อของเมอร์ดิธดังที่ตั้งใจ เขาเทคโอเวอร์บริษัทในชิคาโกและมาเข้าสังคมชั้นสูงของชิคาโก อีกครั้งที่พ่อของเมอร์ดิธไม่ยอมปล่อยให้แมทมาใกล้ลูกสาวเขาใช้อิทธิพลในการแวดวงการเมืองเพื่อขวางทางของแมท ทำให้แมทตัดสินใจจะเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นของห้างสรรพสินค้าแบนครอฟด้วยการแอบซื้อหุ้นผ่านตลาดหุ้น ในขณะที่พาร์คเกอร์ เรโนลด์ คู่หมั้นของเมอร์ดิธ พบความไม่ชอบมาพากลในใบหย่าระหว่างแมทกับเมอร์ดิธ เมอร์ดิธเพิ่งรู้ว่าระหว่างเธอกับแมทไม่ได้หย่ากันดังที่เข้าใจมาตลอดสิบเอ็ดปี เพราะทนายความที่พ่อเธอว่าจ้างให้ดำเนินเรื่องหย่าให้เป็นทนายความปลอม เมอร์ดิธแจ้งให้แมทรู้เพื่อทำให้ถูกต้อง ทั้งสองต่างเจ็บปวดจากเรื่องในอดีตที่ต่างเข้าใจว่าถูกอีกฝ่ายกระทำ แต่สุดท้ายเมื่อความจริงกระจ่างว่าเรื่องทั้งหมดเป็นฝีมือพ่อของเธอ เมอร์ดิธอธิบายให้แมทรู้ความจริง ทำให้แมทตัดสินใจทำทุกวิถีทางที่จะไม่ยอมให้มีการหย่าเกิดขึ้นจริง และเมื่อผ่านการพิสูจน์ว่าทั้งคู่รักกันจริง ในที่สุดพ่อของเมอร์ดิธก็ยอมวางมือ บันทึกแนบท้าย เรื่องนี้ยาวถึงเก้าร้อยกว่าหน้าเพราะดำเนินเรื่องปูพื้นตั้งแต่เมอร์ดิธเป็นสาวน้อยอายุ 14 จนถึงเป็นสาวเต็มตัวในวัยใกล้ 30 เรื่องความเข้าใจผิดทั้งหลายก็เกิดจากพ่อจอมหวงของเมอร์ดิธเป็นหลัก ที่หวงทุกอย่างที่เป็นของตัว จนทำให้แต่ละคนที่เป็นของรักของหวงไม่มีความสุขและทนอยู่ด้วยไม่ได้ ตั้งแต่แม่จนถึงลูก กว่าจะรู้ก็กระทั่งตอนไปล่องเรือสำราญแล้วแวะไปหาอดีตภรรยา แล้วเธอวิเคราะห์จิตให้ฟัง ว่าตัวเองเป็นคนยังไง ถ้าไม่ได้คุยจะรู้ตัวมั่งไหมนี่ ว่าทำร้ายทั้งตัวเองและลูกเมียตั้งแต่หาว่าเมียมีชู้ จนบีบให้เธอต้องทิ้งลูกไป ไม่พอมาถึงลูกก็ทำให้ลูกต้องเจ็บปวดวางแผนแยกชีวิตสมรสของลูกเพราะความเห็นแก่ตัวของพ่อทั้งนั้น โดยรวมก็อ่านได้เพลินๆ พระเอกรักนางเอกตั้งแต่เจอกันครั้งแรก และทำทุกอย่างเพื่อนางเอก คิดแทนนางเอก ยิ่งตอนที่รู้ว่าตัวเองเข้าใจนางเอกผิดเพราะพ่อตาตัวแสบ แม้จะยากให้อภัยพ่อตา แต่ก็จำทนเพราะเห็นแก่นางเอก เรื่องนี้ให้คะแนนความสนุก 4 ดาว   Create Date : 21 พฤศจิกายน 2554     Last Update : 21 พฤศจิกายน 2554 12:48:22 น. Counter : 1172 Pageviews.   10 comment Share Tweet

อัศวินแห่งกาลเวลา (Son of the Morning) เรื่อง : อัศวินแห่งกาลเวลา (Son of the Morning) ผู้เขียน : Linda Howard ผู้แปล : จิตอุษา ความสนุก : 3 ดาวครึ่ง ธันวาคม ปี 1307 ฝรั่งเศส ไนออลโอรสนอกกฎหมายของกษัตริย์แห่งสกอตแลนด์ ได้รับเลือกจากผู้ตั้งกฎของอัศวินเทมปลาร์ให้เป็นผู้พิทักษ์ทรัพย์สมบัติของพระเจ้าคนต่อไป เพราะกลุ่มอัศวินเทมปลาร์ถูกกษัตริย์แห่งฝรั่งเศสต้องการเบี้ยวหนี้ พระเจ้าฟิลิปที่สี่จึงกล่าวหาว่ากลุ่มอัศวินเทมปลาร์เป็นพวกนอกรีต ทรงสั่งประหารและยึดทรัพย์ทั้งหมด (อัศวินเทมปลาร์ - กลุ่มอัศวินคริสเตียนในสงครามครูเสดที่มีชือเสียงโด่งดังที่สุด) ทรัพย์สมบัติล้ำค่าที่ไนออลต้องพิทักษ์ไม่ใช่แค่ทองคำหรือ ถ้วย ผ้าห่อศพ บัลลังก์ ธง แต่เป็นพลังอำนาจที่เหลือเชื่อ ธันวาคม ปี 1309 ครีกดู สกอตแลนด์ ไนออลมาปักหลังที่ครีกดูป้อมปราการกลางป่าที่เปลี่ยวร้างห่างไกลผู้คนในไฮแลนด์ ด้วยการรู้เห็นเป็นใจของโรเบิร์ต เดอะบรู๊ซ พี่ชายต่างบิดา เขาสร้างครีกดูจนเป็นป้อมปราการที่แข็งแกร่ง เป็นที่พึ่งพิงของชาวบ้านที่มาอาศัยและสร้างกองกำลังที่เข้มแข็งเพื่อปกป้องปราการจนชาวบ้านเรียกเขาว่าแบล๊กไนออล เมษายน ปี 1996 อเมริกา เกรซ เซนต์จอห์น นักแปลภาษาโบราณรอดจากการฆาตกรรมโดยบังเอิญ เพราะแวะไปหาเด็กหนุ่มข้างบ้านแต่เธอก็เห็นฉากฆาตกรรมสามีและพี่ชายกับตา เธอรู้ว่าตัวเองคือเป้าหมายที่แท้จริง และต้องเอาชีวิตรอดให้ได้เพื่อไม่ให้ทั้งสองคนตายเปล่า แล้วยังต้องเปิดโปงฆาตกรให้ได้ เพื่อแก้แค้นให้กับคนที่เธอรัก เกรซรอดไปได้อย่างบังเอิญหลายครั้งและเรียนรู้การมีชีวิตแบบคนข้างถนนเพื่อจะได้ปลอดภัยจากการตามล่าของเจ้าของมูลนิธิที่เธอทำงานด้วย เธอต้องไขปริศนาสาเหตุฆาตกรรมให้ได้ และขณะเดียวกันต้องมีชีวิตอยู่รอดต่อไป เกรซรู้ว่าความลับทั้งหมดอยู่ที่เอกสารที่เธอรับหน้าที่แปล ตลอดเวลา 8 เดือนที่เธอต้องหนีการไล่ล่า เธอเข้าใกล้ความลับในเอาสารนั้น และเมื่อไหร่ที่เธอหลับเธอจะฝันเห็นแบล๊กไนออล และหลงใหลเรื่องราวของเขา เธอรู้จักเขาราวกับเขามีตัวตนจริงๆ และไนออลเองก็รู้สึกว่ามีคนแอบมอง แถมถ้ำมองเรื่องบนเตียงของเขาอีกต่างหาก เขาอยากเห็นหน้าของผู้หญิงทีเฝ้ามองเขา เขารู้สึกได้แต่ไม่เห็น ทั้ง 2 ฝ่ายต่างรู้สึกถึงตัวตนของกันและกันจากต่างห้วงเวลาและเลยเถิดไปถึงมีอะไรกันในความฝันอีกต่างหาก ครั้งล่าสุดที่เกรซเกือบโดนจับตัวได้ เธอทำข้อความที่แปลไว้หล่นหาย ระหว่างการต่อสู้ ทำให้เธอตัดสินใจรับผิดชอบด้วยการเดินทางข้ามเวลาตามสูตรที่ไนออลเขียนไว้ในเอกสารฉบับนั้น เพื่อค้นหาสมบัติที่ผู้พิทักษ์ดูแลเพื่อมาใช้กำจัดคนชั่วอย่างพาร์ริช เกรซเดินทางข้ามเวลาได้สำเร็จ และไปเจอไนออล ชายในฝัน และทั้งคู่ก็ร่วมมือกันกำจัดรากฐานของความชั่วร้ายได้ในที่สุด แต่ไนออลก็ต้องกลับไปสู่กาลเวลาของตัวเองเพราะหน้าที่ผู้พิทักษ์ เกรซละทิ้งชีวิตปัจจุบันที่ไม่เหลือใคร ตามไปในกาลเวลาของไนออล บันทึกแนบท้าย ครั้งแรกที่อ่านเรื่องนี้ไปไม่กี่หน้าหลังจากซื้อมาเมื่องานสัปดาห์หนังสือตอนต้นปีก็วางเพราะผิดหวังนิดๆที่นางเอกของเรื่องแต่งงานมีสามีแล้ว แม้จะโผล่แค่บทเดียวก่อนโดนฆ่า รู้สึกว่าช่วงต้นเอื่อยไปหน่อย อาจจะเพราะคาดหวังสูงไปแต่พอตอนนี้หยิบมาอ่านอีกรอบเพราะเครียดจากข่าวน้ำท่วมและห่างจากนิยายแนวนี้ไปนาน ทำให้อ่านได้ง่ายขึ้นไม่เนือยๆ เบื่อๆ แบบครั้งแรก ก็พบว่าดำเนินเรื่องช่วงแรกที่เกรซเรียนรู้การเอาตัวรอดได้น่าลุ้นตามไปด้วย มาผิดหวังตอนเข้าไปสืบหาข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ในมูลนิธิ ทำได้ไม่ประทับใจ เพราะเหมือนรอบคอบที่มองหากล้องวงจรปิดที่ประตูทางเข้าของฝ่ายซ่อมบำรุง แต่ไม่ยักคิดว่ามีในอาคาร จนพาร์ริชที่ตั้งใจจับตาดูอยู่รู้ตัว และอีกนั่นแหละเพราะเกรซเหมือนโทรไปบอกให้รู้ตัวก่อนว่าจะไป ก็อยู่ดีไม่ว่าดีโทรไปหาพาร์ริชที่มูลนิธิเฉยเลย ทั้งที่ไม่มีเหตุผล แม้จะบอกว่าเพราะอยากแก้แค้น อยากรุ้ว่าอยู่ไหม เอ้อ ว่าแต่อยู่แล้วทำไงล่ะ แถมพอสัญชาตญาณเตือนภัยบอกให้รีบไปก่อนจะโดนจับได้ ก็ยังใจเย็นไปทำงาน มิหนำซ้ำยังทำตัวแบบเดิมคือไปโทรศัพท์ที่เดิม ทั้งที่น่าจะหาที่ใหม่ได้ จะบอกว่าคนเราชอบทำตามแบบเดิมๆ ก็เถอะ ถ้าเกรซยังเป็นคนเก่าที่ไม่ได้เรียนรู้การเอาตัวรอดจากฮาร์โมนี่เจ้าของบ้านที่เคยเช่าก็อีกอย่าง แต่นี่บอกว่าได้เรียนรู้มาแล้ว เลยสงสัยว่าทำไมสู้ตอนยังไม่รู้อะไรเลยไม่ได้แฮะ ดูไม่ฉลาดเท่าที่ควร อีกจุดที่ทำให้ไม่อินกับเรื่องคือพระ-นางเจอกันจริงๆ น้อยมาก เพราะต่างคนต่างดำเนินชีวิตในยุคสมัยของตัวเอง ได้เจอกันผ่านความฝันและตอนปลายเรื่องที่มีการข้ามเวลาเท่านั้นเอง แต่ว่าไปพล็อตก็แปลกใหม่การนำเสนอก็น่าสนใจไม่น้อย ข้อมูลก็โอเคแสดงว่าทำการบ้านมาดีทีเดียว   Create Date : 26 ตุลาคม 2554     Last Update : 26 ตุลาคม 2554 1:42:49 น. Counter : 925 Pageviews.   5 comment Share Tweet

คมรักคมมนตรา เรื่อง : คมรักคมมนตรา ผู้เขียน : เชอร์รี่ อะแดร์ (Cherry Adair) ผู้แปล : กัญชลิกา ผู้เรียบเรียง : ผกากานต์ ความสนุก : 3 ดาว ดันแคน เอ็ดจ์ น้องชายคนสุดท้องของพี่น้องตระกูลเอ็ดจ์ ทำงานให้หน่วยพลังเหนือธรรมชาติที-แฟล็กซ์ เพื่อหยุดยั้งปฎิบัติการของผู้ก่อการร้ายกลุ่มหนึ่ง ระหว่างนั้นเขาได้รับการติดต่อทางจิตจากเฮนรี ผู้เป็นอดีตครูให้ช่วยเหลือ ‘เธอ’ เซเรนาผู้เป็นลูกสาวบุญธรรมของเขา ขณะที่เฮนรีนอนไม่ได้สติอยู่ที่โรงพยาบาล ทำให้เขาไม่รู้ว่าเฮนรีต้องการให้เขาช่วยเซเรนาจากอะไร ตอนวัยรุ่น ดันแคนเคยสนใจเซเรนาและบัดนี้ก็ยังสนใจ เพียงแต่คำสาปประจำตระกูลทำให้เขาหลีกเลี่ยงเธอมาตลอด แต่เพราะคำขอร้องของผู้ที่เขานับถือทำให้เขาต้องมาใกล้ชิดเธออย่างเลี่ยงไม่ได้ เซเรนาเองรู้เรื่องคำสาปดี เพราะเธอสืบเชื้อสายมาจากแม่มดแนน เจ้าของคำสาปนั้น และรู้กระทั่งวิธีแก้ไข แต่เพราะข้อห้ามที่ส่งต่อกันมาหลายร้อยปี ทำให้เซเรนาไม่กล้าเสี่ยง แม้ว่าเธอเองก็สนใจพ่อมดหนุ่มนี้ ที่สุดเธอก็แต่งงานไปกับเอียนซึ่งมีอายุมากกว่าเธอเกือบ 50 ปี พ่อม่ายลูกสองผู้ทิ้งมรดกและงานในมูลนิธิให้เธอดูแลต่อหลังจากเขาเสียชีวิต เมื่อต้องเจอและใกล้ชิดกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทั้งสองก็ไม่อาจปฎิเสธความรู้สึกของตัวเองได้อีกต่อไป ระหว่างนั้นดันแดนต้องคอยสืบข่าวฆาตกรต่อเนื่องที่สังหารพ่อมดเพื่อดูดพลัง และพบว่าฆาตกรคนนั้นน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการลับของมูลนิธิที่เซเรนารับผิดชอบอยู่ ทำให้เขายิ่งห่วงความปลอดภัยของเซเรนา เมื่อผ่านการทดสอบเพื่อชิงตำแหน่งผู้นำสภาพ่อมด เซเรนาก็รู้ความจริงว่า เทรย์ อดีตแฟนเก่า เพื่อนร่วมรุ่นสมัยเรียนมัธยม ใช้มนต์เสน่ห์กับเธอ ทำให้เธอยอมคบหากับเขาในตอนนั้น หลังการแข่งขัน 2 รอบ เซเรนาชนะทั้งสองรอบทำให้เธอได้เป็นผู้นำสภา และดันแคนก็พบว่าเพื่อนเก่าอย่างเทรย์ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุร้ายและเป็นฆาตกรคนที่เขาต้องการตัว แต่เนื่องจากเทรย์ได้ดูดพลังของพ่อมดคนอื่นๆ ไปทำให้ดันแคนมีพลังอำนาจสู้เทรย์ไม่ได้ เซเรนาตัดสินใจเสี่ยงด้วยการยกตำแหน่งผู้นำในสภาให้ดันแคน เพื่อจะได้สวมสร้อยของผู้นำพ่อมดและจะทำให้อำนาจเพิ่มขึ้น โดยที่เธอเองยอมหมดพลังอำนาจแม่มดในตัว เพราะเธอเป็นผู้แก้คำสาปให้ดันแคนนั่นเอง ในการต่อสู้ดันแคนก็ชนะเทรย์อย่างไม่ยากเย็นอะไร ซึ่งแสดงว่าการเสี่ยงตัดสินใจแก้คำสาปให้ดันแดนนั้นเป็นผล บันทึกแนบท้าย ขอแยกแสดงความเห็นเป็น 2 ส่วน ๆ หนึ่งโดยเนื้อเรื่องของนิยาย และอีกส่วนในฐานะนิยายชุด ครั้งแรกอ่านเรื่องนี้แล้วคิดว่าจะไม่รีวิว เพราะไม่มีอะไรเด่น ไม่สนุก แต่ยิ่งอ่านไปยิ่งเจอสิ่งที่อยากบอกเล่านักเขียนในฐานะคนอ่านหลายจุดไม่ว่าจะในเนื้อเรื่อง หรือ ในฐานะนิยายชุด เรื่องนี้ให้คะแนนความสนุกแค่ 3 ดาว เพราะว่าการดำเนินเรื่องอ่านแล้วชวนให้สงสัยอยู่ตลอด ว่าตกลงตอนปัจจุบันในเรื่องจะดำเนินไปอย่างไร ที่ผ่านมาคนเขียนพูดถึงอะไรจำไม่ได้แล้ว เพราะถูกคั่นด้วยการที่พระเอก หรือ นางเอกคิดย้อนอดีตระหว่างกันอยู่ตลอดแทบจะเกินครึ่งเรื่อง ไม่ว่าเหตุปัจจุบันจะพูดถึงอะไร ไม่คนใดก็คนหนึ่งจะคิดถึงความสัมพันธ์ตอนวัยรุ่นสมัยอยู่โรงเรียนเดียวกัน และมักจะเป็นเหตุการณ์เดียวกัน อาจจะต่างกันแค่ประโยคเดียวในความคิดของแต่ละคน และเป็นฉากซ้ำๆ กันเป็นส่วนใหญ่ แถมเมื่อผู้ร้ายที่เป็นอดีตแฟนเก่านางเอกออกมามีบทบาทก็ยังไม่วายใช้ฉากเดิมนั่นแหละ ทำให้พออ่านฉากปัจจุบันต้องกลับไปคิดว่าก่อนนี้สองคนนี้คุยเรื่องอะไรกัน เพราะจะมีการคั่นตลอดเวลาทำให้เหตุการณ์ปัจจุบันขาดตอนตลอด อ่านไม่ต่อเนื่อง ความสัมพันธ์ของตัวละครค่อนข้างผิวเผิน มีแต่ความสัมพันธ์ทางตัวอักษร แต่สัมผัสถึงความผูกพันไม่ได้เลย ระหว่างพี่น้องของพระเอกตอนนี้ (ตามเรื่องบอกว่า สามพี่น้องอยู่ร่วมกันไม่ได้ จะทอนพลังอำนาจซึ่งกันและกัน) ส่วนผู้ร้ายนั้นคนอ่านเดาได้ไม่ยาก เพราะตัวละครไม่มาก แต่พระเอกนี่สิคาดออกได้ง่ายมากจนถ้าเป็นเรื่องจริงคงน่าใจหายว่าทำไมมั่นใจว่าเป็นคนนี้ อย่างไม่บอกเหตุผล หรือถ้าบอกอ้อมๆ ก็หาไม่เจอจริงๆ ทำให้คิดว่า ถ้าเกิดผิดตัวล่ะไม่กลายเป็นจับคนผิด แล้วปล่อยฆาตกรตัวจริงให้ลอยนวลไปเหรอ แต่ในเรื่องไม่มีปัญหาเพราะคนเขียนให้คนร้ายรีบมาแสดงตัวอยู่แล้วว่าเป็นตัวเองอย่างภาคภูมิใจ ดังนั้นไม่ผิดคนแน่ ถ้าการบอกทางอ้อมว่าคนๆนี้เป็นคนร้ายด้วยคำพูดนางเอกที่บอกว่า รู้แล้วว่าเขาใช้มนต์เสน่ห์ทำให้เห็นว่าเขาเป็นคนอย่างที่นางเอกอยากให้เป็น ทำให้รู้ต่อมาว่าเขาใช้มนต์เสน่ห์กับลูกน้องตัวเอง และกระทั่งพ่อบุญธรรมนางเอกที่ฟื้นคืนสติขึ้นมาก็อุตส่าห์บอกว่าเทรย์เป็นคนไม่ดี ตอนวัยรุ่นเขาใช้มนต์เสน่ห์กับนางเอก อย่าไปคบด้วย ให้อยู่ห่างๆ (รู้สึกจะบอกช้าไป 10 กว่าปีไหมนี่เพราะตอนนี้นางเอกอายุ 30 กว่า ไม่ใช่ความจำเสื่อมด้วยเพราะพูดถึงปัจจุบันว่าขณะที่เขานอนไม่ได้สติอยู่เทรย์ก็มาเซ้าซี้ถามความลับของโครงการ) ถ้าจุดนี้เป็นการบอกให้พระเอกรู้ว่าเทรย์เป็นผู้ร้ายเหตุผลก็น้อยมาก เพราะคนใช้มนต์เสน่ห์เป็นมีแค่เทรย์คนเดียวหรือยังไง เนื้อเรื่องความสมเหตุสมผลค่อนข้างเบามาก และการเดินเรื่องอ่านแล้วไม่ลื่นด้วยเหตุผลข้างต้น เลยให้ความสนุกแค่ 3 ดาว ส่วนในฐานะนิยายชุด เพราะเคยเจอซื้อยกชุดแล้วบางเรื่องไม่สนุกซึ่งช่วงหลังเจอบ่อยมาก ทำให้ไม่อยากเสี่ยงซื้อเก็บเป็นเซ็ทเหมือนสมัยแรกๆ ดังนั้นการเลือกนิยายเรื่องนี้จึงเลือกตามคำโปรยปกหลัง ที่คิดว่าตรงกับความสนใจคือเป็นแนวเหนือจริงพระเอกนางเอกเป็นพ่อมดแม่มด และไปเกี่ยวข้องกับการต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย โดยไม่สนใจเล่มก่อนหน้าของชุดที่เป็นพี่ชายของพระเอกเรื่องนี้ เพราะคิดว่าส่วนใหญ่คนเขียนก็มักจะเขียนให้อิสระต่อกันอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องอ่านต่อเนื่อง เลยหยิบเล่มนี้มาอ่านก่อน คิดว่าถ้าสนุกค่อยไปซื้อเล่มที่เหลือ นิยายชุดนี้เป็นอีกชุดที่ชวนผิดหวัง เพราะคนเขียนสร้างโลกที่เหนือจริงซ้อนโลกปัจจุบันขึ้นมา เป็นโลกของพ่อมดแม่มดที่อยู่ร่วมกับคนปกติเหมือนแฮรี พอตเตอร์ แต่รายละเอียดอื่นไม่ได้บอกเล่าไว้เลยในเรื่องนี้ เป็นไปได้ที่ว่ารายละเอียดทั้งหมดได้บอกไว้ในเล่มแรกๆ และเล่มสองแล้ว พอมาถึงเล่มสามก็คิดว่าคนอ่านก็คงรู้ดีอยู่แล้วเพราะปูพื้นมาแล้วทั้ง 2 เรื่องทำให้เรื่องนี้เว้นไป เหมือนอย่างที่เคยเจอในนิยายชุดเรื่องอื่นที่มักจะเป็นแบบนี้ คือปูพื้นในเล่มแรกเกือบทั้งหมด เสริมบางจุดในเล่มสอง แต่เล่มสามไม่พูดถึงเลย เพราะคิดว่าคนอ่านน่าจะรู้อยู่แล้ว และเขียนมาแล้วสองเรื่อง พอถึงเรื่องที่สามก็แทบไม่เหลืออะไรน่าสนใจอีก ) ในฐานะคนอ่านขอบอกว่าคนเขียนไม่น่าคิดว่าคนอ่านจะรู้อยู่แล้ว เพราะถ้าไม่ได้อ่านเรื่องก่อนหน้านี้จะรู้ได้อย่างไร (คงไม่บอกให้ไปอ่านเรื่องก่อนหน้านี้นะ ในเมื่อไม่ใช่นิยายสามเล่มจบ) ซึ่งวิธีที่น่าจะทำมากที่สุดสำหรับนิยายชุดที่สร้างโลกสมมติไม่ว่าจะเป็นโลกคู่ขนาน หรือ โลกของพ่อมดแม่มด หากเล่มแรกๆ ได้ปูพื้นไปมากแล้ว กลัวคนอ่านเบื่อ เล่มหลังๆ ก็น่าจะเขียนสรุปไว้ในคำนำให้คนอ่านที่ไม่เคยอ่านเล่มก่อนหน้านี้เข้าใจได้ น่าจะดีด้วยกันทั้งสองฝ่าย เพราะหากอ่านเล่ม 3 แล้วไม่สนุกหรืออ่านแล้วไม่รู้เรื่อง จะมีคนอ่านที่ไหนสนใจไปตามอ่านเล่มก่อนหน้านี้ สำหรับส่วนนี้หากคนเขียนต้องการเขียนให้คนอ่านเฉพาะกลุ่มอ่าน ไม่ต้องสนใจข้อเสนอแนะข้างต้นก็ได้ค่ะ   Create Date : 08 กรกฎาคม 2553     Last Update : 9 กรกฎาคม 2553 10:05:11 น. Counter : 818 Pageviews.   9 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com