ได้คุยกับแม่แล้วเรื่องแม่มีความคิดที่จะเปลี่ยนศาสนาไหม แม่บอกว่าแม่ไม่มีความคิดนั้น เพราะชีวิตแม่มีความรอดมาได้ด้วยคำสอนของท่านพุทธทาส ซึ่งเรื่องนี้แม่ก็เคยคุยกับโต้ง น้องชายของเราแล้ว แม่บอกว่าที่ไปโบสถ์ จุดประสงค์หลักเลยคือไปดูจอร์จ เพราะช่วงบ่ายผู้ใหญ่เขาจะเข้าห้องอบรมหรือห้องประชุมกัน ระหว่างนี้เด็กๆ ก็จะวิ่งเล่น แม่ต้องคอยดูไม่ให้วิ่งซนเกินไปหรือส่งเสียงดังเกินไป
แต่แม่ก็บอกน้องว่าแต่แม่ก็ศรัทธา เคารพพระเยซูนะ แต่แม่ไม่มีความคิดจะเปลี่ยน
เราก็ถามแม่ว่าแล้วแม่กินน้ำองุ่นกับขนมปังที่โบสถ์หรือเปล่า แม่ก็บอกว่าแม่กิน เราก็บอกแม่ว่าปกติเขาจะไม่ให้คนที่ยังไม่เป็นคริสเตียนเต็มตัวกินนะ แม่บอกว่าเขาให้กินเราก็กิน เขาจะคิดว่าเราเป็นคริสเตียนก็คิดไป แต่ข้างนอกเราเป็นพุทธ
แล้วแม่ก็เล่าเรื่องพี่เลี้ยงหรือคนของคริสตจักรที่ดูแลแม่ให้ฟัง เขาถามแม่ว่ารู้ไหมว่าแม่น่ะรอดแล้ว แม่ก็บอกรู้ แม่รอดมานานแล้วจากคำสอนของท่านพุทธทาส เขาก็บอกแม่ว่าท่านพุทธทาสน่ะเป็นชาวคริสต์นะ คำสอนของท่านน่ะมาจากพระคัมภีร์ แม่ก็บอกว่าก็จริงเพราะคำสอนของท่านก็มีความคล้ายของชาวคริสต์ และท่านก็ชื่นชมชาวคริสต์ แต่แม่ไม่รู้หรอกว่าท่านเป็นชาวคริสต์หรือเปล่า
แม่ก็บอกเราว่าเอาที่เราสบายใจ อยากเป็นพุทธหรือคริสต์ได้ทั้งนั้น ในบัตรประชาชนเป็นคริสต์ แต่ใจเราเป็นพุทธก็ได้
เราบอกแม่ว่าเราจะให้เหตุผลกับน้องว่าเรายังไม่พร้อมเป็นคริสเตียนเพราะไม่สะดวกไปโบสถ์ และงานค่ายของคริสตจักรปลายปีเราคงไม่ไป โดยเราจะบอกกับน้องว่าเราต้องอยู่บ้านเป็นเพื่อนน้า เพราะน้าเขาอยู่คนเดียวไม่ได้ (เหตุผลนี้น้าเป็นคนเสนอ) ก็คงจะพอเอาตัวรอดไปได้
แต่เราก็ยังคงอ่านพระคัมภีร์นะเพราะกลัวว่าน้องจะโทรมาถามว่าอ่านไปถึงไหนแล้ว
ผู้ติดตามบล็อก : 27 คน [
