Scott-Odell เขียน วิลาวัณย์ ฤดีศานต์ แปล สำนักพิมพ์มติชน วรรณกรรมเยาวชนอิงประวัติศาสตร์เรื่องราวเด็กหญิงวัยสิบสองที่อยู่ลำพังในเกาะถึงสิบแปดปี... กลางเดือนเมษายนที่อบอ้าว ลมทะเลสาดซัดชายหาด มองเห็นฟองคลื่นที่ดูไปก็คล้ายกับฟองเบียร์ที่ถูกเท ในเวลาที่พยายามมองหาความสุข ข้าพเจ้านั่งมองคลื่นสีขาว บนหาดทรายโค้งงอไปสุดตา แผ่นน้ำสีฟ้าใส และเขียวเข้มที่ไกลออกไป แลบนท้องฟ้ากลับมีกลุ่มเมฆสีหม่นกำลังรวบรวมสมัครพรรคพวก รอเข้าโจมตีแผ่นดินเล็กจ้อยและคอดกิ่ว  เราอยู่ใต้ฟ้าขณะที่ร้อนระอุ แลเมฆดำ เสียงคลื่นกระซิบบ้าง กระโชกบ้าง อันที่จริงแล้วเราชั่งเล็กจ้อย แล.....ตายง่ายเสียเหลือเกิน ภาพเบื้องหน้าที่สดใส โดดเดี่ยว แลน่าเกรงขาม ทำให้นึกไปถึง เด็กหญิงตัวน้อยๆที่ซ่อนจิตใจหาญกล้าไว้ภายใน เด็กหญิง การานา ชาวอินเดียนแดง ที่อีกฝั่งทะเลไกลโพ้นออกไป เมื่อราวสองร้อยปีก่อน เธอใช้ชีวิตเพียงผู้เดียว บนเกาะโลมาสีน้ำเงิน ผ่านวันคืนที่อ้างว้าง และแสนสุข ข้าพเจ้าอยากจะเชื่อเหลือเกินว่า เธอได้พบสัจจะธรรมบางอย่างของชีวิตแล้ว...แต่เราสิ...ยัง ผ่านมาสองร้อยปี...มนุษย์เราก็ยังเบียดเบียนสัตว์อื่นอยู่นั่นเอง แลไม่เว้นแม้แต่มนุษย์ที่เราเชื่ออย่างหลงผิดว่าเขาล้าหลัง ในคราวนั้น ชาวอินเดียนแดงกับเกาะโลมาสีน้ำเงิน ในคราวนี้ ชาวโลกกับเกาะโลกสีน้ำเงิน....กี่ล้านปีที่ผ่านไป เราทำลายธรรมชาติกันทุกวัน...และมันอาจจะดีที่ การานา ได้ใช้ชีวิตบนเกาะ...เพียงลำพัง ในท้ายที่สุดแล้ว คนเราจะต้องการอะไรมากไปกว่า ปลาทะเล หอยเป๋าฮือ แลน้ำจืด...ในแผ่นดินที่ร้างผู้คน แต่มากกว่านี้ การานา แสดงให้เห็นว่า เธอยังต้องการเพื่อน แลความรัก....ซึ่งสำหรับข้าพเจ้า เพื่อนหมาสีน้ำตาล เพื่อนนกผัวเมีย แลเพื่อนนากของการานานั้น พิสุทธิ์และงดงามยิ่ง ขณะที่เรา...ยังคงห่างไกลจากความรักเฉกเช่นนั้น ผู้เขียนเขียนเรื่องราวชีวิตชาวอินเดียนแดงที่น่ายกย่อง แต่ถูกแย่งพื้นที่อยู่อาศัย สัตว์น้อยใหญ่ถูกล่าเพื่อนำไปให้มนุษย์ที่อยู่ชั้นบนของวงจรเกาะโลกสีน้ำเงิน อนิจจาเอ๋ง...ทุกวันนี้เราก็ยังคงทำเช่นนั้นอยู่.... ผู้เขียนเขียนเรื่องราวของความรัก การให้อภัย และชีวิตที่เพียงพอ คงอยู่กับธรรมชาติ...หากเป็นไปได้...เราก็อยากเป็นเช่นนั้นบ้าง แม้ระหว่างการอ่านหนังสือเล่มนี้ข้าพเจ้ายังไม่ทันรับรู้ถึงสิ่งเหล่านั้น...แต่เมื่อได้นั่งนิ่งๆ ใต้ร่มมะพร้าวไหว บนริมหายทรายร้างผู้คน (เพราะแดดร้อนเกินกว่าจะเดินทอดน่อง) ความรู้สึกอิ่มเอมทั้งปวงของการานา ยามที่เธอพายเรือแคนนูไปกับเจ้าหมา ยามที่เธอป้อนปลาให้กับนาก ยามที่เธอสร้างบ้านด้วยตัวเอง ใส่กระโปรงขนนกกาน้ำ และฝังเพื่อนที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นศัตรูด้วยความรักและอภัย หลายสิ่งที่การานาทำ...เราอาจไม่ได้ทำ...หรือไม่ก็...ไม่มีวันจะทำ แต่บางที่เราอาจจะ... ฝนตกซู่ลงมา...ข้าพเจ้าเก็บขวดเปล่าจากเมื่อคืนและแก้วที่เหลือแต่คราบฟองฟู่นำกลับเข้าไปในรีสอร์ทริมทะเล...มองฝ่าสายฝนท่ามกลางแดดร้อน....เรือประมงลำเล็กจอดนิ่งที่ไกลๆ...พวกเขากำลังล่าบางสิ่ง...ที่จะกลายเป็นบางอย่างบนจานของนักท่องเที่ยว....ขี้เมา...บางคน ขอคาราวะแด่ผู้เขียน และการานา รวมทั้งชนเผ่าผู้อยู่มาก่อนทั้งหลาย...อย่างน้อยข้าพเจ้าก็ไม่ทิ้งขวดเปล่าไว้บนชายหาด เผื่อว่า การานา จะมองมาจากที่ห่างไกล...บนหน้าผาสูง...บนเกาะโลมาสีน้ำเงิน สรุปเลยดีกว่า มันเป็นหนังสือที่น่ารัก เรียบง่าย แต่ก็น่าติดตาม มนุษย์ผู้เดียวบนเกาะแห่งหนึ่ง คล้ายๆกับการผจญภัยของโรบินซัน ครูโซ และฉากในหนังเรื่อง แคสอะเวย์ (CAST AWAY) แต่ตัวเอกเป็นเด็กหญิงที่น่ารักและน่าทึ่ง บนเรื่องราวประวัติศาสตร์คนขาวกับการล่าและวิถีชีวิตที่ถูกล่าของคนอินเดียนแดง กับแง่มุมมากมายที่รอให้เราครอบครอง.... ส่วนชายหาดรูปดาปโค้ง บางจุดขาวสะอาด บางพื้นที่เป็นหมู่บ้านชาวประมง ทะเลสวย คลื่นขาวเหมาะจะไปใช้ชีวิตสันโดษ และไม่ต้องการการสันดาปใดๆ หมายเหตุเส้นทาง:ชายหาดบางเบิด มีที่พักเล็กๆอยู่ติดกับชายหาดหลายเจ้า เป็นจุดชมวิวของข้าพเจ้า....มองเห็นสันทรายและหาดรูปดาปโง้งงงง ที่พักเป็นรีสอร์ทไปทางเดียวกับสันทราย(ไม่ได้อยู่ตรงชายหาดบางเบิด)....ทางเดียวกับที่ไปคาราวะเจ้าแม่กวนอิม ทางเข้ามาจากถนนเพชรเกษมจะเข้าทาง อ.บางสะพานก็ได้(จ.ประจวบคีรีขันธ์) เข้าไปผ่านบางสะพานน้อยก่อนถึงบางเบิด หรือจากถนนเพชรเกษมอีกทางต้องเลยอ.บางสะพานไปหลายสิบกิโลเหมือนกันก่อน(จ.ชุมพร)จะถึงแยกซ้ายมือที่เขียนป้ายว่า หาดบางเบิด )/Products/image.axd?picture=9789740201625L.gif&Type=Large)
Create Date : 17 เมษายน 2555 | | |
|
Last Update : 6 มีนาคม 2556 9:01:30 น. |
| |
Counter : 836 Pageviews. |
| |
|
|