คู่หวนอวลอิง เฮยเจี๋ยหมิง
ใช่ว่าหวาเหมียวเหมี่ยวไร้หัวใจจึงไม่เคยหลั่งน้ำตาถึงอยากร่ำร้องเพียงใดมันก็ไม่มีแม้เพียงหยาดหยดเดียว แม้ในยามที่ครอบครัวที่รักจากไปทิ้งไว้เพียงแค่เธอตามลำพังและเมื่อไม่อยากยอมรับความจริงเธอจึงใช้งานเป็นสิ่งบ่ายเบี่ยงความจริงแต่ทำไมกันเล่ายิ่งทำงานหนักเท่าใดหวาเหมียวเหมี่ยวกลับไม่เคยนอนหลับได้เลยจนกระทั่งกลิ่นกำยานของร้านกาแฟแสนแปลกประหลาดกลับทำให้เธอหลับลึกจนฝันถึงเรื่องราวลึกลับ
ในความฝันเสมือนว่าหวาเหมียวเหมี่ยวได้ตายไปจากโลกที่เธอเคยรู้จักแม้จะเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่เมื่อเธอได้รู้จักผู้หญิงประหลาดอย่างถูหมีหวาเหมียวเหมี่ยวกลับอยากรู้จักผู้หญิงคนนี้ให้ดียิ่งขึ้นเพราะอะไรผู้หญิงคนนี้จึงต้องแอบซ่อนความรักเอาไว้จนลึกสุดหัวใจ
ถ้าหากว่าในโลกของความฝันมันจะเต็มไปด้วยความสับสนในจิตใจของถูหมีแต่โลกความจริงของหวาเหมียวเหมี่ยว ผู้ชายที่ชื่อข่งฉีอวิ๋นคือคนที่เธอกำลังไม่แน่ใจว่าตัวตนของผู้ชายที่แสนร้ายกาจนี้เป็นเช่นไรทั้งที่เขาเหมือนจะรังเกียจ รำคาญหรือไร้เยื่อใยกับเพื่อนข้างบ้านเช่นเธอแต่เมื่อความจริงที่เธอคิดไปเองต่างๆ นานาปรากฏขึ้น เขากลับเป็นคนที่ห่วงใยเธอมากกว่าใครๆเสียอีก
หากในคำถามที่ยังไม่ได้รับคำตอบจากข่งฉีอวิ๋นเธอกลับต้องมาเจ็บปวดในโศกนาฏกรรมของถูหมีหากทุกอย่างที่เธออยากรู้ไม่เคยได้รับคำตอบ ตัวตนของถูหมีคือเธอหรือเปล่าและดวงตาที่ปราศจากน้ำตาของหวาเหมียวเหมี่ยวก็เพราะเหตุการณ์เลวร้ายในครั้งนั้นใช่หรือไหมยิ่งดิ้นรนก็เหมือนว่าจะไม่มีคำอธิบายและในความสับสนครั้งนี้สิ่งเดียวที่กระจ่างชัดก็คือข่งฉีอวิ๋น
แม้จะไม่อยากยอมรับกับตัวเองหากเขาก็ไม่ต้องการเป็นแค่เพียงเงาในอดีตจากรอยฝันของหวาเหมียวเหมี่ยวแต่เพราะนี้คือสิ่งที่เธอต้องการรับรู้ และเขาก็ปรารถนาให้เธอได้รู้ถ้าความฝันเป็นความจริงและถ้าเขาไม่ใช่ผู้ชายที่หวาเหมียวเหมี่ยวเลือกที่จะรักในกาลก่อนและเขาคนนั้นมีตัวตนในปัจจุบันเหมือนที่ข่งฉีอวิ๋นเป็นเธอจะเลือกใครระหว่างอดีตหรือปัจจุบัน
ความฝันหรือจะเป็นอดีตสอนให้หวาเหมียวเหมี่ยวรู้จักที่จะอยู่กับสิ่งใดคนที่เธอเลือกจะรักไม่เกี่ยวอะไรกับสิ่งที่ผ่านไป หากเป็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอเคยโง่เขลาจนมองไม่ออกว่าผู้ชายอย่างข่งฉีอวิ๋นทุ่มเทเพื่อเธอมากน้อยเพียงใดมันไม่สำคัญว่าเขาจะเคยเป็นผู้ชายคนนั้นหรือเปล่าตอนนี้เธอปรารถนาอ้อมกอดของข่งฉีอวิ๋นเท่านั้นผู้ชายที่ทำให้เธอกล้าหลั่งน้ำตาครั้งแรกในชีวิตเพื่อที่มือคู่นี้จะได้ซับน้ำตาและประคับประคองเธอให้ร่วมเดินทางไปด้วยกันอย่างไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป
หายหน้าจากการรีวิวไปนาน กลับมาประจำที่แล้วค่ะ แต่บอกได้เลยว่าช่วงนี้จะเอาใจคอนิยายแปลจีนนะคะ เพราะว่ามากันอย่างแน่นขนัดจนอ่านแทบไม่ทันเลยค่ะ นิยายไทยแทบจะไม่ได้เข้าบ้านเลยในช่วงนี้ ใครไม่อ่านแนวจีนแปลฟีน่าจะพยายามหาอะไรมารีวิวสลับกันไปนะคะ แต่ก็มีอ่านๆ จากอีบุ๊คส์ไปหลายเล่มอยู่เหมือนกัน น่าสนใจอยู่ แต่ตอนนี้ก็อ่านรีวิวนิยายจีนไปก่อนแล้วนะคะ
ฟีน่าเป็นแฟนเฮยเจี๋ยหมิงไปแล้วดังนั้นนิยายของเธอจึงไม่ค่อยโดนดองไว้ไหนาน แต่รีวิวกว่าจะมาเพราะติดภารกิจส่วนตัวหลายวันนะคะ เข้ามาสู่เล่มที่ห้าของชุดเสน่ห์เงามารแล้ว เรารู้จักสไตล์การเขียนงานของนักเขียนมาไม่มากก็น้อยซึ่งแน่นอนว่าเราเองคาดหวังสายดรามาน้ำตาท่วมจอ แต่ไม่รู้แม่นางเธอจัดเต็มในสามเล่มแรกมากไปหรือเปล่าก็ไม่รู้นะคะ เลยสร้างความคาดหวังสูงมากมายไว้ให้คนอ่านสายดรามาแต่เรื่องนี้จะจัดไว้ในระดับไหน เดี๋ยวเรามาคุยกัน
ในเล่มนี้การดำเนินเรื่องจะแปลกไปกว่าเล่มอื่นตรงที่เล่มแรกไม่เล่าจากเรื่องราวของอดีตชาติเลย แต่เล่าเรื่องในยุคปัจจุบันสลับกับเรื่องในอดีตที่มาในรูปของความฝันกึ่งความจริงกับการเป็นโลกคู่ขนาน นางเอกที่ไม่เหลือใครในครอบครัวต้องการหนีความจริงด้วยการใช้งานหนักทำให้ลืม แต่ไม่ช่วยอะไรแถมทำให้นอนไม่หลับไปเสียอีก แต่พอดันได้นอนหลับก็ลึกจนฝันอะไรเป็นเรื่องเป็นราว ซึ่งปัญหาของเธอไม่ได้มีแค่นั้น ยังรวมถึงเพื่อนข้างบ้านที่เหมือนจะไม่ชอบขี้หน้าเธอเอาเสียเลย แต่จู่ๆ ผู้ชายคนที่เธอไม่อยากจะวุ่นวายด้วยที่สุดกลับเป็นคนที่เธอเข้าใจอะไรบางอย่างในตัวเขาผิดตลอดมา สิ่งที่มันกระแทกใจก็คือว่าเขาไม่เคยเกลียดเธอเลยแม้แต่น้อย และเมื่อได้เปิดใจ เขาก็คือคนที่ทำให้เธอได้รู้จักความรักโดยไม่สนใจว่าเขาจะเคยเป็นใครในอดีตชาติของเธอหรือเปล่า เพราะเขาคือปัจจุบันที่เคียงข้างเธอ ซับน้ำตาให้เธอ โอบกอดเธอไว้ก็เท่านั้น
อย่างที่บอกว่าเล่มนี้ใช้การเล่าเรื่องที่อาจจะแปลกไปจากเล่มอื่น ซึ่งคนเขียนก็คงอยากให้เราได้อ่านเรื่องราวที่ดำเนินเรื่องแตกต่างไปบ้าง ซึ่งมันก็ทำให้เนื้อเรื่องในส่วนที่มันจะดรามามากๆ ในช่วงแรกลดน้อยลงไปด้วย ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการเล่าเรื่องจากความรู้สึกของตัวละครในอดีต แต่การที่มันตัดสลับกับเรื่องในช่วงปัจจุบัน โหมดความกดดันของความรู้สึกในตัวนางเอกจึงไม่ได้บีบคั้นเราตลอด มีเวลาให้เราผ่อนคลายมากขึ้น ส่วนเรื่องในช่วงปัจจุบันจะออกไปทางคู่กัดคู่กันกลายๆ ชีวิตของนางเอกเองก็ไม่ต้องเครียดจนเหมือนไม่มีทางออกแบบเรื่องในชาติก่อนด้วย ทำให้แฟนสายดรามาอาจจะรู้สึกว่ามันไม่จัดหนักจัดเต็มอย่างเหมือนเล่มก่อนๆ แต่ตัวฟีน่าก็ถือว่ามันก็ยังกรุ่นๆ อยู่ คิดว่าจะไม่ร้องไห้ ยังร้องไห้ได้นิดหนึ่งในโศกนาฏกรรมรักของนางเอกอยู่ดี พอๆ กับการตอนอ่านคู่ผจญมนตร์มารนั่นละคะ อยากจะร้องไห้ แต่ดันไม่จี๊ดใจแบบสุดๆ มันเหมือนไปไม่สุดทาง เล่มนี้ไม่ถึงกับให้ความรู้สึกเหมือนคู่ผจญฯ เพราะเรื่องดำเนินมาเหมือนไม่ตั้งใจให้โศกเศร้ามากนัก เลยไม่ได้คาดหวังน้ำตาท่วมจอสักเท่าไร อาจจะหนักไปทางขัดใจกับรักที่ไม่แสดงออกของทั้งสองคนในภาคอดีต คนหนึ่งไม่พูด อีกคนไม่กล้ารัก พอจะลงเอยกันก็ต้องมีมารผจญเสียอีก
ความจริงแล้วเรื่องราวในอดีตของนางเอกมันคงไม่ต้องต่อในยุคนี้ถ้าไม่เพราะตัวหลิง ตอนอ่านไปก็ยังคิดว่าหลิงมันจะมาเกี่ยวยังไงกันเนี่ย ท้ายที่สุดนางก็มาเป็นเวรเป็นกรรมจนได้ชนิดที่ว่ามาทำให้เขาพลัดพรากจากกันทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องเลย สมกับที่ในเล่มบอกนั่นละว่าคู่นี้ซวยนิดๆ ที่ดันมาเกิดในยุคเดียวกับคนที่หลิงต้องการแก้แค้น ช่วงนั้นนางยังไฟแค้นสุมอก ระหว่างทางมีใครที่เอามาจัดการได้นางดึงมาใช้งานหมด เล่มนี้จึงมีเนื้อหาที่เชื่อมมาจากคู่ฝันคะนึงอีกเช่นกันนะคะ ถ้าใครอ่านแล้วอาจจะคุ้นๆ กับบางช่วงของเรื่องว่ามันเกี่ยวพันกันมาเลยทีเดียว จึงเป็นสาเหตุสำคัญว่าชุดนี้ไม่ควรอ่านโดด อ่านข้าม ให้อ่านไล่เล่ม ไล่ชุดจะทำให้การอ่านต่อเนื่องและไม่งงกับเนื้อเรื่องในแต่ละตอนด้วยนะคะ
เรื่องนี้มีบางอย่างที่ไม่ค่อยถูกแนวทางของฟีน่าสักเท่าไร ไม่ใช่เนื้อเรื่องไม่โดนนะคะ แต่มันเป็นนิสัยส่วนตัวที่จะไม่ค่อยชอบนางเอกที่อายุเท่าพระเอก แถมยังเรียกพระเอกว่านายอีก แต่เรื่องนี้พยายามหยวนๆ ไป เนื่องจากนางเอกออกจะไม่ชอบหน้าพระเอกในตอนแรกๆ เนื่องจากความเข้าใจผิด แต่ที่ดีก็คือว่าพอเธอรู้ตัวว่าเข้าใจผิดอะไรในตัวพระเอก ไม่ได้วางท่าว่าตัวเองไม่ผิด เริ่มปรับมุมมองใหม่ๆ ยอมรับในความช่วยเหลือของพระเอกมากขึ้น มองเห็นความดีของเพื่อนข้างบ้านคนนี้ และสิ่งที่ชอบที่สุดก็คือเธอไม่ได้เป็นคนยึดติดกับอดีตจนกลายเป็นความงมงายที่ว่าต่อให้คนในปัจจุบันดีแค่ไหนก็สู้คนในอดีตที่เธอเหมือนติดค้างอยู่ไม่ได้ เขาคือคนที่เธอรักไปแล้ว จะไม่เปลี่ยนใจไปรักคนอื่นอีก เพราะอีตานั่นมันมาช้าเกินไป เหมือนกับในอดีตพ่อคุณก็ปากหนัก วางตัวดีประเภทค่อยๆ รอให้รัก มายุคปัจจุบันยังหายหัวไปไหนอีก ฉันไม่รอแล้ว รักคนที่ดูแลเธอเป็นอย่างดีจะดีกว่า
ซึ่งจะบอกว่านางเอกทำไมเข้าใจพระเอกผิดตลอดเวลาว่า อีตานี้ไม่ชอบหน้าเธอก็โทษนางเอกไม่ได้หรอกนะคะ เพราะตัวพระเอกเองก็ทำอะไรบางอย่างพลาดไปด้วย อาจจะมาจากบุคลิกส่วนตัวที่เขาไม่เข้าใจว่านางเอกกำลังทำอะไร จนกลายเป็นเหมือนกับหงุดหงิดใส่ทั้งที่หวังดี รวมไปถึงความขี้ขลาดที่จะยอมรับว่าสนใจนางเอกมากกว่าเพื่อนข้างบ้าน ทำไมต้องเป็นกังวลในเรื่องของนางเอกมากมายจนกลายเป็นพูดจาไม่ค่อยเข้าหู ซึ่งทุกอย่างมันก็เป็นแค่เพียงการมองคนละมุม ถ้าได้คุยกันดีๆ ก็อาจจะไม่เป็นแบบนี้ หรือความหวังดีที่มาผิดเวลา และพอถึงเวลานั้นเขาก็ถึงได้รู้ว่าสมควรแล้วที่นางเอกจะอยากด่าพระเอกหรือเอาอะไรฟาดหัวแกสักที
แม้ว่าเล่มนี้จะไม่จี๊ดใจสมกับความเป็นเฮยเจี๋ยหมิงมากนักแต่เนื้อเรื่องโดยรวมก็ถือว่ายังสนุกอยู่นะคะ ติดจะไปทางน่ารักเสียด้วยซ้ำในช่วงที่นางเอกกับพระเอกปรับความเข้าใจกันแล้ว พระเอกจะค่อยๆ ปรับนิสัยของนางเอกที่ทำร้ายตัวเองด้วยการโหมงานหนัก อยู่ข้างๆ เธอ คอยช่วยเหลือในทุกด้านและดึงความอ่อนโยนในเบื้องลึกของนางเอกออกมาจนไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงที่ดูจะปากร้ายกลายเป็นแฟนที่น่ารักได้ และค่อยๆ เปิดมุมบางอย่างในหัวใจของพระเอกว่าผู้ชายคนนี้เก่งในเรื่องงานสารพัดแต่กลับขี้ขลาดที่จะแสดงออกว่ารักผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ถึงเขาจะกลัวในบางทีว่าถ้าเธอไม่เลือกเขาเพราะเขาไม่ใช่คนในอดีต หากแต่มันคือความสุขของเธอที่จะชดเชยความเจ็บปวดในอดีตเขาพร้อมจะส่งเสริมให้เธอได้สมหวังในชาตินี้ จึงเป็นเรื่องที่เนื้อหาไม่หนักมากไปเหมือนกับตอนที่อ่านคู่เคียงเรียงรักนะคะ หรือจะเป็นเพราะการที่นักเขียนแบ่งเนื้อหาเรื่องเป็นสามช่วง สี่เล่มแรกเป็นช่วงแรกของชุด เนื้อเรื่องเลยหนักหน่วงใจเสียเหลือเกิน พอมาเข้าช่วงสอง เนื้อเรื่องอาจจะเบาๆความดรามาลงไป ซึ่งอันนี้ก็เดาเอาเองนะคะ ต้องรอเล่มหน้าจะได้รู้ว่าเนื้อเรื่องจะกลับมาเข้มข้นขนาดไหน หรือไม่ก็เพราะว่าเราเจอของหนักตั้งแต่เล่มแรก ความคาดหวังขั้นกว่าจึงมีไม่น้อย แต่อย่างไรก็ตามที แฟนคลับเฮยเจี๋ยหมิงแบบฟีน่าก็ยังคงชื่นชอบงานของนักเขียนคนนี้ต่อไปนะคะ เพราะชอบที่พล็อตเรื่องเดาไม่ถูกว่าจะเป็นไง แม้จะรู้ว่ามันต้องจบในอดีตชาติด้วยคำว่าตายจากกันไป มาสมหวังในชาตินี้ แต่มันก็อะไรให้เราต้องคอยอ่าน คอยลุ้นว่าจะเป็นยังไง คุ้มค่ากับการรอคอยที่มากน้อยแล้วแต่รสนิยมคนอ่านนะคะ ซึ่งเล่มนี้อาจไม่ถูกคอคนต้องการรสชาติจัดหนัก กินน้ำตาต่างข้าว แต่เอาไว้เบรกอารมณ์นิดหนึ่งก็ว่าได้ ส่วนคนที่ไม่ชอบนิยายหนักๆ เล่มนี้มาทางเบาลงมาสักหน่อยน่าจะอ่านได้อยู่ แต่อีกอย่างที่ยังคงเป็นเฮยเจี๋ยหมิงคือนิยายที่ดูเหมือนไม่หวาน แต่อ่านไปแล้วมันหวานในแบบของเขานะคะ เป็นความรักที่ปรารถนาให้คนที่เรารักมีความสุข ทุ่มเทและทำได้ทุกอย่างไม่ว่าสิ่งนั้นจะลำบากลำบนสักเพียงใด ฟีน่าชอบนิยายสไตล์แบบนี้ไม่น้อยไปกว่านิยายที่หวานเลี่ยน อ่านแล้วอบอุ่นใจดีค่ะ ดังนั้นฟีน่าก็ยังชอบผลงานเล่มนี้อยู่แต่ไม่ถึงกับเป็นเล่มโปรดที่สุดเหมือนคู่บุปผาข้ามภพ เราก็ต้องรอลุ้นต่อไปว่าเล่มนี้จะออกมาในแนวทางไหนนะคะ
โดย: ฟิลิเซียน่า 21 สิงหาคม 2558 14:40:25 น.