bloggang.com mainmenu search
มากกว่าคำว่ามดแดง



ถ้าให้พูดถึงทิศทางของนิยายในปีที่ผ่านมาปฏิเสธกันไม่ได้เลยค่ะว่า นิยายรักโรแมนติคที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับจีนในยุคโบราณมาแรงเป็นอย่างยิ่ง จะเห็นได้จากมีทั้งการนำมาแปลมากขึ้น ไม่ได้จำกัดแค่นิยายแนวกำลังภายในอย่างเช่นที่เราคุ้นเคยกัน รวมทั้งมีนักเขียนชาวไทยหลายคนที่หันมาแต่งนิยายในแนวมากขึ้น แต่ถ้าหากให้พูดถึง ต้นตำรับที่ทำให้นิยายจีนแนวนี้เป็นที่นิยมมากขึ้นก็คงไม่พ้น นิยายในชุดมากกว่ารัก ของสนพ.แจ่มใสค่ะ ฟีน่าเองที่เป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้นิยมนิยายแนวจีนมาก่อน ก็กลับกลายเป็นสาวกตัวยงของนิยายชุดนี้ค่ะ ยอมทุ่มเท ทุ่นทุนเพื่อให้ได้อ่านทุกเล่ม

ฟีน่าได้เริ่มอ่านมากกว่ารักมาตั้งแต่รุ่นแรกที่ออกจาก จากการแนะนำของเพื่อนในเวบเจ้าป้า ที่ครั้งแรกก็ยังไม่แน่ใจว่าจะถูกรสนิยมเราหรือ เพราะฟีน่าไม่อ่านนิยายจีนใดๆทั้งสิ้น ได้แต่แค่ดู แต่คนแนะนำบอกว่าฟีน่าต้องชอบอย่างแน่นอน และแนะนำให้อ่านรักประดับก่อนเป็นเล่มแรก และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของความบ้าของฟีน่าไปเลยค่ะ เพราะเริ่มต้นมากกว่ารักนั้นออกหนังสือมาทั้งหมดสี่เล่มด้วยกัน ฟีน่าได้อ่านรักประดับใจไปแล้ว ประทับใจอย่างมาก จึงหาซื้ออีกสามเล่มที่เหลือคือ จอมใจนายทัพ คู่แค้น... แสนหวาน พิชิตใจองค์หญิงจำแลง แต่ก็ไม่ทำให้ฟีน่าติดใจได้เท่า รักประดับใจค่ะ และนอกเหนือไปจากความชอบในเนื้อหานิยายฟีน่าก็เลยอยากรู้ว่าคนแปลนิยายสนุกๆนี้ คือใครกัน เหมือนโชคดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ เมื่อแจ่มใสได้มีกิจกรรมแจกลายเซ็นพร้อมกับพูดกับนักแปล หากฟีน่ากลับติดปัญหาว่าไปไม่ได้ แต่ฟ้าก็ยังปรานีให้นักแปลที่ฟีน่าอยากรู้จักที่สุด คือคุณมดแดง อุตส่าห์ให้โอกาสได้เราพบนอกรอบ เพื่อได้ขอลายเซ็นและพูดคุยกันเท่าที่เวลาจะอำนวย และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของมิตรภาพที่เกิดขึ้นระหว่างฟีน่าและคุณมดแดง

เมื่อฟีน่าคิดจะทำมุมสัมภาษณ์ขึ้น คุณมดแดงก็เป็นลิสต์ต้นๆที่ฟีน่าจัดไว้เลยค่ะ เมื่อได้เจอกันอีกครั้งตอนต้นปีกับงานมีตติ้งมากกว่ารัก ฟีน่าก็ได้เกริ่นๆเรื่องนี้ไว้ และได้รับคำตอบที่น่ายินดีว่าคุณมดแดง ไม่รังเกียจจะให้ฟีน่าได้สัมภาษณ์ นักแปลที่ใครเป็นแฟนผลงานในชุดมากกว่ารักก็คงยอมรับว่าฝีมือในการแปลของเธอ ถูกอก ถูกใจคนอ่านอย่างเราเป็นอย่างยิ่งค่ะ และนอกเหนือจากผลงานที่จับใจเรา คุณมดแดงก็อะไรให้เราได้รู้จักเธอมากขึ้นกว่าตัวอักษรที่เธอได้บรรจงแปลออกมาให้เราอ่าน



ในจำนวนหนังสือชุดมากกว่ารักเกือบร้อยเรื่อง มีผลงานการแปลของคุณมดแดงอยู่ทั้ง 24 เรื่องด้วยกัน
1 จอมใจนายทัพ
2 รักประดับใจ
3 คู่แค้น... แสนหวาน
4 เล่ห์รักปักใจ
5 ตรารักตรึงใจ
6 ตำรับรักมัดหัวใจ
7 แค้นพรางใจ
8 ท่านหญิงสลับรัก ชุด ท่านหญิงจอมแก่น
9 ท่านหญิงมั่นรัก ชุด ท่านหญิงจอมแก่น
10 ท่านหญิงป่วนรัก ชุด ท่านหญิงจอมแก่น
11 ท่านหญิงพิสูจน์รัก ชุด ท่านหญิงจอมแก่น
12 เจ้าทะเลเล่ห์ร้าย
13 อดีตลับมายารัก
14 รักหวนสู่กลางใจ
15 ปราชญ์หญิงยอดรัก
16 จักรพรรดิบัญชา
17 พระมาตุลาตัวดี
18 พระพันปีตัวร้าย
19 ทรราชผู้เลิศล้ำ ชุดโอรสวรรค์ร้อยเล่ห์
20 เจ้าแผ่นดินจอมทระนง ชุดโอรสวรรค์ร้อยเล่ห์
21 จอมกษัตริย์ร้อยเล่ห์ ชุดโอรสวรรค์ร้อยเล่ห์
22 ลำนำทะเลทราย 1-3
23 หลงเงานาง
24 สาส์นอวลรัก























คงจะมีหลายเล่มที่เป็นเล่มโปรด เล่มประทับใจของบรรดาเหล่าแฟนๆ มากกว่ารักกันใช่ไหมค่ะ ทั้งจากเนื้อหานิยายที่สนุกเข้มข้นและฝีมือการแปลที่โดนใจคนอ่านอย่างเราๆ ได้เวลาที่เราจะไปรู้จักคุณมดแดงกันมากขึ้นแล้วค่ะ กับมากกว่ามดแดง




1. ก่อนอื่นคงต้องถามถึงคำถามมาตรฐานก่อนค่ะว่าทำไมพี่ถึงเลือกใช้ชื่อว่ามดแดงในการแปลหนังสือคะ



อันนี้ตอบตามจริงว่าเลือกแบบฉุกละหุกค่ะ เพราะตอนส่งต้นฉบับแปลเรื่องรักประดับใจไปให้แจ่มใสก็ไม่คิดว่าจะได้รับการตอบรับอย่างรวดเร็วแบบนั้น พอแจ่มใสถามว่าจะใช้ชื่อแปลว่าอะไรก็คิดว่าเอาชื่อเล่นก็แล้วกัน เพราะใช้มานานแล้วน่าจะถูกโฉลกที่สุด




2. อะไรคือแรงบันดาลใจให้พี่เลือกที่จะสนใจภาษาจีนจนสามารถแปลหนังสือออกมาได้เพราะเท่าที่ทราบมาภาษาจีนเป็นภาษาที่ยากภาษาหนึ่งเลยทีเดียว



แรงบันดาลจะมาจากการ์ตูนและนิยายล้วนๆ ค่ะ ฮ่ะๆ ตั้งแต่ยังเรียนประถม-มัธยมก็ติดการ์ตูนญี่ปุ่น ตอนนั้นร่ำร้องจะเรียน แต่โปรเจ็คก็จอดเพราะความพยายามยังน้อย (ยังเด็กอ่ะนะ)

ต่อมามัธยมปลายติดกำลังภายใน ก็ร่ำร้องจะเรียนแต่ก็พับไปเพราะโดนฟิสิกส์กับเลขมาข่ม ต้องเอาตัวรอดในวิชาหลักไปก่อน พอเข้ามหาวิทยาลัยไปเสียเวลากับการเดินทางจนหมดแรง แทบจะใช้การเดินทางครบทุกประเภทคือลงเรือข้ามคลองแสนแสบไปขึ้นรถเมล์เพื่อไปต่อรถไฟ พอเรียนโทก็ไปอเมริกา เลยต้องเอาภาษาอังกฤษให้รอดก่อน

พอทำงานเริ่มว่าง ก็ไปหากำลังภายในอ่านเหมือนเดิม ปรากฏว่าต้องอ่านซ้ำเพราะไม่มีใครแปลเพิ่มเท่าไหร่เลย แต่ก็สนุกนะทั้งที่อ่านซ้ำๆ นั่นแหละ แต่พออ่านซ้ำบ่อยๆ ก็ว่าโอ้ย ไม่ไหวละ ตอนแรกยังบอกร้านเช่าว่าเอาแบบมันส์ๆ แบบเจอของวิเศษเยอะๆ สู้กันเยอะๆ ต่อมาเริ่มลด spec บอกเหลืออะไรเอามาให้หมด จนเริ่มทนไม่ไหวก็คือเรียนมันซะเลยจะได้อ่านเอง ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนค่ะ ที่สำคัญคือแปลให้คุณแม่อ่านได้ด้วย (ขากำลังภายในเหมือนกัน) นี่ก็คือที่มาของการเรียนภาษาจีนและกลายมาเป็นนักแปลหนังสือค่ะ




3. ขออนุญาตถามว่าพี่เรียนจบการแปลมาจากไหนคะ และใช้เวลาในการทำงานแปลมานานหรือยังคะ



พี่เรียนภาษาจีนแบบตัวต่อตัวค่ะ คือติดต่อคนรู้จักที่แกเป็นคนจีนอายุมากแล้วและมีเวลาว่างมาสอน เหล่าซือจะมาสอนให้เฉพาะเสาร์-อาทิตย์ค่ะ เริ่มเรียนเมื่อ 8-9 ปีที่แล้ว ไม่ได้มีคู่มือสอนอะไรเป็นพิเศษ เพราะเหล่าซือก็ไม่ใช่อาจารย์ บางทีก็ซื้อหาตามร้านหนังสือมาเองค่ะ พอเรียนไปซัก 2 ปีอ่านข้อความง่ายๆ ได้ก็เริ่มอ่านนิยายกันเลยทีเดียว (แบบว่าใจร้อน)

พอเรียนเข้าปีที่ 3-4 พี่ก็ลองแปลกำลังภายใน พี่ไปเที่ยวเมืองจีนแล้วซื้อตามคำแนะนำของคนขายมา อ่านแล้วสนุกเลยคิดจะแปลให้คุณแม่อ่าน ถือเป็นการฝึกฝนภาษาจีนด้วย บางทีก็เล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนก็ยุว่าทำไมไม่แปลส่งสำนักพิมพ์ ก็เลยเลือกนิยายรัก (มากกว่ารัก) มาลองแปลดู เป็นเรื่องที่ชอบมากคือรักประดับใจ ส่งให้แจ่มใสพิจารณาประมาณปลายปี 50 นั่นก็คือจุดเริ่มต้นค่ะ ถ้านับจากเรื่องรักประดับใจก็ถือว่าอยู่ในวงการแปลหนังสือมา 3 ปีแล้ว




4. ตอนนี้พี่แปลหนังสืออย่างเดียวหรือแปลอย่างอื่นด้วยคะ



พี่มีงานประจำทำค่ะ งานแปลเป็นแค่งานอดิเรกเท่านั้น คือทำได้เฉพาะยามว่าง (เสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์)




5. ก่อนที่พี่จะได้แปลมากกว่ารัก ไม่ทราบว่าพี่เคยร่วมงานกับแจ่มใสมาก่อนหรือเปล่าคะ ถึงได้เป็นนักแปลรุ่นแรกที่แปลให้กับแจ่มใส



พี่ไม่เคยร่วมงานกับสนพ. ไหนมาก่อนเลยค่ะ แค่ลองสุ่มส่งต้นฉบับรักประดับใจไป ตอนนั้นยังลุ้นเพราะเป็นแนวใหม่ยังไม่มีใครทำ เลือกส่งแจ่มใสก่อนเพื่อนเพราะเห็นว่าเป็นผู้นำในตลาดนิยายรักใสๆ (ของเรามันก็หวานแหววซะขนาดนั้น) ก็ได้รับการตอบจาก บก. ว่าทางแจ่มใสดูๆ อยู่เหมือนกัน ถ้าพี่มีต้นฉบับดีๆ อีกส่งให้ดูก่อนก็ได้ พี่เลยส่งอีก 2 เรื่องของกู่หลิง , กุญแจไขรักของเตี่ยนซิน, ปราชญ์หญิงยอดรัก, จอมใจนายทัพของเฉียวอัน จบถึงตรงนี้แจ่มใสก็แจ้งว่าจะเปิดซีรี่ส์มากกว่ารักโดยมีรักประดับใจกับจอมใจนายทัพประเดิม อีก 2 เรื่องทางแจ่มใสหาไว้แล้ว และขอให้พี่แปลเรื่องคู่แค้นแสนหวาน จากนั้นพี่ก็ส่งต้นฉบับและรับแปลให้แจ่มใสมาตลอดค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะเน้นแปลเรื่องที่ตัวเองส่ง




6. แล้วทำไมพี่ถึงเลือกจะเสนองานแปลนิยายจีนคะ เพราะในช่วงเวลานี้กระแสเกาหลีฟีเวอร์กำลังมาแรงมาก และการพูดถึงนิยายจีนส่วนใหญ่เราจะนึกถึงแต่งานนิยายกำลังภายในค่ะ



ตอนที่พี่เลือกเรียนภาษาจีน (8-9 ปีก่อน) พี่ว่าตอนนั้นกระแสเกาหลียังไม่เท่าไหร่นะ ต่อให้ดังพี่ก็คิดว่าตัวเองเลือกภาษาจีนอยู่ดี เพราะพี่โตมากับนิยายกำลังภายใน และหนังจีนฮ่องกง มันอยู่ในสายเลือดไปแล้ว




7. ทำไมถึงเลือกเรื่องรักหวานๆ มาแปลคะพราะนิยายจีนที่แปลโดยคนไทยมีมานานแล้ว แต่เป็นนิยายแนวกำลังภายในทั้งนั้น



เรื่องแรกที่พี่หัดแปลก็เป็นกำลังภายในนะคะ แต่ในการเปิดตัวพี่คิดว่าเริ่มจากง่ายๆ แบบนิยายรักก่อนจะดีกว่า คือแนวมากกว่ารักยังไม่เคยมีใครทำ เรากำหนดมาตรฐานการแปลของเราเองได้ นักอ่านเปิดรับสิ่งใหม่ๆ เสมอ อีกอย่าง นิยายพวกนี้จะเล่มเดียวจบ แปลง่าย และนักอ่านตัดสินใจซื้อมาทดลองอ่านง่ายกว่าค่ะ และมันก็สนุกมากมิใช่หรือ ฮ่ะๆๆ




8. แล้วทำไมมากกว่ารักจึงเลือกแปลนิยายจีนแบบย้อนยุคค่ะ



อย่างที่ตอบในข้อก่อนๆ คือเมื่อนิยาย plot เริ่มเกร่อ เราในฐานะนักอ่านก็ต้องขวนขวายหาอะไรที่มันแตกต่างออกไป หลังจากพออ่านภาษาจีนได้และอ่านกำลังภายในจนสะใจ พี่ก็เริ่มอ่านนิยายรักจีนแบบย้อนยุค ทีแรกอยากลองเพราะเราอ่านแต่กำลังภายใน เลยคิดว่าลองเปลี่ยนแนวซิ แต่ยังเน้นว่าต้องเป็นยุคโบราณอยู่ดีเพราะมันติดมาจากกำลังภายใน ปรากฏว่าสนุกดี เนื้อเรื่องมันจะแตกต่างไปจากนิยายรักไทยเพราะความที่ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรมและแนวความคิดคนเราต่างกัน ทำให้มุมมองออกมาต่างกัน
บางคนอาจบอกว่านางเอกจีนทำไมซื่อจัง คือถ้าเรากลับไปเป็นผู้หญิงในยุคนั้น ไม่ได้เรียนหนังสือและต้องอยู่ในบ้านทั้งวัน เราจะเฉลียวฉลาดทันคนได้ยังไง ในเมื่อไม่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับคน (โดยเฉพาะผู้ชาย) นี่แหละค่ะเป็นความแปลก และเพราะเรื่องนี้ก็มีผู้หญิงที่ไม่ยอมรับสภาพ อยากออกไปดูโลกภายนอก ก็เป็นที่มาของ plot นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชาย ส่วนคำสอนประเภทก่อนออกเรือนเชื่อฟังบิดา ออกเรือนเชื่อฟังสามี สามีตายเชื่อฟังลูกชาย ก็เป็นอีกจุดที่เอามาสร้าง plot นิยายได้มันส์มาก ยังมีเรื่องในรั้วในวังที่น่าสนใจอีก พี่เลยคิดว่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นักอ่านยอมรับซีรี่ส์นี้ เพราะอย่างน้อยก็เพิ่มทางเลือกให้ได้อ่านนิยายที่มี plot เรื่องแปลกออกไป

นี่เป็นความเห็นส่วนตัวของพี่นะคะ คือในฐานะนักอ่านพี่ก็พยายามขวนขวายหาอะไรที่เพลิดเพลินมาอ่าน เลยได้พบและได้แปลมาให้น้องๆ อ่านกัน ส่วนของแจ่มใสที่เปิดซีรี่ส์ใหม่เป็นมากกว่ารัก พี่ว่าก็คงมีเหตุผลเดียวกันกับพี่ คืออยากเพิ่มทางเลือกให้นักอ่าน




9. เวลาที่แปลเสร็จแล้วต้องมีส่งตัวแปลให้ทาง สนพ.ที่เป็นเจ้าขอบลิขสิทธิ์ตรวจดูไหมคะ



พี่ไม่แน่ใจนะคะ เพราะบางครั้งแปลเสร็จแบบเฉียดฉิวส่งต้นฉบับ รอพิมพ์ แล้วก็วางขายเลย บางครั้งปกยังเสร็จตามไม่ทันด้วยซ้ำ ฮ่าๆๆ เขาอาจตรวจกันภายหลังหรือเปล่าไม่รู้ เพราะสำนักพิมพ์ที่ซื้อลิขสิทธิ์ก็หน้าเดิม ถ้าเขาไม่ไว้ใจคงไม่ขายลิขสิทธิ์ให้ต่อเนื่องนานแบบนี้




10. แล้วปกติพี่จะเป็นคนเลือกนิยายมาแปลเองหรือว่าทางสนพ.เป็นคนเลือกให้คะ



พี่จะเน้นแปลต้นฉบับที่ตัวเองส่งค่ะ เพราะพี่มีงานประจำทำ ไม่มีเวลาแปลเต็มตัว รับงานมากไม่ได้ เพราะถ้าส่งช้าจะทำให้แผนงานสำนักพิมพ์เขาเสียไปด้วย

ในตอนแรกที่เปิดซีรี่ส์ยังมีนักแปลจำกัด ต้องช่วยกันแปลค่ะ เพื่อให้ผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่พักหลังนักแปลมาสมัครกันมาก พี่เลยได้โอกาสถอยกลับมาพักบ้าง




11. โดยปกติแล้วงานนิยายทั่วไปจะมีบก.คอยดูแลงานแล้วงานแปลล่ะคะ จะต้องมีบก.คอยดูแลผลงานด้วยไหมค่ะ



มีค่ะ จะมีกอง บก. ด้านนิยายจีนโดยเฉพาะซึ่งแต่ละคนมีความรู้ทางภาษาดีมาก จบกันมาทางด้านนี้โดยตรง ต้องถือว่าพี่โชคดีมากๆ ที่เลือกติดต่อแจ่มใสเป็นแห่งแรก เพราะสนพ. นี้ให้โอกาสนักเขียนนักแปลหน้าใหม่ๆ มากค่ะ ทำให้ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของซีรี่ส์มากกว่ารัก




12. อุปสรรคในการแปลนิยายจีนมีอะไรบ้างคะ



ที่ยากๆ จะมีเรื่องประวัติศาสตร์ คำสุภาษิต (บางทีมันสื่อเป็นไทยได้ลำบาก) โคลงกลอน ซื่อตำแหน่งและการปกครองในสมัยต่างๆ ซึ่งต้องหาข้อมูลเพิ่ม บางครั้งถ้าเป็นจุดที่น่าสนใจพี่จะทำเชิงอรรถเพิ่มไว้ให้ รวมทั้งพี่มีจุดอ่อนเรื่องผันวรรณยุกต์ เวลาเทียบชื่อจีนมาเป็นไทยบางทีมีผิด อันนี้ทางสำนักพิมพ์ช่วยได้มากค่ะ




13. เรื่องเทคนิคการแปลหนังสือว่ามีขั้นตอนอะไรบ้าง จำเป็นมากน้อยแค่ไหนที่ผู้แปลควรมีความรู้เกี่ยวกับขนบประเพณีต่างๆ ...เพราะในเรื่องรักประดับใจ อธิบายเรื่องเหล่านี้เป็นเชิงอรรถไว้ด้วย และเชิงอรรถเนี่ยพี่มดแดงนำมาใส่ไว้เองเพื่อเป็นวิทยาทานกับผู้อ่านหรือมีอธิบายอยู่แล้ว



พี่ทำตามขั้นตอนปกติ ไม่แน่ใจว่าเรียกเทคนิคได้มั้ย คือพี่ต้องอ่านต้นฉบับจีนจนจบก่อน จะได้เข้าใจเนื้อเรื่อง และคิดว่าเราจะสื่อออกมาแนวไหน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นห้ามเปลี่ยนเนื้อเรื่องเขานะคะ ใส่อารมณ์ได้แต่ห้ามเปลี่ยน เวลาแปลต้องแปลให้ครบทุกตัวอักษร ห้ามตัด เวลาเกลาค่อยมาดูว่ามันเยิ่นเย้อไปหรือเปล่า (สำนวนจีนจะเป็นประมาณนี้) หรือสมเหตุผลมั้ย บางทีคนเขียนมีหลุดนะคะ ช่วยดูให้แกนิดนึง (ที่เจอผิดบ่อยๆ คือเรื่องเวลาและความไม่สมเหตุสมผล) เกลาจนเราอ่านแล้วหัวเราะ หรือร้องไห้ หรือยิ้มเขินเป็นใช้ได้ แสดงว่าได้อารมณ์

ความรู้ความเข้าใจเรื่องขนบธรรมเนียมประเพณีควรจะมี ที่สำคัญคือต้องเครซี่ในเรื่องพวกนี้ เพราะมันเป็นไฮไลท์ของเรื่องค่ะ ทำให้นิยายเราแปลกออกไป ถ้าแปลข้ามไปหมดจะไม่เหลือเค้านิยายจีนเลย พี่ก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญนะคะ เพราะไม่ได้เรียนมาทางนี้ แต่ถ้าพี่อ่านเจอพี่จะค้นคว้า ตานี้ถ้าเราพอรู้อยู่แล้วเราจะค้นหาได้เร็วขึ้น และอินกับมันเวลาแปล
นิยายพวกนี้จะไม่มีเชิงอรรถมาให้นะคะ พออ่านเจอและอยากให้คนอ่านรู้หรือเพื่อความเข้าใจ ต้องทำเพิ่มเองค่ะ




14. เป็นสิ่งที่ฟีน่าอยากถามมากเลยค่ะ ว่าทำไมการแปลชื่อตำแหน่งของบรรดาเหล่าฮ่องเต้ในเรื่องถึงใช้ว่าจักรพรรดิล่ะคะ เพราะส่วนใหญ่เราน่าจะคุ้นกับคำว่าฮ่องเต้มากกว่า



จริงๆ ตอนส่งต้นฉบับชุดแรกๆ พี่จะใช้คำว่าฮ่องเต้ ฮองเฮา ไทเฮา ค่ะ เพราะพี่ก็ชินแบบนั้น แต่พอหนังสือออกมาเปิดอ่านก็พบว่ามีการแก้ไข ถามทางสำนักพิมพ์เขาบอกว่าอยากให้ทำการแปลเป็นไทยให้หมด ต้นฉบับชุดหลังๆ เลยต้องแปลงค่ะ

ยังมีพวกคำลงท้ายที่เติมมาด้วย เจอทีแรกก็ตกใจ แต่ยังดีว่าไม่ใช่ครับ หรือค่ะ เพราะพี่ว่านั่นมันเหมือนคำสมัยใหม่ ขอรับและเจ้าค่ะยังพอรับได้

ทางสำนักพิมพ์จะให้ความสนใจในเรื่องชื่อและชื่อเฉพาะประเภทตำแหน่งมากค่ะ แต่ตัวเนื้อเรื่องที่แปลเขาจะไม่มาเปลี่ยนแปลงของเรา (เท่าที่พี่เปิดอ่านหลังออกมาเป็นรูปเล่มนะ)




15. หลายคนมีปัญหาว่านิยายจีนอ่านยาก พี่พอจะมีแนวทางในการแนะนำพิเศษๆอะไรบ้างไหมคะ ว่าจะทำให้อ่านงานนิยายแปลจีนได้ง่ายและสนุก



จริงๆ พี่คิดถึงปัญหาข้อนี้ตั้งแต่ตอนแปลเลยนะ เพราะจุดประสงค์พี่คืออยากให้คนอ่านนิยายจีนกันเยอะๆ (ไม่จำกัดเฉพาะกำลังภายใน) จึงพยายามเน้นแปลให้อ่านง่าย ปกตินิยายจีนจะอ่านยากตรง
1. ชื่อ อันนี้คงแก้ยาก จะไปเปลี่ยนชื่อตัวละครของเขาเป็นสมหมาย สมใจ หรือบังอร คงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นยิ่งนิยายยาวตัวละครเยอะจะเป็นจุดอ่อนที่สุด ปกติเวลาพี่อ่านจะเลือกจำเฉพาะตัวละครสำคัญๆ ค่ะ ไอ้พวกโผล่ฉากเดียวไม่ต้องไปสนใจมัน หรือเวลาแปลบางทีพี่จะย้อนให้ว่าตำแหน่งอะไรหรือเกี่ยวข้องกับใคร แต่ก็ต้องดูจังหวะด้วยว่าเหมาะสมหรือเปล่า
2. ตำแหน่ง อันนี้แก้ไขได้ ซึ่งเป็นจุดที่พี่โอเคกับแนวทางของเจ่มใสคืออะไรที่แปลได้แปลออกมาให้หมด คนอ่านๆ แล้วพอจะเทียบเคียงกับภาษาไทยที่คุ้นหู อย่างเช่น ฮองเฮา แปลเป็นพระมเหสี, เจียงจวิน แปลเป็นแม่ทัพ, กุ้ยเฟย แปลเป็นพระสนมเอก, เฉินเชี่ย แทนคำว่าหม่อมฉัน ฯลฯ แต่ถ้านักอ่านประเภทอยากรู้ศัพท์จีนก็อาจจะเสียอรรถรสไปบ้าง
3. กาพย์กลอนหรือสุภาษิต อันนี้ถ้าใช้แบบที่แปลงเป็นไทยไว้แล้วก็ได้ แต่บางทีมันไม่เข้ากัน เพราะสิ่งที่แปลงเป็นไทยอาจไม่มีอยู่ในเมืองจีน พี่จะใช้วิธีแปลจีน แล้วทำเชิงอรรถไว้ข้างล่างว่าเทียบกับสุภาษิตไทยคืออะไร หรือถ้าเป็นสุภาษิตคำคมที่อิงประวัติศาสตร์จีน อันนี้ต้องร่ายกันยาวในเชิงอรรถเลยค่ะ โดยแปลเป็นสังเขปให้ได้ใจความไว้ข้างบน (อันนี้ต้องขอออกตัวว่าเป็นเทคนิคส่วนตัวซึ่งลูกทุ่ง แต่ก็พยายามศึกษาค้นคว้า และพยายามแปลให้ได้อรรถรสที่สุดค่ะ)




16. ฟีน่าพยายามจะอ่านพินอิมาหลายเล่ม แต่อ่านไม่ออกสักที มีวิธีที่ทำให้อ่านง่ายๆอย่างไรบ้างคะ



บอกตรงๆ ว่าพออ่านได้แล้วก็ไม่เคยจำตัวสัญลักษณ์นั่นอีกเลย แต่มีเหมือนกันที่บางครั้งจำไม่ได้ว่าออกเสียงสองหรือสาม เอาว่าเรียนภาษาจีนหลีกเลี่ยงการท่องไม่ได้ค่ะ เหล่าซือจะให้พี่ท่องศัพท์และคัดลายมืออาทิตย์ละประมาณ 30 คำ อดทนหน่อยน้องฟีน่า แล้วผลที่ได้จะคุ้มมากสำหรับคนบ้าอ่านนิยายอย่างพวกเรา




17. โดยปกติแล้วนิยายจีนพวกนี้มาจะประเทศจีนหรือว่าจากประเทศอื่นๆคะ



ที่พี่เห็นบ่อยๆ จะซื้อลิขสิทธิ์จากไต้หวันกันนะคะ เพราะตลาดสิ่งพิมพ์เขาก้าวหน้ากว่าทางจีนแผ่นดินใหญ่ อาจเป็นเพราะสมัยก่อน (หรือยังเป็นหรือเปล่าไม่รู้) มีข้อจำกัดทางการเมืองและแนวความคิดอนุรักษ์นิยม ทำให้นักเขียนไหลออกไปไต้หวันกันหมด




18. หลายคนที่เป็นสาวกเรื่องรักประดับใจ ต่างก็เฝ้ารอคอยงานของกู่หลิงอีก ไม่ทราบว่าพอจะมีข่าวดีเร็วๆนี้ไหมคะ



พี่เคยถามไปเมื่อนานมาแล้ว เพราะมีต้นฉบับที่พี่เคยส่งไปค้างอยู่ ทางแจ่มใสตอบว่าติดปัญหาเรื่องค่าลิขสิทธิ์ที่แพงโหด รวมทั้งเงื่อนไขเข้มของสำนักพิมพ์ ดังนั้นคงยากที่จะได้อ่านอีก เพราะถ้าเป็นพี่ก็คงเลือกติดต่อกับสำนักพิมพ์ที่คุยง่ายหน่อยดีกว่า แต่ในแง่คนแปลก็เสียดายค่ะ




19. แนวโน้มและทิศทาง ของนิยายจีนกับนิยายไทยมีแตกต่างหรือคล้ายกันอย่างไรบ้างคะ



พี่ว่าคล้ายๆ กันนะ แรกๆ มักจะเริ่มจากนิยายแบบตรงไปตรงมา พอมันเกร่อไปหมดก็ต้องขยับไปหาอะไรที่เป็นไปได้ยากขึ้น เช่นอย่างนิยายรักก็เริ่มกลายเป็นรักแบบข้ามสัญชาติ ข้ามภพ ข้ามเผ่าพันธุ์ หรือประเภทแฟนตาซี / พารานอร์มอลไปเลย

อย่างหนังจีนเดิมๆ เราจะเห็นพวกหนังเจ้าพ่อ และกำลังภายใน อย่างกำลังภายในจะเป็นแนวบุญคุณความแค้น ต่อมาเป็นพวกตำนานเซียน ปัจจุบันมีแนวย้อนยุคและออกพารานอร์มอลด้วยแบบของหวงอี้
ส่วนนิยายรักจีนยุคหลังๆ จะฮิตแนวย้อนยุค คือคนยุคปัจจุบันย้อนกลับไปพบรักกับท่านอ๋องหรือไม่ก็ฮ่องเต้ ประมาณนั้น เคยอยู่ครั้งที่ไปเที่ยวเมืองจีนเห็นที่สนามบินมีแต่นิยายรักย้อนยุคเต็มไปหมดเลย ยังได้มา 3-4 เรื่อง แต่ส่วนใหญ่มักจะจบเศร้า แบบนางเอกกลับยุคปัจจจุบันหรือตายปล่อยให้พระเอกเหว่ว้าอยู่ในอดีตเพียงคนเดียว

พวกแฟนตาซีก็ฮิตมากค่ะ ส่วนใหญ่จะเขียนออกแนววาย (การ์ตูน ‘สายลับเจ้าเสน่ห์’ ที่พี่ชอบสมัยเด็กๆ ก็แนววายนะคะ ไม่ยักรู้ว่าเราล้ำหน้าตั้งแต่ยังเรียนมัธยม)




20. จากแนวทางตลาดนิยายไทยที่เคยเน้นแนวทะเลทราย แต่กลับเปลี่ยนมาเป็นแนวจีนมากขึ้นพี่เคยลองอ่านบ้างไหมค่ะ ถ้าพี่เคยอ่าน รู้สึกอย่างไรบ้างคะ



พี่คิดว่านักเขียนไทยก็คงพยายามหา plot ที่แปลกใหม่เหมือนกัน ดีค่ะ เพราะเป็นการเพิ่มทางเลือกให้นักอ่าน และเก่งมากเลยเพราะพี่คิดว่าตัวเองทำได้แค่แปลแต่ไม่มีปัญญาแต่งเองแน่
แต่ตัวพี่เองยังไม่มีโอกาสได้อ่านเลยนะคะ บอกจริงๆ ว่านอกจากหนังสือที่ตัวเองแปล พี่ไม่เหลือเวลาในการอ่านหนังสือของใครทั้งนั้น ถ้ามีโอกาส สิ่งแรกที่พี่จะเลือกอ่านคือกำลังภายในเรื่องใหม่ๆ ของคุณ น.นพรัตน์ค่ะ ซื้อไว้เต็มไปหมดแต่ยังไม่มีเวลาสังคายนาเลย




21. มาในช่วงระยะหลังฟีน่าได้อ่านนิยายจีนแปลมากขึ้นรู้สึกว่าคำคมและภาษิตของชาวจีนลึกล้ำมากๆ พี่ชื่นชอบคำคมไหนบ้างคะ



คำคมมีเยอะมาก จำได้บ้างไม่ได้บ้างว่ามาจากเรื่องไหน (และอาจจะไม่ตรงกับที่แปลในเล่มนะคะ ว่ากันสดๆ)
ผ่านมหานทีไม่แลลำนำน้อย
ต้นไม้สูงพันจั้ง ใบร่วงคืนรากโคน
ลูกวัวแรกเกิดไม่กลัวพยัคฆ์
ตั๊กแตนจ้องจับจั๊กจั่น กระจอกเหลืองอยู่เบื้องหลัง
วิหคสิ้นเกาทัณฑ์ซ่อน
งานเลี้ยงหงเหมิน (อันนี้เป็นตัวอย่างของสิ่งที่ต้องร่ายกันยาวในเชิงอรรถ อยู่ในลำนำทะเลทราย)
ใช้คนอย่าระแวง ถ้าระแวงก็อย่าใช้คน




22. ในบรรดาเล่มที่แปลมาเล่มไหนที่พี่ประทับใจที่สุดคะ



แหะๆ พี่ชอบทุกเรื่องที่พี่เลือกต้นฉบับไปเองนะ ถ้าจำเป็นต้องเลือกขอเลือก รักประดับใจ กับ ตำรับรักมัดหัวใจ แล้วกัน (เกิดอาการรักพี่เสียดายน้องมากค่ะ)




23. นักเขียนที่พี่อยากจะนำมาแปลบ่อยๆคือใครคะ



2 เรื่องแรกที่พี่ส่งต้นฉบับไปให้แจ่มใสพิจารณาคือรักประดับใจของกู่หลิงและกุญแจไขรักของเตี่ยนซินค่ะ ที่เลือก 2 เรื่องนี้มาประเดิมเพราะพี่ชอบการเขียนนิยายของ 2 ท่านนี้มาก กู่หลิงคือเจ้าแม่แห่งสำนักมังกรคำราม ส่วนเตี่ยนซินคือเจ้าแม่แห่งสำนักบ้านสุนัข แต่บังเอิญพี่ดวงไม่สมพงศ์กับเตี่ยนซิน พอแจ่มใสซื้อลิขสิทธิ์พี่ก็ติดแปลเรื่องลำนำทะเลทราย เลยแปลไม่ได้เพราะจะไม่ทันงานหนังสือ ดีใจมากว่าในที่สุดก็ได้นำมาแปลให้นักอ่านได้อ่านกัน ดังนั้น 2 นักเขียนนี้พี่ชอบ ตามมาด้วยอวี๋ฉิง ที่เขียนพระมาตุลาตัวดีกับหลงเงานางค่ะ แต่ท่านสุดท้ายนี่จะออกแนวดราม่าหน่อยนะคะ เป็นผลมาจากนักอ่านเรามีอายุแตกต่างกันมากและหลายรสนิยมค่ะ (ถ้าคุณฟีน่ายังจำงาน meeting ได้จะเข้าใจ) เลยต้องหาแนวให้หลายหลากอารมณ์บ้าง แต่ยังยึดหลักหวานใสเป็นส่วนใหญ่
ยังมีนักเขียนอื่นๆ ที่พี่เคยส่งต้นฉบับไปและได้แปลออกมา ทุกคนเขียนหนังสือสนุกทั้งนั้นค่ะ เสียดายยังมีอีกหลายท่านที่พี่ชอบ แต่บังเอิญอยู่ในค่ายสำนักมังกรคำรามซึ่งโหดเรื่องลิขสิทธิ์ เลยคงไม่มีโอกาสได้แปล




24. อยากเป็นนักแปลที่ดีต้องทำอย่างไรคะ และเคยกังวลใจไหมคะว่าน้องจะอ่านนิยายแปลจีนไม่เข้าใจ เพราะการอ่านนิยายที่มีทำนองแบบจีนนั้นต้องแปลไทยเป็นไทยอีก



นั่นคือเหตุผลของการแปลทุกตัวแบบไม่มีทับศัพท์ และการใส่เชิงอรรถค่ะ นิยายรักไม่มีเชิงอรรถมาให้หรอกนะคะ เราต้องหามาใส่เองเพื่ออำนวยความสะดวกและให้ความรู้เพิ่มกับนักอ่าน ส่วนท่วงทำนองให้ออกแนวจีนเป็นเรื่องจำเป็นค่ะ ไม่งั้นจะไม่แตกต่าง เหมือนอ่านนิยายไทยที่ชื่อตัวละครเป็นภาษาจีน ซึ่งนั่นคือความล้มเหลวโดยสิ้นเชิงในความคิดของพี่ค่ะ




25. ถ้าน้องๆสนใจอยากจะเรียนรู้ภาษาจีนควรจะทำอย่างไรบ้างค่ะ



ปัจจุบันมีโรงเรียนสอนเปิดเยอะค่ะ แต่พี่แนะนำให้เรียนแบบ class เล็กๆ ลองหาเพื่อนที่บ้านิยายจีนเหมือนกันซัก 4-5 คน แล้วจับมือปฏิญาณกันว่าจะเรียนจนสำเร็จวิชา ฮ่ะๆๆ ซึ่งหมายความว่าต่อให้ทางโรงเรียนหยุดสอน (เพราะข้ออ้างฮิตคือนักเรียนไม่พอ) พวกน้องๆ ก็ยังติดต่อเหล่าซือไปเรียนกันเองได้




26. แล้วมีเทคนิคไหมคะที่ให้จำได้แม่นๆ เข้าใจภาษาจีนได้ง่ายขึ้น



ส่วนเทคนิคการจำพี่ว่าเหมือนตามโรงเรียนสอน คือพี่จะมีการบ้านต้องท่องและเขียนภาษาจีนอาทิตย์ละ 30- 40 คำค่ะ นี่คือตอนต้นๆ ที่ยังอ่านไม่ค่อยรู้เรื่องนะ หลังจากนั้นก็ขี้เกียจเพราะฉันอ่านได้แล้ว เย้ๆ




27. นิยามของมากกว่ารักที่พี่คิดว่าเหมาะกับมากกว่ารักคืออะไรคะ



ถ้าได้อ่านแล้วจะเห็นว่าผู้หญิงจีนสมัยก่อนจะได้พบรักที่สมปรารถนาทีต้องอาศัยมากกว่าความรักค่ะ มันต้องมีบุญวาสนา โชคชะตามาเกี่ยวข้อง และเพราะโอกาสได้พบรักเกิดขึ้นได้ยาก (เพราะเธอๆ ช่างถูกเก็บตัวมิดชิดเหลือเกิน) จึงเป็นรักประเภทฝังใจ พระเอกนางเอกจะทุ่มเทให้กันและกันมาก ประเภทตายแทนกันเป็นเรื่องปกติ




28. ตอนนี้พี่มีโครงการกำลังแปลอะไรอยู่บ้างคะ



ตอนนี้พี่ขอพักตาชั่วคราวถึงสิ้นปี ยังไม่ได้คุยเรื่องตารางแปลในปีหน้ากับแจ่มใส แต่เห็นบก. บอกเตรียมชุดกุ๊กกิ๊กหวานใสไว้ให้ เพระช่วงที่ผ่านมาพี่แปลดราม่าติดๆ กัน เลยต้องเปลี่ยนอารมณ์กันบ้าง ฮ่ะๆๆ

สุดท้ายขอขอบคุณน้องฟีน่านะคะ ที่ให้โอกาสนักแปลโนเนมอย่างพี่ได้มีโอกาสพูดคุยกับนักอ่าน พี่เป็นนักแปลหน้าใหม่ ยังต้องพัฒนาอีกเยอะ สิ่งที่ให้สัมภาษณ์มาทั้งหมดคือแนวทางการแปลและแนวคิดส่วนตัวของพี่ ซึ่งยังต้องพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ และก็ถือโอกาสนี้ฝากถึงนักอ่านทุกคน อยากอ่านแนวไหนเสนอกันมาได้นะคะ จะเป็นประโยชน์กับทางแจ่มใสในการพิจารณาต้นฉบับเรื่องต่อๆ ไปค่ะ





ฟีน่าเองก็ขอขอบคุณพี่มดแดงด้วยที่เสียสละเวลามาตอบคำถามของฟีน่าด้วยค่ะ เพราะพี่มดแดงก็ยุ่งไม่ใช่น้อย ขอบคุณที่ทำให้เราได้เข้าใจการทำงานและความเป็นนักแปลอย่างพี่มดแดงมากขึ้นนะคะ จากที่ได้อ่านบทสัมภาษณ์มา สิ่งหนึ่งที่ฟีน่าได้รับรู้มากขึ้นคือ คนเราถ้าหากอยากประสบความสำเร็จต้องพยายามค่ะ เพราะฟีน่าเองคิดว่าพี่มดแดงคงจะเรียนรู้และพูดภาษาจีนมาได้ตั้งแต่เด็กๆ เพราะถ้าใครเคยเจอพี่มดแดงคงจะคิดคล้ายๆกับฟีน่านะคะ แต่เมื่อได้ทราบ ก็ยิ่งทึ่งในความสามารถค่ะ ขอบคุณที่พี่ได้นำความสามารถดีๆนี้มาสร้างสรรค์ผลงานให้พวกเราได้อ่านมากกว่ารักค่ะ






Create Date :20 ธันวาคม 2553 Last Update :21 ธันวาคม 2553 10:17:01 น. Counter : Pageviews. Comments :15