bloggang.com mainmenu search

จารจำนาง อวี๋ฉิง



สกุลสี นำมาทั้งความรุ่งเรือง ชื่อเสียงและความยำเกรงมาแด่ทุกคนที่ได้ใช้สกุลนี้ แต่คงไม่มีใครจะโดดเด่นไปกว่าสีเลี่ยเฟิง คุณหนูหกแห่งสกุลสีอีกแล้ว นอกจากความงดงามที่ฉายแววมาตั้งแต่ยังเด็ก ความทระนงในตัวเอง ตรงไปตรงมา และเธอก็ยังเป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิแห่งหนานหลินอีก เช่นนี้แล้วสกุลสีคงจะยิ่งใหญ่ไม่มีใครเทียบได้ ทว่าคนที่ทำให้สีเลี่ยเฟิงต้องเอาอกเอาใจเป็นที่สุดกลับไม่ใช่องค์จักรพรรดิ กลับกลายเป็นสีฉางมู่ พี่ห้าที่เธอเคารพนับถือ และยอมตนเป็นมือเป็นเท้าให้พี่ชายคนละแม่ที่ฉลาดหลักแหลม หากแต่ดวงตาฝ้าฟาง



เกิดเป็นคนสกุลสีดีเช่นไร ทั้งๆที่สีฉางมู่เกิดเป็นคนตระกูลที่เรียกได้ว่าทุกคนล้วนยำเกรง แต่เขาล่ะ เพียงแค่มีกำเนิดจากมารดาที่ไร้สกุลต่างภรรยาคนอื่นของบิดา เขาจึงไม่อาจเป็นที่ยอมรับได้ ยกเว้นคงมีเพียงสีเลี่ยเฟิงเท่านั้นที่ผูกพันกับเขาเป็นที่สุด เธออาจจะเป็นคุณหนูหกที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนานหลิน แต่ในยอมที่อยู่ด้วยกัน เขาเปรียบเสมือนเทพเจ้าของสีเลี่ยเฟิง ทว่าเขาไม่ได้ปรารถนาเช่นนั้นเลย ด้วยเหตุผลของความลับเกี่ยวกับตัวของสีเลี่ยเฟิง



คงมีแต่เธอเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้นที่คิดไปเองว่ามีเพียงสีฉางมู่เท่านั้นที่รักใคร่ในตัวน้องสาวเช่นเธอ เพราะความสัมพันธ์ที่แสนประหลาดแห่งสกุลสี เธอจึงเปรียบเสมือนคนแปลกหน้าในครอบครัว ความภักดีทุกอย่างที่สีเลี่ยเฟิงมอบให้จึงมีแด่พี่ห้า แต่แล้วความจริงก็ไม่ต่างไปต่างจากคนอื่น สีฉางมู่มิได้ไยดีในตัวเธอเท่าไร หรือที่ผ่านมาเขาก็มองเห็นเธอเป็นแค่ตัวน่ารำคาญ เมื่อสิ่งที่เธอพยายามทำไร้ผล สีเลี่ยเฟิงก็พร้อมจะใช้ชีวิตอย่างที่ทุกคนต้องการ เป็นเพียงกบน้อยที่โลกแคบๆในก้นบ่อไปวันๆ



ถ้าหากสีฉางมู่จะรู้ว่าที่ผ่านเขาหลอกตัวเองเสมอมา เขาจะไม่ปฏิบัติกับสีเลี่ยเฟิงอย่างนั้น มันยุติธรรมแล้วหรือที่ทุกคนพอกันเย็นชาต่อสีเลี่ยเฟิงเพียงเพราะชาติกำเนิดที่ทุกคนในสกุลสีล้วนแต่รู้ดีว่ามันเป็นแค่เรื่องหลอกลวง ใช่แต่สีเลี่ยเฟิงเท่านั้น ทุกคนรวมทั้งตัวเขาเองก็ไม่มีคนสักที่เป็นคนสกุลสีอย่างแท้จริง ทว่าในตอนนี้สีฉางมู่ได้เรียนรู้แล้วอะไรคือความต้องการที่แท้จริงที่ร่ำร้องไม่ให้เขาหันหลังให้กับแผ่นดินหนานหลิงอย่างที่เคยตั้งปณิธานไว้ นั้นก็คือสีเลี่ยเฟิงเพียงคนเดียว



คนเราล้วนมีชะตาที่พลิกผันไม่รู้จบ วันนี้รุ่งเรือง พรุ่งนี้ตกต่ำ ชีวิตของสีเลี่ยเฟิงก็คงเป็นเช่นนั้น สกุลสีที่ครั้งหนึ่งประดุจผู้วิเศษแต่กลับต้องมาสิ้นสลายไปในชั่วพริบตา จากความเชื่อที่แสนงมงายของใครบางคน วันที่คืนที่ปวดร้าวเปลี่ยนสีเลี่ยเฟิงที่เคยงดงามราวนางฟ้าให้แปรเปลี่ยนเป็นแค่ซากร่างกายที่ยังมีลมหายใจ แต่หากเลือกได้สีเลี่ยเฟิงก็ขอจบชีวิตลงเสียจะดีกว่า ถ้าไม่เพราะกำลังใจจากสีฉางมู่ผู้ไม่ยอมให้เธอปล่อยตัวเองให้หลุดลอยไปตามชะตากรรม



นับจากนี้แผ่นดินหนานหลินจะไม่มีคนสกุลสีอีกต่อไป เมื่อมันไม่ใช่ของทั้งเขาและสีเลี่ยเฟิง โซ่ตรวนที่พันธนาการคนทั้งตระกูลเอาไว้ด้วยคำว่าสกุลสีที่เลื่องลือจะถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง มันเป็นเหมือนตราบาปที่พรากทุกอย่างไปจากเขาและสีเลี่ยเฟิง มันอาจจะเคยนำความรุ่งเรือง ความสุขมาให้ แต่มันก็แอบซ่อนน้ำตาและคราบเลือดเอาไว้เสมอ ทว่าที่สุดแล้วผีแห่งคำว่าสกุลสีก็ไม่อาจทำให้สีฉางมู่โบยบินดั่งอินทรีไปพร้อมกับกบน้อยสีเลี่ยเฟิงได้ตามใจปอง เพราะนี้หนานหลิน แผ่นดินที่ต่อให้ทิ้งบาดแผลไว้ให้สีเลี่ยเฟิงเท่าใด เธอก็ปรารถนาจะปกป้องมัน



คำทำนายที่เคยทำลายสีเลี่ยเฟิงลงก็คงเป็นเพียงตำนาน เธอไม่เคยปรารถนาสิ่งใดเลยในแผ่นดินหนานหลิน สีเลี่ยเฟิงไม่โลภมากขนาดนั้นหรอก หนึ่งเดียวที่เธออยากได้มาครอบครองคือการได้เคียงข้างพี่ห้าของเธอเท่านั้น วิบากกรรมที่แปรเปลี่ยนยอดหญิงคนหนึ่งที่เคยงดงามฉูดฉาดบาดตา บาดใจ เต็มไปด้วยวาสนา บารมี มาเป็นเพียงหญิงที่ไร้ชื่อแซ่ที่จะบอกกล่าวได้เต็มปากว่าเธอคือสีเลี่ยเฟิง นักโทษคดีสำคัญ แต่มันก็ผ่านไปแล้ว และถ้านับว่าสิ่งที่เธอเผชิญแล้วผลที่ได้รับคือการได้ครองคู่กับสีฉางมู่ เธอก็ยินดี ไม่ว่านับจากนี้เธอจะเป็นใครก็ตามที



สีฉางมู่เคยปรารถนาจะโบยบินออกไปสู่ดินแดนอันแสนกว้างใหญ่ ไปสู่การเป็นที่ยอมรับของผู้คน แต่ท้ายที่สุดเขาก็ไม่อาจสลัดคำว่าหนานหลินออกจากชีวิตได้ แต่มันก็ไม่ได้เป็นยอดปณิธานของเขาอีกต่อไป เพราะไม่ว่าจะอยู่ที่ใด เขาปรารถนามีเพียงสีเลี่ยเฟิงอยู่ข้างกายเท่านั้น คนสกุลสีแห่งหนานหลินอาจจะเคยรุ่งเรือง ตกต่ำ หรือในอนาคตจะเป็นเช่นไร ก็สุดแล้วแต่สวรรค์จะลิขิต หากแต่ตอนนี้สีฉางมู่รู้ดีว่า จะไม่มีใครบนแผ่นดินหนานหลินที่ไม่จารจำสีเลี่ยเฟิง 

Create Date :16 กันยายน 2556 Last Update :16 กันยายน 2556 15:46:15 น. Counter : 9533 Pageviews. Comments :4