บันทึกรักเคหาสน์เมฆา อวี๋ฉิง
แม้นว่ากงซุนเย่าไป๋จะมีศักดิ์เป็นท่านอาหญิงของเขาแล้วจะเป็นเช่นไรเพราะในสายตาของกงซุนเสี่ยนเธอก็เป็นแค่เด็กผู้หญิงที่อายุมากกว่าเขาเพียงแค่ไม่กี่ขวบปีความอ่อนแอและบอบบางของเธอกลับต้องทำให้เขาผู้เป็นหลานชายคอยดูแลเสียด้วยซ้ำ และดูเหมือนว่าคำกล่าวที่บอกว่าหญิงงามมักอาภัพจะเป็นจริงเหตุการณ์เลวร้ายในเคหาสน์เมฆาได้ทำให้กงซุนเย่าไป๋ผู้งดงามสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย
ใช่แต่กงซุนเย่าไป๋จะเสมือนไม่มีตัวตนแม้แต่กงซุนเสี่ยนก็ไม่ต่างกันแต่ในยามที่เขากลับคืนสู่เคหาสน์เมฆาบางอย่างได้ทำให้บุรุษที่จะคล้ายเป็นคนพรรคธรรมะก็ไม่ใช่พรรคมารก็ไม่เชิงได้เลือกเส้นทางของชีวิตแล้ว และที่ยิ่งกว่าทุกคนจะคาดคิดไว้บุรุษที่งามสง่าเช่นเขากลับมีพันธะแล้วหากแม้นว่าภรรยาของกงซุนเสี่ยนจะงดงามคู่ควรกับเขาทุกคนคงไม่แปลกใจหากแต่ซานเฟิงกลับเป็นหญิงอวบอ้วนที่สนใจเพียงแค่เรื่องกินเท่านั้น
ในชีวิตของซานเฟิงตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาเรื่องกินคือสิ่งที่เธอต้องเอาใจใส่เป็นที่สุดแต่จะมีใครสักกี่คนรู้ว่าทำไมเธอจึงต้องกิน กินและกินจนลืมตัวลืมตายเช่นนี้และความลับที่ทำให้ซานเฟิงต้องเป็นเช่นนี้ก็เหมือนชักพาให้กงซุนเสี่ยนต้องมารับเคราะห์ในสิ่งที่เขาไม่ได้ทำ จนบางทีเธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ชายอย่างเขาจึงต้องมาแบกรับภาระหรือหนทางที่จะช่วยกงซุนเสี่ยนก็คงมีแค่ปล่อยให้เธอจบชีวิตลง
ถึงแม้ซานเฟิงอยากจะดับลมหายใจของตัวเองกงซุนเสี่ยนก็ไม่มีวันยอมเพราะเขาลงทุนลงแรงไปกับภรรยาตัวอ้วนกลมผู้นี้อย่างที่สุดจะประมาณได้ดังนั้นทางเดียวที่เธอจะตอบแทนเขาก็คือมีชีวิตอยู่ในยาวนานที่สุด มีความสุขที่สุดและห้ามสิ้นหวังต่อทุกความพยายามที่ผู้เป็นสามีเช่นเขาจะทำมันเพื่อต่อลมหายใจของซานเฟิง
ในบางครั้งซานเฟิงก็อาจไม่เข้าใจว่าสิ่งใดกันที่ชักพากงซุนเสี่ยนเข้ามาสู่ชีวิตที่แปลกประหลาดของเธอแต่สิ่งที่เธอไม่เคยคิดก็คือคำว่ารัก แต่ครั้นจะให้เธอปล่อยเขาไปอย่างไม่เจ็บปวดก็คงไม่อาจเป็นไปได้บุรุษที่สงวนคำพูดเช่นกงซุนเสี่ยนอาจไม่เคยพูดจาอ่อนหวานหรือมีถ้อยคำเป็นร้อยเป็นพันเพื่อเอาอกเอาใจเธอหากแต่การกระทำทุกอย่างที่เขาทำมันมากมายกว่า ทว่าการได้รับฟังเพียงคำหนึ่งคำก็เป็นสิ่งที่ซานเฟิงปรารถนามาตลอดชีวิต
นับตั้งแต่กงซุนเสี่ยนตัดสินใจทำในสิ่งที่เขาปรารถนามาตลอดเขาก็ไม่เคยเสียใจที่ทำเช่นนี้ เขาต้องการเป็นทุกอย่างที่มีอยู่ในชีวิตของซานเฟิงเป็นรสชาติเดียวที่เธอควรลุ่มหลง เป็นความหิวกระหายเดียวที่ถูกดับได้ด้วยตัวเขา และเป็นคนรักคนเดียวในชีวิตไม่ว่าซานเฟิงจะเป็นเช่นไร งดงามหรืออ้วนกลมเธอก็คือสตรีที่กงซุนเสี่ยนรักปักใจตลอดไป
ของดองที่ปล่อยให้คนอื่นเขาอ่านกันไปล่วงหน้า ส่วนเราขอเวลาอีกสักนิด ได้ที่ได้เวลากันแล้ว ไม่รอช้าจัดงานของอวี๋ฉิงมาอ่านต่อกันทั้งบันทึกรักเคหาสน์เมฆาและบทเพลงรักเคหาสน์เมฆา ส่วนเล่มต่อไปก็อดใจรออีกนิดค่ะ เรื่องนี้ถ้าใครเป็นแฟนของอวี๋ฉิงก็คงรู้กันดีอยู่แล้วว่าเป็มเล่มต่อมาจากศึกรักประลองใจ ที่ฟีน่าลืมเรื่องไปหมดแล้ว รู้แค่ว่าเป็นเรื่องของพ่อแม่ของกงซุนเสี่ยน พระเอกในเล่มนี้เท่านั้นเองคะ จะพยายามไม่สปอยส์เนื้อหามาก เพราะว่ามันความลับอะไรบางอย่างอยู่ที่อ่านไปตอนแรกจะงงๆ ว่าทำไม ยังไง แต่พออ่านไปสักพัก นิยายจะเฉลยตัวเองค่ะ
ถึงแม้จะเป็นเล่มต่อกัน จำเป็นต้องอ่านต่อกันไหม ก็ควรนิดๆค่ะ ถ้าหาไม่ได้ก็ไม่ถึงกับว่าต้องอ่านก่อนถึงจะรู้เรื่องนะคะ เนื่องจากรุ่นลูก รุ่นพ่อ มีเนื้อหาแยกจากกันค่ะ เรื่องนี้จะเริ่มต้นด้วยการพูดถึงชีวิตในวัยเด็กของพระเอกและท่านอาบุญธรรม แต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างก็ทำให้ชีวิตของทุกคนในเคหาสน์เมฆาเปลี่ยนไป ท่านอาบุญธรรมหายสาบสูญไป พระเอกก็ไม่ต่างกัน ช่วงเวลาหนึ่งที่ไม่รู้ว่าเขาไปอยู่ที่ใด แต่กลับมาอีกครั้งเขาเก่งกาจยิ่งกว่าเดิม เป็นที่หมายปอง แต่ไม่คิดเลยว่าเขากลับแต่งงานแล้วกับสตรีที่ไม่คู่ควรเป็นที่สุด หน้าตาอาจสวยหากแต่อวบอ้วน เอาแต่กินลูกเดียว และพระเอกผู้เหมือนจะเย็นชาต่อทุกอย่างบนโลกใบนี้ ก็ทำให้คิดได้เพียงอย่างเดียวว่าคงมีอะไรที่ทำให้เขาต้องยอมแต่งงานกับสตรีที่ไม่ได้เหมือนจะรักใคร่คนนี้เลย หากมันมีความลับมากมายซ่อนอยู่ในสิ่งที่แสดงออกให้ทุกคนเห็น เพราะมันคือสิ่งเดียวก็คือความรักที่ทำได้ทุกอย่าง
ปกติเวลาอ่านงานอวี๋ฉิงก็ต้องแปลไทยเป็นไทยกันอีกรอบ ตีความกันไประหว่างอ่านว่าอวี๋ฉิงเขาจะสื่อสารอะไรให้เราเข้าใจบ้าง อ่านผิด ข้ามบรรทัด ตีความเพี้ยนนี้อาจจะไม่เข้าใจกัน แต่เล่มนี้กลับไม่ต้องคิดมากให้ปวดหัวเลยค่ะ แรกๆ อาจจะดูไม่เข้าใจบ้างเล็กน้อยว่าเรื่องมันเป็นยังไง แต่อ่านไปแล้วต้องบอกว่าเข้าใจง่ายดายเป็นที่สุดค่ะ รักคำเดียวเลย พระเอกถึงได้ทุ่มเทให้นางเอกขนาดนั้น สิ่งที่เหมือนไม่ใส่ใจที่สุดก็คือการห่วงใยเป็นที่สุด แต่เพราะว่าพระเอกไม่ใช่คนช่างพูด ติดจะเย็นชาเสียมากกว่าก็คงไม่มีใครจะแปลความรู้สึกในใจเขาออกมาได้ แม้แต่นางเอกเองก็ยังไม่อาจเข้าใจว่าทำไมเขาถึงทำแบบนี้ เสียสละตัวเองถึงเพียงนี้ เขาจะพยายามยื้อชีวิตเธอจากความตายไปเพื่ออะไร ในเมื่อบางทีอยู่ก็ทรมานเสียยิ่งกว่า หากในความไม่สิ้นหวังก็ยังต้องมีแสงสว่างอยู่
ซึ่งถ้าถามตัวเองว่าในบรรดาสามเล่มของชุดนี้ที่อ่านมา บันทึกรักเคหาสน์เมฆาเป็นเล่มที่ฟีน่าชอบที่สุดนะคะ แต่เล่มแรกที่เทียบลำบากเพราะค่อนข้างลืมไปหมด แต่ที่ชอบเล่มนี้เพราะความไม่ซับซ้อนของเรื่องนี้เอง พระเอกทำทุกอย่างได้เพื่อนางเอก ยิ่งมันเป็นนิยายจีน อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ จึงพิศดารได้ไร้ข้อจำกัด เรื่องนี้ก็เช่นกันทั้งการวางแผนอันเลวร้ายของกลุ่มคนหนึ่ง เปลี่ยนทุกอย่างในชีวิตของทั้งคู่ไป แต่มันก็กลายเป็นสิ่งที่พิสูจน์หลายๆ สิ่ง รวมทั้งคำว่าบุพเพระหว่างกันไปด้วย พระเอกที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยอะไรมากมาย มองผ่านๆ รักนางเอกหรือเปล่า แต่ระหว่างที่อ่านไป เราจะเห็นถึงความรักที่เขามีให้ และกลายเป็นความหวงแหนแบบแปลกๆ ที่เขาไม่ยอมให้ใครมามีความสำคัญกับนางเอกเท่าเขาได้ หึงแม้แต่ของที่ไร้ชีวิตก็ยังมี แต่มันก็เป็นความขำนิดๆ ที่ดูน่ารักดี ซึ่งถ้าคนสองคนที่ผ่านวิบากกรรมแบบหนักหน่วงแบบนี้มาได้ก็จัดว่าจิตใจเข้มแข็งไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะตัวพระเอกที่ไม่ย่อท้อกับทุกอย่าง เรียกว่าถ้าไม่มีเขา นางเอกอาจไม่คิดสู้มาจนได้อยู่ด้วยกันก็เป็นได้
เนื้อเรื่องอาจจะไม่หวือหวามากมาย เนิบๆ ไปบ้างในบางทีแต่อาศัยว่าความตื่นเต้นของเรื่องนี้อยู่ที่อะไรที่จะเป็นตัวแปรที่ทำให้นางเอกหายจากสิ่งที่กำลังจะฆ่าเธอให้ตายลงทุกวันๆ จะทันหรือเปล่า จะมีวิธีหรือไม่ ลองแล้วจะได้ผลไหม แล้วความลับที่ทุกคนเก็บงำเกี่ยวกับเธอจะลงเอยแบบไหน เป็นสิ่งที่น่าสนใจที่สุดในเล่มนี้แล้วทำให้ฟีน่ารู้สึกว่าเล่มนี้ค่อนข้างจะสนุกสำหรับตัวเองเลยนะคะ แต่คนที่ชอบนิยายแนวตื่นเต้นเร้าใจกันสุดๆ อาจจะไม่ถึงขนาดนั้น ส่วนความดรามาบีบน้ำตามีเป็นช่วงๆ อาจจะเป็นตอนที่นางเอกต้องต่อสู้กับความเป็นความตายของตัวเอง จนในบางครั้งเธอทอดอาลัยไปแล้ว แต่ก็มีพระเอกมาฉุดรั้งเธอไว้ จึงไม่เข้าข่ายนิยายที่ทำให้บ่อน้ำตาแตกน้ำตาไหลพรากๆ แบบนั้นนะคะ แค่พอน้ำตาซึมๆเท่านั้นค่ะ แต่สำหรับคนที่เป็นแฟนอวี๋ฉิงก็ไม่ควรพลาดนะคะ นิยายมีความซาบซึ้งในตัวของมันเอง ที่อ่านแล้วเข้าใจได้ทันทีเลยว่ารักแท้คืออะไร ก็คือการเสียสละและทุ่มเทเพื่อคนที่เราจริงๆ ต้องบุกน้ำลุยไฟก็จะทำเพื่อคนที่ตนรัก รักที่เนื้อแท้ข้างในไม่ใช่รูปกายภายนอก จะสุขหรือทุกข์ก็ต้องอยู่เคียงข้างกันไม่ทิ้งไปไหน แบบที่กงซุนเสี่ยนทำต่อซานเฟิงนะคะ เวลาแห่งความทรมานอาจนานแต่ไม่เท่ากับเวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันและรักกัน
โดย: ฟิลิเซียน่า 2 มิถุนายน 2558 9:48:33 น.