กิจกรรมเดินย้อนรอยพิพิธศิลปวัฒนธรรม "เมื่อฝรั่งเข้าเมืองสยาม"






สวัสดีค่ะ ทริปนี้...ไปตั้งแต่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๕ ทำรูปเสร็จนานแล้ว แต่พอจะอัพบล็อกจริงจัง เครียดเลยค่ะ ขออนุญาตลอกข้อความจากหน้าเพจของชมรมพิพิธสยามมาดีกว่านะคะ


ชมรมพิพิธสยาม เกิดขึ้นมาจากการเติบโตของกลุ่มกิจกรรมสไมล์ทริป รอยยิ้มแห่งธรรมชาติและวัฒนธรรม ที่ก่อกำเนิดขึ้นจากการรวมตัวกันของกลุ่มผู้รักการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติศิลปวัฒนธรรมบนสังคมเครือข่ายออนไลน์ Facebook โดยมีผู้ร่วมก่อตั้งในครั้งแรก ๒ ท่านด้วยกันคือ


๑. นายอติรุจ วัชรยุคนธร

๒. นายณัฐวุฒิ หงษ์ทอง


เมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๓ ซึ่งได้รวมกลุ่มกันจัดกิจกรรมนำชมวัดวาอาราม พระราชวัง วิถีชีวิตชุมชน ฯลฯ โดยเชิญวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ มาร่วมแบ่งปันเรื่องราวต่างๆ ที่เป็นประโยชน์และน่าสนใจ


ชมรมพิพิธสยาม เน้นการจัดกิจกรรมด้วยการเดินเท้าเพื่อเข้าถึงรายละเอียดอย่างใกล้ชิด รวมทั้งดำเนินการโดยไม่มุ่งแสวงหากำไร จากผู้เข้าร่วมกิจกรรม รวมทั้งทีมงานที่ร่วมสร้างสรรค์กิจกรรมก็เป็นผู้ที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ ทำด้วยใจรักและมุ่งหวังให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนมีความสุขกับการเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมซึ่งเป็นสมบัติชาติที่บรรพบุรุษได้สร้างสรรค์ไว้


วัตถุประสงค์


๑.ร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม และวิถีชีวิตชุมชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าและต้องอนุรักษ์

๒.รวบรวมผู้ที่มีความรักและสนใจในจุดมุ่งหมายเดียวกัน โดยการดำเนินงานของกลุ่มไม่มุ่งแสวงหาผลกำไร

๓.ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจอันดีเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรมของชาติ

๔.เพื่อสร้างสรรค์มิตรภาพในรูปแบบเครือข่ายบนในสังคมออนไลน์ Facebook

๕.ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ลัทธิ และการก้าวล่วงสถาบัน


สนใจเข้าร่วมกิจกรรมกับชมรมพิพิธสยามได้ที่ https://www.facebook.com/Varietysiam














เค้านัดหมายเวลาที่ ๑๒.๓๐ น. เราไม่เคยมากลัวหลง มาก่อนอีกแล้วค่ะ ลงรถเมล์ที่คลองสาน นั่งเรือข้ามฝั่งมาที่ริเวอร์ซิตี้









๑๑.๔๐ น. วันศุกร์ที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๕ เห็นป้ายผ้าข้อความแล้ว ไม่ผิดแน่ค่ะ









เป็นครั้งแรกอีกเหมือนกันที่ได้มาแถวนี้ ไม่ใช่วัด แต่มีดอกบัว...ซะหน่อยเนาะ









เมียงๆ มองๆ จะหาข้าวกินก่อนค่ะ









เดินเข้าไปแล้ว ก็เดินออกมา กินก๋วยจั๊บด้านหน้าดีกว่าค่ะ (ไม่ได้ถ่ายมาเน้อ...บอกแล้วไ่ม่ได้ถ่ายทุกอย่างน่อ...)








กินมื้อเที่ยงเสร็จแล้วก็ยังไม่ได้เวลานัด เดินเข้าไปดูข้างในริเวอร์ซิตี้ค่ะ เค้ามีงาน Biker&River City พอดี
















เดี๋ยวเดินดูหน่อยนะคะ ถ่ายรูปเล่น รอเวลานัดหมาย...


































































































โห...อะไรเนี่ย ขับได้จริงเหรอคะ















เท่ดีค่ะ























เค้าขายเสื้อประมาณนี้ด้วยค่ะ เฮพวี่ดีเนาะ






















เดินออกมาริมน้ำค่ะ
















โรงแรมมิลเลเนี่ยม ฮิลตันค่ะ









เรือข้ามฝั่งที่เรานั่งมาจากท่าเรือคลองสานค่ะ









เราชอบน้ำ ชอบเรือ ไม่มีเหตุผลอะไรค่ะ









ไม่ใช่ไวด์ก็พอได้อยู่นะ









ได้เวลาแล้วค่ะ คุณหมู - เลขาชมรมพิพิธสยาม ให้ลงทะเบียน พร้อมแจกของที่ระลึก ติดสติ๊กเกอร์ชมรม









ซ้ายมือ คุณปู - ประธานและผู้ก่อตั้งชมรมพิพิธสยาม ขวามือ คุณกิ๊ก - เจ้าหน้าที่โรงแรมรอยัลออคิด เชอราตัน









วิทยากรของเราวันนี้ค่ะ คุณธีรนันท์ ช่วงพิชิต, อ.จุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา, คุณสุดารา สุจฉายา

คุ้นหน้าคุ้นตากันดีจากรายการพินิจนคร ร่วมบรรยายให้ความรู้ตลอดเส้นทาง









คุณสุดารา สุจฉายาค่ะ









ผู้ร่วมทริปค่ะ ส่วนมากมากันหลายครั้งแล้ว เราเพิ่งมาครั้งแรก เพราะเพิ่งรู้จักชมรมค่ะ









เริ่มต้นเดินกัน...ตามหัวข้อ "เืมื่อฝรั่งเข้าเมือง" การขยายแนวคูคลองในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

รัชกาลที่ ๔ ที่ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะขยายพระนคร โดยการขุดคลองขึ้นมาอีกหนึ่งสายและทรงพระราชทานนามว่า

"คลองผดุงกรุงเกษม" คลองดังกล่าวเป็นเส้นแบ่งเขตระหว่างภายในพระนครกับนอกพระนครในสมัยนั้น

ซึ่งในปัจจุบัน ถ้าเขตที่อยู่ภายในเขตคลองผดุงกรุงเกษม คือเขตสัมพันธวงศ์ หลังแนวคลองออกมาเป็นเขตบางรัก









นี่คือแนวคิดที่ต้องการขยายเมืองเพื่อให้เกิดความเจริญภายในประเทศเพื่อให้ชาวตะวันตกที่เข้ามาได้เห็น

นอกจากนี้ยังมีการตัดถนนเส้นที่ยาวที่สุดในสมัยนั้นอีกหนึ่งสายซึ่งบนถนนสายนี้มีสะพานที่สวยงามอยู่สองสะพานคือ

สะพานดำรงสถิต และสะพานทิพยเสถียร ถนนดังกล่าวคือถนนเจริญกรุง









เดินๆ ไปก็หยุดบรรยายแบบนี้ตลอดทางค่ะ วิทยากรรับ-ส่ง ให้ความรู้แน่นมาก...









เสียดายเนาะ
















เจริญกรุง ๓๐ ทางเข้าโรงแรมรอยัลออคิด เชอราตัน เดี๋ยวพวกเราจะมาแวะกันค่ะ









ถ้าเราขับรถผ่าน อาจไม่ได้สังเกต แต่ถ้าเราเดิน จะเห็นอะไรมากขึ้นค่ะ









ไปรษณีย์กลางค่ะ เดินผ่านก่อนเดี๋ยวมาแวะอีกรอบขากลับค่ะ










จอมพล สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช หรือสมเด็จวังบูรพา

ผู้ให้กำเนิดกิจการไปรษณีย์ไทย









สมมติว่าไม่มีสายไฟ...ชอบอาคารเก่าๆ ค่ะ









วิทยากรกำลังบรรยายถึงอาคารหลังนี้เป็นสถาปัตยกรรมแบบใด...เราพยายามหามุมหลบสายไฟ









ซ้ายก็แล้ว ขวาก็แล้ว ไม่พ้น...









ซักพักสมาชิกท่านหนึ่ง เดินออกมาจากซอยบุ้ยใบ้ว่า เข้ามาถ่ายด้านในได้ ตามมากันหลายคนเลยค่ะ









สวยเนาะ









เข้าใจว่าเป็นสถานที่ราชการอะไรซักอย่างค่ะ เพราะเห็นเจ้าหน้าที่ใส่ชุดสีกากี เดินไปมา









ทางเข้าค่ะ









เดินมาเรื่อยๆ นะคะ เส้นทางเรียงตามภาพเลย มาถึงศุลกสถาน ด่านขนอน หรือด่านเก็บเงินภาษีศุลกากร









และในบริเวณใกล้กับศุลกสถานในปัจจุบันนี่เอง เป็นสถานที่เกิดเหตุการณ์สำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ไทย

ในช่วงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ในกรณี รศ.๑๑๒ ฝรั่งเศสได้นำเรือรบเข้ามาปิดอ่าวไทย

และรุกล้ำน่านน้ำเจ้าพระยาเข้ามาทอดสมอเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากไทย จนเป็นเหตุให้ต้องนำเงินถุงแดง

ที่เก็บในพระคลังในสมัยรัชกาลที่ ๓ ออกมาเพื่อจ่ายให้กับฝรั่งเศส










เดินกันต่อบล็อกหน้าค่ะ


ขอบคุณชมรมพิพิธสยามและวิทยากรทุกท่าน


ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจากเพจคุณปู - ประธานชมรมพิพิธสยาม