Bloggang.com : ลูกอบรสเขียด :

Hanna : เหี้ยมบริสุทธิ์ , โจ ไรท์ ชื่อนี้ไม่เคยทำให้ผิดหวังไม่ว่าจะเป็นแอ็คชั่นก็ตาม..

Hanna (2011)

[ไม่เปิดเผยเนื้อเรื่องสำคัญ หรือ ไม่สปอยล์]

Rated PG-13 for intense sequences of violence and action, some sexual material and language

ได้มีโอกาสดูหนังเรื่องล่าสุดของผู้กำกับ Atonment อย่าง Joe Wright เรื่องล่าสุดก็เพิ่งอาทิตย์ที่แล้ว หลังจากปล่อยให้รอกันมานานว่าหนังนั้นจะดีเท่ากับหนังแนวโรแมนติกต่างๆอย่างผลงานเก่าๆรึปล่าว คราวนี้เขาได้กลับมาพร้อมกับหนังแอ็คชั่นแนวใหม่ โดยตัวหนังจะเป็นอย่างไรไปอ่านกันเลยครับ

Hanna เรื่องราวของสาวน้อย แฮนน่า เด็กอายุวัยเพียง 14 ที่ถูกเลี้ยงมาโดยพ่อสุดโหดอย่าง อีริค ที่เขานั้นทำทุกอย่างเพื่อให้ แฮนน่า เรียนรู้วิธีการอยู่รอด โดยไม่ให้ออกไปเผชิญกับโลกภายนอกหลังจากเคยมีอดีตอันโหดร้าย แต่แล้ววันดีคืนดี แฮนน่า กลับอยากไปเผชิญวิธีการเอาตัวรอดของจริง + โลกความจริงที่เธอไม่เคยเห็น เธอจึงเลือกที่จะ ทำการเรียก CIA ระดับเทพอย่าง มาลิสซ่า เพื่อมาตามจับไล่ล่าเธอ เพื่อจะได้โชว์ให้พ่อของเธอเห็นว่า เธอนั้นพร้อมแล้วสำหรับการอยู่ในโลกภายนอก ซึ่งเมื่อเธอยิ่งหนีจากการตามจับของ CIA สาวแกร่งคนนี้มากเท่าไหร่ ความจริงที่เธอไม่เคยรู้มาก่อนก็ยิ่งเปิดเผยขึ้นเรื่อยๆ

Hanna กำกับการแสดงโดยผู้กำกับมือทองอย่าง Joe Wright หลังจากได้นำพาหนังโรแมนติก ดราม่า ที่นอกจากจะพาสาวน้อย Saoirse Ronan เข้าชิงออสการ์ใน Atonment มาแล้ว เมื่อ 2 ปีที่แล้วเขาก็ยังเพิ่งจะกำกับหนังดราม่าชีวิตรันทดเรื่องล่าสุดอย่าง The Soloist ไปไม่นาน ปีนี้เขาจึงขอกลับมา และเปลี่ยนแนวแบบที่คนดูแทบหักรถหนีไม่ทัน กับหนังแอ็คชั่นไล่ล่า เรื่องล่าสุดของเขา ซึ่งในครั้งนี้ก็ยังไม่ทอดทิ้งสาวน้อยคู่ใจของเขาอย่าง Saoirse Ronan มารับบทนำในครั้งนี้ด้วย ซึ่งจุดเด่นจริงๆของ Hanna ไม่ได้อยู่ในฉากแอ็คชั่น เพียงแต่มันเป็น Score ของหนังที่ Compose โดย The Chemical Brothers ที่สามารถจับเอาทำนองแนว Electronic มาใส่เข้ากับในหนังได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ + ทำให้หนังนั้นยกระดับในด้านความเจ๋งขึ้นมาพอควร และนอกจากนั้น

ในด้านฉากแอ็คชั่นต่างๆที่ Joe Wright เพิ่งจะมากำกับแนวนี้ครั้งแรก ยังถือว่าอยู่ในขั้นสอบผ่าน ถึงแม้จะไม่ได้เด็ดดวงเหมือนหนังซัมเมอร์ที่กำลังเข้าแถวฉายกันอยู่ แต่ก็ถือว่าดูดีทีเดียว สำหรับผู้กำกับที่เปลี่ยนแนวจาก ดราม่า มาเข้าสู่โหมดแอ็คชั่นอย่างงี้ โดยในด้านของ บท ที่ Wright ได้มีการผูกปมเรื่องราวต่างๆออกมาได้ไม่ซับซ้อน และ เข้าใจง่าย แต่ยังมีความลึกซึ้ง โดยเฉพาะ ความเป็นมา ของ แฮนน่า ที่เป็นตัวละครที่เมื่อได้รู้ความจริงทั้งหมด ผู้กำกับถือว่าทำให้คนดูนั้น เข้าใจ และ สงสารตัวละครนี้ทันที โดยเฉพาะเรื่องด้านการปรับตัวเข้ากับสังคมต่างๆนานา ที่ผู้กำกับได้ใส่เข้ามาในเรื่องนี้ได้แบบไม่ยัดเยียด และ เข้าที่เข้าทางอย่างพอเหมาะ ซึ่งในข้อนี้ก็ต้องขอชมให้กับการแสดงของ Ronan และ Blanchett ที่ต่างรับบทในหน้าที่ของ ผู้ล่า และ ผู้ถูกล่า ได้อย่าง..

ดี โดยเฉพาะในด้านของ Ronan ที่ไม่ว่าเธอจะเล่นบทไหนก็รู้สึกจะเด่นไปหมด แม้กระทั่งในหนังที่นักวิจารณ์ไม่ชอบอย่าง The Lovely Bones ก็ตามที แต่เมื่อมองในด้านของข้อเสียต่างๆใน Hanna ก็คงหนีไม่พ้นในเรื่องของ บทของ Hanna ที่เป็นดาบสองคม ในตัวอีกเช่นกัน ซึ่งอีกคมนึงนั้น คงหนีไม่พ้นการที่ บทต่างๆก็ไม่มีความซับซ้อน + อาจจะทำให้หลายคนเดาความหลังของ Hanna ได้ตั้งแต่แรกๆแล้วด้วยซ้ำ โดยเฉพาะด้านการเล่นมุมกล้องของหนังมากเกินไป ที่แรกๆก็ถือว่ายังเจ๋งอยู่ แต่เมื่อหนังเล่นใช้มุมกล้องแนวๆนี้มากเกินไป ก็อาจจะทำให้คนดูต่างๆอาจจะเบื่อได้ก็เป็นไปได้ แต่ยังไงก็ตามที Hanna ก็ถือว่า..

เป็นหนังแอ็คชั่นเล็กๆเรื่องนึง ที่ถือว่าเข้าฉายผิดเวลาไปหน่อยในบ้านเรา (เล่นเอามาเข้าฉายช่วงซัมเมอร์) ซึ่งอาจจะทำให้หลายๆคนนั้นคิดว่าหนังเรื่องนี้จะแอ็คชั่นมันส์กัน ตูมตาม แบบในตัวอย่าง (ที่ตัดต่อดีซะเหลือเกิน) ขอให้คิดเพื่อไว้นิดนึงว่า นี้เป็นหนังแนวไล่ล่าเงียบๆ ที่มาจากผู้กำกับแนวดราม่ามาก่อน จึงอาจจะไม่ได้มันส์แนวระเบิดบ้าคลั่ง ตามคอแอ็คชั่นต้องการ แต่ถ้าเกิดคุณตีตั๋วเรื่องนี้เข้าไปดูหนังแนว ไล่ล่าเล็กๆ + มีความสนุก และ รอบคอบ ของบทเรื่องนึงแล้ว ขอรับรองเลยว่าหนังเล็กๆเรื่องนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน (เรื่องนี้รู้สึกจะเข้าฉายน้อยโรงอยู่ โปรดตรวจสอบรอบฉายต่างๆก่อนไปซื้อตั๋วเน้อครับ)

สรุป Hanna เป็นหนังแอ็คชั่น ดราม่าเล็ก + ไล่ล่าหน่อยๆ ที่ทำออกมาได้ดู และ ไม่เสียของ + เครดิตของ โจ ไรท์ โดยเฉพาะในด้าน Score ที่โดดเด่น + การแสดงๆต่างๆที่ทำให้หนังอัพเกรดขึ้นเยอะ แต่ในด้านของบทที่มาต่างๆก็อาจจะยังดูด้อยลงไปบ้าง แต่โดยรวมเรื่องนี้ถือว่าเป็นหนังคุณภาพอีกเรื่องเลยหละครับ