Bloggang.com : ลูกอบรสเขียด : Killer Elite : 3 โหดโคตรพันธุ์ดุ , การโคจรมาพบกันของสามนักแสดงบู๊ครั้งนี้ 'ธรรมดา' ไปนิด

Killer Elite : 3 โหดโคตรพันธุ์ดุ , การโคจรมาพบกันของสามนักแสดงบู๊ครั้งนี้ 'ธรรมดา' ไปนิด

Killer Elite (2011)

[ไม่เปิดเผยเนื้อเรื่องสำคัญ หรือ ไม่สปอยล์]

Rated R for strong violence, language and some sexuality/nudity

เป็นธรรมเนียมของหนังฮอลลีวู้ด ที่อยู่ๆก็จะมีหนังที่จับเอาดาราแอ็คชั่นทั้งหลายมารวมกันในเรื่องเดียว ซึ่ง Killer Elite ก็เป็นหนังที่ว่าเรื่องล่าสุด ที่เห็นจากทั้งนักแสดง และ ตัวอย่าง หนังก็ไม่น่าจะขายยากเลย แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าที่อเมริกาทำไมหนังเรื่องนี้ดันเจ๊ง ซึ่งวันนี้ก็ได้ไปพิสูจน์มาแล้ว เป็นอย่างไรไปอ่านโลด

Killer Elite เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 1980 ยุคที่การเมืองกำลังวิกฤต เกิดแต่การลอบฆ่า ลอบสังหาร และนี้คือเรื่องราวที่สร้างมาจากเหตุการณ์จริง เรื่องราวของนักฆ่ามือพระกาฬอย่าง แดนนี่ พร้อมกับป๋าคู่หูอย่าง ฮันเตอร์ ที่ แดนนี่ นั้นเริ่มเบื่อเต็มทีกับการเป็นนักฆ่า จึงอยากลาวงการไปพร้อมกับงานสุดท้าย แต่แล้วหลังจากการลาวงการนั้น 1 ปี คู่หูของเขาอย่าง ฮันเตอร์ กลับโดนผู้มีอิทธิพลในโอมานจับตัวไป พร้อมกับบอกแดนนี่ว่า ถ้าอยากจะให้เพื่อนเขากลับไป ต้องทำงานให้กับเขา โดยการไปลอบฆ่าผู้พันในหน่วย SAS ของอังกฤษ และอัดวีดีโอสารภาพผิดมาเพื่อแลกกับชีวิตของฮันเตอร์ แดนนี่จึงไม่มีทางเลือกนอกจากลุย

Killer Elite ผลงานการกำกับของผู้กำกับหน้าใหม่ ที่ไม่มีแม้แต่ผลงานเครดิตเก่าๆเลยสักชิ้น นอกจากหนังสั้นชิ้นเดียวเท่านั้นอย่าง แกรี่ แม็คเคนดราย ที่เริ่มผลงานหนังใหญ่ชิ้นแรกก็เรียกใช้บริการดาราใหญ่ๆทั้ง 3 คนเสียแล้ว ไม่ว่าจะเป็นนายยิงแม่มเลยอย่าง ไคลฟ์ โอเว่น , พี่เถิกที่กำลังฮิตอย่าง เจสัน สเตแธม และดารารุ่นเก๋าอย่าง โรเบิร์ต เดอ นีโร ที่หายจากหนังแอ็คชั่นไปนาน ซึ่งสำหรับ Killer Elite ถือว่าเป็นหนังแอ็คชั่นที่ผมถือว่ายังไม่สามารถตอบโจทย์ของหนังดีนัก เพราะฉากแอ็คชั่นในหนังเรื่องนี้ต้องเรียกว่า ท่าดีทีเหลว เนื่องเดียวประสบการณ์ของผู้กำกับที่เรียกได้ว่าแทบไม่มีนั้น จึงทำบทของดาราใหญ่ๆออกมาแบ่งกันได้ไม่ค่อยทั่วถึง โดยเฉพาะตัวละครของ โรเบิร์ต เดอ นีโร ที่ต้องเรียกได้ว่า นำใครมาเล่นก็ได้ เพราะแทบจะไม่ค่อยได้บู๊เลยด้วยซ้ำไปหละครับ

และย้อนกลับมาที่ด้านของ ฉากแอ็คชั่น ที่อย่างที่บอกว่า ท่าดีทีเหลว เพราะฉากแอ็คชั่นทั้งหลายล้วนแต่ทำมาได้แค่อยู่ในขั้นที่ 'ดูเล่น' เท่านั้น ซึ่งมันผิดไปจากหนังเก่าๆของนักแสดงทั้ง 3 คน ที่เคยสร้างลีลาความมันส์ได้ดีกว่านี้ โดยเฉพาะฉาก คอมแบท ตัวต่อตัว ของ เจสัน สเตแธม และ ไคลฟ์ โอเว่น ที่เรียกได้ว่า ทั้งการถ่ายภาพ และ บทคิวบู๊ พร้อมกับดนตรีประกอบ ในฉากนี้เรียกได้ว่าเสียดายมาก เพราะได้ดาราใหญ่ๆมาแล้วแท้ๆ แต่ไม่สามารถควบคุมบท และ คิวบู๊ ได้ดีมากนัก แถมในตอนกลางเรื่องของหนัง ก็แทบจะไม่มีฉากแอ็คชั่นมาเรียกให้คนดูตื่นเต้นได้เลย กลับมีแต่การดำเนินเนื้อเรื่องที่เรื่อยๆอืดๆ และน่าเบื่อ

และก็ยังเป็นข้อสงสัยของทุกคนกันต่อไปอยู่ดี สำหรับหนังที่บอกไปต้นเรื่องว่า Based On A True Story หรือ 'หนังเรื่องนี้สร้างขึ้นมาจากเหตุการณ์จริง' ซึ่งเฮดไลน์พวกนี้ผมก็สงสัยมาตั้งแต่หนังเก่าๆ หรือยกตัวอย่างง่ายๆก็คือหนังผีเรื่องล่าสุดอย่าง The Rite ที่อ้างว่าสร้างมาจากเหตุการณ์จริง ว่าตกลงแล้วไอ้คนบันทึกเหตุการณ์เหล่านี้เนี่ย เขาคือใครกันแน่ เพราะจากที่สังเกตุในหนังเรื่อง Killer Elite ผมคิดว่าหนังมีโครงเค้าเรื่องมาจากเหตุการณ์จริงเพียงแค่ 5% เองมั้ง เพราะหลายฉากในหนังเรื่องนี้ มันเน้นฉากแอ็คชั่นที่เว่อร์เกินเหตุ และหลายฉากของหนังมีแต่ฉากที่เรียกได้ว่า มันยืนคุยกันอยู่ 2 คนเยอะมาก

แต่ไอ้คนบันทึกเหตุการ์ณที่ว่า เขายังอุตส่าห์ไปบันทึกมาได้เนอะ (สรุปคือ หนังใส่ไข่ไป 95% แต่กลับใส่หัวเฮดไลน์ว่า 'Based On A True Story' แถมตอนจบของหนังยังบอกว่า หนังเรื่องนี้สร้างจากนิยาย A Feature Man ที่ผมคิดว่า ในนิยายนั้นคงไม่มีฉากแอ็คชั่นเว่อร์ๆพวกนี้อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น จะเครียดไปทำไม ไปดูฉากแอ็คชั่นพอ !!) ป.ล.น่าเสียดายมากที่หนังมีดาราสาวๆสวยๆเยอะ แต่กลับไม่ค่อยให้โชว์ทั้งฝีมือการแสดง หรือแม้แต่โชว์เนื้อหนังเลยสักนิด ซึ่งนั้นก็ผิดฟอร์มหนังแนวสไตล์ของ โอเว่น และ สเตแธมอีกข้อนึงก็ว่าได้เลยหละ (ตอนไปดูหนังเรื่องนี้รอบบ่ายๆคนดูเยอะสู้น้ำท่วมอย่างมาก)

สรุป Killer Elite ถือว่าเป็นหนังแอ็คชั่น ที่มีดาราแอ็คชั่นใหญ่ๆมารวมตัวกัน แต่ไม่สามารถแบ่งบทกันได้ดีนัก แถมฉากแอ็คชั่นในหนังเรื่องนี้ก็เรียกได้ว่าไม่มีฉากไหนน่าตื่นเต้น หรือสดใหม่เลยแม้แต่น้อย แต่ยังไงก็ตามใครหาหนังดูเล่นแก้เครียด Killer Elite ก็คงตอบสนองข้อที่ว่า 'ดูเล่น' ของคุณได้ครับ