Bloggang.com : ลูกอบรสเขียด : Safe House : ภารกิจเดือดฝ่าด่านตาย , บทมาแบบเชยๆ แต่ความมันส์มาแบบ 'จัดเต็ม'

Safe House : ภารกิจเดือดฝ่าด่านตาย , บทมาแบบเชยๆ แต่ความมันส์มาแบบ 'จัดเต็ม'

Safe House (2012)

[ไม่เปิดเผยเนื้อเรื่องสำคัญ หรือ ไม่สปอยล์]

Rated R for strong violence throughout and some language

ได้มีโอกาสดูรอบสื่อมาเมื่อวันพุธที่ผ่านมาครับกับหนังแอ็คชั่นเรื่องล่าสุดของดาราที่เรียกได้ว่าผมชื่นชอบอันดับต้นๆเลยก็ว่าได้กับ เดนเซล วอชิงตัน ที่ได้รับบทแนวกวนๆแต่เท่แบบเดิมอีกครั้ง หลังจากเคยแสดงไปแล้วใน Training Day ซึ่งตัวหนังนั้นจะมันส์และสะใจขนาดไหนในความเห็นผมไปอ่านเลยครับ

เดนเซล วอชิงตัน นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์ และ ไรอัน เรย์โนลด์ส ร่วมกันแสดงนำในภาพยนตร์แอ็กชั่นทริลเลอร์เรื่อง Safe House วอชิงตัน รับบทคนทรยศที่เป็นตัวอันตรายที่สุดจากซีไอเอ ผู้กลับคืนวงการอีกครั้งหลังจากหลบหนีไปนานกว่าหนึ่งทศวรรษ เมื่อเซฟเฮ้าส์ในแอฟริกาใต้ที่เขาถูกคุมตัวอยู่ถูกโจมตีโดยพวกทหารรับจ้าง โดยมีเจ้าหน้าที่หน้าใหม่อ่อนหัด (เรย์โนลด์ส) หนีมากับเขาด้วย บัดนี้ พันธมิตรที่ไม่น่าจะมาเป็นพวกเดียวกันได้ ต้องรักษาชีวิตพวกเขาเอาไว้ให้นานพอที่จะหาตัวคนที่อยากให้พวกเขาตายให้เจอ เพื่อที่พวกเขาทั้งคู่นั้นจะร่วมมือกันเพื่อปิดบัญชีความแค้นครั้งนี้ลงให้ซะได้เสีย

Safe House กำกับการแสดงโดย แดเนียล เอสพิโนซ่า ผู้กำกับชาวสวีเดน ที่เพิ่งจะมากำกับหนังเรื่องแรกในฮอลลีวู้ด หลังจากทำแต่หนังในบ้านเกิดของเขา โดยเขาเลือกที่จะหยิบนำพล๊อตเจ้าหน้าที่ CIA แบบเก่าๆกลับมาเล่าใหม่อีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาได้ดึงเอา 2 ดาราแม่เหล็กมาร่วมงานได้แก่ เดนเซล วอชิงตัน และนักแสดงชายที่กำลังเป็นแม่เหล็กอย่าง ไรอัน เรย์โนลด์ ซึ่ง Safe House นั้นถือได้ว่าเป็นหนังที่ไม่ต่างอะไรกับหนังแอ็คชั่นที่เพิ่งเข้าฉายไปอย่าง Contraband เพราะหนังนั้นมาพร้อมกับบทเชยๆ และ น่าเบื่อ ทั้งคู่ แต่ข้อดีที่ทำให้ Safe House ดูดีกว่า Contraband นั้นคือด้านฉากแอ็คชั่นในสไตล์หนังมาเฟียของผู้กำกับ ที่สามารถทำออกมาได้ไม่เสียชื่อนักแสดงนำทั้ง 2 คน เพราะฉากแอ็คชั่นของหนังนั้นถึงแม้จะค่อนข้างน้อยไปสักนิดนึง

แต่ว่าในแต่ละแอ็คชั่นของหนังนั้นก็ต้องยอมรับว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดี ไม่ว่าจะเป็นฉากการขับรถไล่ล่า หรือแม้แต่ฉากเตะๆต่อยๆ ตัวต่อตัว ของ ไรอัน เรย์โนลด์ และฉากการวิ่งไล่ล่าในสลัมอีกนิดหน่อย ซึ่งฉากทั้งหมดนั้นก็ต้องขอชมผู้กำกับด้วยเช่นกันที่เลือกจะถ่ายฉากแอ็คชั่นเหล่านั้นออกมาได้อารมณ์ประมาณ Collateral ผสมผสานกับอารมณ์ Training Day นิดๆ จึงทำให้อารมณ์หนังที่ออกมานั้นกำลังพอดิบพอดี และดูแล้วไม่รู้สึกว่าจะยัดเยียดขายฉากแอ็คชั่นของหนังอะไรมากมาย พร้อมกับด้านของนักแสดงอย่าง เดนเซล วอชิงตัน ที่เรื่องนี้ได้รับบทแนวเจ้าหน้าที่ CIA ที่เขาค่อนข้างถนัดมาก

จึงไม่แปลกเลยถ้า Safe House จะเป็นหนังที่ทำให้เขาละเลง และ แสดงบทบาท เจ้าหน้าที่ CIA สุดเก๋าอย่าง โทบิน ฟรอตท์ ได้อย่างเต็มที่ เพราะตัวละครนี้เต็มไปด้วยบทบาทที่ค่อนข้างกวนๆ และ คารมแนวหาเรื่องอย่างเต็มที่ โดยส่วนตัวผมคิดว่าคงไม่มีใครเหมาะสมกับบทนี้เท่า เดนเซล วอชิงตัน อีกแล้ว แต่ก็อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นแหละครับ ว่าข้อเสียหลักๆของ Safe House ก็ยังไม่ได้ต่างไปกับหนังที่เอามาเปรียบเทียบอย่าง Contraband สักเท่าไหร่ แถมจะเรียกได้ว่าเหมือนกันเลยก็ได้ เพราะ Safe House นั้นถึงแม้จะมีฉากแอ็คชั่นที่มันส์ๆ แต่มันก็ยังไม่ได้สามารถช่วยเรื่องด้านของ บทหนัง ไปได้อย่างเต็มที่

เพราะหนังกลับมาพร้อมกับบทหนังเชยๆที่คนดูนั้นสามารถรู้ก้าวต่อไปของหนังได้อย่างไม่ต้องเดากันเลยสักนิด แถมที่ขัดใจที่สุดคือด้านของตอนจบหนังที่ยังพยายาม หักมุม อีก แต่การ หักมุม ครั้งนี้ก็ยังเป็นการหักมุมเฉยๆของหนังแนวนี้เมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว เพราะฉะนั้นแทนที่คนดูนั้นจะรู้สึกเซอร์ไพรส์ กลับกลายเป็นว่าคนดูต้องมานั่งคิดในใจว่า 'จบแบบนี้อีกแล้วหรอว่ะเนี่ย' แถมที่ผิดหวังที่สุดคือการได้ดาราสมทบอย่าง เวร่า ฟาร์มิงก้า มาร่วมแสดงด้วยแล้ว แต่หนังกลับไม่ให้ความสำคัญที่ตัวละครของเธอเท่าไหร่นัก เหมือนกับว่าเป็นตัวละครที่มีมาเพื่อเรียกแขกและแฟนคลับของเธอซะมากกว่าครับ

แต่ยังไงก็ตามโดยสรุปแล้วนั้น Safe House ถือว่าเป็นหนังแอ็คชั่นรับต้นปีที่ฉากแอ็คชั่นทำออกมาค่อนข้างดี มีอารมณ์สไตล์ความดิบ เถื่อน และ มันส์ คล้ายๆ Collateral และ Training Day และใครเป็นแฟนคลับของ วอชิงตัน ก็อย่าพลาดเชียว แต่หนังกลับมาตกม้าตายตรงที่เลือกจะใช้บทเชยๆ เดิมๆ อยู่อย่างงี้