Bloggang.com : ลูกอบรสเขียด : Going The Distance : รักเเท้ ไม่เเพ้ระยะทาง , หนังรักกุ๊กกิ๊ก ดูเพลินๆสไตล์ "Rated R" ของ จัสติน ลอง

Going The Distance : รักเเท้ ไม่เเพ้ระยะทาง , หนังรักกุ๊กกิ๊ก ดูเพลินๆสไตล์ "Rated R" ของ จัสติน ลอง

Going The Distance (2010)

[ไม่เปิดเผยเนื้อเรื่องสำคัญ หรือ ไม่สปอยล์]

Rated R for sexual content including dialogue, language throughout, some drug use and brief nudity

ได้มีโอกาสไปดูหนังรัก ตลก ทะลึ่ง เรื่องนี้มาเมื่อวานครับ ตอนเเรกก็กะจะไม่ดูเเล้ว เเต่ตอนหลังไม่ค่อยมีอะไรทำ + เห็นตัวอย่างน่าจะขำดีจึงได้ไปดูมาที่ พารากอน ซึ่งเรื่องนี้ก็มีเเต่โรง Digital ซะด้วย เเต่ก็ไม่เป็นไร สนองความอยากดูก็จัดไป หนังเป็นอย่างไรนั้นไปอ่านกันเลยครับทุกท่าน

Going The Distance เรื่องราวของ หนุ่มที่ไม่รู้ใจสาว หรือพูดง่ายๆคือ ไม่รู้เรื่องราวของความรักเลยอย่าง เเกร์เร็ต (Justin Long) ที่เพิ่งเลิกกับเเฟนสาวเพราะความเข้าใจไม่ตรงกันในคืนนั้น ส่วนในอีกด้าน พนักงานสาวฝึกหัดอย่าง เอริน (Drew Barrymore) ที่เพิ่งโดนหัวหน้า โวยวาย ใส่เเละทำให้เธอเซ็งอย่างเเรง พวกเขาทั้งคู่ได้มาเจอกันที่ บาร์ เเห่งหนึ่ง หลังจากเพื่อนๆพวกเธอพามาเลี้ยง เเละเจอกันอย่างประหลาดที่ตู้เกมส์ เเต่เมื่อ 6 อาทิตย์หลังจากนั้น เอริน ต้องกลับไปบ้านที่อยู่ไกลจาก New York มาก ทำให้ เเกร์เร็ต ต้องทุกข์ทรมาน เเละทำใจไม่ได้ จึงพยายามทำทุกวิธีทางเพื่อให้ได้คุย เเละ เจอหน้า เช่นการโทรคุยโทรศัพท์ หรือ คุยทางอินเตอร์เน็ต เเละเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปเมื่อความรักของทั้งคู่ได้ถูกทดสอบ

เรื่องนี้ได้ผู้กำกับอย่าง Nanette Burstein ที่ขอบอกเลยว่า ออกเเนว No Name อย่างมาก เรื่องนี้ก่อนอื่นเลยการเลือกนักเเสดงเรื่องนี้ถือว่าใช้ได้เลย เพราะว่าเล่นเอา คู่รัก กันจริงๆนอกจอ มาเล่นการเเสดงเรื่องนี้ จึงไม่เเปลกถ้าหวาน หรือ ฉากเซ็กห์ นั้นเหมือนจริงผิดปกติ ยอมรับเลยว่า ทั้งคู่นั้นผมรู้สึก เคมี จะเข้ากันไม่ค่อยได้ คงเพราะมาดของหนุ่มเเสนดีอย่าง Justin Long กับ มาดสาวออกเเนว ทอมๆ ของ Drew Barrymore เเต่ในตอนหลังก็ต้องยอมรับว่า ทั้งคู่เล่นเข้าขากันได้ดี เเละอย่างอื่นที่อยากพูดถึงในหนังเรื่องนี้คือ ฉากตลก เเละ ฉากรักต่างๆในเรื่องนี้ เพราะว่ามันทำออกมาได้

ฉากตลกของหนังเรื่องนี้ก่อนเลย ฉากตลกของหนังเรื่องนี้ทุกฉาก ขอเน้นว่า ทุกฉาก เป็นเรื่องตลกเกี่ยวกับ ฉากโป๊ , ฉากเซ็กห์ เเละ เรื่องราวเกี่ยวกับเซ็กห์ ทั้งหมด ที่เป็นเเบบนี้ไม่รู้เพราะอะไร เเต่ผกก.กล้ามากที่ทำหนังรักออกมาในรูปเเบบ Rated R เเละใช้ประโยชน์ได้ดีด้วย เพราะถึงมุขในหนังเรื่องนี้จะทุเรศ เช่น โชว์ตูด , โชว์อะไรก็ตาม เเต่มันยังถือว่ายอมรับได้ + ขอยอมรับเลยว่า มันฮามากๆ ฮาจนมีคนปรบมือให้เลย คงเพราะอารมณ์ช่วงนั้นเครียดด้วย โดยรวมเเล้วหนังรัก เเบบนี้ จะมีฉากตลกฮาเเบบสุดๆคงมีไม่กี่เรื่อง ผมจึงขอชื่นชมจริงๆ ส่วนในด้านของความรักในเรื่องนี้นั้น

อยากบอกเลยว่า ผมต้องยอมรับก่อนเลยว่า "ผมไม่มี Sense เกี่ยวกับหนังรักเลย" หนังรักเรื่องเดียวที่ทำให้ผม อบอุ่นใจ + อิน ไปได้คือ Love Actually นอกนั้นไม่อินหมดเลย เรื่องนี้ก็เหมือนกัน เเต่ถ้าให้ดูรวมๆนั้น ประเด็นเรื่อง รัก ของหนังเรื่องนี้ดูเหมือนจะทำได้ไม่สุด เเละขอติอย่างเเรง ขอเน้นเลยว่า "อย่างเเรง !!" นั้นคือตอนจบของหนังเรื่องนี้ เป็นการตัดจบที่เเย่มากๆ เเย่เเบบสุดยอดจริงๆ เพราะดูหนังอยู่ดีๆ ตัดจบไปเลย หวังว่าคงไม่เป็น การสปอยล์ เพราะอารมณ์ ณ ตอนนี้ผมยังค้างอยู่กับหนังเรื่องนี้เนื่องจาก ตอนจบอยู่เลย ไม่มีการปูเนื้อเรื่องเลยว่า จะจบเเล้วนะ

เเต่ยังไงซะที่ผมชอบหนังเรื่องนี้มากๆคงไม่เเพ้กับ ตัวประกอบ ของหนังเรื่องนี้ นั้นคือ เพื่อนพระเอก นั้นเอง เพื่อนพระเอกในหนังเรื่องนี้มี อยู่ 2 คนเป็นตัว ขโมยซีน ของเรื่อง (ซึ่งหนังรักทุกเรื่องต้องมีเพื่อนพระเอกมาขโมยซีนตลอด เเต่รู้สึกเรื่องนี้จะเป็นเรื่องเเรก ที่ตัวประกอบ นั้นฮา + เเย่งซีน พระเอกได้เกือบทั้งเรื่อง เรียกว่า ออกมาทีไรมีฮาเเน่นอน) เเละโดยรวมๆถ้า ถามว่าเรื่องนี้สมควรไปดูกับคู่รัก หรือ อะไรไหม ผมว่า ไม่ค่อยสมควรเท่าไหร่ เหมาะกับการไปดูกับกลุ่มเพื่อนหญิง หรืออะไรมากกว่า เพราะมันไม่ใช่หนังรักที่ทำให้ประทับใจ หรือ หนังรักใสๆ เพราะเต็มไปด้วย มุขลามก อนาจาร ที่ผมก็รับได้บ้าง รับไม่ได้บ้าง เเต่ถ้าถามถึงข้อคิดที่ให้ก็อย่างที่บอกเลยว่า ให้ไม่สุด ไม่ตรงประเด็น ไปบ้าง เเต่ก็ถือว่าให้อภัยได้

ส่วนนักเเสดงในเรื่องนี้ขอวิจารณ์เเบบสั้นๆเลยว่า เข้ากันได้ดี เเค่นี้ก็พอมั้ง สรุปรวมๆอย่างข้างบนเเล้ว ขอสรุปให้เข้าใจสั้นๆอีกทีก็ได้ ว่า หนังเรื่องนี้เป็นหนังรักตลกเบาสมอง ที่ดูก็ได้ไม่ดูก็ได้ เเต่ว่าเป็นหนังที่ฮา + มีความสุขในโรงเรื่องหนึ่ง ถ้าจะตีตั๋วก็อยากบอกว่า ค่าตั๋วเเพงหน่อยเพราะ ดิจิตอล