Transformers : Dark Of The Moon : ทรานส์ฟอร์มเมอร์ส 3 , น่าจะเปลี่ยนชื่อเป็น ทรานส์ฟอร์ม "เว่อร์" Transformers : Dark Of The Moon (2011) [ไม่เปิดเผยเนื้อเรื่องสำคัญ หรือ ไม่สปอยล์] Rated PG-13 for intense sequences of sci-fi action violence, mayhem and destruction, and for language, some sexuality and innuendo ได้มีโอกาสดูหนังชุดที่ชื่นชอบที่สุดอย่าง Transformers ในภาคใหม่อย่างภาคที่ 3 ของซี่รี่ย์นี้ก็เมื่อวานนี้ ซึ่งคนดูคงไม่ต้องบอกว่าขนาดไหน เพราะเล่นทำเอาโรงหนังแทบแตกกันตั้งแต่ Harry ยังไม่มาเยือนกันเลยทีเดียว ซึ่งตัวหนังนั้นจะดีหรือว่าห่วยกว่าภาค 1-2 นั้นก็ต้องไปติดตามอ่านกันเลยนะครับ Transformers : Dark Of The Moon ดำเนินกันมาถึงภาคที่ 3 แล้วของซี่รี่ย์หุ่นยนต์ตีกันอย่างเรื่องนี้ ซึ่งในภาคนี้ ก็เล่าเรื่องราวหลายปีให้หลังจากการกอบกู้โลกจากหุ่นยนต์ The Fallen ของ แซม ซึ่งตอนนี้เขาได้ทำงานเล็กๆเป็นคนส่งสาส์น ในบริษัทเล็กๆแห่งนึง ที่คอยมีแฟนสาวของเขาอย่า คาร์ลี่ แฟนสาวสวยคนใหม่คอยเป็นกองหนุนของเขา ซึ่งวันดีคืนดี ดันมีเรื่องเกิดอีกเมื่อพวกเหล่า Decepticons ได้ดันแอบสร้างกองทัพต่างๆ เมื่อพวกมันได้ดันรู้เรื่องราวลึกลับที่อยู่บนดวงจันทร์เมื่อนานมาแล้ว เมื่อมีสิ่งที่ทำให้พวกมันนั้นสามารถครองโลกได้อย่างง่ายดาย ซึ่งพวกเหล่า Autobots และ แซม จึงต้องลุกขึ้นมาบู๊อีกครั้งนึง !! Transformers 3 ยังเป็นผลงานของผู้กำกับจอมเก๋าเผากระท่อมอย่าง Michael Bay อยู่รายเดิม ซึ่งในภาคนี้เขายังรับปากว่าจะเป็นภาคสุดท้ายของซี่รี่ย์นี้ + จะกลับมาแก้ตัวหลังจากเคยทำเอาแฟนๆ Transformers ทั้งหลายนั้นผิดหวังไปแล้วในภาค 2 (โดยส่วนตัวของผมถือว่ายังพอดูได้ + ให้คะแนนความชอบพิศวาสส่วนตัวเนื่องจากมีความชื่นชอบในการ์ตูน + หนังของ Transformers อยู่พอสมควร) ซึ่งในภาคนี้เอาจริงๆ ถึงแม้จะมีหลายเสียงบอกว่าสมควรดู 3D แต่สุดท้ายแล้วผมก็ได้ดูแค่ในระบบธรรมดาเท่านั้น ซึ่งส่วนแรกของหนังที่ต้องขอชื่นชมว่าแก้ตัวออกมาได้ดี คงหนีไม่พ้นการกัดจิกสิ่งที่เรียกว่า สันดาน ของมนุษย์ ที่ถือว่าทำออกมาได้เจ็บแสบผ่านตัวละครของ Frances McDormand ที่สื่อออกมาจำพวกว่า 'มนุษย์อยากได้อะไรก็ต้องได้' และนอกจากนั้น... ยังได้บ่งบอกถึงความอยากเป็นผู้นำ + เจ้านายในทุกๆสิ่งของมนุษย์ได้อย่างหมดจด และส่วนที่ 2 ของหนังที่เป็นจุดขายเด่นๆจริงๆอย่าง CG ฉากแปลงร่างของหุ่นยนต์ยักษ์ต่างๆก็ถือว่าทำออกมาได้ไม่ผิดหวัง โดยส่วนตัวภาคนี้มีฉากแปลงร่างๆสวยที่สุดในบรรดา 3 ภาค (ภาคที่ CG ด้อยที่สุดคงเป็นภาค 1 คงเป็นเพราะไม่ค่อยมีฉากโชว์หุ่นมากเท่าไหร่นัก) ซึ่งนอกจากนั้นการ Design ฉากแอ็คชั่น และ Background ของหนังก็ยังทำออกมาได้ดู เว่อร์ + มันส์กำลังดี โดยเฉพาะฉาก Climax ของหนังที่เรียกได้ว่าจัดเต็มยาวกว่า 30 นาทีนั้น ก็ถือว่ายังอยู่ในขั้นพอดูได้ ไม่ได้ถึงขั้นมันส์จนขนลุกแบบ The A-Team แต่ก็ไม่ได้ดูแล้วด้อยๆเหมือนในจำพวก Battle Los Angeles สักเท่าไหร่หรอกนะครับ ส่วนในด้านของบทต่างๆที่เฮีย Michael Bay บอกว่าจะปรับปรุงยังถือว่า.. ทำออกมาได้อยู่ในระดับที่ไม่แย่มากนัก โดยเฉพาะตัวละครของ แซม ที่โชว์ความเป็นตัวละครที่เคยอยู่ในระดับ Top Form แต่พอโตไปเรื่อยๆจนรู้ว่าชีวิตต่างๆของคนที่เรียกว่า Losers นั้นเป็นอย่างไร ก็ถือว่าทำออกมาใช้ได้ โดยเฉพาะประเด็นการเกาะผู้หญิงกินของ แซม นั้นเป็นประเด็นที่เจ็บแสบเอาเรื่องอยู่ เพราะเมื่อลองย้อนดูจากภาค 1-2 แล้วนั้น พอมาดูภาคนี้ถือว่า แซม มีความโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นอย่างที่ Bay บอกเลยทีเดียว โดยเฉพาะอารมณ์ขันของ แซม ที่ในภาคนี้ถือว่าหายไปซะหมดจดไม่เหลือกันเลยทีเดียว เพียงแต่ว่ายังมีบางฉาก และ บางนิสัย นั้นยังดูน่ารำคาญอยู่บ้าง นอกจากนั้นยังมีฉากประเภทที่ว่า.. ทำสิ่งที่มันออกแนว Impossible เกินคนธรรมดาทำกันเยอะเกินไปพอสมควร และสิ่งสุดท้ายที่อยากบอกตัวละครของ แซม คือ 'เลิกตะโกนเถอะนะ (ฮา)' ซึ่งนอกจากนี้ในภาค 3 สิ่งที่ชอบอย่างที่ไม่พูดไม่ได้คงหนีไม่พ้นการเปิดตัว 10 นาทีแรกของหนังที่เรียกว่าเอาประเด็นของการขึ้นไปดวงจันทร์ของมนุษย์โลก มาผูกเรื่องเข้ากับเหล่าหุ่นยนต์ได้อย่างน่าสนใจ + มีการแอบกัดจิกประเด็นต่างๆของสงครามโลกด้วยก็ว่าได้เลยหละ (ถึงแม้จะเป็นการกัดจิกแค่ปลายนวม ไม่เหมือนอย่างที่ X-Men : First Class เล่นกัดจิกทั้งเรื่องก็ตามทีเถอะ) ซึ่งอย่างสุดท้ายที่รู้สึกว่าทำให้ภาคนี้พอดูได้คงหนีไม่พ้นความใจถึงของ Bay ที่เล่นปิดถนน 12 บล๊อคที่ ชิคาโก + ฉาก Sky Driver ของหนังที่ทำออกมาได้ไม่เสียของเลยก็ว่าได้ + ฉากฆ่าหุ่นยนต์ต่างๆถือว่าทำออกมา Hardcore พอสมควร แต่น่าเสียดายเมื่อลองมองในด้านข้อเสีย อย่างแรกของหนังเลยคงหนีไม่พ้นบทของหนังที่ลองเอามาต่อกับภาค 1-2 แล้วมันรู้สึกแบบว่า ทำไมไม่บุกมาตั้งแต่ตอนนั้น แล้วทำไมไม่ทำตั้งแต่ตอนนี้ มารออะไรยังงี้ทำไม ประมาณนี้ + การฆ่าหุ่นยนต์ตัวละครหลักต่างๆของหนัง มันดูจะง่ายไปหน่อยไหม อารมณ์ประมาณว่าอยากจะเขี่ยตัวไหนทิ้ง ก็จัดการไปซะเละเทะเลย โดยเฉพาะข้อเสียของซี่รี่ย์นี้คงหนีไม่ ฉากการฆ่าบอสใหญ่ ของหนังที่ภาคนี้ก็ยังคงเดิมนั้นคือ 'ฆ่าง่ายซะเหลือเกิน' และนอกจากนั้นตัวละครเก่าๆ ที่น่าเสียดายตั้งแต่ภาค 2 ซึ่งนึกว่าภาคนี้จะกลับมาก็ต้องผิดหวังกันไปอย่างตัวละครนักแฮ็กวัยเยาว์อย่าง เกล็น และ แม็กกี้ พร้อมกับ ปธน.John Keller ที่โดนเขี่ยทิ้งไปตั้งแต่ภาค 2 อย่างน่าเสียดาย + ตัวละครหุ่นยนต์ในภาคนี้ที่รู้สึกจะใส่เข้ามาแบบ ไม่ยั้ง จึงทำให้กลายเป็นว่าหนังลืม Detail เล็กๆไปอย่าง ตัวละครจากภาค 2 หายไปไหน อะไรประมาณนี้ แล้วตัวละครใหม่ๆมาจากไหน ที่หนังไม่ได้บอกอะไรให้เรารับรู้กันมากนัก มาถึงก็เล่นบู๊แหลกสะบั้นกันซะอย่างเดียว โดยเฉพาะตัวละครที่มาจากไหนกันเยอะแยะก็ไม่รู้เหมือนกัน + ตัวละครบอสของแซมอย่างตัวละครของ John Malkovich ที่ดูไร้ประโยชน์ที่สุดใน 3 โลก ออกแนวประมาณว่าเอาใครมาเล่นก็ได้ + โดนเขี่ยทิ้งแบบไร้ประโยชน์ในที่สุดโดยทันทีเมื่อออกมาเรียกมุขแป๊กเสร็จเรียบร้อย ซึ่งอย่างสุดท้ายของหนังที่น่าเสียดายคงหนีไม่พ้นการที่หนังนั้นเล่นเอาฉากแอ็คชั่นเจ๋งๆ โชว์ CG ทั้งหลายนั้นไปไหวในฉาก Climax ซะหมด และปล่อยให้ปูบทซะยาวนานเกินไป จึงอาจจะทำให้หลายคนที่ดูในระบบ 3D นั้นเบื่อจนง่วงนอนไปกันซะก่อนก็ได้ (ใจจริงก็อยากลอง 3D นะ) สรุปแล้ว Transformers 3 จัดเป็นหนังที่น่าผิดหวัง แต่สำหรับใครที่เข้าไปดูเผื่อหวังหาความมันส์ + CG แนวเทพๆแบบกระหน่ำจัดเต็ม + นางเอกสุด เซ็กซี่ ที่มีหลุดๆอยู่ 1 ฉากคงไม่ผิดหวัง แต่สำหรับคนที่หวังจะให้หนังเรื่องนี้นั้น Perfect เหมือนตอนที่ภาคแรกเคยทำไว้ก็คงหวังยากกันหน่อยแล้วละครับทุกท่าน.. เรื่องนี้ผมให้ B- ครับ   Create Date : 03 กรกฎาคม 2554 1 comments Last Update : 3 กรกฎาคม 2554 9:31:26 น. Counter : 2751 Pageviews. Share Tweet

มีสาวๆ บางคนติให้ฟังว่านางเอกเหมือนกระเทย อันนี้ไม่รู้คุณหนุ่มๆ จะเห็นด้วยกันมากน้อยแค่ไหนนะ เหอๆ   โดย: Nanatakara 3 กรกฎาคม 2554 11:26:09 น.