Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2559
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
16 สิงหาคม 2559
 
All Blogs
 
เมื่อข้าพเจ้าไปเป็นเด็กวัดที่ Bön Monastery(3)

** (พ.ย. 2022) ทำการแก้ไขการอ่าน Bön เป็น เพิน แทนคำเรียกเดิมที่ระบุว่า "บอน"   

 



ฉันพยายามทำมือไม้แปลก ๆ ให้พระยุงดรุงดู
ในช่วงระหว่างนั่งรอ
Guest Master มาเปิดร้านขายของชำ 

“ไขว้นิ้วยังไงกัน ฉันเคยเห็นในหนังทิเบตตอนพระทำพิธีบูชา?.”

อันที่จริง มันก็มีการทำมือหลายแบบอยู่แต่ฉันจำได้แค่ลักษณะเดียวนี่แหละ





 

ยุงดรุงหงายมือขึ้นมาวางติดกัน ไขว้นิ้วก้อย ซ้ายทับขวา และเอานิ้วโป้งล็อค...
เว้นนิ้วนางสองข้างไว้ จากนั้นก็ไขว้นิ้วกลาง ซ้ายทับขวา 
โน้มนิ้วชี้มากดทับไว้-
อีกทีและบอกให้รู้ถึงชื่อเรียกที่ว่า 'Mudra'

“แล้วทำไปเพื่อเป็นสัญลักษณ์อะไรรึเปล่า?

หลังจากหัดทำได้สำเร็จแล้วฉันก็ถามต่อ

“อืม..ไปถามพระรินเชนเพื่อนเธอดีกว่านะ” พระยุงดรุงตอบ
“เขาเป็นครูสอนเรื่องนี้อยู่แล้ว ส่วนฉันไม่ถนัดเรื่องการอธิบายเท่าไหร่”

โห...ถ้างั้นฉันคงต้องไปเรียนภาษาทิเบต ไม่ก็ต้องหาล่ามไปแปลก่อนล่ะมั้ง
ถึงจะเข้าใจที่รินเชนพูดได้เข้าใจ  แล้วเรื่องตามหาความหมายของ
Mudra
ก็ต้องเป็นอันพับเก็บลง!

 



อาคารห้องสมุด

 

เรื่องการมาอยู่วัดบางทีก็ไม่ได้เงียบเหงาวังเวงเท่าไหร่นัก เพราะรินเชนมัก
จะหา
คนมาช่วยเป็นล่ามให้เสมอ ดังนั้นก็จึงไม่ใช่เรื่องแปลกนักที่ฉันจะได้เจอ
กับใครหลายคนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ 


อย่าง พระทินเล่ ผู้ดูมีหน้าตาดูแปลกแยกไปจากชาวทิเบต ก็ทำให้อดสงสัย
ไม่ได้ว่าเป็นใครมาจากไหนกันแน่?  
และคำตอบนั้นก็คือทินเล่เป็นชาวคินนัวร์
เขาบอกว่ามาอยู่ที่วัดตั้งแต่
หกขวบ และแม้ว่าที่บ้านจะนับถือพุทธผสมกับฮินดู
ตามสไตล์วัฒนธรรมลูกผสมของคนที่นั่น 
แต่ตัวเขาก็เลือกที่จะมาเป็นพระใน
ศาสนาเพิน 

พระคุนชก เป็นคนที่ถือกุญแจตึกห้องสมุดและมีหน้าที่ดูแลการคัดลอกตำราโดย
จะทำการสแกนเล่มคัมภีร์ทั้งหมดลงบนสื่อดิจิตัล เพื่อรักษาข้อมูลและใช้เป็นสื่อ
การเรียนการสอน

อีกทั้งใน
เวลาที่ห้องสมุดจะใกล้ปิดทำการตอนพักเที่ยง  
ฉันก็มักจะถูกคุนชกตามมาไล่ ...ไม่ใช่สิ มาเรียกเตือนเป็นประจำ 


แล้วก็ยังมี ชีมมี เพื่อนชาวทิเบต(ที่ไม่ได้เป็นพระ) มาทำงานดูแลห้องสมุดและ
เป็นลูกมือของคุนชก ซึ่งฉันมักจะมาขอยืมที่ชาร์จมือถืออยู่บ่อยครั้งแม้ว่าบางที
เขาอาจจะต้องหัวเสียกับคำออกเสียงที่เรียกเพี้ยนเป็น
 'ชิมิ' ที่แปลว่า "แมว"
อยู่ตลอดก็ตาม  Smiley
Smiley Smiley
 

 


ช่วงสายของวันนี้ คุนชก มีเวลาพอที่จะพาฉันมาดูห้องทำงานที่เก็บวางตำราที่
ถูกพิมพ์เก็บลงแผ่นกระดาษแบบธรรมเนียมเก่าแก่สุมกองบนชั้นวางเต็มไปหมด
ซึ่งมันจะถูกนำมาดัดแปลงสภาพเป็นไฟล์เพื่อบรรจุลงในแผ่น 
CD ภายหลัง และ
ในทุก ๆ ปี ฐานข้อมูลเหล่านี้ก็จะถูกนำมาลงบันทึกใหม่เพื่อป้องกันการสูญหาย 

ถึงแม้ว่าเพินจะดูเป็นศาสนาโบราณและยังถือจารีตโบราณอยู่ก็ตาม แต่การปรับ-
ตัวให้เข้ากับโลกปัจจุบันได้นั้น บางครั้งก็จำเป็นจะต้องพึ่งพาเทคโนโลยีเช่นกัน 

 




ชีมมี ได้แอบบอกความลับบางอย่างเกี่ยวกับคุนชกให้ฟัง
ว่าฉันควรเรียกเขาอย่างให้ความเคารพว่า "
เกเช่" 
เพราะพระคุนชกเพิ่งจบหลักสูตรขั้นสูงนี้เมื่อปีก่อน 


“ไม่” พระคุนชก บอกปฏิเสธอย่างไว  

“เรียกฉันว่า คุนชก เฉย ๆ ก็พอ...
ฉันอยากเป็นแค่ พระ ธรรมดา ๆ เท่านั้น”

 

 

 






 

นอกเหนือไปจากนี้ ที่ชั้นบนของห้องสมุดจะมีพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กตั้งอยู่  
ซึ่งในเช้าวันหนึ่ง ฉันได้แวะมาที่อาคารฯ นี้ และบังเอิญมาเจอกับ 'แม็กกี้' 

สาวใหญ่ชาวอังกฤษเข้าพอดี เธอจึงได้ชวนฉันขึ้นมาดูห้องด้านบนพร้อมกับ
พระบรรณารักษ์ที่มาไขกุญแจให้

ห้องนั้นมีการเก็บวัตถุเก่าแก่ อย่างข้าวของเครื่องใช้ ขวดโหลเก็บเมล็ดพันธุ์ฯ
และรูปภาพที่ติดแสดงบนผนัง ซึ่งของบางอย่างก็ได้นำติดมาจากทิเบตในช่วง
อพยพลี้ภัย แต่บางส่วนก็อาจต้องจำลองขึ้นมาใหม่  

 




“ช่วยหยิบ สิ่งนั้นมาให้ฉันดูหน่อยเถอะ”  แม็คกี้ วานให้พระบรรณารักษ์ช่วย
เปิดกุญแจที่ล็อคปิดตู้โชว์ เพื่อนำงานสลักโลหะ
ที่มีอายุเก่าแก่ มาจับลูบและมอง
ด้วยความคิดถึง  
เธอเล่าให้ฉันฟังว่ามันเคยเป็นของ ๆ เธอ หลังจากที่ไปตามหา
ตามซื้อจากแหล่งขายวัตถุโบราณ
มาอยู่หลายชิ้น และของบางส่วนที่ได้มาก็จะนำ
เอามาบริจาคให้กับทางวัดเพื่อเก็บในพิพิธภัณฑ์


จากนั้นเราก็มายืนมองภาพที่ติดบนผนังเป็นสถานที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ ทิเบต
และศาสนาเพิน แม็คกี้เล่าย้อนความหลังถึงเรื่องโน้นนี้ตามภาพไปเรื่อยว่ามี
ที่ไหนบ้างที่เคยไปเยือนมาแล้ว อย่างเช่นการได้ไปเดินโกร่าวนรอบเขาไกรลาส
ในทิเบตก็ด้วย

 

 

.....



 



(** หมายเหตุ : ในภาพนี้ไม่ได้เป็นเวลามืดอย่างที่เห็นนะ เนื่องจากช่วงนั้นไม่ค่อยมีแสงแล้ว
และดูสลัว ๆ เราจึงเปิดแฟลชเอาไว้เพื่อไม่ให้ภาพเบลอ...ดังนั้นรูปนี้จึงดูเพี้ยนไปเยอะเลย


ด้านความเป็นอยู่ หากไม่นับเรื่องอาหารการกินจากโรงครัวแล้วก็ยังจะมีมีร้าน-
ขายของชำและร้านน้ำชาเล็ก ๆ  ที่ตั้งอยู่ด้านนอกสองสามแห่งให้บริการ

ส่วนในช่วงเย็นของทุกวันตั้งแต่ 4
โมงเย็นเป็นต้นไป ก็จะมีรถกระบะที่ขนนำเอา
ผักและผลไม้สด มาชั่งกิโลขายกันตรงลานจอดรถแท็กซี่หน้าวัด ซึ่งฉันก็มักจะ
ดอดมาอุดหนุนผลไม้อยู่บ่อยครั้ง และก็เห็นพระบางรูปออกมาหาซื้อผักเพื่อเอา
กลับไปทำอาหารกินนอกเวลา (นอกเหนือไปจากที่โรงครัวของวัดเตรียมไว้)
เนื่องจากพวกพระบางส่วนต้องท่องตำรากันจนดึกดื่น 

แต่ในสิ่งที่ฉันได้เห็น... นี่คือฟากฝั่งของวัดหลักพื้นที่อารามสงฆ์นี้
จะมีแต่นักบวชชายประจำอยู่และดูเหมือนจะไม่ได้ลำบากอะไรนัก

 


แล้ว 'อารามของพระผู้หญิง'ที่ตั้งกลางเขาไกล ๆ นั่น จะมีความเป็นอยู่ยังไงกัน?
จากได้มองเห็นตัวอาคารที่ตั้งอยู่ไกลโพ้นในป่า ดูแล้วก็ช่างวังเวงซะจริง

ฉันจึงคิดว่าน่าจะไปดูให้เห็นกับตาสักหนจะดีกว่า 
เลยต้องไปถามเอาจากพระยุงดรุงตามเคย...


“ลงไปทางเดียวกับที่ไปโรงเรียนข้างล่างถ้าหาทางลัดเจอ
ก็แค่
15 นาที แต่ถ้าตามเดินทางรถวิ่งก็ไกลราว
ครึ่งชั่วโมง”

เขาช่วยอธิบายเส้นทางให้ฟังคร่าว ๆ ว่าจะเจอกับ 'ฟาร์มเห็ด'
ที่เก่าแก่ของอินเดียตั้งอยู่ระหว่างทางก่อนถึงสะพานข้ามลำธารสายเล็กอีกด้วย






โรงเรียนท้องถิ่น ที่ตั้งอยู่ระหว่างทางเดินผ่าน 
มีทั้งเด็กนักเรียนชาวทิเบต,เนปาลี และคนพื้นที่แถบนั้นเรียนร่วมกัน




เส้นทางถนน ที่ทำไว้พอให้รถขนาดเล็กวิ่งผ่าน


เส้นทางเดินเท้าไปวัดของพระผู้หญิง ไม่น่าจะต่างไปจากการขึ้นเขาลงห้วยนัก

ฉันไม่คิดว่าจะหาทางลัดโดยการทะลุป่าเจอแน่ ก็เลยต้องไปเรื่อย ๆ ตามถนน
ที่ทำไว้สำหรับให้รถวิ่ง ซึ่งดูแล้วก็น่าจะปลอดภัยกว่าเยอะ

แต่ผ่านไปนานสิบนาที ...ดูเหมือนจะเดินได้ไม่ถึงครึ่งทางเสียที  
ฉันได้ยินเสียงรถยนต์กำลังวิ่งมาจากทางด้านหลังแว่ว ๆ  

“ไปวัดพระผู้หญิงใช่ไหม?”

หลวงลุงรูปหนึ่ง ได้ขับรถสวนมาได้จังหวะพอดีและได้แวะจอดถาม
เขากำลังพาคนงานสามคน ที่นั่งอยู่ด้านหลังไปทำงานก่อสร้างที่ฟากโน้น
อีกทั้งที่เบาะนั่งด้านหน้าก็ยังว่างอยู่...

ถ้าอย่างงั้นก็คงต้องขอติดรถไปด้วยโดยไม่เกรงใจล่ะนะ  

 




มันเป็นเส้นทางที่วิบากมาก! หลังจากได้ขึ้นมานั่งรถแล้วก็ถึงกับรู้ซึ้งในความ
กันดาร ที่รถต้องขับซิกแซกไปมา บางทีก็ต้องขึ้นเนินและพื้นส่วนใหญ่มักเป็นหลุม
เป็นบ่อกระทั่งมีแอ่งน้ำขัง แต่ถึงอย่างนั้นพระท่านก็ยังซิ่งได้ไม่มีปัญหา 


มีหนหนึ่งที่ฉันพยายามยกกล้องขึ้นมาเก็บภาพของมุมหนึ่งที่ได้เห็นวัดหลักอยู่
บนเขาไกล ๆ ขณะที่รถยังแล่นโคลงเคลงอยู่  หลวงลุงก็ใจดีช่วยเบรกรถให้หยุด
กระทันหันเพื่อให้ฉันยกกล้องได้สะดวก 
แต่นั่นก็ทำให้เกือบหน้าทิ่มเลยแน่ะ



เมื่อมาถึงยังจุดหมายแล้ว หลวงลุงและคนงานต่างก็ขนนำอุปกรณ์ก่อสร้างลงจาก
รถเพื่อเตรียมเทพื้นปูนกันต่อ ขณะนั้นมีพระผู้หญิงที่ทำหน้าที่ดูแลสถานที่อยู่แค่ 

6 รูป ตัวอาคารฝั่งนี้ยังดูใหม่เอี่ยมอ่อง อาจเพราะเพิ่งสร้างได้ไม่นานนัก

ที่อาคารใหญ่ตรงกลางจะเป็นพื้นที่ของหอสวด
และมีหอพักเก่าและใหม่ตั้งขนาบข้าง

“ปกติจะมีกันอยู่ราวๆ
78 รูป แต่ตอนนี้เขาไปเรียนกันหมด”

หลวงลุง บอกให้ฟังถึงจำนวนผู้อยู่อาศัยในเขตอารามนี้ ซึ่งพระผู้หญิงจะมีชั้นเรียน
แยกออกไปจากพระนักศึกษาชาย  โดยสถาบันที่ว่าจะอยู่ไกลจากตรงนี้เล็กน้อย
ส่วนตัวหลักสูตรจะมีการเรียนการสอนจนไปถึงระดับ เกเช่ เช่นเดียวกัน
แต่สำหรับฝ่ายผู้หญิงจะเรียกในอีกชื่อว่า เกเช่มา
(Geshema)



 

ภาพของวัด หรือ เมนรี่ จากระยะไกลกับตำแหน่งที่ตั้งอยู่บนภูเขา
ซึ่งคำว่า MENRI  นั้นก็ได้ถูกใช้เรียกแทนวัดในศาสนาเพิน
โดยมีความหมายตรงตัวว่า Men = Medicine และ Ri = Mountain 

พวกเขาให้ความสำคัญต่อศาสตร์การรักษาโรคแบบแผนโบราณ ซึ่งยึดความเชื่อ
เรื่องตัวยาที่มาจากพืชพรรณสมุนไพรต่าง ๆ บนภูเขา  และจากความหมายของ
คำว่า"เมนรี่" นี้เอง ก็ทำให้ฉัน
หายแปลกใจว่า ทำไมที่ตั้งวัดจะต้องมาสร้างบนเนิน
เขาสูง 
และให้ความสำคัญกับการจัดตั้งวิทยาลัยทางการแพทย์แผนโบราณควบคู่
กันด้วยแบบนี้


 


พระหญิงได้ชวนให้ฉันมานั่งผิงไฟที่ห้องเล็ก ๆ ที่อยู่ด้านนอกของอาคารใหญ่
มันถูกก่ออิฐสร้างแบบง่าย ๆ มีการก่อไฟตั้งหม้อต้มน้ำร้อนทิ้งไว้ และมีกองไม้
สำหรับทำเชื้อเพลิงและภาชนะอื่นที่วางกองไว้บนพื้น เธอเอาน้ำร้อนและชามา
ให้ดื่ม หลังจากนั้นก็ตักข้าวกับแกงมาให้กิน ...อาหารมื้อนี้เป็นแกงถั่วที่เคี่ยวจน
เป็นน้ำข้นแล้วก็ต้มฟักเขียวที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยผ่านการปรุงรสมากเท่าไหร่



หอสวดและพื้นที่ประกอบพิธีทางศาสนา (แต่วันที่ไปถูกปิดไว้เลยไม่ได้เข้าไปดู)


หอพักที่อยู่ข้างสองหอสวดมนต์ 



โรงครัวที่อยู่ชั้นล่างหอพักหลังเก่า เห็นพระผู้หญิงมานั่งกินข้าวกันที่นี่ในช่วงเที่ยง

มุมภาพจากเนินสูง และบรรยากาศโดยรอบของพื้นที่



ทางเดินขากลับที่ต้องเดินข้ามสะพาน



ในวันนี้จะมีพิธีสวดอวยพรที่วัดหลัก บรรดาเหล่าพระหญิงที่เหลือก็ต้องเดิน

ทาง
ไปยังฝั่งโน้นเช่นกัน ฉันเดินกลับด้วยทางเท้าแต่ไปคนละทางกับกลุ่มพระฯ 

ที่หายวับไปอย่างรวดเร็วในทางลัดที่ต้องเข้าป่า




ส่วนหลวงลุงท่านคงไม่ต้องรีบร้อนนักเพราะยังต้องคุมงานเทปูนต่อ อีกทั้งยังมีรถ

ให้ขับกลับเองได้ทันเวลาอยู่แล้ว  และเรายังได้ทันเจอกันที่วัดอีกครั้งอยู่ดี

ซึ่งหลวงลุงจำฉันได้ และ
ยังเดินเข้ามาทักทายอีกด้วย

 

“คนไทยกับคนทิเบต นี่หน้าตาคล้ายกันมากจริง!”





ลานหน้า Protector temple ที่เปิดประตูด้านหน้าในวันที่มีการประกอบพิธีสำคัญ




มีข้อความสั้น ๆ ที่ส่งมาทักทายจากอีเมล์โดยพระนาวังที่ได้บังเอิญมารู้จัก

ตอนที่ฉันเดินหลงทิศทางมาโผล่ผิดที่ผิดทางและอาสาเป็นไกด์พาเดินรอบวัด


เมื่อหนก่อน




พวกเราจะมีพิธีใหญ่กัน ที่ Protector Temple ในวันที่ 4

ถ้ามาได้ก็มา รู้จักวัดชื่อที่ว่าใช่ไหม?



นานทีปีหนจะได้ดูการพิธีฯ ต่างบ้านต่างเมืองแบบนี้จะพลาดได้ไงเล่า

วัดที่ว่าอยู่ตรงไหน.... รู้
วันที่เท่าไหร่....รู้
แต่เวลาไหน.... ไม่รู้
แล้ว วันที่
4 นี่ก็คือพรุ่งนี้ไง นั่นคือปัญหา


พอฉันไปถามใครต่อใครถึงเรื่องนี้ก็ไม่เห็นมีใครเข้าใจ...
หรือจะว่าคนส่งสารแกล้งเขียนอำเล่นก็ดูไม่น่าใช่


"
Ceremony อะไร ไม่เข้าใจ?"

แม้แต่
Guest Master ก็ยังตอบแบบม่ายรู้ ม่ายชี้

ชาวต่างชาติที่อยู่เกสท์เฮาส์ก็พูดกลาย ๆ ว่าจะมีพิธีอะไรที่วัดสักอย่าง 

แต่พวกเขาก็ไม่รู้รายละเอียดดีนัก
เพราะดันไปถาม Guest Master เช่นกัน 




คืนนั้นประมาณสองทุ่มครึ่ง ก็มีสายเรียกเข้าจากคุนชก

สำหรับที่นี่มันก็ถือว่าดึกแล้วเพราะไม่มีแสงไฟรบกวน,ไม่มีสิ่งบันเทิง เงียบกริบ

ยิ่งพอหลังพระอาทิตย์ตกก็แทบจะไม่มีใครที่ไหนกล้าออกไปเพ่นพ่านนอกอาคาร

นาฬิกาชีวภาพของร่างกายก็เลยทำงานตามตารางเดียวกับบรรพบุรุษสมัยยุคหิน

ฉันลุกขึ้นมารับไม่ทันเพราะแขวนกระเป๋าใส่มือถือไว้ตรงลูกบิดประตู



วางสายไปแล้ว ไม่มีการโทรซ้ำอีก

คงไม่มีอะไรสำคัญ ไม่ก็อาจกดผิดเบอร์...


 

หลับต่อ




Create Date : 16 สิงหาคม 2559
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2565 10:15:20 น. 33 comments
Counter : 2631 Pageviews.

 
จ๊ะเอ๋


โดย: secreate วันที่: 16 สิงหาคม 2559 เวลา:21:02:24 น.  

 
จองที่ไว้ก่อน
พรุ่งนี้มาอ่าน ดูจากมือถืออ่านไม่มัน
น้องฟ้ายังอยู่ธิเบตหรือกลับมาแล้วค้า


โดย: secreate วันที่: 16 สิงหาคม 2559 เวลา:21:03:42 น.  

 
@secreate : (Bon) Tibetan settlement ที่ อินตระเดีย ค๊าบพี่โส่ย
ฟ้าไปมาเมื่อปลายปีก่อน (2015) ^^


โดย: กาบริเอล วันที่: 16 สิงหาคม 2559 เวลา:21:22:26 น.  

 
อะไรเนี่ย!

เมื่อกี๊กำลังอ่านตอน 1 กับ 2 อยู่เลย
พอกดเข้ามาอีกทีขึ้นตอนใหม่ซะแล้ว อ่านไม่ทันอะ
เจ้าแบ่งความขยันมาบัดเดี๋ยวนี้! *3*

ป.ล. e ตาคนนี้อ่านนานมากเนอะ (สงสัยอ่านหนังสือไม่ค่อยออกมั้ง 55)
เดี๋ยวมาใหม่แล้วกัน ^^"


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 16 สิงหาคม 2559 เวลา:22:36:49 น.  

 
@ ทุเรียนฯ : นี่ก็ทิ้งระยะห่างการดองไว้นานแล้วนะ
ปล. ถ้าเห็นอะไรแปลกๆ ก็ม่ายต้อง งง กำลังแก้คำผิดอยู่ 555


โดย: กาบริเอล วันที่: 16 สิงหาคม 2559 เวลา:22:54:43 น.  

 
อ่าน 2 ตอนแรกจบแล้วครับ
ว่าจะเม้นต์รวบยอดกับตอนที่สาม แต่การเม้นต์ 3 ตอนรู้สึกมันยาวไป
แถมตลาดวายไปนาน(แสนนาน)แล้วด้วย เลยไม่เอาดีกว่า ^^"
แต่ถ้าเห็นอะไรแปลก ๆ แล้วไม่ทักกันเลย คงดูไม่จริงใจเท่าไหร่
เพราะฉะนั้น...คุณฟ้าแวะไปดูที่เม้นต์ไว้ในตอน 2 ด้วยครับ ฮุฮุ :D


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 17 สิงหาคม 2559 เวลา:0:28:31 น.  

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 17 สิงหาคม 2559 เวลา:3:14:20 น.  

 
วันนี้เกิดอะไรขึ้นคะนี่
เหมือนเล่าด้วยรูปเลย
ภาษาเห็นเป็นนาฬิกา ผีเสื้อ ลูกศร เต็มไปหมด

เราต้องหาซื้อวุ้นแปลภาษามั้ยเนี่ย หรือเป็นเครื่องเราคนเดียว



โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 17 สิงหาคม 2559 เวลา:11:52:30 น.  

 
@เรียวรุ้ง : ปกติ ใช้ Chorme มันก็ดูปกตินะ
เลยลองเข้า IE ดู มันอ่านไม่ได้จริงๆด้วย
ตอนนี้แก้ฟอนต์ใหม่ แล้ว ค่า...
ขอบคุณมากค่ะที่ช่วยบอกไว้



โดย: กาบริเอล วันที่: 17 สิงหาคม 2559 เวลา:13:06:10 น.  

 
กลับมาเปิดคอมพ์ที่บ้านอ่านได้แล้วค่ะ ตัวหนังสือปกติ

แต่ก็ยังสงสัยทำไมที่ทำงานผิดปกติไม่สามารถอ่านได้

ที่ทำงานเราเปิดด้วย Chorme ที่บ้านก็ Chorme

ช่างเถอะไงก็อ่านได้แล้ว

เห็นไขว้นิ้วจากภาพบนสุดเราก็รีบทำตามแต่ไม่สำเร็จทำไม่ได้อะ

ชิมิแปลว่าแมวหรือคะ น่ารักจังจำง่ายด้วยสิ

ข้าวกับแกงหน้าตาแปลกจัง ถ้าไม่บอกว่าแกงถั่วกับต้มฟักเขียวก็ยังมองไม่ออกอยู่ดีว่าที่เห็นเขียวๆนั่นคือฟัก

เห็นพูดถึงพระหญิงเลยอยากเห็นภาพบ้าง ห่มจีวรเหมือนพระและโกนหัวเหมือนพระเลยรึเปล่าคะ

สุดท้ายคงต้องติดตามตอนต่อไปถึงจะได้รู้ว่าได้เข้าไปดูพิธีใหญ่ที่ว่ามั้ย


โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 17 สิงหาคม 2559 เวลา:20:03:20 น.  

 
เป็นบันทึกการเดินทางที่ค่อนข้างละเอียด ต้องค่อยๆอ่าน ค่อยทำความเข้าใจ วันนี้อ่านไม่จบก็มาตามอ่านวันหลังได้ ขอบคุณนะครับที่เอาความมีชีวิตชีวาจากแดนไกลมาฝาก
+


โดย: Insignia_Museum วันที่: 17 สิงหาคม 2559 เวลา:20:15:10 น.  

 
โอ้โห~ เป็นหมื่นปีจริงเหรอเนี่ย (แหม อุตส่าห์ลดให้ตั้งปีนึงแน่ะ ^^")
ที่น่าทึ่งคือเป็นตัวเลขแบบเป๊ะ ๆ ไม่ได้เป็นตัวเลขกลม ๆ ซะด้วย
แล้วเค้าบันทึกกันยังไงล่ะเนี่ย คงไม่ได้ใช้วิธีวิทยาศาสตร์ประมาณว่า...
ตรวจสอบโดยให้ครึ่งชีวิตของ คาร์บอน-14 ในหามั้ง ^^"

.....

"Mudra"
ภาพแรกยกมือสองข้างขึ้นมาอย่างงี้แล้วถ่ายรูปยังไงเนี่ย
สงสัยตั้งกล้องไว้ แล้วเอาจมูกจิ้มปุ่มชัตเตอร์มั้ง
(e ตานี่ท่าจะเพี้ยน ชอบสงสัยอะไรที่คนอื่นเค้าไม่สงสัยกัน 55)

เท่าที่อ่านมาตั้งแต่ตอนแรกถึงตอนที่ 3
ถึงแม้ศาสนา Bon จะดูเป็นศาสนาที่หาคนรู้จักได้น้อยมาก
ผมก็เพิ่งได้ยินจากบล็อกคุณฟ้านี่แหละ
(ตอนแรกผมนึกว่า Bon ที่เป็นภาษาฝรั่งเศสด้วยซ้ำ ^^")
แต่ดูเค้าจัดระเบียบความคิดและความเป็นอยู่ของศาสนิก
รวมทั้งผู้เยี่ยมเยือนจากที่ต่าง ๆ ได้เป็นระบบดีใช้ได้เลยครับ
ไม่รู้ตอนต่อไปมีอะไรอีกมั่ง ไว้รอดูแล้วกัน ^^

.....

ป.ล. อัพบล็อกไปแก้ไปนี่เรื่องธรรมชาติเลยครับ ฮุฮุ
อย่างผมนี่แก้เกิน 10 ครั้งแน่ะ (หลัง ๆ อัพ 2 ภาษายิ่งผิดเป็น 2 เท่า ^^")
แต่โชคดีที่ไม่มีใครอ่านไง ก็เลยหาไม่เจอว่าผิดอะไร 55


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 17 สิงหาคม 2559 เวลา:22:32:35 น.  

 
มันออกเสียงว่ายังไงคะ? มุทรา มุดรา?

พี่ลองทำแล้ว ทำได้ แต่เมื่อยนิ้วอยู่

ฟ้าโชคดี มีรถพาไปจนได้อ้ะ

แหงะ รอลุ้นว่าจะได้ไปงานมั้ยนะ ลุ้นๆ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Max Bulliboo Klaibann Blog ดู Blog
เจ้าการะเกด Food Blog ดู Blog
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
ข้ามขอบฟ้า Klaibann Blog ดู Blog
อุ้มสี Music Blog ดู Blog
คนผ่านทางมาเจอ Literature Blog ดู Blog
Raizin Heart Movie Blog ดู Blog
Close To Heaven Food Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 18 สิงหาคม 2559 เวลา:16:00:51 น.  

 
@สาวไกด์ใจซื่อ : พี่เต้ย อ่านว่า " มู ด(ะ) ร่า " ค่ะ


โดย: กาบริเอล วันที่: 18 สิงหาคม 2559 เวลา:16:48:35 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะ

รีบเข้ามาหาห้องครัวเลยทีเดียว

โอ...เห็นแบบไกลไกลจริงด้วยค่ะ

กระจ่างแล้วค่ะ


โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 18 สิงหาคม 2559 เวลา:19:07:46 น.  

 
แหมๆๆๆ นึกว่าจะไม่ไป วัดพระผู้หญิงแล้วซะอีก
แต่ก้ไปจนได้นะ ขาไปโชคดีมากเลยได้นั่งรถ ขากลับเดินขาลากเลยมั้งเนี่ย555

แล้วก็ ท่านิ้วล้อค mudraที่ลองทำนี่
น้องฟ้ากว่าจะแกะออกหลายวันมั้ยเนี่ย สงสัยจังเย้ย 555

จริงๆ อ.เต๊ะ เดาว่า น่าเป็นท่าที่จะใช้ในการควบคุมพลังดรรชนี ลมปราณ เพื่อฝึกสมาธิ ควบคุมจิตใจร่างกาย

คล้ายๆ ท่าโยคะ+กำลังภายในนะ ถ้าเดาไม่ผิด แฮ่ๆ555

ส่วนเรื่องงานสถาปัตยกรรม ที่นี่นี่ ประตูหน้าต่าง
่สวยงามแปลกตามากๆ มีจังหวะ รูปแบบ และpattern เป็นเอกลักษณ์เอามากๆ

แต่เรื่องสีนี่สดใส แสบสัน เอามากๆ คงเป็นจิตวิทยา เรื่องการกระตุ้น ให้ร่างกาย active ตื่นตัว
เนื่องจาก สภาพภูมิอากาศที่หนาวเย็นละเนอะ

แล้วก้ตอนสุดท้ายนี่ อ.เต๊ะ เดาว่า น้องฟ้าพลาด
งานพิธีสำคัญที่ว่า แหงๆ เพราะรับโทรศัพท์ไม่ทัน
เลยนอนต่อ กรนสนั่นวัดซะงั้น 555

ปล ลิง หลวงพี่ในห้องสมุดนี่ ดูทีแรก อ.เต๊ะ คิดว่า เป็นน้องร้อง อู๋ ธนาธร ที่ร้องเพลง หัวใจกระดาษ ไปบวชที่นั่นซะอีกแน่ะ เย้ย 555





บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ




บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้


กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: multiple วันที่: 18 สิงหาคม 2559 เวลา:19:47:07 น.  

 
อาคารห้องสมุดสวยและดูสงบ ในห้องสมุดก็ดูขลัง
เป็นชีวิตที่เรียบง่ายและอบอุ่นมาก เจอแต่คนใจดีตลอด
โรงสวดอาคารสวยแปลกตา อาคารข้างโรงสวดดูใหม่อยู่นะคะ

กลางวันก็ดูเงียบสงบขนาดนี้ กลางคืนคงจะยิ่งเงียบสงบมากกว่าเดิม
ไม่มีไฮเทคอะไรเลย นอนกันกี่โมงค่ะ

กาบริเอล Travel Blog



โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 19 สิงหาคม 2559 เวลา:0:11:12 น.  

 
ผมอ่านแล้วก็ดันจะลองทำตามดูซะงั้น มันน่าลองทำตามน่ะ

แมว แมว เมี๊ยว เสียงต่างกันแค่นิดเดียวความหมายเปลี่ยนเลย

ได้รู้จักคนหลายคนนะครับ ทางถนนอาจดูเสียเวลา แต่ทางปกตินี่แหละ ถือเป็นทางลัดที่สุด บางครั้งอยากทำเวลาไปใช้ทางลัดแล้วเกิดผิดพลาด ยิ่งเสียเวลาหนักกว่าเดิมก็มี

ดีนะครับที่มีรถมา แบบนี้สบายเลย

เข้าใจอารมณ์เลยมืดคือนอน เงียบสงบ ที่บอกดึกแล้วเข้าใจได้ครับ เพราะไม่ถึงทุ่มก็เริ่มมืดแล้ว น่าจะเกรงใจคิดว่าหลับไปแล้ว เลยไม่โทรซ้ำ (รึเปล่า)



กาบริเอล Travel Blog
+


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 19 สิงหาคม 2559 เวลา:0:27:30 น.  

 
มาอ่านแระ จากจอคอมพ์ค่อยยังชั่วหน่อย
ชิมิ เรียกพระเป็นแมวก็ได้ อิอิ

เคยเห็นการทำนิ้วมือเป็นสัญญลักษณ์แบบนี้ที่ไหนซักแห่ง มีเป็นรูปเหมือนมังกรก็มีนะ
แต่ไม่รู้ว่ามันมาจากธิเบตหรือเปล่า

ดูความเป็นอยู่เรียบง่ายของพระแล้วแอบขัดตากับการก่อสร้างอาคารแบบก่ออิฐฉาบปูน แต่มันก็คงเป็นความสะดวกของคนทำงานและพวกพระละเนอะ ไม่มีอะไรคงทนถาวร จะหวังว่าได้เห็นสภาพเดิมๆเหมือนเมื่อเกือบร้อยปีที่แล้วก็คงไม่ยุติธรรมกับคนในโลกปัจจุบันที่ใช้อาคารตรงนั้น

ชอบคนที่ซื้อของเก่ามาแล้วเอามาบริจาคให้กับพิพิธภัณฑ์จังค่ะ ถือว่าเป็นการแบ่งปันที่ดีมาก ไม่สะสมเป็นสมบัติ(บ้า)ส่วนตัว เหมือนเศรษฐีบางคน

+1 travel blog นะคะ


โดย: secreate วันที่: 19 สิงหาคม 2559 เวลา:11:48:50 น.  

 
สวัสดีคะคุณน้องฟ้า..

ลองไขว่นิ้วแบบที่ทำให้ดู..แปลกดีนะคะ

โหวตให้เลยคะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
a whispering star Parenting Blog ดู Blog
Ariawah Auddy Travel Blog ดู Blog
บ้านต้นคูน Food Blog ดู Blog
เรียวรุ้ง Literature Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog



โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 19 สิงหาคม 2559 เวลา:13:57:31 น.  

 
สวัสดีค่ะ

ไม่ได้แวะเข้ามาเยี่ยมเสียนาน
ไปเป็นเด็กวัดถึงตอนที่3แล้วหรือนี่
ตามไปดูสองตอนที่แล้ว (แต่ยังไม่ได้อ่านแบบละเอียด อิอิ)

ชอบงานสถาปัตยกรรมของวัดที่นั่นค่ะ
ชอบสี ชอบลวดลาย
คงเป็นเอกลักษณ์ของเค้านะคะ
แต่บางส่วนก็มีลักษณะคล้ายๆกับของจีน
โดยเฉพาะภาพโรงสวดและพื้นที่ประกอบพิธีทางศาสนา

คุณแม็กกี้นี่เค้าคงจะคุ้นเคยกับทางวัด
และผู้คนแถวนั้นมากเลยนะคะ

+ Travel Blog ค่ะ




โดย: ผีเสื้อยิปซี วันที่: 19 สิงหาคม 2559 เวลา:17:07:03 น.  

 
จะ "บอน, Bön หรือ Pre-Buddhist Tibetan" ก็ไม่คุ้นอะครับ
เพิ่งเคยเห็นจากที่นี่นี่แหละ ^^"


(จากบล็อกนู้น)

ปิ๊งป่อง! มีคนสังเกตด้วยว่าน้อง ๆ มาจากไหน (ภูฏาน 3 จีน 1) >_<
การจะไปภูฏานนี่ไม่ง่ายเลยครับ เค้าจำกัดนักท่องเที่ยวด้วย
แต่อยู่ดี ๆ ก็มีชาวภูฏาน (น่ารัก ๆ) มาทำความรู้จักถึงที่
ก็รู้สึกดีเหมือนกันนะ ^^

เรือคลองแสนแสบ ถึงน้อง ๆ ไม่อยากไปก็ต้องไปอะครับ
ที่เขียนในบล็อกนั่นอิงจากเรื่องจริงเลยนะ
ส่วนที่ใช้ Pikachu ก็มีความหมาย เพราะมีชื่อคนเขียนอยู่ในนั้นด้วย
ถ้าน้อง ๆ เข้ามาอ่าน ก็น่าจะรู้ว่าหมายถึงอะไร ^^


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 20 สิงหาคม 2559 เวลา:12:29:33 น.  

 
ชิมิ กับ บิลลี่ แปลว่า แมว น่ารักดีจ้ะ

มีเรื่องสงสัยเกี่ยวกับพระผู้หญิง อ่านเลื่อนลงมา ได้คำตอบแล้วจ้ะ

ฟ้า ต้องเป็นคนน่ารัก น่าเอ็นดูแน่ ๆ เลย ไปที่ไหน มีแต่คนเอื้อเฟื้อ เอ็นดู ภาพจากห้องสมุด เอ็กซ์คลูซีฟซะ

... รับโทรศัพท์ไม่ทัน มีลุ้น ต้องเกี่ยวกับงานพิธีแน่เลย




บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
lovereason Literature Blog ดู Blog
นาฬิกาสีชมพู Dharma Blog ดู Blog
คนผ่านทางมาเจอ Parenting Blog ดู Blog
**mp5** Dharma Blog ดู Blog
เรียวรุ้ง Literature Blog ดู Blog
บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน Food Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


*** ทั้งล็อคเกอร์ ทั้งห้อง ใส ๆ แบบนี้ พี่ว่าดีกว่านะ เจ้าหน้าที่เอง ก็เห็น ๆ กันไปเลย ทำงานโปร่งใส เรามองเห็นของเราด้วยไง

ไม่ใช่วัตถุสีทองก็แสบตาจ้ะ เรือนยอดทำด้วยโลหะ กลางแดดแบบนี้ อีกอย่างก็พวกตึก อาคารสีขาว ๆ นี่ก็แสบตา ขอให้ฝนไม่ตกเป็นพอ ที่เหลือ พี่ยอมหมด 5555


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 20 สิงหาคม 2559 เวลา:16:10:39 น.  

 
ตามมาอ่านสองตอนรวด

ไขว้นิ้วได้สลับซับซ้อนมากครับ ยิ่งกว่าตอนนินจาเพ่งจักระ ตอนทำมือแบบนี้ใครถ่ายรูปให้เนี่ย? (อ้อ เอาฟันกดชัตเตอร์)
ชิมิภาษาทิเบตแปลว่าแมวเหรอเนี่ย ส่วนเราๆก็ติดจากภาษาวัยรุ่นกันไป ห้องเก็บตำราก็เห็นแล้วชวนอึดอัดดีจริง จับลงวิกิปิเดียให้หมดเลยครับ
จากบล็อกที่แล้วอยากให้ชวนมาเที่ยงฝั่งอารามหญิงบ้าง ว่าแล้วสาวฟ้าก็จัดให้ (สนใจฟาร์มเห็ดด้วยแหะ) แต่แต่งชุดเหมือนกันและโกนหัวแบบผู้ชาย มองไกลๆนี่แยกไม่ออกเลย
อาหารก็อืม.... มาถึงนี่ต้องทำใจ ไม่มีอะไรดีไปกว่าถั่วแล้วครับ
ตอนไปทำพิธีที่วัดหลักพระหญิงต้องเดินผ่านช่วงทุรกันดารนั่นไปด้วยเท้า นึกแล้วก็โหดไม่เบา
ว่าแต่ miss call นั่นอะไรอะ? สงสัยชวนไปทำประกัน


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ว่าแต่ เห็นทุเรียนกวนมาเพ่นพ่านแถวนี้ อัพบล็อกแล้วเหรอตะเอง เดี๋ยวต้องแว้บไปดูเสียหน่อย


โดย: ชีริว วันที่: 20 สิงหาคม 2559 เวลา:19:34:28 น.  

 
ไขว้นิ้วนั้นน่าจะทำยากมาก
แต่มีศิลปะมากเลยเนอะ 55 คือต้องเรียกให้ดีเข้าไว้
เพราะไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร

เวลาไปแบบนี้ คุณคุ้นเคยกับอาหารถิ่นเป็นอันดี
เลยนะคะ เก่งจัง

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ซองขาวเบอร์ 9 Literature Blog ดู Blog
AppleWi Beauty Blog ดู Blog
Opey Beauty Blog ดู Blog
**mp5** Dharma Blog ดู Blog
zungzaa Literature Blog ดู Blog
JewNid Literature Blog ดู Blog
อุ้มสี Music Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

เจ้านุ้งอ่ะ เวลาเป็นลูกม๋าของอิลุงกะอิป้าก็ต้อง
เป็นอินุ้งจิ จะได้เป็นพวกเดียวกัน ไม่ต้องฉงฉานหรอก
กินจุจนอ้วนปี๋แล้วค่ะ



โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 20 สิงหาคม 2559 เวลา:21:17:36 น.  

 
ผัก ผลไม้ที่นำมาขายทุกสี่โมงเย็น
สี่โมงเย็นดูมืดเร็วเหมือนกันนะคะ
อาคารวัดพระผู้หญิง สวยมีเอกลักษณ์ โชคดีที่น้องฟ้าได้นั่งรถไม่ต้องเดินจนถึง

ตำราเก่าแก่ถูกแปรสภาพลงซีดี ทำให้อยู่คงทนขึ้น
ผู้ทำเสียสละเวลาเพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ น่าชื่นชมจริงๆค่ะ

Mudra ไขว้นิ้ว ยังทำไม่ได้ค่ะน้องฟ้า ต้องลองต่ออีกนิด

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

..................................


โดย: Sweet_pills วันที่: 21 สิงหาคม 2559 เวลา:1:08:39 น.  

 
สวัสดีค่ะ
เห็นแว๊ปๆ อัพบล๊อกใหม่
แต่เข้ายังบล๊อกเดิมอยู่
งั้นรอตอนต่อไปค่ะ


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 24 สิงหาคม 2559 เวลา:1:32:31 น.  

 
@ข้ามขอบฟ้า : มีอัพที่หน้าอื่นอยู่ไว้บ้างค่ะ
แต่ฟ้าไม่ได้ตั้งค่าหน้าหลัก กับ ปิดคอมเมนต์ไว้

ปล. ช่วงนี้สัญญาณอินเตอร์เนตไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่
กำลังหาทางไปเยี่ยมบล็อกเพื่อนๆ อยู่แต่อาจช้าหน่อยนะคะ




โดย: กาบริเอล วันที่: 24 สิงหาคม 2559 เวลา:16:36:11 น.  

 
สวัสดีครับคุณฟ้า
วัดดูสวยงามมากเลย
สีสัน ลวดลาย วิจิตรมากๆ
สะดุดตาจริงๆ



โดย: loongchat (สมาชิกหมายเลข 3016924 ) วันที่: 24 สิงหาคม 2559 เวลา:17:01:54 น.  

 
จากบล็อก เบื้องหลังการถ่ายทำรกจริงๆ ครับ เบื้องหลังไม่ค่อยน่าดูหรอก ผมพยายามเช็คอยู่เสมอเพื่อไม่ให้หายครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 24 สิงหาคม 2559 เวลา:21:48:26 น.  

 
วันหลังพี่ต๋าจะลองทำแบบน้ำใสบ้างค่ะน้องฟ้า
มีประโยชน์ต่อสุขภาพกว่ากันเยอะเลยนะคะ
แบบนี้เข้มข้น หอมมันอร่อย แต่คงทานได้ปีละครั้งสองครั้งค่ะ (จริงหรา อิอิ)

ขอบคุณน้องฟ้าที่อวยพรวันเกิดพี่ต๋านะคะ

มีความสุขมากๆเช่นกัน
นอนหลับฝันดีคืนนี้จ้า



โดย: Sweet_pills วันที่: 24 สิงหาคม 2559 เวลา:23:23:30 น.  

 
มีคำที่พี่ไม่เคยได้ยินหลายคำเลย

พี่ขอใช้หมวดนี้นะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mariabamboo Parenting Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
กาบริเอล Education Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


*** หนูดี ทำรูปไว้บ้างแล้วจ้ะ กำลังคิดว่าจะเล่าเรื่องยังไงดี พี่ไม่ค่อยถนัดด้วยสิ จะแปะแต่รูปก็ชอบกลเนาะ

หนูดี ขี้เหร่โจ๊นนน ฟ้า อย่าคาดหวังอะไรนะ 55555


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 25 สิงหาคม 2559 เวลา:19:28:38 น.  

 
แวะมาเยี่ยมค่ะ

เข้าใจเลยค่ะ ถ้าเน๊ตช้า อืด
เปิดแต่ละหน้ากว่าจะขึ้นทำให้หงุดหงิดได้เหมือนกัน
ก็ขอให้เน็ตเข้าที่เข้าทางเร็วๆนะคะ
จะได้ชมบล๊อกท่องเที่ยวต่อ


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 26 สิงหาคม 2559 เวลา:1:58:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กาบริเอล
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




ชอบต้นไม้, แมว, หนังสือ
และออกเดินทางท่องเที่ยวบ้าง

ไม่ชอบพบปะผู้คนมากนัก
เป็นมนุษย์จำพวก introvert

การเขียนบล็อก
คืออีกพื้นที่บอกเล่าผ่านตัวอักษร
และตัวตนของเราก็อยู่ในสิ่งที่เขียนค่ะ

ขอบคุณ Bloggang
สำหรับพื้นที่แบ่งปันตรงนี้

....

เริ่มต้นลงบันทึกอย่างเป็นทางการ
ณ วันที่ 16 ม.ค. 2014


###ไม่สะดวกพูดคุยหลังไมค์นะคะ###

© ขอสงวนลิขสิทธิ์ ภาพถ่าย 
ห้ามนำไปใช้ ดัดแปลง แก้ไข 
โดยไม่แจ้งที่มา ก่อนได้รับอนุญาต


New Comments
Friends' blogs
[Add กาบริเอล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.