Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2559
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
23 มิถุนายน 2559
 
All Blogs
 
KINNAUR : Chhitkul ณ หมู่บ้านแห่งสุดท้ายฯ ของอินเดีย (2)




" ถ้าเกิดไม่ส่งข่าวกลับมาหลังไปถึงจิตกุลแล้ว ...ก็แปลว่า
ฉันหาทางเดินทะลุผ่านหุบเขาฯ เข้าเขตทิเบตเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะ "


เรื่องขี้โม้ในร้านน้ำชาถูกเล่าโยงกันแบบขำ ๆ ถึงเขตพรมแดน 
ในหมู่บ้านจิตกุล และฉันก็รู้ดีล่ะว่ามันก็เป็นแค่เรื่องเพ้อเจ้อ 

นึกย้อนไปถึงการเดินทางในอุดมคติแบบสมัย พระถังซัมจั๋งที่เดินข้าม
ผ่านแว่นแคว้นโน้นนี้จนมาถึงชมพูทวีปได้ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องง่ายนะ ... 
และจนมาถึงยุคที่เรียกว่าโลกไร้พรมแดน ก็เช่นกัน 

เพราะมันก็ยังมีเส้นบาง ๆ ที่เรียกว่ากฏวางขวางอยู่วันยันค่ำ

"เป็นไปไม่ได้หรอก ..."

มิตรสหายผู้เคยมาเยือนหมู่บ้านแห่งสุดท้ายฯ กล่าวดักคอไว้

"จากหมู่บ้านนี้เมื่อเธอมุ่งหน้าไปเรื่อย ๆ ตามเส้นถนน
สักเดี๋ยวก็จะต้องเจอป้ายห้ามเข้าพื้นที่ปักไว้เองแหละ"


บางที...ถ้าหากเกิดไวกว่านี้ไปสักพันปี 
ฉันคงอยากไปเป็นพวกนักเดินทางในขบวนคาราวาน




สุดเขตแค่นี้ไปต่อไม่ได้ละ เคยแอบหาทางลงไปทางด้านล่างด้วยนะ
แต่ก็มีพืชปลูกขวางไม่ก็ท่อส่งน้ำและแปลงนา ที่ทำดักเอาไว้หมด



หากมองตามการไหลผ่านของแม่น้ำบาสป้า จิตกุล ถือเป็นหมู่บ้านแห่งแรก
ที่ตั้งอยู่ต้นธาร  
และถ้ามองตามเส้นถนนบนแผนที่กับการสิ้นสุดระยะทาง
มันก็จะกลายหมู่บ้านแห่งสุดท้ายไปโดยปริยาย

นอกจากแนวขุนเขาที่เป็นปราการธรรมชาติ ซึ่งตั้งกั้นโลกอีกวัฒนธรรมและเชื้อชาติแล้ว
พอหลุดพ้นจากเขตหมู่บ้านจิตกุลไปก็จะไม่พบการตั้งถิ่นฐานอื่นใดอีก 
จะเห็นอยู่ก็แค่ตัวอาคารที่ทำการของ 'ตำรวจชายแดนอินเดีย-ทิเบต' เท่านั้น 







จิตกุล มีพื้นที่แบ่งเป็นสองส่วน ก็คือบริเวณที่ตั้งของหมู่บ้านและฝั่งที่เป็นป่าสน
จากครั้งแรกที่ได้เห็นฝั่งป่าอย่างไกล ๆ เมื่อลงจากรถเมล์ มันดูเหมือนมีปุยหิมะ
ขาวแทรกพื้นที่ด้านล่างเต็มไปหมดจนฉันเข้าใจไปว่ามาถึงช่วงที่มีหิมะตกแล้ว 


แต่แล้วก็ต้องแอบสงสัย ว่าทำไมมันถึงมีหิมะตกแค่ฝั่งเดียว?

ชาวบ้านที่นั่นยืนยันว่า 'ไม่ใช่หิมะ'  ถ้าอยากเห็นหิมะตกที่จิตกุลก็ต้องรอจนถึง
เดือนธันวาคมโน่น  
ฉะนั้นจากภาพที่เห็นมันจึงเป็นเพียงแค่น้ำค้างแข็งที่ไม่โดน
แสงแดดเพราะมีเงาของร่มไม้บังไว้ตลอดต่างหาก และด้วยเหตุนี้
มันจึงไม่ละลาย
หายไปกับแสงอาทิตย์เหมือนกับฝั่งหมู่บ้าน  

ฉันข้ามฝั่งมาเดินเล่นอยู่แถวป่า แต่ก็ไปไหนไม่ไกลไปจากริมน้ำนักเพราะพี่ที่ร้าน-
ขายข้าวบอกเตือนว่าถ้าเข้าไปในเขตลึก ก็อาจมีอันตรายจากสัตว์ป่า ซึ่งเท่าที่
เห็นในตอนนี้ ก็มีแค่ชาวบ้านที่เดินขึ้นเขาไปตัดกิ่งไม้มาเก็บสะสมเป็นฟืนเท่านั้น

ฉันเห็นนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย แวะเวียนมาเที่ยวหมู่บ้านจิตกุลกันในช่วงสาย
พวกเขาข้ามฝั่งมาถ่ายรูปกันตรงฝั่งป่า เพราะมีฉากสวย ๆ ของน้ำค้างแข็งซึ่งดู
คล้ายหิมะดาษดื่นเต็มไปหมด  จากนั้นก็แวะกินข้าวกลางวันที่ร้านของบ็อบบี้
และนั่งรถไปยังที่อื่นกันต่อ ... สรุปได้ว่าพวกเขามาเยือนหมู่บ้านนี้กันแค่ครึ่งวัน

นั่นก็ทำให้ฉันก็เลิกแปลกใจแล้วว่าทำไมบรรดาที่พักทั้งหลาย
ถึงพากันปิดหายจ้อยกันหมดแล้วในช่วงนี้







อาคารบ้านเรือนในหมู่บ้านจิตกุล มักด้วยการสร้างด้วยไม้หนาเตอะเป็นส่วนใหญ่ 
หลังคาแบบดั้งเดิมจะปูด้วยแผ่นหิน แต่ในปัจจุบันผู้คนก็หันมานิยมใช้สังกะสีแทน
มากกว่า และนอกเหนือไปจากนี้ก็เห็นมีการสร้างบ้านปูนขึ้นมาอีกด้วย




พวก งานศิลปะที่โดดเด่น ก็มักจะไปปรากฏโชว์ให้เห็นตามสถานที่ทางศาสนา
และไม่ว่าจะเป็นวัดที่มีขนาดเล็กหรือใหญ่ เราก็มักจะได้เห็นลวดลายการแกะสลัก
ไม้ที่สวยงามตามแผ่นประตู,ระย้าไม้ที่ห้อยเรียงรายที่ชายขอบหลังคา, เสา ฯลฯ





ในเรื่องของพื้นที่การเกษตร เสียดายนะที่ผลผลิตต่าง ๆ ถูกเก็บเกี่ยวไปจนหมด
และ ที่แปลงเพาะปลูกก็โดนไถกลบจนเกลี้ยงกริบ ฉันเลยไม่ได้เห็นพื้นที่
สีเขียวอย่างในช่วงเพาะปลูก รวมไปถึงหน้าตาของ 'มันฝรั่ง' ราคาแพงด้วย 

ทั้งนี้ยังมีกรีนเฮาส์ เล็ก ๆ หนึ่งแห่ง ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลไปจากท่ารถโดยสาร  
ไม่รู้ว่าใช้เพาะปลูกอะไรกัน เข้าใกล้ไม่ได้เพราะมีลวดหนามล้อมกั้นเอาไว้



บริเวณแปลงเพาะปลูกที่ในตอนนี้ไม่มีพืชพันธุ์อะไรปรากฏให้เห็น




Green House ปริศนา ที่ตั้งอยู่ข้างหมู่บ้าน 


ปศุสัตว์ มีทั้งแกะ แพะ วัว จามรี หรือบางทีก็มี
พวก 'ลูกครึ่ง' หน้าตาแปลก ๆ โผล่มาให้เห็น




ฝูงจามจรี (Yak) และโซ (Dzo)  จากท้ายหมู่บ้านที่ถูกต้อนกลับคอก



ตอนแรกก็เข้าใจว่ามันเป็น 'วัว' แต่คนที่นั่นอธิบายว่า
เจ้าตัวนี้มันมี พ่อเป็นจามรี และมีแม่เป็นวัว 



แกะ, แพะ ฉันไม่รู้ว่าเหล่าคนเลี้ยงแกะ ได้พาฝูงสัตว์เลี้ยงพวกนี้ไปกินหญ้ากันที่ไหน
แต่ในเวลาเย็น พวกมันก็จะถูกต้อนให้กลับมานอนตรงท้ายวัด โดยจะมีหมาเลี้ยงแกะอยู่เฝ้าหนึ่งตัว



สาธารณูปโภค ขอพูดเรื่องน้ำดีกว่าเนอะ เพราะมีใช้กันเหลือเฟือมาก! มันเป็นน้ำ
ที่ไหลตรงจากบนเขาและส่ง
ไปตามทางส่งน้ำ ก็อกสาธารณะบางแห่งก็เปิดปล่อย
ทิ้งไว้ เรียกได้ว่าไหลเททิ้งเทขว้างมโหฬาร ส่วนเวลาที่ต้องใช้น้ำก็มักจะเห็น
ชาวบ้านนำภาชนะมารองและหาบเข้าบ้าน ไม่ก็ต่อสายยางแบบชั่วคราวกัน หรือ
หากจะซักผ้าก็จะออกมาซักกันที่ทางน้ำไหลนอกบ้าน

ฉันเลยคาดว่าคงไม่ต้องจ่ายค่าน้ำกันทั้งหมู่บ้าน 





ในทุกช่วงบ่ายของวัน ฉันก็มักจะมานั่งอาบแดดที่ลานบ้าน
หากพื้นที่นั้น ยังไม่ถูกลุงอมาร์นำเอาเมล็ดพืชบางอย่างมาตากผึ่งแดดไว้ 
รอกระทั่งอุณหภูมิสูงสุดของวันประมาณ 13 องศาฯ 
จนรู้สึกว่า ร่างกายพร้อมใจพร้อมปั๊บ 

ก็จะรีบคว้าถังใส่น้ำไปรองที่ก็อกข้างบ้าน และหิ้วขึ้นไปเทใส่กะละมัง
ที่อยู่ในห้องน้ำเพื่อตักอาบให้สาแก่ใจแม้ปากจะสั่นจนคุมขากรรไกรไม่อยู่ 
แล้วจากนั้นก็กัดฟันลงมามุดหัวสระผมที่ก็อกหน้าบ้านอีกที เพราะไม่อยาก
หิ้ว
ถังน้ำขึ้นลงบ่อย ๆ บรึ๋ย...น้ำนี้เย็นเจี๊ยบเชียว 

" ทันดา นาฮี ? "  ไม่หนาวรึไง?

ป้าที่อยู่ข้างบ้านกำลังถือสายยางมารอคิวต่อน้ำ
ก็ถึงกับตะโกนถามเสียงสูงเมื่อได้เห็น...

จะว่าบ้าก็บ้าเหอะ  บ้านลุงไม่มีน้ำร้อนให้ใช้ทำไงได้ 
ถ้าไม่อาบไม่สระผม แล้วนอนไม่ค่อยหลับอ่ะ






ส่วนเรื่องที่ "น่าชัง" สำหรับหมู่บ้านจิตกุล ก็เห็นจะหนีไม่พ้นเรื่องขยะ
ก็เข้าใจว่าอยู่ไกลเกินกว่าจะมีเจ้าหน้าที่ฯ มาขนถ่ายนำไปทิ้งหรือทำลาย
ดังนั้นเรื่องของการกำจัดก็คงต้องปล่อยให้ทางชุมชนหาทางกันเอาเอง

และจากที่ตัวเองเคยชอบซื้อขนมมากินบ่อย ๆ จนซองของมันเริ่มสะสมเยอะขึ้น
ตามจำนวน ก็ต้องเริ่มหยุดการซื้อลงเพราะมองหาถังขยะในหมู่บ้านไม่เจอและ
คิดว่ามันไม่น่าจะมีเสียด้วยซ้ำ!

การไม่มีถังขยะ ไม่ใช่ปัญหาหรอกนะ...

แต่ที่แย่หน่อยก็เห็นจะเป็นการทิ้งขว้างของใครหลายคนที่มักจะไปหย่อนตาม
ริมทาง ไม่ก็วางมันลงที่รางน้ำสักแห่งแล้วปล่อยให้ขยะนั้นไหลพ้นไปกับแรงน้ำ
กระทั่งไปสิ้นสุดลงที่ปล่อยท่อส่ง จนมันกองสุมรวมกัน และยามเมื่อถูกลมพัด 
ซองพลาสติกหรือขยะอื่นที่มีน้ำหนักเบาหวิว ก็จะพัดพาไปเกาะติดตามที่ต่าง ๆ 

และเพื่อไม่ให้หมู่บ้านจิตกุลจะต้องมาแปดเปื้อนด้วยมือฉันไปอีกคน
ก็เลยเอาขยะพวกนี้มาเก็บรวมไว้ก่อน แล้วค่อยหาที่ทิ้งภายหลังคงจะดีกว่า






ไม่ไกลไปจากวัด เย็นนี้มีกลุ่มชาวบ้านพากันนำ หม้อต้ม กระบอกชาตำเนย 
มาจัดวางเพื่อเตรียมทำอาหารกินกัน  ว้าว! ...ฉันคิดว่านี่ต้องเป็นเทศกาลอะไร
ที่สำคัญสักอย่าง หลังจากที่พวกเขาดื่มกินอาหารกันเรียบร้อยแล้วก็ไม่เห็นจะมี
งานฉลองอะไรที่น่าตื่นเต้นต่อ ... หม้อ ไห จาน ชาม ต่างถูกล้างผึ่งตากและเก็บ
เข้าโรงเก็บของภายหลัง จากนั้นต่างฝ่ายต่างก็พากันแยกย้ายกลับบ้าน 

พอฉันเดินกลับที่พักไปก็พบกับลูกสาวของลุงอมาร์ กำลังนั่งเล่นอยู่บนบ้าน
ก็แอบสงสัยว่า ทำไมเธอถึงไม่ออกไปร่วมงานนั้นด้วยล่ะ  

แล้วตกลงว่า พวกคนกลุ่มนั้นไปทำอะไรกันที่ข้างวัด?


"เวลานี้ไม่มีเทศกาลอะไรนะ แต่ที่เห็นนั่นคือทุก ๆ 30 วัน 
พวกเขาก็จะมารวมตัวกันทำอาหารกินพร้อมกันเป็นปกติอยู่แล้ว "

โธ่...แอบนึกดีใจว่าได้ฟลุ๊คมาเจองานประจำปีอะไรแบบนี้เสียอีก
ที่แท้เขาก็แค่มารวมตัวกันเพื่อสังสรรค์นอกบ้านนี่เอง 





ลายแทงทางไปบ้านพักลุงฯ ไล่ติดให้เห็นตั้งแต่ศาลารอรถ
แต่พอใกล้จะถึง กลับหาไม่เจอ เพราะหน้าบ้านแกไม่มีป้ายบอก


แล้วพรุ่งนี้จะไปไหนต่อ?
ไม่รู้สิ ...ต้องถามก่อนว่า

จากที่นี่ มีรถต่อไปที่ไหนได้บ้าง?


ฉันคิดว่า อยากจะเดินทางไป "ซาราฮัน
ข้อมูล ที่ได้มาจากลุงอมาร์ และพี่ร้านข้าวฯ ต่างตรงกัน
ช่วงเช้ารอบ 6.30 น. จะมีรถออกไปที่ Jeori
และต่อรถจากที่นั่นไปถึง ซาราฮัน ได้

หลังจากแผนที่ถูกวงรอบยังจุดหมายที่จะไปต่อ
ได้กำหนดทิศทางเป็นที่แน่นอน 
ก็ถึงเวลาต้องลาจิตกุลเสียที





.....





ความหนาวยะเยือกภายนอกและแสงสลัวก่อนรุ่งสาง  
ในเวลาเกือบหกโมงที่ยังพอที่มองเห็นทางอยู่รำไร

เช้ามืดของวันนี้ นอกจากอากาศที่เย็นจัดอย่างเลี่ยงไม่ได้แล้ว
ยังมีสิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกกังวลใจไม่น้อย 
นอกจากการที่ต้องรีบเดินไปให้ทันเวลา
เที่ยวรถรอบนั้น  ก็ยังมีปัญหากับกล้องถ่ายรูปอีก 
ด้วยอารมณ์รีบร้อนก่อนออก-
จากที่พัก ฉันซุกมัน
ในกระเป๋าใส่เสื้อผ้าก่อนที่จะหันไปเก็บของที่เหลืออีกไม่กี่ชิ้น 

แล้วกระเป๋าบ้านั่นมันก็ดันหงายหลังตกลงพื้น 
ทั้งเลนส์ กับตัวกล้อง ดูเหมือนจะไม่ประสานกันได้ 

โอย ... ตายแล้ว
หลังจากนี้ ก็จะไม่มีการถ่ายรูปได้อีกจริง ๆ เหรอเนี่ย 
ถึงจะมีคอมแพคตัวเล็กไว้ใช้แก้ขัดก็เถอะนะ 


....


เจ็ดโมงแล้ว หลังจากที่ยืนรอนานรถเมล์อยู่นาน
มันก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะออกวิ่งเสียที  
ที่นี่ไม่มีตารางรถ 
และไม่มีใครรู้เรื่องเที่ยวรถสำหรับเดินทางไป Jeori สักคน 

จะมีก็แค่รถที่วิ่งไป Reckong Peo เท่านั้น
ซึ่งก็ดูเหมือนจะมีอยู่แค่คันเดียวเสียด้วย
และฉันก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่กันที่ล้อจะหมุน?

มีกลุ่มชาวบ้านมายืนรอรถเที่ยวนี้กันเต็มไปหมด ซึ่งฉันก็แอบกลัวว่าจะไม่มีที่
เหลือพอให้นั่งได้  
และหากเป็นเช่นนั้นจริงการจับจ้องเพื่อเตรียมพร้อมพุ่ง
กระโจนขึ้นรถอาจเป็นสิ่งจำเป็นต้องทำ...

แต่ก็โชคดีหน่อยที่รถยังไม่ยอมเปิดประตูให้ใครเอาข้าวของไปวางจองที่ได้

เช้านี้หลังจากที่ดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว อากาศก็กลับไม่ได้อุ่นขึ้นตามไปด้วย 
ฉันยังพยายามจัดระเบียบเลนส์กับกล้องให้เข้าที่เข้าทาง แต่ก็ไม่สำเร็จ
พอมือเริ่มเย็นก็ต้องเอากล้องเก็บกลับที่เดิม ยืนถูมือ ไม่ก็เอามือซุกกระเป๋า
ให้อุ่นขึ้น สลับวนไปมาอยู่แบบนี้






"ดูเหมือนจะมีปัญหา"

เฮียหนวด ที่ใส่ชุดกันหนาวสีเทาทรงหนาเตอะ สะพายเป้ลายพรางใบจิ๋ว
ที่เพิ่งคุยกับชาวบ้านเมื่อครู่นี้  เดินเข้ามาทักฉันในช่วงกำลังสาละวน
อยู่กับกล้องที่ดูเหมือนจะพัง

"ใช่ ปัญหาใหญ่เลยล่ะ" 


"รถยังไม่ออกหรอก น้ำแข็งมันเกาะเครื่องยนต์"

เฮียชี้ให้ดูกลุ่มของ Paramilitary กำลังช่วยซ่อมแซมให้รถเมล์คันนั้นอยู่ 

นอกจากจะมีจุดประจำการตำรวจชายแดนแล้วที่จิตกุล ก็ยังมีกองกำลังกึ่งทหาร
มาดูแลพื้นที่อีกด้วย และอาคารที่ทำการก็จะตั้งอยู่ข้าง ๆ ท่ารถ


"ท่าจะอีกนาน ไปดื่มชา แก้หนาวป่ะ"

หลังจากคำชวนนั้น เฮียก็พาเดินไปยังอาคารเล็ก ๆ หลังหนึ่ง 
ตั้งอยู่ข้างร้านข้าวที่ฉันมากินประจำ จำได้ว่ามันเป็นที่พักของทหารฯ นี่นา

แล้วทำไมเขาถึงมารู้จักคนพวกนี้ได้เนี่ย?

พวกเขาต้มชาและส่งให้ดื่มคนละถ้วย พร้อมกับถามโน่นถามนี่บ้าง 
ผ่านไปพักใหญ่ ดูเวลาก็เจ็ดโมงกว่าคิดว่ารถเมล์คันนั้นน่าจะซ่อมเสร็จแล้ว

ฉันชะโงกหน้าออกไปดูท่ารถที่ไม่ไกลจากอาคารนี้ด้วยความกังวล


"ไม่ต้องกลัวตกรถหรอก ฉันจะไปลงที่ ซังกลา เหมือนกัน" 

ดูเหมือน ปราดัม น่าจะเข้าใจในท่าทีลุกลี้ลุกลนในช่วงนั้นของฉันดี


ก็ในเมื่อไม่มีรถวิ่งไปตามที่คาดหวังไว้แบบนี้
ฉันจะหาทางออกไปจากจิตกุลได้ยังไงกันเล่า?   






Create Date : 23 มิถุนายน 2559
Last Update : 8 มกราคม 2561 12:42:47 น. 24 comments
Counter : 1804 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ..

วาว..เป็นการเดินทางที่ทรหดนะค่ะ

เก่งจังตัวแค่เนี่ยะ..

ยังติดตามอ่านอยู่เรื่อยๆนะค่ะ



โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 23 มิถุนายน 2559 เวลา:19:19:30 น.  

 
อืมม์..ที่บางที่ก็เป็นได้ทั้งจุดเริ่มต้นและปลายทางเนาะฟ้า

เอิ่ม...สถานที่ที่ไม่ต้องเสียค่าน้ำประปา ดูดีเนาะ

เรื่องขยะน่าเป็นห่วงจริงๆ ด้วยง่ะ แต่...ทำไงได้หว่า เฮ้ออออ

แล้วตกลงกล้องซ่อมได้มั้ยอ้ะ เสียดายยย

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
ผู้ชายในสายลมหนาว Food Blog ดู Blog
ทนายอ้วน Travel Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 23 มิถุนายน 2559 เวลา:21:28:41 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชีริว Cartoon Blog ดู Blog
The Kop Civil Movie Blog ดู Blog
พระจันทร์สัญจร Literature Blog ดู Blog
คนบ้านป่า Home & Garden Blog ดู Blog
ALDI Klaibann Blog ดู Blog
mariabamboo Parenting Blog ดู Blog
ทนายอ้วน Travel Blog ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

แวะมาโหวตให้จ้า


โดย: อุ้มสี วันที่: 23 มิถุนายน 2559 เวลา:23:09:55 น.  

 
อ่านเพลินเลยค่ะ เที่ยวสมบุกสมบันมาก
นี่ท่าเดินทางด้วยเท้าต่อ นึกถึงนิยายเพชรระอุมาเลยค่ะ
ชอบเที่ยวแบบลุยๆ เหมือนกัน แต่ตอนนี้อายุมากแล้วสังขารคงไม่ให้แล้ว แหะๆ
เที่ยวแบบนี้จะให้เป็นแบบที่เราวางแผนไว้คงเป็นไปไม่ได้
คงต้องทำใจค่ะ ทริปเที่ยวจะได้สนุก


กาบริเอล Travel Blog ดู Blog


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 23 มิถุนายน 2559 เวลา:23:38:09 น.  

 
อ่านเพลินค่ะ ถ้าไปเองคงไม่เพลินเหมือนอ่านบล็อกน้องฟ้า 555
หลังฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว ดูแห้งแล้งจังเนาะ
น้องฟ้าจะกลับไปเก็บภาพเขียว ๆ มาฝากกันอีกใช่มั๊ยคะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชมพร About Weblog ดู Blog
บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน Food Blog ดู Blog
zungzaa Travel Blog ดู Blog
Tristy Food Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog


โดย: เนินน้ำ วันที่: 24 มิถุนายน 2559 เวลา:14:53:18 น.  

 
สวัสดีครับคุณฟ้า
ว้าวววว.!..คุณฟ้ารู้ตัวไหม
คุณนี่ยอดนักเดินทางเลยนะ
เก่งจัง

ลุงชาตินับถือเลย



โดย: loongchat (สมาชิกหมายเลข 3016924 ) วันที่: 24 มิถุนายน 2559 เวลา:15:08:47 น.  

 
เดินตามเส้นทางสายไหมกันเลยทีเดียว คนสมัยก่อนนี่ก็ผจญภัยกันน่าดูเลยนะครับ
บ้านเรือนนี้ธรรมดา แต่วัดยังซ้วยสวย อยู่แดนไกลแสนไกล แต่ศิลปะตามศาสนสถานก็ยังดูปราณีตนะครับ ดูเขาแกะไม้ซะ
เจ้าตัวลูกครึ่งวัวกับจามรีนี่มีชื่อเรียกไหมหว่า? ฟ้าก็ช่างสังเกตนะว่ามันเป็นจามรีที่หน้าแปลก
หนาวขนาดนี้ ไม่มีน้ำอุ่นอาบ *เศร้าใจ*
เมืองที่ไม่มีถังขยะนี่สงสัยลงน้ำทุกสิ่งอันเลยมั้งครบ ปล่อยมันพัดลงไปปลายน้ำเอา
หนาวเกิน รถแล่นไม่ได้อีกต่างหาก (นี่คงเป็นเพราะไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์หล่อลื่นของ ปตท. ที่สถาบันวิจัยฯพัฒนาขึ้นครับ ...โฆษณาซะงั้น)
ที่สำคัญ เมืองนี้พูดอังกฤษไม่ได้?!! ยิ่งลำบากไปใหญ่เลยครับ การท่องเที่ยวครั้งนี้มีความท้าทายเป็นอย่างมาก

โหวตหมดจ้าาาา เดี๋ยวมาใหม่


โดย: ชีริว วันที่: 24 มิถุนายน 2559 เวลา:21:10:48 น.  

 

จิตกุล หมูบ้านสุดท้ายที่ปลายรุ้ง(2)



ถ้าเกิดไม่ส่งข่าวกลับมาหลังไปถึง จิตกุล แล้ว ...
ก็แปลว่า ฉันหลงทางเดินทะลุผ่านหุบเขาฯ เข้าเขตทิเบต เป็นที่เรียบร้อยแล้วนะ ยังไงช่วยแจ้งหน่วยกู้ภัยให้ด้วยน้า อิอิ

ทองม้วน แมว8สี ตัวโปรดของฟ้าผ่อง คาบโปสการ์ดที่พึ่งส่งมาจากอินเดียใบนี้มาวางไว้ บนหลังตู้เย็น แล้ว
หัวเราะ ฮึๆ แบบแมวเจ้าเล่ห์ การ์ฟิลด์ แล้วนอนทับไว้อย่างดี

ข้อความสุดท้ายในโปสการ์ดใบนี้ ได้รับเมื่อ 7 วันก่อน ที่เธอจะขาดการติดต่อไป

ฟ้าผ่องนั่งยองๆ ถอนหายใจ อย่างหมดอาลัยตายอยาก
ตรงหน้าป้ายเขียวๆ สุดเขตแดนอินเดีย

ใครจะไปเชื่อว่า สาวสวยใส ไฮโซ เมื่อ10วันก่อนที่กรุงเทพ ตอนนี้กลับไม่เหลือสภาพเดิม ให้จำได้

ผมเผ้าที่เคยสลวยสวยเก๋ กลับยุ่งเหยิงรุงรัง กางเกงยีนส์ที่ใส่อยู่ ก็แข็งโป้ก มีร่องรอยหมาแทะอยู่2-3ที่
เนื้อตัวมอมแมม เพราะไม่ได้อาบน้ำมาเป็นอาทิตย์

ฟ้าผ่องทึ้งผมตัวเองไปมา จนหลุดไป3กระจุก
เธอได้แต่คิด โทษตัวเอง นี่ถ้าสมัยเด็กๆ เธอตั้งใจเรียนหนังสือ ไม่เอาแต่เล่นกับแมวบ้าน แมวป่า

เธอก็คง พอจะอ่านภาษาอังกฤษ หรืออินเดีย ออกบ้าง
เธอคงไม่ต้องมาพบชะตากรรมเช่นนี้

ฟ้าผ่อง นึกทบทวนถึงเรื่องราวที่ผ่านมาว่า เธอมาถึง จุดๆนี้ได้อย่างไร
ทั้งครอบครัว และเพื่อนสนิทก็ทั้งเตือน และห้ามปรามเธอแล้ว ว่าอย่ามาเลย

จิตกุล เนี่ยนะ ถ้าเป็นคนอื่นจะไม่ห่วงเลย

แต่นี่เป็นฟ้าผ่อง หญิงสาวที่เข้าใจแต่ภาษาแมว
แต่ภาษาอื่น อังกฤษ ฮินดู ปาปัวนิวกินี เธอ ไม่สามารถสื่อสารได้เลย555

ทักษะการเดินป่า เธอ ก็มีแค่หางอึ่ง หรือจะน้อยกว่ากบไชโย ซะอีก

ขนาดแค่ไปปากซอย ก้หลงแล้ว ต้องโทรตาม หน่วยกู้ภัยให้มารับไปส่งบ้าน อิอิ

แต่ฟ้าผ่องก้ดื้อดึงที่จะมาให้ได้ เพราะอยากจะตาม ความฝันแต่เยาว์วัย

ที่ได้ร่วมตามรอย ขบวนกองคาราวาน ของพระถังซัมจั๋ง ออกจาริกแสวงบุญไปในโลกกว้าง
จิตกุลเป็นหมู่บ้านสุดท้าย ที่มีคนพบเห็นเธอ และขาดการติดต่อไป

3วันก่อน มีคนพบเธอ กำลังเดินโซซัดโซเซ พยามจะเข้าไปขโมย มันฝรั่งในกรีนเฮ้าส์ แต่ไม่สำเร็จ
ด้วยความหิว เธอหน้ามืด ถึงขั้น จะจับตัว จามรัว กินให้ได้ (สัตว์สงวน คุ้มครองของ ทิเบต ลูกครึ่ง จามรี+วัว)
แต่ก้ไม่สำเร็จ โดน จามรัว ดีดเอาอีก555

ครั้งสุดท้าย มีคนพบเธอที่ งานปาร์ตี้ที่ชาวบ้าน กำลังต้มชาเนย กินกันปากมันแผลบ
เธอแอบเข้าไป ซดซะหมดหม้อ แล้วหนีกระเซอะกระเซิงออกมา 555

จิตกุล หมู่บ้านที่ปลายรุ้ง สถานที่ ที่งดงามดุจดินแดนแห่งสวรรค์ หมอกจางๆปกคลุมเทือกเขาสูงตระหง่านขาวโพลน

เต็มไปด้วยศิลปะวัฒนธรรม งานหัตถกรรมไม้ แกะสลัก งดงาม ล้ำค่า

แต่ฟ้าผ่อง กลับไม่ได้สนใจ สิ่งเหล่านี้ เธอตั้งหน้าตั้งตา เอาแต่ขุยเขี่ยกองขยะ หลังหมู่บ้าน และริมลำธาร

ฟ้าผ่องคิดในใจ แหม นี่ถ้าเป็นซอยแถวบ้านเธอ ที่เมืองไทยนะ

ถ้ามีซาเล้งซักคันละก้ เธอจะเก็บให้เหี้ยนเลย เธอจะรวยเป็นมหาเศรษฐี แหงๆ นี่มันขุมทรัพย์ทั้งนั้น
ชาวบ้าน ที่จิตกุลนี่ ช่างไม่รู้เรื่องรู้ราว เอาของดีๆมาทิ้งซะหมด

ฮ่าๆๆๆเอื้อกกก ฟ้าผ่องหัวเราะก้องหุบเขา 555

ลมพัดกรรโชกมาวูบนึง ฟ้าผ่องสะดุ้ง ตื่นเพราะได้กลิ่นฉุนกึก

กลิ่นอะไรเนี่ย เหม็นขมคอเลย อ้อก อ้วกกก
ฟ้าผ่องหารู้ไม่ว่า มันเป็นกลิ่นตัวเธอเอง+ขยะเปียก555

เพราะ ครั้งสุดท้าย ที่เธอพยายามอาบน้ำนี่ เมื่อ 7วันก่อน หลังจากถุกลุงอาม่า ไล่ออกจากที่พัก
เพราะเรื่องกลิ่นตัว

เธอพยายามจะรองน้ำจากก๊อก ข้างทางมาอาบ แต่เจ้ากรรม น้ำที่ก้อกกลับเป็นน้ำแข็งซะอีก

ไม่อง ไม่อาบมันแระ ไม่เห็นจะมีใครตาย เพราะไม่อาบน้ำซักคน เธอคิดเข้าข้างตัวเอง ในใจ 555

หลังจากวันนั้น ก้ไม่มีใครพบเห็นเธออีกเลย สอบถามชาวบ้านบอกว่า

เห็นมีผู้หญิงท่าทางแปลกๆคนนึง แอบนั่งบนหลังคารถเมล์ ที่จะมุ่งหน้าไป reckong peo

ชะตากรรม ของฟ้าผ่อง นางเอกของเรา จะเป็นอย่างไรต่อไป

เธอจะได้อาบน้ำอีกหรือไม่ เย้ย จะได้กลับบ้านหรือไม่

โปรดติดตามในตอนต่อไป อิอิ

ทีมงาน multiple blog เรียบเรียงและ สร้างสรรค์ บทภาษาไทย อิอิ




บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: multiple วันที่: 25 มิถุนายน 2559 เวลา:5:31:41 น.  

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 25 มิถุนายน 2559 เวลา:10:07:16 น.  

 
13 องศา ... พี่คงถามเหมือนกัน ไม่หนาวหรือไง ห๊า

สรุปว่า กล้อง เลนส์ เสียมั้ยฟ้า ลุ้น เวลาพี่เก็บกล้อง ไม่ได้ไว้ในกระเป๋ากล้องเหมือนกัน รวม ๆ ในเป้นี่แหละ เคยทำตก แต่พี่รองก้นเป้ด้วยฟองน้ำกับบับเบิ้ลอย่างหนาล่ะ


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
tuk-tuk@korat Music Blog ดู Blog
บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน Food Blog ดู Blog
AppleWi Home & Garden Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog
เรียวรุ้ง Literature Blog ดู Blog
ที่เห็นและเป็นมา Art Blog ดู Blog
อสูรกายไทฟอน Photo Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 26 มิถุนายน 2559 เวลา:14:27:24 น.  

 
ขับรถวนมาอีกรอบ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: ชีริว วันที่: 26 มิถุนายน 2559 เวลา:22:33:58 น.  

 
สวัสดีอีกรอบจ้าาา

อัพรูปกล้องไว้นานยัง เดี๋ยววันไหนจะไปที่เพจไปหาดู แฮ่..

จีนตอนนี้บล็อกไลน์อีกอันด้วยแล้วจ้ะ เหลือแต่อินสตาแกรมหละมั้งนะ เหอๆ



โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 27 มิถุนายน 2559 เวลา:22:46:38 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

ชีวิตการท่องเที่ยวของน้องฟ้านี่คุ้มค่ามาก
เลยค่ะ เสียดายน้ำที่เขาปล่อยให้ไหลทิ้งนะ
สรุปแล้วเขามีวิธีกำจัดขยะกันหรือเปล่าคะเนี่ย
ชอบเจ้าตัวลูกครึ่งยืนให้ถ่ายรูปออกมาสวยเลย
ตกลงกล้องเป็นยังไงบ้างคะ



โดย: AppleWi วันที่: 28 มิถุนายน 2559 เวลา:12:19:00 น.  

 
สวัสดีอีกรอบจ้าาา

อ้าว ลงไปเมื่อวานเหรอ ยังไม่ได้แว้บไปเพจฟ้าเลยแหละ

ช่วงนี้ยุ่ง มีสามทริปติดกัน เลยหัวฟูอยู่ง่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 28 มิถุนายน 2559 เวลา:12:42:34 น.  

 
กล้อง เลนส์ ตกหล่นนี่ ประสาทเสียเลยเนอะ พี่ไม่ชอบเปลี่ยนเลนส์กลับไปกลับมาก็แบบนี้ล่ะ พี่ซุ่มซ่ามน่ะ มีโอกาสพลาดหลุดมือได้ เค้าว่าเราควรใส่กล้องไว้ในกระเป๋ากล้อง แต่เวลาเดินทาง พี่ไม่ชอบแบกหลายใบ เลยยัดลงเป้ง่ายกว่า ไม่เป็นที่สะดุดตาใครด้วยว่าเราพกกล้องไปเนาะ

เออนะ พี่เริ่มต้นถ่ายรูปก็ใช้คอมแพคเหมือนกัน น่าจะพกคอมแพคไปด้วย เผื่อเหลือเผื่อขาดเนาะ

กล้องฟ้า ซ่อมแล้วใช้งานได้ดีเหมือนเดิมมั้ย


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 28 มิถุนายน 2559 เวลา:16:02:56 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปบ้านนะคะ
ไม่งั้นไม่ได้มาเที่ยวต่อเลย
ส่งกำลังใจจองที่ก่อนนะคะ
เพิ่งอ่านได้นิดเดียว พรุ่งนี้มาต่อค่ะ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Parenting Blog ดู Blog
เรียวรุ้ง Literature Blog ดู Blog
moresaw Funniest Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
ออมอำพัน Dharma Blog ดู Blog
The Kop Civil Diarist ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog
FreakGirL Travel Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

ขอบคุณโหวตด้วยค่ะ



โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 28 มิถุนายน 2559 เวลา:21:05:46 น.  

 
ร้อนสุด 13 องศา ถ้าหนาวๆ นี่แย่เลย เลขตัวเดียว

เราคนไทยหนาวยังไงก็ต้องอาบน้ำนะ แต่ถ้าหนาวมากๆ โดนน้ำเย็นทีแทบร้องเลย

ถ้ากล้องมีปัญหานี่หมดสนุกเลยนะครับ ขนาดในไทยลืมหยิบกล้องออกจากบ้านยังเซ็งเลย นี่อยู่ไกลด้วย


กาบริเอล Travel Blog
+


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 28 มิถุนายน 2559 เวลา:22:34:34 น.  

 
เห็นแล้วทึ่งกับการเดินทางแบบนี้จริงๆค่ะคุณฟ้า
ทรหด และได้รู้เรื่องราวของชาวพืนที่ด้วย
ไม่ต้องจ่ายค่าน้ำกันทั้งปี ก็มีน้ำไหลผ่านมาให้ใช้ฟรีอ อิอิ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
ออมอำพัน Dharma Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
อุ้มสี Fanclub Blog ดู Blog
ชมพร About Weblog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
ฟ้าใสวันใหม่ Food Blog ดู Blog
Close To Heaven Food Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog


โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 28 มิถุนายน 2559 เวลา:23:14:31 น.  

 
ขอบคุณสำหรับโหวตค่ะ

ดอกกุหลาบเขาน่าจะถูกกับอากาศเย็นๆมากกว่าค่ะ
เพราะที่นี่ร้อนมากสุดก็ 30 กว่าองศา แต่ไม่นานนะคะ
แค่อาทิตย์เดียวคนที่นี่ก็จะลงแดดน่ามืดตามัวแล้วค่ะ
ของกาญแค่ 20 องศาก็พอแล้ว มากกว่านี้ก็เริ่มร้อนแล้ว


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 29 มิถุนายน 2559 เวลา:2:36:24 น.  

 
555 เรื่องนี้ base on true story
แคแรคเตอร์ ของนางเอก ฟ้าผ่อง ก็ถอดมาจากตัวตนจริงๆของ เจ้าของบล้อกเลยน้า อิอิ

บางที ตัวเราเอง มักจะมองภาพตัวเองไม่ค่อยออก
แต่สายตา ระดับผู้เชี่ยวชาญ หยั่ง อ.เต๊ะ รับรองมองไม่ผิด 555

แล้วก็ชื่อของแมว นี่ก้ผ่านการเลือก คัดสรรมาเป็น สิบๆ ชื่อ กว่าจะลงตัว พยายามให้เข้ากับตัวตนของนางเอก ฟ้าผ่องมากที่สุด อิอิ

นางเอกเปิดตัว โดดเด้งมา ซะขนาดนี้ แมวของเธอ จะชื่อ แคโรไลน์ มันก้ไม่เข้ากันอี ก
ชื่อ ทองม้วน นี่แหละ เด็ด มีเอกลักษณ์ไทยชัดเจน 555

ว่าแต่ว่า กล้องถึงกับพังเลยเเหรอ ทริปนี้ +ค่าซ่อมกล้อง กลายเป็นแพงเลยนะนี่

เสียใจกับฟ้าผ่อง ด้วยจ๊ะ แฮ่ๆ



โดย: multiple วันที่: 29 มิถุนายน 2559 เวลา:8:25:15 น.  

 
มาเที่ยวต่อครับ
อ่านคอมเม้นของอ.เต๊ะแล้ว ฟ้าผ่องน่าสงสารมากครับ 555
ไม่ได้แอบถ่ายครับ นกบินเข้ามาอยู่หน้ากล้องพอดี

กาบริเอล Travel Blog ดู Blog


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 29 มิถุนายน 2559 เวลา:12:01:24 น.  

 
นั่งอ้าน เหมือนสนุก แต่บางครั้งน่าวิตกเหมือนกันนะครับคุณฟ้า


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 29 มิถุนายน 2559 เวลา:15:08:17 น.  

 
เรื่องขยะ กับเรื่องจองที่นั่งบนรถ อ่านแล้วทำให้คิดไปไกล การกำจัดขยะของเขาคงเหมือนที่บ้านผมตอนเด็กๆคือทุกอย่างที่ไม่ต้องการก็ทิ้งลงคลองหน้าบ้าน เดี๋ยวนี้คงดีขึ้นแล้ว สำหรับการจองที่นั่ง ทำให้คิดถึงบทเรียนชั้นประถมที่มีการจองที่บนรถไฟ เจ้าของยังไม่มา คนที่มาที่หลังเลยจับของโยนลงหน้าต่างไปก่อน กว่าจะรู้ตัวว่าเจ้าของอยู่ตรงนั้นเอง
โหวต Travel Blog


โดย: Insignia_Museum วันที่: 29 มิถุนายน 2559 เวลา:20:52:52 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

.................................

ได้เห็นภาพบ้านเรือน สถานที่ทางศาสนา พื้นที่ทางการเกษตร
การใช้น้ำ ปัญหาขยะและวิถีชีวิตของชาวจิตกุล
ขอบคุณน้องฟ้าที่ถ่ายทอดทั้งเรื่องราวให้ได้ชมค่ะ




โดย: Sweet_pills วันที่: 30 มิถุนายน 2559 เวลา:1:00:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กาบริเอล
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




ชอบต้นไม้, แมว, หนังสือ
และออกเดินทางท่องเที่ยวบ้าง

ไม่ชอบพบปะผู้คนมากนัก
เป็นมนุษย์จำพวก introvert

การเขียนบล็อก
คืออีกพื้นที่บอกเล่าผ่านตัวอักษร
และตัวตนของเราก็อยู่ในสิ่งที่เขียนค่ะ

ขอบคุณ Bloggang
สำหรับพื้นที่แบ่งปันตรงนี้

....

เริ่มต้นลงบันทึกอย่างเป็นทางการ
ณ วันที่ 16 ม.ค. 2014


###ไม่สะดวกพูดคุยหลังไมค์นะคะ###

© ขอสงวนลิขสิทธิ์ ภาพถ่าย 
ห้ามนำไปใช้ ดัดแปลง แก้ไข 
โดยไม่แจ้งที่มา ก่อนได้รับอนุญาต


New Comments
Friends' blogs
[Add กาบริเอล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.