Group Blog
 
<<
เมษายน 2559
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
11 เมษายน 2559
 
All Blogs
 
DHARAMSHALA : Long life Puja



จะบังเอิญอะไรขนาดนั้น?

สามวันก่อนหน้านี้ ที่ได้หุนหันพันแล่นกระโดดขึ้นรถฯ จนมาถึงเมืองนี้ผิดเวลา
วันต่อมาก็ได้มีโอกาสรับรู้เรื่องราวบางส่วน ของเหตุปัญหาความความขัดแย้งฯ


ส่วนวันนี้ ก็มาตรงกับวันงาน Long life Puja 
และที่สำคัญไปกว่านั้น ก็คือการที่จะได้เห็น "องค์ทะไลลามะ" ในงาน
เมื่อโอกาสดี ๆ ได้มาถึงแบบนี้แล้ว มีหรือที่ฉันจะยอมพลาด






3 พ.ย. 2015

ในเช้าวันนี้ คนหลายคนต่างเดินมุ่งหน้าตรงไปยัง Tsuglagkhang complex 
ซึ่งถือเป็นวัดหลักและเป็นสถานที่พำนักของท่านทะไลลามะ  ผู้คนต่างเตรียม
ผืนผ้าหรือไม่ก็กระดาษแข็งจากกล่องมารองนั่งกัน 
บรรยากาศในวัดคงดูน่าคึกคัก
พอสมควร และใจหนึ่งก็กลัวว่าที่นั่งตรงพื้นลาน
อาจจะมีคนเข้าไปรออยู่จนเต็ม
เอียดหมดแล้วแหง 

ฉันออกมาจากที่พักประมาณ 7 โมงเช้า แต่ก็คงจะเรียกได้ว่าสายไปแล้วล่ะมั้ง
สำหรับการจับจองที่ดี ๆ สักจุด 
และเป็นที่แน่นอนว่าในอาณาบริเวณพื้นที่ดังกล่าว
ก็ย่อมจะมีกฏการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดมาก 
เพราะก่อนที่จะเข้าไปด้าน
ในได้
ก็จะต้องนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทุกชนิดฝากไว้ยังซุ้มก่อนถึงทางเลี้ยว
เข้าเป็นด่านแรก
ถัดมาก่อนเดินเข้าไปยังตัวอาคารก็จะพบการตรวจตราตามตัว
ด้วยเครื่องมือ 
และเปิดกระเป๋าสำรวจของทุกอย่าง ก่อนที่จับ,ค้น,คลำ ตามตัวแบบ
ละเอียดยิบ
ให้แน่ใจว่าจะไม่พกสิ่งต้องห้ามหลุดรอดเข้าไปยังด้านในได้

ผู้คนในงานมีชาวทิเบต หลายรุ่นคละกันอยู่ทั้งผู้เฒ่าผู้แก่และคนรุ่นปัจจุบัน 
ซึ่งคนกลุ่มแรกนี้ อาจคาดเดาได้ว่าน่าจะลี้ภัยมาในช่วงเดียวกับท่านทะไลลามะ
ในยุคแรก ๆ 
บ้างก็ตามมาภายหลัง หรือไม่ก็เป็นลูกหลานอีกรุ่นที่มาเกิดในอินเดีย 

นอกเหนือจากนั้นก็มีทั้งพระและชาวต่างชาติที่ปะปนกันไป


ฉันเดินหาที่นั่งตรงลานพื้นปูนที่ยังว่างอยู่ หลายคนที่อยู่แถบด้านหน้าคงรีบมา
นั่งจอง
กันตั้งแต่ก่อนรุ่งสางกันแน่ ส่วนพื้นที่ด้านบนซึ่งติดกับสถานที่ประกอบพิธี-
ด้านใน 
ท่านทะไลลามะ ที่กำลังนั่งเป็นองค์ประธานอยู่บนแท่นธรรมมาสน์ ก็ถูก
รายล้อมไปด้วยพระชั้นผู้ใหญ่และฆราวาสบางส่วน
ที่น่าจะเป็นคนใหญ่คนโต ซึ่ง
ในตอนนั้นกำลังมีพิธีสวดมนต์กันอยู่  


โดยผู้คนที่อยู่ด้านล่างจะสามารถมองภาพเหล่านี้
ผ่านทางจอโทรทัศน์ที่ทำการถ่ายทอดสดให้ได้ชม


มีขนมปังกลมแบนของทิเบต (Balep korkun) ส่งแจกมา จากครอบครัวด้านหน้า
เพื่อแบ่งให้กินแก้หิวระหว่างที่นั่ง ขนมปังมี
รสชาติจืดเพราะมันไม่มีการปรุงหรือ
ใส่ไส้อะไรไว้ แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองชิม

ตกช่วงสาย ก็ชักจะเริ่มนั่งอยู่กับที่นาน ๆ ไม่ไหวเหน็บกินหลายรอบมาก 
พอมีจำนวนคนเพิ่มมากขึ้นก็ต้องเขยิบแบ่งพื้นที่ให้ และดูเหมือนว่าต้อง
เบียดเสียดกันพอสมควร ทำให้ฉัน
อยากออกไปอยู่พื้นที่โล่งมากกว่าเลยลุกย้าย
มายืนดูบรรยากาศที่ด้านท้าย ใกล้ ๆ กับประตูด้านหน้าเข้าที่ประทับฯ แทน 
ซึ่งที่ตรงนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ยืนคุมเข้มด้านหลังรั้วเหล็ก   

และฉันก็ได้เจอกับพระไทยสองรูปเข้าพอดี นั่นคือ
หลวงพ่ออำนาจ จากสำนักสงฆ์เขาหินซ้อน จังหวัดฉะเชิงเทรา 
และ หลวงพี่เจษ จากวัดแห่งหนึ่งที่อยู่แถวเขตดอนเมือง

ทั้งสองต่างมาเรียนภาษาอังกฤษกันที่แมคลอดกันจ์ เช่นเดียวกัน
หลังจากที่ตัวเองไม่ได้คุยเป็นภาษาไทยมาพักนึงใหญ่ ได้โม้ยาวเลยทีนี้ ...

แต่ระหว่างนั้น นอกจากจะต้องทำตัวสำรวมแล้ว ก็ต้องตาไวคอยหลบเท้าอย่าง
ระวังระไวอีกด้วย เพราะเจ้าพวกเด็กทิเบตรุ่นเล็กต่างพากันมาร้องกรี๊ดกร๊าด
แถมยังเล่นวิ่งไล่จับกันตรงลานที่ยืนอยู่ 
แต่ก็หลบไม่พ้นฝีเท้าของพวกเด็กซนอยู่ดี


ในช่วงเดียวกันนี้จะมีพระทิเบตผู้ทำหน้าที่ยกถังใส่อาหารและชาเนยแบบทิเบต
มาเดินแจกให้กับผู้คนที่ร่วมงานด้วย ทีแรกก็แอบยืนมองอยู่ห่าง ๆ เพราะไม่เห็นว่า
จะมีชามมารองให้ เว้นแต่แก้วกระดาษสำหรับใส่ชาเท่านั้น 

ไม่รู้ว่าหลวงพ่ออำนาจนึกยังไง ถึงบอกให้ฉันไปรับข้าวมาลองกินดู...
มันก็ทำใจยากหน่อยนะที่ไม่มีอุปกรณ์การกิน เห็นคนที่ไม่ได้เตรียมชามมารอง
ก็ต้องใช้สองมือประกบรองรับเอา 
มันเป็นข้าวที่ผสมถั่วเปลือกแข็งคลุกน้ำตาล 
ฉันประคองอาหารที่ได้รับจากตักแบ่งใส่มือทั้งสองโดยตรง จากนั้นก็พยายาม
กินด้วยการเอามือหยิบจกแทนช้อน จนหมดเกลี้ยง

"เออ...กินง่ายดีเนาะ" ก็ไม่รู้ว่าหลวงพ่อ เอ่ยชม? รึตกใจกัน?

และระหว่างนั้นหลวงพี่เจษ พูดถึงบางอย่างขึ้นมา

"รู้ข่าวเรื่องแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 26 เดือนก่อน (ตุลาคม) มั้ย" 

ฉันจำได้ว่าในวันนั้นยังเดินทางอยู่ในสปิติ  

"มันสะทือนมาถึงนี่เลยล่ะ กำลังนั่งเรียนกันอยู่ดี ๆ 
อาคารมันสั่นแรง 
จนต้องออกมาดูสถานการณ์กันด้านนอก" 

หลังจากที่หลวงพี่กับหลวงพ่อเล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นให้ได้รู้
ฟังแล้ว ใจหายวาบ ถ้าเกิดแรงสะเทือนมันไปถึงแถบที่ฉันอยู่
คงอาจได้มีเหตุ หินร่วง ดินถล่ม ลงมาทับตายแน่ !!!





ส่วนเรื่องการเดินทางสนุก ๆ ของหลวงพี่เจษ
ท่านก็มีมาเล่าให้ฟัง ถึงตอนที่มาเยือนเมืองนี้เป็นครั้งแรก

"รู้แค่ว่าต้องมาเรียนที่ ธรรมศาลา หลวงพี่ก็จำข้อมูลนี้มาแค่นี้แหละ
พอรถมาส่งถึง แมคลอดกันจ์ เราก็เลยต่อรถไปยังเมืองที่ว่าอีกที
พอลงไปถึงธรรมศาลาแล้ว ก็ถึงกับได้รู้ว่า เข้าใจผิด! หลวงพี่เลย
ต้องนั่งรถ
ตีกลับขึ้นมาที่นี่อีกรอบ "

แม้จะยังเจอประสบการณ์ความโหดไม่ถึงขั้น เพราะที่นี่ยังไม่มีอะไรมากเท่าไหร่ 
แต่พระไทยที่ขึ้นมาเรียนภาษาฯ ในชุดนี้ ก็จะอยู่จนถึงช่วงธันวาคมและเดินทาง
ต่อไปยัง "สังเวชนียสถาน" กันก่อนกลับประเทศไทย





มีกลุ่มคนที่แต่งชุดประจำชาติมายืนเรียงแถวตอนหนึ่ง ถัดไม่ไกลไปจากเรานัก
เพื่อรอเข้าเฝ้าและถวายสิ่งของ โดย
พวกเขานำผ้าแถบสีขาวที่เรียกว่า khatag มา
ใช้แสดงความเคารพต่อองค์ทะไลลามะกัน ส่วนพวก
เราก็ได้แต่มองว่าจำนวนคน
กับแถวที่ยาวเหยียดนี้จะต้องใช้เวลายืนรอกันนานเท่าไหร่กัน กว่าที่พิธีทั้งหลาย
ด้านบนจะจบลง?

ไม่นานนักฉันก็ได้เจอกับพระไทยอีกรูป ซึ่งท่านสวมแว่นสายตา
ซึ่งฉันเองก็จำชื่อไม่ได้แล้ว จึงขอเรียกแทนว่าหลวงพี่แว่นก็แล้วกัน
หลวงพี่แว่นเพิ่งเดินมาสมทบภายหลังจึงได้มาพูดคุยกันนิดหน่อย 
ก่อนที่จะอาสาเดินนำไปโฉบดูบรรยากาศพิธีฯ ด้านบนพร้อมกับหลวงพี่เจษ

เมื่อเดินผ่านห้องที่ทะไลลามะนั่งประกอบพิธี ฉันก็ได้เห็น"หมวกสีเหลือง" 
ที่ท่านสวมอยู่ด้วย นั่นก็ถือ
เป็นสัญลักษณ์ของนิกายเกลุกปา 

ส่วนตรงลานด้านบนก็มี
กลุ่มพระทิเบตมานั่งกันอยู่จนแน่นขนัด

จนกระทั่งเมื่อพิธีการจบลง ท่านทะไลลามะ
ก็จะออกมายังประตูฝั่งด้านที่กลุ่มพวกเรายืนรอไม่ไกล
จากภาพที่ได้เห็นตอนนั้น ฉันจำได้อย่างชัดเจนเลยล่ะ 

ถึงในปีนี้ท่านมีอายุมากถึง 80 พรรษาแล้ว แต่ก็ยังดูแข็งแรงและได้มีการจับมือ
ทักทายกับประชาชนบางส่วนที่มารอเข้าเฝ้า 
ซึ่งจากนี้ฉันเองก็ต้องหาทางลง
บันไดไปยังพื้นที่ชั้นล่างต่อ เพราะ
ทะไลลามะกำลังจะย้ายไปประทับตรงแท่น
ที่นั่งด้านล่างแทนแล้ว

ต่อมาก็มีการแสดงของกลุ่มของเยาวชนชาวทิเบตมาเต้นรำ
ประกอบเพลงพื้นเมืองทิเบตถวายในโอกาสนี้อีกด้วย


"อาตมาชอบพวกเขานะ ขนาดไม่มีประเทศจะอยู่
ก็ยังรักษาประเพณีไว้ได้ดี"
  หลวงพี่แว่นบอก



เมื่อถึงเวลาที่ท่านทะไลลามะกล่าวคำเทศนาเป็นภาษาทิเบต
ที่ฉันเองก็ฟังไม่ออก รู้แต่ว่ามีหลายคนกำลังจดจ่อรอฟังอยู่นั้น 
แสดงทีท่าปลาบปลื้มไม่น้อยและคงเพราะอารมณ์ขันของท่านด้วยที่ทำให้
เกิดเสียงหัวเราะชอบใจของคนที่ฟังอยู่ดังออกมาพร้อมกัน
ในบางจังหวะ

มีเรื่องหนึ่งที่ฉันเห็นได้ชัดจากงานในวันนี้ ก็คือความไม่วุ่นวายของผู้คน 
เพราะในงานมีเพียง 'กล้อง' ที่ใช้สำหรับเก็บภาพพิธีฯ เพียงแค่ไม่กี่ตัวเท่านั้น 
สำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ซึ่งได้รับมอบหมายให้เก็บภาพอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้บรรดากล้องและโทรศัพท์ของทุกคนผู้ไม่เกี่ยวข้องจะถูกห้ามนำเข้ามา

ดังนั้นเราจึงได้อยู่ในท่าทีสงบ อย่างที่ควรจะเป็นกัน 
โดยไม่มีใครทำตัวเป็นเสมือนเป็นช่างภาพให้น่ากวนใจ


ฉันไม่ได้อยู่ในงานนี้จนจบพิธีฯ ไม่นานนักก็ต้องปลีกตัวออกมา

"น่าเสียดาย ถ้าได้เจอกันไวกว่านี้คงได้ลงชื่อเข้าเฝ้าพร้อมกัน" 

หลวงพี่ พูดถึงเรื่องการขอเข้าเฝ้าท่านทะไลลามะที่หากมากับกลุ่มคณะ
หรือองค์กร 
ก็ย่อมจะทำเรื่องได้ง่ายกว่าไปลงชื่อรอเดี่ยว ๆ ซึ่งเมื่อปีก่อน
ฉันก็คิดว่าจะอยู่รอลงชื่อเข้าเฝ้าสักหน่อย แต่ก็ดูเหมือนจะใช้เวลานานเกินไป 

นั่นคงจะไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะในวันนี้
ฉันได้มีโอกาสเห็นท่านทะไลลามะแล้วนี่



หลังจากลี้ภัยมาตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1959 
และประกาศวางมือจากการเมืองไปเมื่อปี ค.ศ. 2011
แต่ฉันยังเชื่อว่าทุกคนก็ยังคงมององค์ทะไลลามะ เป็นทั้งสัญลักษณ์การต่อสู้
และศูนย์รวมจิตวิญญาณของชาวทิเบตที่แยกออกจากกันไม่ได้เสียแล้ว




ที่มาของภาพ :  www.tibet.net 
ชมบรรยากาศบางส่วนที่นี่ >>> Teaching & Long life offering 



.....



ช่วงเย็นของวันเดียวกันนี้ กลุ่มชาวทิเบตกลับมารวมตัวเพื่อเรียกร้องต่อ
เรื่องที่เกิดขึ้นอีกครั้ง หลัง
จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่กี่วันของคดีการฆาตกรรม

เชื่อได้เลยว่าปัญหานี้ คงไม่ได้เกิดขึ้นแค่ครั้งแรกแน่นอน

ในความเท่าเทียมกันของกระบวนการยุติธรรม 
จะออกบทลงโทษผู้ก่อคดีซึ่งเป็นคนพื้นที่ได้ดีแค่ไหน?
เพราะผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงนี้
มีสถานภาพเป็น 'ผู้ลี้ภัย' ไม่ใช่ 'พลเมือง' โดยตรง

พวกเขาต่างพากันมาปักหลักที่หน้า main square ตามเดิม 
แต่วันนี้เป็นการชุมนุมเรียกร้องไม่ใช่เดินเทียนไว้อาลัย





"มีอะไรเกิดขึ้นกัน? ฉันเพิ่งมาถึงแมคลอดกันจ์ วันนี้เอง"

อินนาร์
เป็นชาวเอสโตเนีย 
ผู้ซึ่งอยากจะมาปักหลักที่ดารัมซาลาเป็นบ้านอีกหลัง
ตรงเข้ามาถามอย่างดื้อ ๆ  
ฉันเลยบอกเรื่องที่ให้ฟังถึงเหตุการณ์ที่ว่านี้ ซึ่งเขา
ก็พอจะเข้าใจกับปัญหาที่มีอยู่ 

ไม่นานนักเหล่าชาวทิเบต ก็เริ่มตั้งแถวเดินขบวนไล่เดินไปตามเส้นถนนทีละสาย
เหมือนเมื่อวาน 
แต่ดูดุเดือดกว่าเล็กน้อย  มีร้านอาหารแห่งหนึ่งถูกปาหินใส่จน
กระจกแตกยับ 


"นั่นร้านคนทิเบตนี่..."  ฉันกำลังคิดอยู่ว่าใครกันที่เป็นคนลงมือทำ?

"ก็คนทิเบต นั่นแหละที่ปาใส่" อินนาร์ ตอบ

แต่ฉันสงสัยว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้นไปได้

"เห็นไหม ร้านต่างๆ ที่เป็นของคนทิเบตปิดกันหมดแล้ว"
เขาชี้ให้ดูสถานการณ์โดยรอบ  
"คือตอนนี้ มันควรเป็นเวลา
ที่ต้องออกมารวมตัวเพื่อเรียกร้องกัน 
ไม่ใช่เวลามาทำธุรกิจน่ะ"

อืม มันก็จริงอยู่นะ ว่าแต่มันสมควรแล้วเหรอนั่น?

"ไปหา ชัย ดื่มกันเหอะ" แต่อยู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนเรื่องมาซะงั้น 





ถึงแม้ว่าในเวลานั้นฉันยังอยากที่จะจับติดสถานการณ์อยู่อย่างใกล้ชิดก็ตาม ทว่า
พวกเราต่างอยู่ในสถานะคนต่างชาติและคนนอก คงไม่สามารถไปเรียกร้อง
เพื่อ
การเปลี่ยนแปลงไปมากกว่าการจับตาดู 
ถึงสิ่งที่กำลังจะดำเนินต่อไปหลังจากนี้
เราเอง
ก็คงได้แต่ภาวนาขอให้ "ความยุติธรรม" ที่ฝากไว้กับความหวังจะยังคงมี
อยู่
และไม่จบลงด้วยการปล่อยผ่านจนหายไปตามกาลเวลาเท่านั้น



ว่าแล้วก็ไปหาชาดื่มกันดีกว่า ฉันเสนอให้ไปร้านแห่งหนึ่ง 
ที่ตั้งอยู่ตรงถนนทางไปวัดทะไลลามะเพราะราคาไม่แรงนัก
แถมมี wifi ให้เชื่อมต่ออีกด้วย


"จะโล!"... ป่ะ






Create Date : 11 เมษายน 2559
Last Update : 8 มกราคม 2561 11:29:27 น. 19 comments
Counter : 5807 Pageviews.

 
ตามมาคนแรกค่ะน้องฟ้า
โชคดีจัง ได้เห็นท่านทะไลลามะ
แล้วยังไม่ได้พูดภาษาไทยให้หายคิดถึงด้วยนะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
phunsud Food Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog


โดย: เนินน้ำ วันที่: 11 เมษายน 2559 เวลา:10:42:06 น.  

 
น้องฟ้ามีโชคด้านการเดินทางจริงๆ ได้พบท่านทะไลลามะด้วยอ้ะ

อืมม์..จริง ที่ไม่ใช่เวลาทำธุรกิจ แต่ก็ไม่มีสิทธิ์ไปทำลายทรัพย์สินเค้าป่าวน้อ พี่ค่อนข้างไม่เห็นด้วยนะ เหอๆ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ซองขาวเบอร์ 9 Literature Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Photo Blog ดู Blog
Close To Heaven Food Blog ดู Blog
prizella Travel Blog ดู Blog
haiku Art Blog ดู Blog
pantawan Health Blog ดู Blog
lovereason Literature Blog ดู Blog
บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน Food Blog ดู Blog
moresaw Funniest Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 11 เมษายน 2559 เวลา:11:57:46 น.  

 
กำลังสนุก หรือ ตื่นเต้นดี ตอนท้ายนะครับ

คุณฟ้าโชคดีจังได้พบท่านด้วยตัวเอง

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน Food Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 11 เมษายน 2559 เวลา:12:00:23 น.  

 
สวัสดีค่ะ...

ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ


โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 11 เมษายน 2559 เวลา:16:09:41 น.  

 
หลวงพ่อถึงกะทักว่ากินง่าย 555


เป็นคำชมสิจ๊ะน้องฟ้า

น้องฟ้าโชคดีจริงๆ ที่ได้เห็นท่านทะไลลามะ


โดย: อาร์ลาฟองค์ วันที่: 11 เมษายน 2559 เวลา:18:15:07 น.  

 
เค้าว่ากันว่า มา แมคลอด กันจ์ นี่ก้เหมือนได้มาทิเบต เลยนะ แต่ อ.เต๊ะ ว่า ในใจคนทิเบต คงคิดว่า การไปอยู่บ้านคนอื่น ก้ไม่เหมือนอยู่บ้านตัวเองหรอกนะเนี่ย

แต่ว่าถึงบ้านจะโดนเค้ายึดไปแล้ว แต่ถ้าคนทิเบตยังเข้มแข็ง ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ก็น่าจะสามารถ รักษาความเป็นตัวตน จิตวิญญาน ศาสนา และ วัฒนธรรมประเพณีเอาไว้ได้เสมอละเนอะ

แต่ที่ อ.เต๊ะประหลาดใจมากคือ ชุมชนชาวทิเบตใน แมคลอด กันจ์ นี่ ทั้งร้านอาหาร ร้านขนมเค้ก ร้านนวด ร้านเกมส์มีมากมาย ยังกะถนนข้าวสารไม่มีผิด555

แต่ไหง น้องฟ้า ยังดูหิวๆตลอดเวลา ต้องแบมือกินของฟรีอยู่ซะงั้น อันนี้น่าจะเป็นความชอบส่วนตัวแหงๆ ก้ไม่ว่ากันเนอะ 555

ส่วนเรื่องพระไทยนี่ เท่าที่รู้ ชอบไปเรียนภาษา ที่ธรรมศาลากันมาก เห็นว่ามีวัดไทยที่นี่ด้วยนะ ไม่รุ้น้องฟ้าได้แวะไปมั่งหรือเปล่า

ส่วนเรื่องการต่อสู้ของชาวทิเบตนี่ ถึงจะใช้สันติวิธี เผาตัวเอง เพื่อเรียกร้องหรือประท้วง ให้ชาวโลกมามองมาสนใจนี่

ดุแล้วก็ เหมือนจุดเทียนท่ามกลางพายุเลยอะนะ
เราชาวพุทธด้วยกันก้ได้แต่เอาใจช่วยแหละเนอะ

น้องฟ้าบอก วันนี้ อ.เต๊ะ มันพุดจารุ้เรื่องเว้ย เฮ้ย
สงสัยจะกินยาลืมเขย่าขวดมั้งนี่ 555






บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น



โดย: multiple วันที่: 11 เมษายน 2559 เวลา:20:17:57 น.  

 
โชคดีครับ ได้พบทะไลลามะด้วย
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 11 เมษายน 2559 เวลา:23:04:56 น.  

 
สวัสดีอีกรอบจ้าฟ้า

พี่โชคดี ได้เจอฟูจิสวยๆ หลายครั้งแล้ว


เรื่องราคา จริงเลยเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน เพราะพี่เคยหารีวิวเช็คเรื่องราคาของที่ญี่ปุ่น ปรากฏว่ามีทั้งบอกว่าถูกและแพง พอไปบ่อยๆ ถึงเก็ทว่า ค่าเงินนี่เกี่ยวมากๆ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 12 เมษายน 2559 เวลา:8:40:44 น.  

 
การต่อสู้ของคนธิเบตคงอีกยาวนานมากกว่าจะบรรลุผล
ทุกคนมีความคิด ความเชื่อเป็นของตนเองจริงๆ

พี่ก๋าชอบคำสอนของทะไล ลามะนะครับ
ท่านสอนดีมากๆเลย

โหวต travel blog ครับ


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 เมษายน 2559 เวลา:12:32:14 น.  

 
สวัสดีครับคุณฟ้า

ตามมาเที่ยวทิเบตด้วยคนครับ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

Sweet_pills Food Blog ดู Blog
ฟ้าใสวันใหม่ Food Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Travel Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

ปล.ผมมีขนมจากบล็อกตอนใหม่มาฝากด้วยครับ



โดย: ทองกาญจนา วันที่: 12 เมษายน 2559 เวลา:12:37:51 น.  

 
+ ได้ชมบุญท่านทะไลลามะ ด้วย


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 12 เมษายน 2559 เวลา:14:49:15 น.  

 
กินง่ายค่ะ อย่าบอกว่าตะกละนะคะ อิอิ

โชคดีอ่ะ น้องฟ้าได้พบท่าน

+ ให้จ้า


โดย: ปลาแห้งนอกกรอบ วันที่: 12 เมษายน 2559 เวลา:16:29:27 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Sweet_pills Food Blog ดู Blog
mcayenne94 Home & Garden Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

โชคดีจังที่ได้เห็นพระองค์ท่านด้วย สาธุค่ะ


โดย: Maeboon วันที่: 12 เมษายน 2559 เวลา:18:52:47 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องฟ้า



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 เมษายน 2559 เวลา:6:35:48 น.  

 
โหวต Travel blog ก่อน เดีี๊ยวขอตัวกะหัวไปทำงานแพล๊บบบ คืนนี้ค่อยมาอ่านต่อ น่าสนใจมากท่านทะไลลามะเคยมาที่เยอรมันด้วยนะ เรารอถ่ายรูปกะ Richard Gere อ่ะ..คนหลังนี่ดันไม่มาด้วย ฮึ่ยยยยย เลยไม่ได้สนที่จะไปร่วมงานอ่ะ ฮ่าๆๆๆ


โดย: Max Bulliboo วันที่: 13 เมษายน 2559 เวลา:17:52:18 น.  

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 14 เมษายน 2559 เวลา:3:31:16 น.  

 


ปีใหม่ไทยนี้ขอให้ฟ้าเย็นกายเย็นใจไปทั้งปี
มีทั้งแรงกายและแรงเงินเยอะ
จะได้ไปเที่ยวแล้วกลับมาเล่าประสบการณ์ท่องเที่ยวดี ๆ ให้เเพื่อน ๆ ฟังอีก
สุขสันต์วันสงกรานต์ กดไลค์กับโหวตให้ค่า ^_^


โดย: haiku วันที่: 14 เมษายน 2559 เวลา:23:46:45 น.  

 
น่าจะบอกว่าเป็นโชคของนักเดินทางมั้ง พลาดหรือผิดแผนทำให้มาเจออะไรที่คุ้มค่า โอกาสแบบนี้บางครั้งเรียกหาก็ใช่ว่าจะได้มันมานะ

บางครั้งเราลองอะไรแปลกใหม่ ถ้ามันไม่ใช่สิ่งที่ส่งผลร้าย หรือผลกระทบมาถึงตัวเราในทางลบ ผมว่ามันก็น่าลองนะ ถือว่าเป็นประสบการณ์แปลกใหม่

สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ

กาบริเอล Travel Blog
+


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 15 เมษายน 2559 เวลา:12:35:47 น.  

 
โชคดีจังได้เจอท่านอย่างใกล้ชิดเต็มตา


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สวนดอกไม้ในความเดียวดายของเธอ Photo Blog ดู Blog
Raizin Heart Food Blog ดู Blog
เรียวรุ้ง Literature Blog ดู Blog
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
ทนายอ้วน Food Blog ดู Blog
คนบ้านป่า Home & Garden Blog ดู Blog
หอมกร Movie Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 22 เมษายน 2559 เวลา:20:41:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กาบริเอล
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




ชอบต้นไม้, แมว, หนังสือ
และออกเดินทางท่องเที่ยวบ้าง

ไม่ชอบพบปะผู้คนมากนัก
เป็นมนุษย์จำพวก introvert

การเขียนบล็อก
คืออีกพื้นที่บอกเล่าผ่านตัวอักษร
และตัวตนของเราก็อยู่ในสิ่งที่เขียนค่ะ

ขอบคุณ Bloggang
สำหรับพื้นที่แบ่งปันตรงนี้

....

เริ่มต้นลงบันทึกอย่างเป็นทางการ
ณ วันที่ 16 ม.ค. 2014


###ไม่สะดวกพูดคุยหลังไมค์นะคะ###

© ขอสงวนลิขสิทธิ์ ภาพถ่าย 
ห้ามนำไปใช้ ดัดแปลง แก้ไข 
โดยไม่แจ้งที่มา ก่อนได้รับอนุญาต


New Comments
Friends' blogs
[Add กาบริเอล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.