พระสูตร ที่น่าสนใจ (64) - เสฐียรพงษ์ วรรณปก
ฟ้าสางเมื่อใกล้ค่ำ เสฐียรพงษ์ วรรณปก
พระพุทธเจ้าตรัสสอนภิกษุรูปหนึ่งนามว่ามิคชาละ ขณะเข้าเฝ้าพระเชตวัน พระมิคชาละกราบทูลถามว่า อย่างไรภิกษุเรียกว่าอยู่คนเดียว อย่างไรเรียกว่ามีเพื่อน
พระพุทธองค์ตรัสว่า "มิคชาละ" รูปที่เห็นด้วยตา น่ารัก น่าใคร่ ชวนให้กำหนัด ถ้าภิกษุยินดีก็มีความเกี่ยวข้อง ภิกษุมีความเพลิดเพลินและเกี่ยวข้อง ชื่อว่า "มีเพื่อน"
มิคชาละ ภิกษุผู้ไม่มีความเพลิดเพลิน ไม่มีความกำหนัด ไม่เกี่ยวข้องในรูปที่เห็นด้วยตาอันน่ารัก น่าใคร่ ชวนให้กำหนัดดังกล่าว เรียกเรียกว่า "ชอบอยู่คนเดียว"
ภิกษุผู้ชอบอยู่คนเดียวอย่างนี้ ถึงจะอยู่ท่ามกลางภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ก็ยังเรียกว่า "ชอบอยู่คนเดียว" เพราะเธอไม่มีตัณหาเป็นเพื่อน
ข้อความนี้คัดจาก มิคาลสูตร จะเรียกว่าเป็น "ปริศนาธรรม" หรือ "โกอาน" ก็ได้ เพราะมิได้ตรัสตรงๆ ชนิดที่ฟังแล้วเข้าใจทันที ต้องพินิจพิจารณาจึงจะเข้าใจความหมายที่ทรงประสงค์ในแนวคิดทั่วไป พระภิกษุผู้บวชเข้ามาในพระพุทธศาสนา พึงปลีกตัวเข้าป่าหาความวิเวกบำเพ็ญเพียรภาวนา ไม่พึงคลุกคลีด้วยหมู่คณะ อันจักทำให้ฟุ้งซ่านเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาจิต ในพระสูตรหลายแห่งตรัสสรรเสริญภิกษุผู้มีบริขารน้อย ใช้ชีวิตอย่างเบาสบาย ไม่ติดถิ่น ไปไหนไม่ห่วงหน้าพะวงหลัง "ดุจดังนกบินจากคอน" หรือ "ดุจนอแรด" (คืออยู่คนเดียว ดุจนอแรดมีนอเดียว)
การอยู่คนเดียวในด้านกายภาพ ยังนับว่าดี แต่ถ้าสามารถอยู่คนเดียวในทางจิตก็วิเศษ คือ ไม่ได้อยู่ด้วยกิเลสตัณหา
ผู้ที่ไม่ตกเป็นทาสกามคุณ ถึงจะอยู่ท่ามกลางคนหมู่มากก็ยังเรียกว่า "อยู่คนเดียว" เพราะไม่มีเพื่อนคือ กิเลสตัณหาคอยชักจูงไปในทางชั่วเสียหาย
หน้า 27
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ ฟ้าสางเมื่อใกล้ค่ำ ศ.เสฐียรพงษ์ วรรณปก
สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ
Create Date : 15 ธันวาคม 2557 |
Last Update : 15 ธันวาคม 2557 10:02:48 น. |
|
0 comments
|
Counter : 623 Pageviews. |
|
|