พระสูตร ที่น่าสนใจ (55) - เสฐียรพงษ์ วรรณปก
ฟ้าสางเมื่อใกล้ค่ำ เสฐียรพงษ์ วรรณปก
คราวหนึ่ง หมอชีวกโกมารภัจจ์ กราบทูลถามพระพุทธเจ้า ขณะประทับอยู่ ณ สวนมะม่วงของเขาว่า "ข้าพระพุทธเจ้าได้ยินคนตำหนิพระองค์ว่า พระองค์สอนให้คนอื่นเว้นจากการฆ่าสัตว์ แต่เสวยอาหารที่เขาฆ่าถวายเป็นความจริงเพียงไร"
พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ถ้าได้เห็น ได้ยิน และสงสัยว่าเขาฆ่าถวาย ตถาคตไม่ฉันเนื้อนั้น แต่ถ้าไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน และไม่สงสัยว่าเขาฆ่าเจาะจงถวาย ตถาคตฉันเนื้อนั้น"
ตรัสอธิบายต่อไปว่า "ภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนา มีจิตประกอบด้วยเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา และแผ่คุณธรรมเหล่านี้ไปยังสรรพสัตว์ทั่วโลก อยู่ด้วยจิตไม่มีเวร ไม่มีพยาบาทต่อใคร เลี้ยงชีพด้วยอาหารบิณฑบาตที่ชาวบ้านถวาย เมื่อมีผู้นิมนต์ไปฉันอาหาร ก็ไป เขาถวายอาหารชนิดใด จะเลว หรือประณีต ก็ฉันพอดำรงอัตภาพ ไม่ติดหรือยึดมั่นในอาหารที่ฉันนั้น"
เสร็จแล้วพระองค์ก็ตรัสถามหมอชีวกว่า "ภิกษุปฏิบัติเช่นนี้ จะเรียกว่าเบียดเบียนคนอื่นหรือไม่"
หมอชีวกกราบทูลว่า "ไม่ พระเจ้าข้า"
"อาหารอย่างนี้ไม่มีโทษ (คือกินได้ ไม่เรียกว่าสนับสนุนให้ฆ่าสัตว์) มิใช่หรือ
"เป็นอย่างนั้น พระเจ้าข้า"
พระองค์ตรัสต่อไปว่า ผู้ที่ฆ่าสัตว์เจาะจงถวายพระองค์และพระสงฆ์สาวก ย่อมก่อบาปกรรมทั้งแก่ตนและคนอื่น เพราะเหตุ 5 ประการคือ สั่งให้นำสัตว์มาฆ่า (เท่ากับชักนำให้คนอื่นทำบาปด้วย), ออกคำสั่งให้ฆ่า (ตัวเองก็บาปคนฆ่าก็บาป) สัตว์นั้นถูกนำไปฆ่า ได้รับความเจ็บปวด, กำลังถูกฆ่ายิ่งเจ็บปวดยิ่งขึ้นจนสิ้นชีวิต, ทำให้คนอื่นหาช่องว่าพระองค์และพระสงฆ์สาวก (จริงอยู่ถ้าพระไม่รู้ไม่เห็น ไม่สงสัยว่าเขาฆ่าเจาะจงตน ไม่ต้องอาบัติ แต่คนภายนอกอาจหาว่า พระแกล้งไม่รู้ ทำนองปากว่าตาขยิบก็ได้)
หมอชีวกได้รับวิสัชนาจากพระพุทธองค์จนแจ่มแจ้งหายสงสัยแล้ว กราบทูลขึ้นว่า ตนเคยได้ยินว่าพระพรหมนั้นมีวิหาร 4 แต่ไม่เคยเห็นพระพรหม บัดนี้ตนได้เห็น "พระพรหม" ตัวจริงคือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้านี้เอง (จากชีวกสูตร)
หน้า 27
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ ฟ้าสางเมื่อใกล้ค่ำ ศ.เสฐียรพงษ์ วรรณปก
อาทิตยวารสิริสวัสดิ์ค่ะ
Create Date : 16 พฤศจิกายน 2557 |
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2557 10:04:52 น. |
|
0 comments
|
Counter : 495 Pageviews. |
|
|