พระสูตร ที่น่าสนใจ (6) - เสฐียรพงษ์ วรรณปก
ฟ้าสางเมื่อใกล้ค่ำ เสฐียรพงษ์ วรรณปก
วันหนึ่งพระสารีบุตรอัครสาวกเบื้องขวา เห็นพระโมคคัลลานะอัครสาวกเบื้องซ้ายมีใบหน้าผ่องใสเป็นพิเศษ จึงถามว่า ท่านอยู่ด้วยวิหารธรรมอันละเอียดใดหรือ วันนี้จึงมีหน้าตาผ่องใสยิ่งนัก
พระโมคคัลลานะตอบว่า ผมอยู่ด้วยวิหารธรรมอย่างหยาบ แต่ได้ฟังธรรมจากพระโอษฐ์พระพุทธเจ้าจึงมีปีติในธรรมอย่างยิ่ง
ครั้นพระสารีบุตรซักว่า พระพุทธองค์ประทับอยู่ไกลจากที่นี้มาก ท่านเหาะไปเข้าเฝ้าพระองค์หรือ พระโมคคัลลานะตอบว่า ไม่ได้เหาะไป แต่ฟังด้วยทิพโสต
พระโมคคัลลานะเล่าให้พระสารีบุตรฟังต่อไปว่า ท่านได้กราบทูลถามพระพุทธองค์ว่า แค่ไหนเพียงใด จึงจะเรียกว่ามีความพากเพียร พระพุทธองค์ตรัสว่า ต้องตั้งปณิธานอย่างแน่วแน่ว่า "แม้นเลือดในร่างกายของเรา จะเหือดแห้งไปเหลือแต่หนัง เอ็น กระดูกก็ตาม ตราบใดที่ยังไม่บรรลุผลที่พึงบรรลุถึงได้ ด้วยความพากเพียรของบุรุษด้วยความบากบั่นของบุรุษ จะไม่ยอมหยุดความพยายามอย่างเด็ดขาด ต้องมั่นคงถึงขนาดนี้จึงจะเรียกว่ามีความพากเพียรจริง
พระสารีบุตรกล่าวชมเชยว่า "ท่านโมคคัลลานะเป็นผู้มีฤทธิ์มากจริงๆ เมื่อเปรียบกันแล้ว ผมเป็นเสมือนก้อนหินเล็กๆ วางอยู่ต่อหน้าภูเขาใหญ่ คนมีฤทธิ์มากอย่างท่านแม้ปรารถนาจะมีชีวิตอยู่ตลอดไป ก็สามารถทำได้"
พระโมคคัลลานะตอบว่า "ท่านสารีบุตรต่างหากเป็นสาวกรูปเดียวที่พระพุทธองค์ตรัสยกย่องว่ามีปัญญามาก มีศีล และอุปสมะ (ความสงบ) ถ้าจะเปรียบไปแล้วผมก็เหมือนก้อนเกลือเล็กๆ วางอยู่ข้างหม้อเกลือใหญ่"
พระสูตรนี้ชื่อ ฆฏสูตร เนื้อหาว่าด้วยพระอัครสาวกสองรูปสนทนากัน ต่างก็ยกย่องชมเชยด้วยใจจริง ถึงความสามารถของอีกฝ่ายหนึ่ง
ข้อคิดที่ได้จากพระสูตรนี้ก็คือ พระเถระทั้งสองต่างก็ได้รับยกย่องว่าเป็น "เอตทัคคะ" (ผู้เลิศกว่าคนอื่น) ท่านกลับไม่ (ขอใช้ภาษาธรรมดา) ไม่ถือตน กลับมีความถ่อมตนเป็นอย่างยิ่ง ยกย่องชมเชยความดี ความสามารถของผู้อื่น ตรงนี้แหละที่ควรนำมาเป็นแบบอย่างได้
อย่าเอาอย่างนักวิชาการแสนรู้ เรียนมาแขนงเดียว นึกว่าตนรู้หมดทุกอย่าง ดูถูกคนอื่นว่าโง่ไปหมด
หน้า 27
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ ฟ้าสางเมื่อใกล้ค่ำ ศ.เสฐียรพงษ์ วรรณปก
สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ
Create Date : 26 พฤษภาคม 2557 |
Last Update : 26 พฤษภาคม 2557 11:12:49 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1532 Pageviews. |
|
|