พระสูตรที่น่าสนใจ (5) - เสฐียรพงษ์ วรรณปก
ฟ้าสางเมื่อใกล้ค่ำ เสฐียรพงษ์ วรรณปก
พวกภิกษุบวชใหม่มาจากต่างเมือง เพื่อเฝ้าพระพุทธเจ้า ส่งเสียงเอะอะอื้ออึงไม่สงบสำรวม
พระพุทธองค์ไม่ประทานอนุญาตให้ภิกษุเหล่านั้นเข้าเฝ้า ตรัสบอกให้กลับไปขณะนั้นท้าวสหัมบดีพรหมเข้ามาเฝ้า กราบทูลว่า
"ภิกษุเหล่านี้เพิ่งบวชใหม่ เหมือนลูกโคน้อยๆ ไม่เห็นแม่จะรวนเร เหมือนพืชที่ยังอ่อน ไม่ได้น้ำรดจะเฉาตาย ขอพระองค์ทรงอนุเคราะห์พวกเธอเถิด"
พระพุทธองค์จึงรับสั่งให้ภิกษุเหล่านั้นเข้าเฝ้า ตรัสสอนว่า
"พวกเธอเข้ามาบวชในธรรมวินัยนี้ จุดประสงค์เพื่อทำที่สุดทุกข์" ถ้าบวชมาแล้วมากด้วยอภิชฌา (โลภจ้องอยากได้ของคนอื่นมาเป็นของตน) มีความกำหนัดยินดี, มีจิตพยาบาท (ต้องการให้ผู้อื่นมีความพินาศ), หลงลืมสติ, ไร้สัมปชัญญะ ใจไม่เป็นสมาธิ, จิตหมุนไปผิดทาง, ไม่สำรวมการแสดงออก จะทำที่สุดทุกข์ได้อย่างไร
"คนเช่นนี้ เสื่อมจากโภคทรัพย์แห่งคฤหัสถ์ ไม่ทำสมณภาวะให้บริบูรณ์ นับว่าเสื่อมทั้งสองทาง ดุจดุ้นฟืนที่เผาศพ ติดไฟทั้งสองด้านตรงกลางเปื้อนคูถ จะใช้เป็นฟืนในบ้านก็ไม่ได้ ในป่าก็ไม่ได้
พระสูตรนี้สั้นๆ ชื่อ ปิณโฑลยสูตร เนื้อหาน่าสนใจ และมีข้อคิดน่าพิจารณาดังนี้
1. ที่ตรัสขับไล่ ไม่ต้องการให้พระใหม่จากต่างเมืองเข้าเฝ้าในตอนแรก มิใช่เพราะทรงปราศจากพระกรุณา แต่ต้องการเตือนสติให้พวกเธอรู้จัก "กาลเทศะ" ว่าขณะนี้อยู่ที่ไหน กำลังจะมาทำอะไร มิใช่อยู่ในป่าที่ส่งเสียงดังได้ตามชอบใจ
2. การที่สหัมบดีพรหมมาทูลเชิญให้ทรงสงเคราะห์พวกเธอนั้นจะตีความเป็นพรหมจริงๆ ก็ได้ แต่ถ้าตีเป็นสัญลักษณ์ก็คือ ทรงมีพระมหากรุณานั่นเอง จึงทรงเปิดโอกาสให้พวกเธอเฝ้าหลังจากพวกเธอสำนึกแล้ว
3. พระโอวาทน่าสนใจ คนที่บวชมาถ้าไม่บวชเพื่อดับทุกข์ นับว่าเสื่อมทั้งสองทาง คือ ล้มเหลวทางชีวิต คฤหัสถ์ และล้มเหลวทางชีวิตพระ ไม่ต่างกับดุ้นฟืนเผาศพ ติดไฟสองด้านตรงกลางเปื้อนขี้อีกต่างหาก ใช้ทำอะไรก็ไม่ได้
หน้า 27
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ ศ.เสฐียรพงษ์ วรรณปก
สวัสดิ์สิริชีววารค่ะ
Create Date : 22 พฤษภาคม 2557 |
Last Update : 22 พฤษภาคม 2557 9:44:02 น. |
|
0 comments
|
Counter : 587 Pageviews. |
|
|