พระสูตร ที่น่าสนใจ (75) - เสฐียรพงษ์ วรรณปก
ฟ้าสางเมื่อใกล้ค่ำ เสฐียรพงษ์ วรรณปก
พระพุทธเจ้าตรัสสอนภิกษุทั้งหลายวันหนึ่งว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มีบุคคลอยู่ 3 ประเภท คือ คนตาบอดสนิท คนตาบอดข้างเดียว และคนตาดีทั้ง สองข้าง"
พระองค์ทรงอธิบายต่อไปว่า "คนตาบอดสนิท" หมายถึงคนที่ไม่สามารถตั้งเนื้อตั้งตัวทางทรัพย์สิน ไม่สามารถทำทรัพย์สมบัติของตระกูลให้เจริญไพศาลได้ และไม่รู้ว่าอะไรดีอะไรชั่ว อะไรมีโทษ อะไรไม่มีโทษ (นี้เป็นคนตาบอดสนิททั้งทางโลกและทางธรรม)
"คนตาบอดข้างเดียว" หมายถึงคนที่ประสบความสำเร็จในทางแสวงหาทรัพย์สิน และทำความเจริญงอกงามแก่ทรัพย์สินที่หามาได้นั้น แต่ล้มเหลวทางศีลธรรม ไม่รู้ว่าอะไรดีอะไรชั่ว อะไรมีโทษ อะไรไม่มีโทษ (นี้เรียกว่าไม่บอดทางโลกแต่บอดทางธรรม)
"คนตาดีทั้งสองข้าง" หมายถึงคนที่ตั้งเนื้อตั้งตัวได้ทางทรัพย์สิน และประสบความสำเร็จในทางธรรม คือ รู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว อะไรมีโทษ อะไรไม่มีโทษ (นี้เรียกว่าทางโลกก็ไม่บอด ทางธรรมก็ ไม่บอด)
ข้อความนี้จาก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต คัดมาจากเครื่องเตือนใจ ควรแยกว่าคฤหัสถ์กับบรรพชิตไม่เหมือนกัน ชาวพุทธที่เป็นคฤหัสถ์นั้น พระพุทธองค์ทรงสอนให้แสวงหาทรัพย์สินในทางทุจริต เพื่อเลี้ยงตนเองและครอบครัวและเพื่อเจือจานสังคม ไม่เคยสอนให้คฤหัสถ์ทำตนเป็นคนยากจน แต่ทรงเน้นว่า เมื่อร่ำรวยแล้วให้สละทรัพย์สินที่มีช่วยเหลือสังคม เมื่อประสบความสำเร็จทางทรัพย์สินแล้วก็ให้ก้าวไปสู่ความเจริญทางคุณธรรมด้วย อย่างนี้จึงจะชื่อว่า "คนตาดีทั้งสองข้าง" ส่วนภิกษุนั้นทรงสอนให้มักน้อยในปัจจัยสี่ แต่พัฒนาทางจิตใจ ลด ละ กิเลสตามลำดับจนหมดสิ้นไปในที่สุด
คฤหัสถ์ชาวพุทธเป็นอาเสี่ยน่ะดี แต่พระภิกษุจะทำตนเป็น "หลวงเสี่ย" มีแต่ทางเสียครับ
หน้า 27
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ ฟ้าสางเมื่อใกล้ค่ำ ศ.เสฐียรพงษ์ วรรณปก
สิริสวัสดิ์ภุมวารค่ะ
Create Date : 27 มกราคม 2558 |
Last Update : 27 มกราคม 2558 9:29:59 น. |
|
0 comments
|
Counter : 548 Pageviews. |
|
|