พระสูตรที่น่าสนใจ (95) - เสฐียรพงษ์ วรรณปก
ฟ้าสางเมื่อใกล้ค่ำ เสฐียรพงษ์ วรรณปก
"ดูก่อนอานนท์ เพราะอาศัยอวิชชา (ความไม่รู้) จึงเกิดสังขาร (ความคิดปรุงแต่ง) เพราะอาศัยสังขาร จึงเกิดวิญญาณ (ความรับรู้) เพราะอาศัยวิญญาณ จึงเกิดนามรูป (กระบวนแห่งนามธรรมและรูปธรรม) เพราะอาศัยนามรูป จึงเกิดสฬายตนะ (สื่อสำหรับติดต่อโลกภายนอก 6 อย่าง) เพราะอาศัยสฬายตนะ จึงเกิดผัสสะ (การสัมผัส) เพราะอาศัยผัสสะ จึงเกิดเวทนา (ความรู้สึกต่างๆ) เพราะอาศัยเวทนาจึงเกิดตัณหา (ความทะยานอยาก)
เพราะอาศัยตัณหา จึงเกิดการแสวงหา เพราะอาศัยแสวงหา จึงมีการได้มา เพราะอาศัยการได้มา จึงเกิดการตกลงใจ เพราะอาศัยการตกลงใจ จึงเกิดความรักใคร่ เพราะอาศัยความรักใคร่ จึงเกิดความฝังใจ เพราะอาศัยความฝังใจ จึงเกิดความหวง เพราะอาศัยความหวง จึงเกิดความตระหนี่ เพราะอาศัยความตระหนี่ จึงเกิดการปกป้อง เพราะอาศัยการปกป้องจึงเกิดการถือไม้, ถือมีด, ทะเลาะ, แก่งแย่งขึ้นมึงขึ้นกู, ส่อเสียด, มุสาวาท
อกุศลธรรม (ความชั่วร้าย) ทั้งปวงย่อมเกิดมีด้วยประการฉะนี้"
ข้อความนี้จาก มหานิทานสูตร ตรัสถึง "ปฏฺจจสมุปมาท" (วงจรแห่งความทุกข์) ทางสังคม" ส่วนมากแล้ว พระพุทธองค์ตรัสปฏิจจสมุปบาท หรือวงจรแห่งทุกข์สำหรับปัจเจกบุคคล คือ ทรงชี้ว่า เพราะความไม่รู้ในอริยสัจ หรือในกฎแห่งเหตุปัจจัย จึงเกิดมีความคิดปรุงแต่งต่างๆ อันเป็นเหตุให้ทำกรรมดีหรือชั่ว...จนกระทั่งมีชาติ (การเกิด) เมื่อมีชาติก็มีชราและมรณะ กองทุกข์ทั้งมวลก็ย่อมมีไม่หมดสิ้น ถ้าจะให้หมดทุกข์ก็ต้องตัดวงจรนี้ ให้ได้
แต่ในพระสูตรนี้ พระองค์ตรัสปฏิจจสมุปบาท ทางสังคมว่า ต้นเหตุที่เด่นชัดแห่งความทุกข์หรือความชั่วร้ายในสังคมมาจากความอยาก เมื่ออยากก็แสวงหา เมื่อแสวงหาก็ได้มา ได้มาแล้วก็ตกลงใจ เมื่อตกลงใจก็เกิดความรักใคร่ รักมากก็ฝังใจ ฝังใจมากก็หวง หวงมากๆ ก็ตระหนี่เห็นแก่ตัว ตระหนี่มากก็พยายามปกป้องรักษากลัวสูญหาย เมื่อพยายามปกป้องก็เป็นเหตุให้ถือศาสตราอาวุธ ทะเลาะเบาะแว้ง ด่าทอ ส่อเสียด หรือโกหก ตอแหลต่างๆ ความทุกข์ความเลวร้ายจึงเกิดขึ้นในหมู่มนุษย์ด้วยประการฉะนี้
หน้า 27
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ ฟ้าสางเมื่อใกล้ค่ำ ศ.เสฐียรพงษ์ วรรณปก
สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ ความไม่รู้ในอริยสัจ หรือในกฎแห่งเหตุปัจจัย จึงเกิดมีความคิดปรุงแต่งต่างๆ อันเป็นเหตุให้ทำกรรมดีหรือชั่ว...จนกระทั่งมีชาติ (การเกิด) เมื่อมีชาติก็มีชราและมรณะ กองทุกข์ทั้งมวลก็ย่อมมีไม่หมดสิ้น ถ้าจะให้หมดทุกข์ก็ต้องตัดวงจรนี้ ให้ได้
แต่ในพระสูตรนี้ พระองค์ตรัสปฏิจจสมุปบาท ทางสังคมว่า ต้นเหตุที่เด่นชัดแห่งความทุกข์หรือความชั่วร้ายในสังคมมาจากความอยาก เมื่ออยากก็แสวงหา เมื่อแสวงหาก็ได้มา ได้มาแล้วก็ตกลงใจ เมื่อตกลงใจก็เกิดความรักใคร่ รักมากก็ฝังใจ ฝังใจมากก็หวง หวงมากๆ ก็ตระหนี่เห็นแก่ตัว ตระหนี่มากก็พยายามปกป้องรักษากลัวสูญหาย เมื่อพยายามปกป้องก็เป็นเหตุให้ถือศาสตราอาวุธ ทะเลาะเบาะแว้ง ด่าทอ ส่อเสียด หรือโกหก ตอแหลต่างๆ ความทุกข์ความเลวร้ายจึงเกิดขึ้นในหมู่มนุษย์ด้วยประการฉะนี้
หน้า 27
Create Date : 16 มีนาคม 2558 |
Last Update : 16 มีนาคม 2558 10:12:44 น. |
|
0 comments
|
Counter : 438 Pageviews. |
|
|