"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2555
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
5 มิถุนายน 2555
 
All Blogs
 
Sandro Botticelli กับภาพประกอบเรื่อง Nastagio degli Onesti


โดย สุทัศน์ ยกส้าน


 
 Sandro Botticelli กับภาพประกอบเรื่อง Nastagio degli Onesti

 ภาพวาดประดับหีบแต่งงานของ Lucrezia di Binni




ในนวนิยายรวมเล่มชื่อ Decameron ที่ Giovanni Boccaccio เรียบเรียงในปี 1350 มีนิยายเรื่องหนึ่งที่กล่าวถึง Nastagio degli Onesti ว่าเป็นชายหนุ่มผู้มีฐานะดีแห่งเมือง Ravenna ในอิตาลีที่ได้หลงรักลูกสาวของ Paolo Traversaro ผู้สูงศักดิ์ในเมืองเดียวกัน เพราะเธอสวย ฐานะดี และตระกูลสูงกว่า ดังนั้นเธอจึงปฏิเสธรักเขา ในความพยายามจะลืมเธอให้ลงเพราะสิ้นหวัง Nastagio ได้หลบหนีไปเดินเล่นในป่าสนใกล้เมือง

วันนั้นเป็นวันศุกร์ขณะบ่าย 4 โมงเย็น Nastagio ซึ่งกำลังเดินเรื่อยเปื่อยอย่างไร้จุดหมาย จิตใจที่สงบก็ถูกรบกวนด้วยเสียงผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังกรีดร้องด้วยความกลัว ทันใดนั้นเขาก็เห็นหญิงสาวเปลือยคนหนึ่งวิ่งหนีสุนัขล่าเนื้อ 2 ตัว ที่กำลังไล่กัดเธอ และมีอัศวินคนหนึ่งในมือถือดาบคมนั่งบนหลังม้าสีดำกำลังไล่ทำร้ายเธอ

Nastagio จึงก้มตัวลงหยิบกิ่งสนขึ้นมาเพื่อจะต่อสู้ปกป้องเธอ แต่ก่อนที่เขาจะทำอะไร อัศวินลึกลับก็หยุดม้าของตน แล้วบอก Nastagio ว่า อย่าขวาง เพราะผู้หญิงคนนี้จำต้องตายจึงจะสาสมกับบาปที่เธอทำ แล้วอัศวินได้แนะนำตัวว่า “ข้าชื่อ Guido degli Anastagi และข้ารักผู้หญิงคนที่กำลังวิ่งหนีมากเท่ากับที่ Nastagio กำลังรักลูกสาวของ Paolo Traversaro

เมื่อแต่เธอปฏิเสธรักของข้า ข้าจึงฆ่าตัวตายด้วยดาบเล่มที่ข้าถือขณะนี้ บาปกรรมที่เกิดจากการฆ่าตัวตายทำให้ข้าถูกสาป และหลังจากที่ข้าตายไปไม่นาน ผู้หญิงคนนั้นก็เสียชีวิตตาม เพราะเธอโหดร้ายต่อข้ามาก เธอจึงตกนรก และต้องคำสาปให้วิ่งหนีจากข้า เพื่อให้ข้าได้ฆ่าเธอด้วยดาบด้ามนี้ แล้วควักเอาหัวใจที่ไร้ความรู้สึกใดๆ ของเธอออกมาให้สุนัขกิน จากนั้นเธอก็จะฟื้นคืนชีพอีก แล้ววิ่งหนีข้าอีก จึงถูกฆ่าอีก เป็นเช่นนี้ไปจนนิจนิรันดร์ ณ สถานที่นี้ ทุกบ่ายวันศุกร์

Nastagio รู้สึกสงสารเธอและตกใจมากเมื่อได้ยินและฟังเรื่องนี้ เขาจึงคิดใช้เรื่องที่ Guido เล่า มาบีบบังคับให้คู่รักของเขาให้ยินยอมแต่งงานกับเขาบ้าง

ดังนั้นเขาจึงเชิญครอบครัวตระกูล Traversaro มาทุกคน รวมถึงเพื่อนของเขาให้มากินเลี้ยงในป่าสน ในเวลาบ่ายของวันศุกร์ต่อมา เมื่อทุกคำเชิญได้รับการตอบรับ Nastagio จึงสั่งให้ช่างไม้ตัดต้นสนในป่าเพื่อจัดทำสถานที่วางโต๊ะให้แขกทุกคนสามารถเห็นเหตุการณ์ฆาตกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น

เมื่อบรรดาแขกนั่งรับประทานอาหารจนงานเลี้ยงใกล้สิ้นสุด ขณะกำลังจะมีการยกอาหารจานสุดท้าย ทุกคนก็ได้ยินเสียงหวีดร้องของหญิงสาวที่ถูกสุนัขล่าเนื้อ 2 ตัววิ่งไล่กัด และเห็นอัศวินกำลังขี่ม้าที่ไล่แทงเธอด้วยดาบ จนเธอเสียชีวิต จากนั้นก็ถูกฆ่าควักหัวใจออกมาแล้วเธอก็ฟื้นคืนชีพอีก

เหตุการณ์นี้ทำให้แขกในงานทุกคนฉุกคิด ในที่สุดลูกสาวของ Paolo Traversaro ก็กลัวว่า เธออาจจะถูกฆ่าในลักษณะเดียวกันบ้าง จึงเปลี่ยนใจยอมรับจะสมรสกับ Nastagio คนทั้งสองจึงได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข ตั้งแต่นั้นมา

นวนิยายของ Boccaccio เล่มนี้เป็นที่ชื่นชมของผู้อ่านมาก จนอีก 132 ปีต่อมา Sandro Botticelli จึงได้นำเนื้อหาของเรื่อง Nastagio มาวาดภาพ (จากนั้นอีก 4 ปี Botticelli ก็ได้วาดภาพ Birth of Venus และ Primavera ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง) เพราะได้รับการว่าจ้างจาก Antonio Pucci

ทะเบียนเมือง Florence ในอิตาลีได้ระบุว่า ในปี 1483 ได้มีพิธีสมรสระหว่างหนุ่ม Gianozzo Pucci กับสาว Lucrezia di Binni และวงการไฮโซของเมืองก็รู้ดีว่า สองครอบครัวนี้มีฐานะดี และมีสกุลสูงพอๆ กัน บิดาของ Gianozzo Pucci เองได้เคยซื้อภาพ Adoration of the Magi ของ Botticelli ตั้งแต่ปี 1470 ดังนั้น เมื่อถึงปี 1482 เขาจึงว่าจ้างให้ Botticelli วาดภาพ 4 ภาพ ประดับหีบของขวัญในงานแต่งงานของ Lucrezia di Binni โดยได้กำหนดให้วาดเกี่ยวกับเรื่องของ Nastagio degli Onesti ในป่าสนแห่งเมือง Ravenna

ภาพสามภาพขนาด 0.84 x 1.42 เมตร ขณะนี้อยู่ที่พิพิธภัณฑ์ Prado ในกรุง Madrid ประเทศสเปน ส่วนภาพที่ 2 ที่แสดงงานเลี้ยงได้เคยถูกนำออกขายที่ลอนดอนในปี 1967 ได้ราคา 250,000 ปอนด์

ภาพแรกแสดง Nastagio ที่สวมกางเกงแดงใส่เสื้อสีน้ำเงินกำลังสนทนากับเพื่อนๆ หน้ากระโจมในป่า ตัว Nastagio กำลังยืนอยู่ระหว่างสนสองต้น และก้มศีรษะแสดงว่ากำลังครุ่นคิดหนัก

ส่วนภาพที่สองเป็นภาพสตรีเปลือยที่กำลังถูกสุนัขล่าเนื้อไล่กัด และมีอัศวินสวมเสื้อคลุมแดงนั่งบนม้าขาว ซึ่งไม่ตรงกับที่บรรยายในนิยายซึ่งอัศวินนั่งบนม้าดำ ทั้งนี้คงเพราะ Botticelli มีความเห็นว่า อัศวินบนม้าขาวจะดูโดดเด่นตัดกับฉากหลังที่เป็นป่าทึบ

ภาพที่สามแสดงอัศวินฆ่าสตรี และสุนัขกินหัวใจเธอ โดยมี Nastagio นั่งดูเหตุการณ์อยู่ข้างๆ และฉากหลังแสดงเหตุการณ์ฆาตกรรมนี้ว่าจะเกิดซ้ำอีก

ภาพที่สี่แสดงงานเลี้ยงในป่าและ Nastagio กำลังเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้แขกฟัง

สำหรับภาพที่สองซึ่งเป็นภาพสำคัญที่สุด ในภาพเราจะเห็นแขกที่มาในงานที่จัดใกล้ทะเล ทุกคนแต่งตัวดี และนั่งเรียงรายรอบโต๊ะอาหาร ขณะที่งานเลี้ยงใกล้จะเลิก บรรดานักดนตรีต่างก็หยุดเล่นดนตรี และได้วางพิณน้ำเต้าคว่ำลงบนโต๊ะ คนตีกลองก็ได้แขวนกลองที่ต้นสนแล้ว

และที่กลางภาพเราจะเห็นสตรีผู้น่าสงสารซึ่งกำลังถูกแทงด้วยดาบและกำลังจะถูกฆ่าอย่างทารุณ เธอหวีดร้องด้วยความกลัว เพราะถูกหมาล่าเนื้อ 2 ตัวไล่กัด ทั้งๆ ที่เธอคุกเข่าขอชีวิตแล้ว แต่อัศวินก็ไม่ฟังและไม่ใจอ่อน เขาได้แทงหน้าอกเธอด้วยดาบ แล้วควักหัวใจเธอออกมาให้สุนัขกิน

สุภาพสตรีทุกคนที่มาในงานต่างก็ลุกยืนด้วยความกลัว และได้ผลักโต๊ะอาหารจนเกือบคว่ำ พร้อมส่งเสียงตะโกน ประหนึ่งว่าตนเองกำลังจะถูกดาบแทง บรรยากาศงานเลี้ยงที่สนุกสนาน จึงถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง

แต่มีบุคคลเดียวที่พยายามควบคุมความวุ่นวายทั้งหลาย เขาคือ Nastagio degli Ones ซึ่งเป็นหนุ่มในภาพที่ยืนอยู่ใกล้สตรีเปลือย โดยสวมเสื้อคลุมสีเทา กางเกงแดงและรองเท้าบู๊ทสีเหลือง เขายกมือทั้งสองข้างขึ้นเสมือนกำลังพยายามยับยั้งเหตุการณ์ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

ในบรรดาแขกที่มางานทุกคน ไม่มีใครหวาดกลัวเหตุการณ์นี้มากเท่าสตรีที่ Nastagio หลงรัก และเธอก็คิดว่า ถ้าเธอปฏิเสธรักของ Nastagio เธออาจจะต้องเผชิญกรรมดังเช่นสตรีเปลือยที่ถูกฆ่า ดังนั้น เมื่อแรงต่อต้านที่เธอมีต่อ Nastagio สลาย ในที่สุดคนทั้งสองก็ได้แต่งงานกัน และ Botticelli ได้วาดภาพของคนทั้งสองขณะเธอตัดสินใจยินยอม โดยใช้พื้นที่ทางด้านขวาของภาพแสดงให้เห็นเธอบรรจงวางมือซ้ายลงบนแขนขวาของ Nastagio อย่างนิ่มนวลแสดงการยินยอมพร้อมใจ แล้วพิธีสมรสก็ถูกจัดขึ้นในวันอาทิตย์ต่อมา

ป่าสนบริเวณใกล้เมือง Ravenna ในอิตาลี

ในเรื่องเล่าของ Boccacio ป่าสนที่กล่าวถึงคือป่า La Pineta di Ravenna ในปัจจุบัน ซึ่งมีสนสายพันธุ์ Pinus pinla ขึ้นมากมาย เราจะเห็นสนถูกตัดเป็นรูปทรงกลมคล้ายร่ม ส่วนกิ่งก้านที่อยู่ระเกะระกะตามลำต้น ได้ถูกลิดไปทำเชื้อเพลิง ซึ่งถ้าเป็นสนในสวนสาธารณะ มันก็จะได้รับการปกป้องให้มีรูปทรงตามธรรมชาติ

นักประวัติศาสตร์ศิลปะคิดว่า Boccaccio ใช้ป่าสนแห่งเมือง Ravenna เป็นฉากหลังในนวนิยายเรื่องนี้ เพราะเขาเป็นคนที่ชื่นชม Dante มากเป็นพิเศษ ที่ Dante ได้ใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายในเมือง Ravenna สำหรับผลงานอมตะเรื่อง Divine Comedy ของ Dante ก็เขียนเสร็จที่เมืองนี้ อนึ่งหลังจากที่ Dante ได้เสียชีวิตในปี 1321 Boccaccio ซึ่งขณะนั้นมีอายุ 8 ปี ก็ได้รับหน้าที่เป็นผู้ที่เรียบเรียงอัตชีวประวัติของ Dante ให้โลกได้รู้จักในเวลาต่อมา

ส่วนตระกูล Traversaro และ Anastagi นั้นก็เป็นชื่อของตระกูลผู้ดีที่มีฐานะและชื่อเสียงมากแห่งเมือง Ravenna ในยุคนั้น

ส่วนเมือง Florence ซึ่งอยู่ในความปกครองของตระกูล Medici ตั้งแต่ปี 1434 เพราะมีคนในตระกูล Pucci สนับสนุน เช่น Antonio Pucci ซึ่งได้ช่วยกำจัดศัตรูทางการเมืองให้ Pierre de Medici และเป็นพ่อสื่อจัดพิธีให้ลูกชายของ Antonio Pucci ที่ชื่อ Gianozzo Pucci ได้แต่งงานกับ Lucrezia di Binni และนี่ก็คือเหตุผลที่ในภาพเราจะเห็นตราประจำตระกูล Medici ซึ่งเป็นภาพผลแอปเปิ้ลแดง 6 ลูกวางอยู่บนโล่สีทอง ปรากฏบนต้นสนกลางภาพ

ถึงตระกูล Pucci กับ Binni จะมั่งคั่ง แต่การเจรจาหมั้นหมายกัน ก็มิใช่เรื่องที่ทั้งสองฝ่ายจะตกลงกันง่าย เพราะต่างก็ต้องดูบทบาททางการเมืองของอีกฝ่าย ว่าใครจะได้อะไรและเสียอะไร โดยไม่มีใครคำนึงถึงความรู้สึกของสตรีที่กำลังจะเป็นเจ้าสาวเลย และเมื่อเธอปฏิเสธใครก็ไม่ได้ จะฟ้องร้องสามี หรือผู้ชายอื่นก็ทำไม่ได้

เพราะสังคมสมัยนั้นมีค่านิยมว่า สตรีไม่มีความคิด และเมื่อสตรีมีอายุครบ 17 ปี พ่อและแม่ของเธอจะจัดส่งตัวให้สามีเธอ เป็นผู้ดูแลเธอและปกครองเธอต่อไป และถ้าบิดาของเธอตาย พี่ชาย หรือน้องชายของเธอก็จะเป็นผู้จัดการชีวิตของเธอต่อไป ส่วนบุตรชายที่บรรลุนิติภาวะแล้ว ก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ต่อที่บ้านของบิดาได้

ครั้นเมื่อถึงเวลาจะมีครอบครัวก็สามารถสร้างเรือนหอโดยจัดการตกแต่งห้องใหม่ และจัดงานเลี้ยง แต่ไม่ต้องหรูหรามาก เพราะไม่ต้องการให้ผู้คนที่ฐานะต่ำต้อยกว่ารู้สึกอิจฉา และก่อนจะสมรสกัน คนที่เป็นว่าที่สามีจะต้องสำรวจสุขภาพของภรรยาให้ดีว่า สามารถจะให้กำเนิดทายาทได้หรือไม่ สามารถดูแลบ้านที่มีขนาดใหญ่ และมีสมาชิกหลายคนได้หรือไม่

ประเพณีสมัยนั้นยังกำหนดให้ คนที่เป็นภรรยาต้องซื่อสัตย์และไม่นอกใจสามี ไม่จ้องหน้าสามี และต้องหลบสายตาสามี รวมถึงต้องไม่ถามสามีว่าไปไหนมาหรือจะไปที่ไหน และต้องไม่เหลือบดูกระเป๋าเงินทองของสามีเลย พูดง่ายๆ คือ เธอต้องดูโง่และประพฤติโง่ ทั้งนี้เพราะเธอเป็นสตรีเพศเดียวกับอีฟที่ได้ทำบาปมามากโดยการหลอกอดัม

Botticelli ได้รับการว่าจ้างให้วาดภาพที่ระลึกในงานแต่งงานนี้ คงไม่ใช่เพราะมีชื่อเสียงอย่างเดียว แต่เพราะ Botticelli เป็นศิลปินที่ตามใจลูกค้ามาก เช่น จะให้วาดภาพของใคร เขาก็จะวาดภาพคนนั้นลงในภาพตามที่คนว่าจ้างต้องการ

ชายคนที่สวมหมวกแดงในภาพ ดูมีอายุ สันนิษฐานว่าเป็น Antonio Pucci หรือ Piero dè Medici

ณ วันนี้ภาพของ Botticelli ภาพนี้ อยู่ที่ Pucci Palazzio ในเมือง Florence ซึ่งมี Emitio Pucci ผู้เป็นทายาทของตระกูลผู้กำลังทำธุรกิจด้านแฟชั่นเป็นเจ้าของ และเขามีลูกสาวที่ช่วยเขาทำงานด้านนี้ ซึ่งเธอจะดูแลด้านการเงินของบริษัท งานของเธอจึงแตกต่างจาก Lucrezia ผู้ไม่มีสิทธิ์ใดๆ ในเงิน หรือแม้แต่จะเหลือบดูเงินที่สามีหามาได้ก็ไม่ได้รับอนุญาต

ขอบคุณ
ผู้จัดการออนไลน์
ศ.ดร.สุทัศน์ ยกส้าน

สิริสวัสดิ์ภุมวารค่ะ





Create Date : 05 มิถุนายน 2555
Last Update : 5 มิถุนายน 2555 18:36:21 น. 0 comments
Counter : 1580 Pageviews.

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.