|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ยายจ๋า แม่ และ เพลงกล่อมนอน
เสียง แม่ กังวานหวานใส กล่อมลูกสาวด้วยเพลงนี้ .....
ที่บ้าน เรา มีผู้หญิง สามเจนเนอเรชั่น ขึ้นต้นหน้าชื่อ ทั้งเสียงและคำ เหมือนกันทุกอย่าง ....
แต่ ประกายดาว สังเกต ว่า ในผู้หญิง สามคนนี้เรามีความคล้ายคลึงกันก็จริง แต่เราแต่ละคน ต่างก็เติม จิตวิญญาณ ของตัวเอง ลงไป ชัดเจน และ รายละเอียดนั้น ลึกลง จนเห็นในความแตกต่างของ ตัวตน ...ผู้หญิง ทั้ง สาม
ยายจ๋า เป็น คนเลี้ยง ประกายดาว ให้ แม่ นั่นเป็นเพราะ แม่ทำงานมากมาย ตั้งแต่ทำงานประจำไปถึง การเรียนหนังสือ ต่อของแม่ หลังเลิกจากงานประจำ เมื่อประกายดาว ยังเล็ก หนูเรียกยายว่า " ยายจ๋า " ... ยายมีเนื้อตัวนุ่มนิ่ม โดยเฉพาะ ตรงท้องแขน ที่หนูจะไปกอด จับไปมา กระทั่งหลับไป ในนิทรานั้น มีความสุขที่สุดได้นอนหลับไปใกล้ๆ ยายจ๋า
ยายเป็น แม่บ้านให้คุณตา ...กระทั่งคุณตาไปบวช คงเป็นช่วงสุดท้ายของชีวิต ที่ คุณตาสงบและ เป็นสุขยิ่ง ยายจ๋า จะลุกขึ้นจัดเตรียมอาหารไว้ ใส่บาตร คุณตา ข้าวอุ่นๆ ในขันเงินใบเก่า อหาร คาวหวาน รวมไปถึงการปอกผลไม้ อย่างสวย ของยายใส่บาตร ใส่บาตร คนที่เคยเป็นคู่ชีวิต ... ประกายดาวนั่งรออย่างง่วงๆ พร้อมยายจ๋า ทุกวัน เพราะหวังจะได้ กินข้าวก้นบาตร ที่ยายหยิบด้วยมือของยาย มาป้อนใส่ปา กหลานสาวตัวเล็ก " กินข้าวก้นบาตร แล้วจะเรียนหนังสือเก่งๆ นะลูก" ยายจ๋าบอกอย่างนั้น ...
ประกายดาว ก็จะรู้สึกฉลาดขึ้นมาทันที หลังกินข้าวก้นบาตร จำได้ว่า เมื่อผู้ใหญ่ ถามว่า " ไปโรงเรียน ไปเรียนอะไร " ประกายดาวตอบด้วยความั่นใจ ไม่ลังเล " หนูไปเรียน วิชาค่ะ" ตอบ แบบนี้ทุกวัน จน พ่อ แม่ งง " วิชาอะไร " นั่นคือคำถาม ถัดมาค่ะ หนุยืนยันเช่นเดิม " ก็ไปเรียนวิชาไงคะ " ฉากนี้ต้องคิดไปถึงหน้าเด็กตัวเล็ก สามขวบมีผมม้าเต่อๆฝีมือยาย ถักเปีย สองข้าง ลอยหน้าลอยตา อย่างเบื่อหน่าย กับคำถามซ้ำซาก ของผู้ใหญ่
ยายจ๋า สอนหลานสาว ห่อขนมด้วยใบตอง หลังจากเก็บมา เช็ด รีดใบให้สวยเสียก่อน เช็ดให้สะอาด ยายบอกว่า จัดเตรียมของใส่บาตร ทำให้ สวยให้ งาม นะลูก ประกายดาวเคยถามตัวเองว่า หัวใจที่รัก และ หลงใหล ในศิลป ทุกๆ ชนิดนั้น เกิดขึ้น จาก ที่ไหน ...ใครสอนใครสั่ง
หนูมั่นใจ ทุกๆ ครั้ง ว่า ต้องมาจาก ยายจ๋าของหนูนั่นเอง หนูเห็นรายละเอียดงดงามปราณีตเหล่านี้จาก " ยายจ๋า " ประกายดาว มีแหวนเกลี้ยงๆ ของยายเพียงวงเดียว เอาไว้ลูบคลำ หรือ แม้กระทั่งเอามาถูไว้ข้างๆแก้ม ในวันคืน ที่น้ำตาร่วง มีแต่ความทรงจำถึงยายจ๋า ท้วมท้นหัวใจ แต่ ที่มากกว่านั้น ประกายดาว มีวันนี้ จาก ยายจ๋า ผู้หญิงเก่งคนแรกในชีวิตของหนู
ยายจ๋า จะไม่เก่งที่สุดได้อย่างไร ในเมื่อ แม่ของประกายดาว ก็เป็นลูกสาวคนเดียวของยาย แม่มี ดวงตา ที่สวยหวาน เหมือนยายจ๋า ไม่ผิด แต่ แม่ ไม่อ่อนโยน อ่อนหวานเท่ายาย ตัวตน ของแม่ สำหรับประกายดาว แม่ สามารถ แผ่ ความเข้มแข็ง ออกมารอบๆ ให้ ทุกๆ คน ที่ใกล้ชิด สัมผัสได้
" แม่ " ของประกายดาว
ไม่ใช่ผู้หญิง ที่ เป็น แม่เ ช่นคำว่า แม่ในแบบฉบับทั่วๆไป ตามคำจำกัดความของใคร ...หรือ หนังสือเล่มไหน ที่จริงสำหรับประกายดาว แม่เป็นนักวางแผน นักคิด และ นักปฏิบัติ เสียมากกว่า
แม่ ชอบร้อง เพลงนี้ " เงาไม้ " ยามค่ำคืน เมื่อ ประกายดาว มีอารมณ์ หงุ๋งหงิ๋ง ง่วงๆ แม่ก็จะ ขับเสียงหวานใส กังวานก้อง ร้องเพลง เงาไม้ นี้ให้ลูกสาวฟัง ....
แม่เป็นผู้หญิงเด็ดเดี่ยว เฉียบขาด และ ซ่อนความอ่อนไหว อย่างผู้หญิงไว้ในหัวใจมิดชิด
จนพ่อ และ ยายไม่เห็น นอกจาก ประกายดาว "ลูกสาวแม่" หนูมองเห็น ในสายตาแม่ยามร้องเพลงกล่อมนอน แม่เป็นผู้หญิง ที่ตา เศร้ามากๆ ...
แม่ เคย หายไป หลายวันคืน ในบางเดือน ฝาก ลูกสาวไว้กับ ยายจ๋า และ พ่อ แม่บอกว่า จะไปปฏิบัติธรรม ไปอยู่วัดห่างบ้านไป ไกลลิบ
แม่ยังขับรถเก่งและ เร็วมากๆ ... พาตัวเองและลุกๆ เดินทางไปแสนไกล เป็นประจำ ในวันที่ พ่อ ไม่ว่างและต้องไปช่วยคุณปู่ทำงาน ไกลบ้านอีกเหมือนกัน รถ คันที่ พ่อซื้อให้แม่ เป็น อัลฟาโรมิโอสีแดง ประกายดาวอดรู้สึกไม่ได้ว่า แม่เป็นผู้หญิง ที่เก่งและเท่มากๆคนนึง
ในวันคืน ที่ แม่พาตัวเองไปรู้จักความงดงามสงบ ของการศึกษาธรรมะและนำพา มาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต
แม่ พา ประกายดาวไป เข้าพุทธมามากะ ตั้งแต่ประถมสาม ไปเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ที่วัดชลประทานฯ หนู อารารธานา ศีล เสียงแจ๋ว เวลาแม่ไปถวายเพล ยังไม่นับ วีรกรรมอีกมากของลูกสาว ที่ แม่เล่าให้ฟัง และยังหลงเหลืออยู่ใน ความทรงจำของเด็กๆของตัวเอง
เมื่อ หลวงพ่อ พุธ ถาม หลัง ถวายอาหาร รุ่งเช้าวันนึง ที่โคราช ท่านมีถุงพระ เล็กๆ มีพระเต็มถุงในมือ เพื่อเอาไว้แจกญาติ โยม..." เอากี่องค์ " ท่านถามประกายดาว แน่หละ ตา หนูจ๋องท่านเป๋ง .. " เอาเยอะ เยอะ " ขอให้จินตนการเสียงเด็กหญิงวัยสามขวบ ตามไปด้วยนะคะ ว่าแล้ว หลวงพ่อ ก็ยื่นถุงพระถุงนั้น มาให้ประกายดาวทั้งถุง เมื่อเห็นสายตา เอาจริง และจริงใจของหนู
แม่ เล่าว่า ประกายยิ้มแฉ่ง ก้มลงกราบหลวงพ่อ ถือถุงเล็กๆ มีพระในมือ ด้วยความภาคภูมิ
ในวัน หนึ่ง หลังจากที่แม่มั่นใจแล้วว่า ลูกสาวปีกเริ่มกล้า และ มีหัวใจแบบของแม่ แอบๆ แฝง ๆ อยู่ในหัวใจตนเองแล้วแม่ก็ บินไกล ...ไปต่างเมือง ...ตามที่แม่วางแผนไว้ มีบ่อยครั้งๆ ที่ลูกสาวหลับไป ทั้งน้ำตาเปื้อนแก้ม เพราะคิดถึงแม่ ...แล้วต้องรอเวลาเหมาะๆ ที่เราจะได้ ไปกอดกันใกล้ๆ ให้หายคิดถึง หนูไม่มั่นใจว่า นี่เป็นนี่หนึ่งแผนหรือเปล่า ที่แม่ต้องการสร้าง ความกล้าหาญและเข้มแข็ง ใส่ไว้ ในหัวใจลูกสาว
แต่ ประกายดาวเชื่อว่า ทุกๆ อย่าง ที่ ยายจ๋า พา แม่ พาประกายดาวไปรู้จักมักคุ้น ตั้งแต่เล็กๆ จนถึงวันนี้ เป็น "ปราณีตศิลปในหัวใจ" ที่ สานต่อกัน จากยายถึงแม่ จนมาถึง ประกายดาว ผู้หญิง สามวัย ที่มีชื่อต้น สำหรับเรียกขาน คำเดียวกันนี้
ทุกๆ วันพระ และ ในวาระแห่ง บุญกุศล ประกายดาว ระลึกถึง ยายจ๋า กับแม่ ด้วยความรู้สึกลึกซึ้งอย่างที่สุด ถึงคำว่า " มงคลชีวิต "
การบูชา ที่ ถือได้ว่า เป็นมงคลสูงสุด 38 ประการ ของชีวิต ที่พระพุทธองค์ตรัสสอน ...เวไนยสัตว์
ประกายดาว คงไม่เพียงเดินตามรอย แม่ นะคะ แล้วแม่ ก็ ไม่ใช่ แม่ปู ที่อยากให้ ลูกปู เดินโซเซ ตามไปข้างหลัง .... เราแม่ลุก ต่างคนต่างบิน ค่ะ บินไป ไกล ข้ามมหานทีสีทันดร ... ไป ตามทาง ที่แต่ละคนตั้งมั่นไว้ชอบ ... เราคงไม่ได้พบเจอกันอีก ... เพราะ ประกายดาวมั่นใจ ว่า ทางสายตรง ที่แม่ตั้งมั่นไว้ นั้น คือเส้นทางใด .... เมื่อนิพพานคือ ปรารถนาแห่ง มรรคมีองค์แปด ในทุกๆ การปฏิบัติในปัจจุบันขณะ ของแม่ .....
ประกายดาว ขอเอาคุณพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ หมู่มวลกุศลกรรม และ บุญกิริยาทั้งหมด ไปแสงธรรม นำทาง แม่ไป ถึง มรรคผลนิพพาน ในชาตินี้ นะคะ
พิม รัก ยาย พิมรัก แม่ ....
Create Date : 06 สิงหาคม 2550 |
|
63 comments |
Last Update : 6 สิงหาคม 2550 9:54:09 น. |
Counter : 2048 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: กุมภีน 6 สิงหาคม 2550 9:46:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 6 สิงหาคม 2550 10:03:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงกล้วย 6 สิงหาคม 2550 10:56:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: พลอย IP: 222.123.237.129 6 สิงหาคม 2550 12:48:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: rendezvous (be-oct4 ) 6 สิงหาคม 2550 15:34:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: หากผมรักคุณจะผิดมากไหม IP: 61.90.192.94 6 สิงหาคม 2550 19:29:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: rebel 6 สิงหาคม 2550 20:50:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: สุคนธ์ IP: 125.24.142.109 7 สิงหาคม 2550 11:36:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: Piterek 7 สิงหาคม 2550 22:54:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 8 สิงหาคม 2550 8:08:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: สะเทื้อน 8 สิงหาคม 2550 12:42:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: Sirinut 8 สิงหาคม 2550 15:29:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: พ่อ (be-oct4 ) 9 สิงหาคม 2550 8:07:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 10 สิงหาคม 2550 7:37:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: rendezvous (be-oct4 ) 10 สิงหาคม 2550 15:49:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: สะเทื้อน 10 สิงหาคม 2550 19:37:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: erina 11 สิงหาคม 2550 0:51:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 11 สิงหาคม 2550 8:11:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: ju IP: 58.147.124.183 11 สิงหาคม 2550 9:09:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: สุคนธ์ IP: 203.113.67.134 11 สิงหาคม 2550 9:11:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: Sirinut 11 สิงหาคม 2550 9:47:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: Piterek 11 สิงหาคม 2550 11:53:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: Piterek 11 สิงหาคม 2550 11:55:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: ไม่แสบ (be-oct4 ) 11 สิงหาคม 2550 17:22:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: Petit Patty IP: 125.25.193.105 12 สิงหาคม 2550 16:34:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: พี่แพทค่ะ IP: 125.25.193.105 12 สิงหาคม 2550 16:35:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: rendezvous (be-oct4 ) 12 สิงหาคม 2550 21:42:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงกล้วย 13 สิงหาคม 2550 6:52:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป่ามืด 13 สิงหาคม 2550 15:01:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: rebel 14 สิงหาคม 2550 7:34:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: สะเทื้อน 15 สิงหาคม 2550 14:00:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: Sirinut 15 สิงหาคม 2550 20:49:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: Piterek 17 สิงหาคม 2550 22:56:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: rendezvous (be-oct4 ) 18 สิงหาคม 2550 12:08:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: คนเดินดินฯ IP: 125.26.231.65 18 สิงหาคม 2550 18:09:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงกล้วย 18 สิงหาคม 2550 19:15:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: สะเทื้อน 21 สิงหาคม 2550 10:36:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: สุคนธ์ IP: 61.7.135.131 18 กันยายน 2550 16:11:31 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
รั ต ติ ก า ล
The Moonlight it was dancing
On the waves , out on the sea
The Stars of heaven hovered
In a shimmering galaxy
A Voice from down the ages
So huanting in its song
These ancient stones will tell us
Out love must make us strong..."
" ไม่มีโลกสมมุติ ที่นี่ ตัวตนทั้งหมดต่างสะท้อน มุมมอง ของการดำรงอยู่ อย่างสิ่งมีชีวิต ในจักรวาลอันไพศาล .......... มองจาก ดวงดาวไกลโพ้น สุดขอบฟ้า หรือมองผ่านพระจันทร์เสี้ยว ใกล้คืนแรม เจตจำนงหนึ่งในชีวิตก็คือ การพาปัญญา ประดับตน ไปพบอีกมิติหนึ่ง อันไม่มีในทุกสิ่ง ละเสียได้ ซึ่ง " ตัวตน " ไว้บนแผ่นดินนี้ ข้าม มหานที ไปสู่ อีกฝั่ง .... ปล่อยวาง ได้อย่างละซึ่ง ทุกหน้าที่ ทุกบทบาท ไม่เหลือ แม้ทุกสรรพสิ่ง
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539
หาก ผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือ นำส่วนหนึ่งส่วนใดของที่นี่ไปใช้ โดยไม่ได้รับอนุญาติเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
กราบพระพุทธ ณ กลางใจ พระธรรม ใส เป็น ดวงตา ก้าวย่าง ด้วยปัญญา พบ มรรคา ณ ใจ ตน
ตั้งนโมสามจบอย่างนบนอบ บุญประกอบวางลงตรงเบื้องหน้า ศรัทธามั่นเพียรทำน้อมนำมา เดินช้า ช้าก้าวย่าง..อย่างตั้งใจ
"ดาวแววดาววาบน้อย.....ดาวราย ดาวดาษคาดฟ้าพราย.....พร่างแพร้ว ดาวดวงเด่นประกาย.......ดารดาษ .ดึกดื่นคงไม่แคล้ว........ จะอาจเอื้อม ครองดาว
เพราะมิใช่สกุณาท่องฟ้ากว้าง ในเวิงว้างระหว่างม่านการค้นหา กลืนน้ำตาทิ้งหัวใจไว้สักครา แล้วมุ่งหน้า...ก้าวย่าง...แม้ทางไกล
แผ้วทางใหม่ โดดเดี่ยว ฝ่าเชี่ยวกราก หมดเวลา ซ้ำซาก ใจอ่อนไหว เรื่องอ่อนล้า ใช่ถึงตาย ช่างปะไร ฟ้าวันใหม่ มิหวนคืน ฝืนชะตา
"
|
|
|
|
|
|
|